เลือกอะไรดี ระหว่าง อักษร จุฬาฯ กับ จีนศึกษา (นานาชาติ) ธรรมศาสตร์
ตั้งกระทู้ใหม่
ตอนแรกเล็งจุฬาไว้ ว่าถ้าติดเอาแน่ แต่ครูแนะแนวบอกว่า คนที่จบอักษรจุฬาส่วนมากไม่เรียนต่อ ก็เป็นครู ไม่ค่อยทำงานอื่น แถมตอนนี้หลายบริษัทเริ่มแอนตี้จุฬา เนื่องจากเด็กที่จบออกมาทำงานไม่เป็น สู้เด็กม.อื่นไม่ได้ เด็กจุฬาเรียนได้อย่างเดียว เราเลยไม่แน่ใจแล้วว่าเลือกอะไรดี
ถ้าเป็นธรรมศาสตร์ก็สอบประมาณเดือนกุมภา ซึ่งนานมาก ถ้าไม่ได้คือต้องรอแอดลูกเดียว
เราเลยอยากรู้ว่าเพื่อนๆ จะเลือกอะไรกัน
PS. หวัดดีฮับ ผมเป็นชายก็ไม่ใช่หญิงก้ไม่เชิง เดาเอาเองละกัน
partyparty
18 ก.ย. 53 เวลา 19:31 น.
1,048
views
25 ความคิดเห็น
เรียนสายจีนเหมือนกันเลยจ้า
(แต่ว่า ยังอีกยาวไกล)
ที่คิดไว้ยังไงก็สู้ ๆกับจุฬาอ่าจ้า
เพราะแม่บอกว่า อักษรของเค้าดีจริง
ช่วยอย่าตั้งกระทู้ให้ด่ากันที เสื่อมเสียหมด
คิดไม่เป็นก็ไม่ได้ต้องเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว
ไม่อยากจะแรงน่ะ แต่มั่นไส้ พวกตั้งกระทู้แบบนี้
ตั้งเพื่อ
คุณไม่รู้ก็ถามเพื่อน คน รอบตัว อาจารย์แนะแนว หรือ อาจารย์ที่สอนพิเศษก็ได้น่ะ ไม่ต้งมาตั้งถามหรอก
ถ้าน้องคิดและเชื่อแบบนี้จริงๆ พี่ว่าน้องเรียนในรั้วจุฬาอย่างไม่มีความสุขหรอก
เข้า มธ ไปเถอะ
ธรรมศาสตร์ ค่ะ เริ่ดๆ
PS. Chula >> ARTS n' IR ..FIGHT!..
ก็ไม่ได้หมายความว่านายจะต้องไปเป็นครูตามเขานี่คะ
เรียนที่ไหนก็ดีทั้งนั้นแหละค่ะ
รู้แต่ค่าเทอม วิทยาลัยนานาชาติปรีดี แพงมั่ก 55
PS. I L.O.V.E U ❤ All I dream about is HONGKI
ด้วยทัศนคติแบบนี้ ขอแนะนำว่าอย่าเข้าจุฬาฯ เลยครับ เข้าไปเดี๋ยวอนาคตไม่ดีคุณก็ลงที่มหาวิทยาลัย โดยไม่มองที่ตัวคุณเองมันเป็นคนคิดอะไรไม่เป็น ขอให้โชคดีสอบติดที่ธรรมศาสตร์นะครับ จุฬาฯ ไม่รับคนที่คิดไม่เป็นอย่างคุณสักคน รับรองจุฬาฯ ไม่ล่มสลายครับ
มหิดลก็ดีน่ะ จากการจัดอันดับครั้งล่าสุดจะเห็นได้ว่ามหิดลเป็นรองแค่จุฬาฯเท่านั้นในสาขานี้
จิงแหล่ะ คุณติดจุฬาแล้วหรอ อักษรจุฬาอ่ะ ?? ถ้าติดแล้วก็ดีใจด้วย ถ้าไม่มั่นใจไม่ศรัทธาในจุฬา อย่ามาเข้าเลยคับ
แต่ถ้ายังไม่ติดนะ หึหึ คิดเอาเองงง
เบื่อจัง คนที่ชอบว่า จุฬาฯ
อืม...จากการที่ตัวพี่เองเข้ามาเรียนในจุฬาทำให้รู้ว่า
ภาพลักษณ์ของจุฬาที่คนภายนอกมองและเข้าใจไปแล้วบางเรื่อง
ก็เป็นความเข้าใจผิดๆนะ
พี่ว่าคนจะทำงานได้ไม่ได้มันก็แล้วแต่คนนะ ไม่ใช่อยู่ที่ตัวมหาลัย
ส่วนเรื่องอักษร หรือ จีนศึกษา อันไหนดี
พี่ว่าดีทั้งคู่
คือตัวพี่เองก็มองจีนศึกษาไว้เป็นแผนสำรองถ้าไม่ติดอักษรจุฬาอ่ะตอนนั้น
ด้วยที่ว่าค่าเทอมแพงอ่ะสู้ไม่ไหว แต่ถ้าไม่ติดจุฬาก็พร้อมจะสู้ไรงี้
จากที่เห็นมาคือจีนศึกษาดีนะ เรียนกันเข้มข้นทีเดียวแหละ
ปี1ของจีนศึกษายังเรียนกันยากกว่าจีนปี1ของอักษรจุฬาอีก
แต่ของจุฬาแค่ปี2ก็กระอักเลือดแล้วล่ะ ระดับความยากมันต่างจากปี 1 มาก
ตามที่พี่เข้าใจนะ ถ้าน้องเรียนจีนศึกษาน้องจะได้ไรที่ใช้จริงมากกว่า
ด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ไรงี้ ดูเอาไปใช้จริงในชีวิตประจำวันได้ง่าย
แต่อักษรจุฬาไม่ว่าจะเอกอะไรนอกจากภาษาน้องต้องเรียนวัฒนธรรม วรรณคดีภาษานั้นๆด้วย
ซึ่งบางคนเค้ามองว่าไม่จำเป็น เรียนไปใช้จริงไม่ได้
แต่ก็แล้วแต่ชอบจ้า ดีทั้ง 2 ที่
เลือกที่เหมาะกับตัวเอง
ปล.จุฬาเค้าตัดสิทแอดกลางอ่ะน้อง จีนศึกษาไม่ใช่แอดกลาง
ถ้าน้องติดทั้งจุฬาแล้วติดจีนศึกษาด้วย ถ้าจะเข้าจีนศึกษาก็มาลาออกจุฬาได้
ถึงแม้จะยืนยันสิทจุฬาไปแล้ว ไม่มีผลไรจ้า
จากกระทู้ เห็นได้ชัดเจนเลยว่า
เด็กจุฬาฯ เป็นยังไง  อ่าน ๆ หลาย ๆ ความคิดเห็นข้างบนแล้วจะเข้าใจ
เอาให้ติดก่อนแล้วค่อยคิด =)
กรุณาอย่าพิมพ์ว่า "ชั้นเข้าใจแล้ว ว่าเด็กจุฬาเป็นยังไง"
ถ้าไม่ได้มาเรียนจุฬา ก้อไม่มีวันเข้าใจเด็กจุฬาจริงๆหรอกค่ะ
และขอเพิ่มเติมนิดนึงนะคะ ตามความเห็นพี่
คนที่จบอักษรจุฬา สายภาษาต่างประเทศ ส่วนใหญ่เค้าไปทำงานกับบริษัทของต่างประเทศที่เข้ามาตั้งในเมืองไทยก็เยอะนะคะ ไม่ก้อเรียนต่อโท MBA จะช่วยซัพพอร์ตความรู้ด้านวิชาชีพ บวกกับความสามารถทางด้านอักษรศาสตร์ จะทำให้น้องไปไกลขึ้นค่ะ
จาก  ความเห็นที่ 10
ก็ดูลักษณะการตอบกระทู้ของเด็กจุฬาฯส่วนใหญ่ในนี้สิครับ  มีแต่กระแทกแดกดันทั้งนั้น
เช่น  ถ้าคิดแบบนี้ ไม่ต้องเข้าจุฬาฯหรอกบ้างล่ะ  เอาติดก่อนแล้วค่อยว่ากันบ้างล่ะ  สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้
มันสามารถอนุมานออกมาได้ว่าพวกคุณ ๆ นั้นเป็นอย่างไร
อยากถาม คห 13 หน่อย ถ้าอยู่ดีๆมีคนมาพาดพิงมหาลัย ถ้าเป็นคุณ คุณไม่โกรธหรอ??
เด็กจุฬาแล้วทำไมอ่ะ ก้คนธรรมดา โกรธเป็นเหมือนกันนะ
ข้อความที่ว่า "เด็กที่จบออกมาทำงานไม่เป็น สู้เด็กม.อื่นไม่ได้ เด็กจุฬาเรียนได้อย่างเดียว"
แค่อ่านความรู้สึกก็ติดลบแล้วอ่ะ
---> แล้วจะให้ตอบยังไงถึงจะไม่โดนคุณจับผิดล่ะ ?? ไม่เข้าใจจริงๆ
นี่ไม่ใช่ละครหลังข่าวนะเธอ ที่จะเป็นแม่พระคิดบวกตลอดเวลา = ="
เราว่าน้องเค้าน่าจะเรียน มธ อย่างมีความสุขมากกว่า จีนศึกษางานออกจะกว้าง
แล้วก็ ถ้าจีนศึกษานานาชาติไม่ได้อยู่ในแอดกลาง เค้าก็ไม่ตัดสิทธิ สมัครได้อยู่
ผมเห็นด้วยนะ ถ้ามีอคติกับมหาวิทยาลัยที่คุณจะเข้าไปศึกษาเล่าเรียนแล้ว คุณคงไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดระยะเวลาที่คุณได้ร่ำเรียนหรอก ดังนั้น ไปเรียนในสถาบันที่คุณคิดว่าดีที่สุดสำหรับคุณจะดีกว่า
จากความเห็นที่ 13
ประเด็นทีน้องเค้าตั้งคำถามคือประมาณว่าลังเล เกี่ยวกับที่นี่เพราะไปได้ยินจากคนอื่นมา
แทนที่พวกคุณ ๆ ทั้งหลายจะมาให้ความกระจ่างกับน้องเค้า แต่กลับใช้คำพูด ใช้วาจา ใช้อารมณ์
ที่ตอกย้ำ ความอติของน้องเค้าไปยิ่ง ๆ ขึ้นไป  มีโอกาสไม่ใช่หรือที่คนเราจะเข้าใจอะไรผิด
และสังคมก็ควรที่จะทำให้เขาเหล่านั้นรู้ไม่ใช่หรือว่า ที่คุณคิดนั้นไม่ใช่ความจริง 
เอ๊ะะะะะะ หรือว่าความจริง ?  ฮ่า ๆๆ
ู^
^
^
^
เห็นด้วย
ู
ขอบคุณทุกๆความเห็นนะฮับ และขอให้ความกระจ่างว่า เราไม่ได้ตั้งใจ "เปรียบเทียบ ดูถูก ใส่ร้าย " หรืออะไรก็แล้วแต่ที่แต่ละคนบอกว่าเราเป็น เราเพียงแค่ลังเล สงสัย และกังวล ผิดด้วยเหรอที่คนเราจะกังวลกับอนาคตของตัวเอง ต้องการศึกษาทางเดินของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง จะได้ไม่ต้องโดนคนอื่นด่า เพราะเราแทบจะถามอะไรจากคนรอบข้างแทบไม่ได้เลย ครอบครัวไม่สนับสนุนให้เข้าอักษร เพราะเราเรียนสายวิทย์มา และคะแนนก็ไม่ได้แย่มากมาย ลองคิดดูสิ หากเราจบสายภาษามา แต่ไม่มีงานทำ เราจะถูกคนในบ้านว่ายังไง ตอนที่เลือกทางนี้เราเห็นแม่เรามองเราอย่างหนักใจทุกครั้ง ถ้าเป็นพวกคุณจะรู้สึกยังไง เราไม่เคยทำให้แม่หนักใจจนต้องถอนหายใจเกือบตลอดเวลาเลย ถ้าเป็นพวกคุณจะรู้สึกยังไงล่ะ แถมญาติแต่ละคนก็ส่ายหัว บางคนด่าว่าโง่ด้วย ไปเลือกทำไมสายนี้ตัวเองก็มีหัวไปทางวิทย์ซึ่งรุ่งกว่าในความคิดของญาติ
พอถามครูแนะแนวก็ได้คำตอบมาอย่างที่บอกไปแล้ว จะบอกว่าครูแนะแนวผิดก็ไม่น่าจะใช่ เพราะครูทุกคนหวังดีอยากจะให้ข้อมูลที่ดีที่สุดกับเด็ก เพื่อใช้ในการตัดสินใจ ครูก็แค่บอกข้อมูลที่ตัวเองรู้ จะผิดจะถูกไม่รู้ แต่ครูได้มาแค่นั้นจริงๆ ไม่มีนอกเหนือจากนั้น เราก็เลยต้องมาหาข้อมูลเ้พิ่ม
หลังจากนั้นเราก็ถามเพื่อน แต่ก็แทบจะไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย เราเลยอยากจะถามคนในเน็ต เพราะเห็นว่าเป็นกลุ่มคนที่จะต้องเผชิญสถานการณ์เดียวกัน น่าจะมีความรู้มากกว่าคนรอบข้างที่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยคณะนี้เลย (เพื่อนจะเข้าคณะวิทย์ พี่ก็อยู่คณะวิทย์ ไม่เคยติดตามข่าวสารของคณะเกี่ยวกับภาษาเลย) เราถามด้วยความหวังที่ว่าน่าจะทำให้เมฆหมอกที่บังตาอยู่ตลอดเวลาหลายเดือนหายไปได้บ้าง
ส่วนที่ว่าอคติกับมหาวิทยาลัย นั้นก็ไม่ใช่เราเพียงได้ข้อมูลใหม่มา (ข้อมูลของนักศึกษาที่จบไปก็เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเรียนต่อด้วยใช่ไหมละ) และไม่แน่ใจว่าจริงหรือเท็จ แต่คำพูดจากปากของครูแนะแนวจะไปฟันธงว่าเท็จแน่นอนก็ไม่ได้ เขาเป็นถึงครูแนะแนวเชียวนะ! เลยตั้งกระทู้ถามเพื่อจะได้ฟันธงไปเลยว่าเป็นจริงแค่ไหน แต่สิ่งแรกที่พบเมื่อเข้ามาในกระทู้เมื่อกี้ก็คือ คำว่าสาดเสียเทเสีย ว่าขอให้ไม่ติดมั่งละ ติดก่อนแล้วค่อยมาคิดมั่งละ ไม่มีสมองมั่งละ ถามหน่อยว่าถ้าเราไม่มีสมองจริงจะมานั่งคิดจนสมองแทบจะระเบิดทำไมกัน ถ้าไม่มีสมองเราคงไม่่มาตั้งกระทู้ถามให้เสียเวลาหรอก เอาเวลาไปเทสมองออกจากหัวยังมีประโยชน์กว่า ให้มันกลวงไปเลย แล้วพ่อแม่จะลากเข้าอะไรก็เข้าไปตามนั้น ไม่ต้องสนใจ ไม่มีสมองอยู่แล้วนี่
เราไม่เข้าใจอีกเรื่องคือคนที่ชอบโพสท์ทำนองแช่งคนอื่นให้ไม่ติดเนี่ย เราไม่สนใจหรอกนะ เพราะการที่คนเราจะติดหรือไม่ติดมันขึ้นอยู่กับความพยายามของเราเอง เพียงแต่ไม่เข้าใจ ว่าการที่เราขอความคิดเห็นจากคนรอบข้างเนี่ย มันผิดถึงขนาดแช่งกันเลยเหรอ และบางคนที่บอกว่าติดก่อนค่อยคิดก็อีกอัน ถามหน่อยสิว่าถ้าติดแล้่วไม่เอาจะโดนด่าหรือเปล่า? โดนด่า? แล้วโดนด่าว่าอะไร ก็โดนด่าว่า ไม่เอาแล้วมาสอบทำไม กั๊กที่คนอื่นเขา ถ้าคุณคิดว่าคุณจะพูดยังงั้นกับคนที่สละสิทธิ์ละก็ เราคิดว่าคุณไม่สมควรที่จะโพสท์คำเช่นนี้ออกไป เพราะการที่เราหาข้อมูลทุกอย่างก่อนเพื่อที่จะได้ไม่ไปเบียดบังสิทธิของคนอื่นในการสอบเข้า เพราะถ้าเราไ่ม่เอาตั้งแต่แรก เราจะสอบไปทำไมละ เราก็ไม่สอบ ให้คนอื่นเขาสอบไป แต่ถ้าเราเอาเราก็จะสอบเพื่อสิทธิของตัวเอง แล้วอย่างนี้ถือว่าเราไ่ม่มีสมองใช่ไหม การคิดเพื่อคนอื่น กลัวว่าเราจะไปทำร้ายคนอื่นเนี่ย มันผิดด้วยเหรอ
แล้วเราไม่่มีสมองใช่ไหมที่พยายามเลือดตาแทบกระเด็นเพื่อหาข้อมูล ก่อนตัดสินใจตะลุยอ่านหนังสือ เพื่อเตรียมสอบเข้า อย่าลืมว่าจีนศึกษา ของธรรมศาสตร์ ไม่ได้ใช้แกทแพทเข้า นั่นแสดงว่าถ้าเราอยากจะเข้าจะต้องสอบ TU -GET HSK และฝึกเขียนบทความภาษาอังกฤษ ซึ่งต้องใช้การฝึกฝนและความพยายามอย่างมาก เพราะเราไม่ได้ฝึกด้านนี้เลย เพราะไม่เคยรู้ว่ามีสาขานี้มาก่อนในชีวิต ดังนั้น ถ้าเราอยากที่จะเข้าเราก็ต้องหาข้อมูลให้ถึงที่สุด เพื่อตัดสินใจว่าเราจะยอมเสียเวลาเป็นเดือนๆเพื่อฝึกกับสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ถ้าไม่เราจะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่น นี่ก็คือเราสมองกลวง ไม่่มีหัวสมอง ไม่สมควรเรียนมหาวิทยาัลัยอย่างที่ใครบางคนว่าใช่ไหม
ยังไงก็ต้องขอบคุณสำหรับทุกความเห็นนะฮับ มันช่วยให้ผมกระปรี้กระเปร่าขึ้นเยอะหลังจากเซื่องซึมมาทั้งวันเพราะความเครียด และความเบื่อโลก อย่างน้อยก็ได้ตื่นเต้นที่มีคนด่า และให้กำลังใจเรา ขอบคุณจริงๆฮับ
PS. หวัดดีฮับ ผมเป็นชายก็ไม่ใช่หญิงก้ไม่เชิง เดาเอาเองละกัน
คห 13 จ้ะ
โฟมยังอยู่มัธยม อยู่นะจ้ะ
แต่โฟมก็ขอบคุณนนท์นะ อุตส่าห์เรียกโฟม เปน นศ. จุฬา >w<
อีกอย่าง เจตนาไม่ได้จะว่า จขกท.
แค่คิดว่า คนเรา อย่าคิดอะไรมากไปก่อน
เอาให้ติดแล้วค่อยเลือก ก็น่าจะดีกว่า
ยังไงก็ช่วย ตีความเป็นแง่บวกหน่อย ก็ดีนะคะ
คนเรา คิดอะไรที่มัน ลบๆ เยอะเกินไป มันก็ไม่ดีนะคะ
ตัวโฟมเอง ก็รอให้ติดซักที่ก่อนแล้วค่อยคิดเหมือนกัน - -
เอ... โฟมด่าตัวเองอยู่หรือเปล่าคะนนท์ ^___^
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 19 กันยายน 2553 / 22:25
ออ เพิ่งจะอ่านของ จขกท
โฟมแค่เตือนดีๆค่ะ - - ไม่ได้คิดอะไรอกุศลเลย ซักกะนิดนะ
ตัวโฟมเองก็ทำอย่างงั้น โฟมอ่านสำหรับสอบไว้ตั้งหลายที่
คนเรา ถ้าไม่เผื่อเลือกไว้เลย ก็แย่สิจ้ะ
สมมตินะ ถ้าโฟมกะว่า เอา จุฬาที่เดียว ไม่ไปสอบที่อื่น
แล้วเกิดไม่ติดหล่ะ ? ... แล้วโฟม จะไปเรียนที่ไหน จริงป่ะ
อย่าคิดมากเกินไปค่ะ คนเราถ้า เก่งจริง
เอนที่ไหนก็ติด
ถ้าเราสละสิทธิ์แล้วที่ว่าง
ทางมหาลัยเค้าคงทำ อะไรซักอย่างได้อยู่แล้ว
ตัวสำรองก็มีนะ
คิดอะไรมากมาย - - มองโลกแง่บวกไว้ดีกว่านะ =w=
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?