ขนมหวานขึ้นชื่อนานาประเทศ
ตั้งกระทู้ใหม่
วันนี้หาขนมหวานขึ้นชื่อของแต่ละประเทศมาเรียกน้ำย่อยกัน ^^
อย่าว่ากันนะ ถ้าทำให้หลายคนหิว
อย่าว่ากันนะ ถ้าทำให้หลายคนหิว
อันดับแรก black forest cake
(หลายคนน่าจะเคยลอง)
ด้วยความมีชื่อเสียงในเรื่องชนิทเซล เบียร์ และเค้กรสชาติอร่อยมากมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่เยอรมนีจะกลายเป็นสถานที่ดื่ม-กินยอดนิยมของเรา โดยเจ้าช็อกโกแลตเค้กที่ทับซ้อนหลายชั้นด้วยครีม เชอร์รี่ และบรั่นดีผลไม้นี้ถือกำเนิดขึ้นในช่วงต้นยุค 1900 ทางตอนใต้ของเยอรมัน (ภายหลังได้รับการปรุงแต่งให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วยฝีมือของช่างทำเค้กในกรุงเบอร์ลิน) และทุกวันนี้เป็นทื่ชื่นชอบของคนทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่า นี่ก็เป็นหนึ่งในของโปรดของเราเช่นกัน
ต่อมา Halo Halo
(สีสันสวยงามน่าลิ้มลอง)
จานเด็ดของชาวฟิลิปปินส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้ไข่บาลุท แต่รับประกันได้ว่าไม่น่าสะอิดสะเอียน ทั้งนี้ ฮาโล ฮาโล ไม่มีสูตรการทำที่แน่นอน แต่ดูๆ ไปก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำแข็งใสของบ้านเรา โดยนำน้ำแข็งบดมาเติมด้วยเครื่องเคียง เช่น ถั่วเขียว ลูกตาล ขนุน มะพร้าวอ่อน ไอศกรีม วุ้นมะพร้าว สับปะรด และอื่นๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการราดนมข้นหวานและน้ำเชื่อม โดยสามารถหารับประทานได้ทุกที่ในกรุงมะนิลา
Tiramisu cake
(อร่อยมากของโปรเจ้าของกระทู้เลย)
เค้กชื่อดังของอิตาลีทำขึ้นจากเลดี้ฟิงเกอร์ราดเอสเปรสโซ่ สอดไส้ด้วยมาสคาร์โปนชีสและซาบากลิออเน ลือกันว่าทีรามิสุมีจุดกำเนิดมาจากการที่แม่บ้านของทหารในสงครามโลกครั้งที่สองทำเค้กให้สามีรับประทาน โดยเชื่อว่าส่วนผสมของคาเฟอีนกับน้ำตาลจะช่วยให้พวกเขามีพลังและแคล้วคลาดจากอันตราย ช่างโรแมนติคเสียนี่กะไร
ข้าวเหนียวมะม่วง
(อร่อยไม่แพ้ชาติไหน)
ขนมหวานแบบไทยๆ ที่นำมะม่วงสุกเหลืองอร่ามมาทานคู่กับข้าวเหนียวมูนราดด้วยน้ำกะทิรสชาติเป็นที่รู้กันดี มะม่วงหอมๆแช่เย็น ทานคู้กับข้าวเหนียวมูลหวานๆมันๆ ฟังแล้วชวนน้ำลายสอเป็นอย่างยิ่ง โดยได้รับความนิยมจากทั้งชาวสยามและชาวต่างชาติ ทั้งยังสามารถหาลิ้มลองได้ทั้งที่โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ภัตตาคาร และร้านอาหารตามท้องถนนทั่วไป
Crème Brulee
(เคยลองแล้วอร่อยดีก็เหมือนคัสตาสทั้วไปนั้นแหละ)
แม้ชื่อจะฟังดูแล้วฝรั่งเศสสุดๆ แต่อย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าเป็นเช่นนั้น เนื่องจากวิทยาลัยทรินิตี้ในเคมบริดจ์ได้อ้างว่าพวกเขาคือต้นตำรับผู้คิดค้นขนมสูตรเด็ดนี้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 1600 อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีจุดกำเนิดจากอังกฤษ แต่เชื่อแน่ว่าคงไม่มีสถานที่ใดเหมาะแก่การทานคัสตาร์ดเย็นๆ โรยด้วยน้ำตาลไหม้ ได้เท่ากับใต้หอไอเฟลที่ประดับด้วยไฟสว่างไสวในยามค่ำคืนในกรุงปารีส
apple pine
(อันนี้ก็เคยทานใน กาโต้เฮ้าก็มีแต่อาจจะไม่เหมือนต้นตำรับหรอกนะ)
เช่นเคย แม้จะฟังดูเป็นอเมริกันจ๋า แต่จริงๆ แล้วมีต้นกำเนิดจากเมืองผู้ดี โดยได้รับการคิดค้นขึ้นเมื่อปี 1381 และปกติจะอบด้วยแป้งสองชั้น ในสมัยก่อน ตอนที่ชาวอังกฤษอพยพมาตั้งรกรากในอเมริกา พวกเขาได้นำเมล็ดแอปเปิลมาปลูกด้วย จึงทำให้มันมีความเกี่ยวพันกับวัฒนธรรมของชาวมะกัน แต่ไม่ว่าจะที่โรงแรมในลอนดอนหรือภัตตาคารในแอลเอ แอปเปิลพายก็เป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดาลูกค้าเหมือนกัน
Daifuku
(หาซื้อได้ทั้วไป ประเทศไทยก็มีเยอะแยะ)
ขนมเจลลาตินทรงกลมจากแดนอาทิตย์อุทัยมีมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกนู้นมักสอดไส้ไว้ด้วยถั่วแดงหวาน (และบางครั้งก็อาจเป็นแยมสตอเบอร์รี่หรือสตอเบอร์รี่สดแบบในภาพชวนกินน่าดู) โรยด้วยแป้งบางๆ โดยสามารถหาซื้อมารับประทานได้ทั้งจากกรุงโตเกียว โอซาก้า เกียวโต นากาโนะ และทุกแห่งในญี่ปุ่น
Nanaimo Bars
แคนาดาขึ้นชื่อเรื่องขนมหวาน? ได้ยินแล้วไม่ต่างกับการพูดว่ากรุงเทพขึ้นชื่อเรื่องทะเลยังไงยังงั้น แต่กระนั้น ขนมรสเลิศดังกล่าวก็มีที่มาจากเกาะแวนคูเวอร์ในเมืองนาไนโม รัฐบริติชโคลัมเบีย โดยได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นจากฝีมือแม่บ้านท้องถิ่นซึ่งได้ส่งเจ้าขนมทรงจัตุรัสชิ้นนี้ไปประกวดในนิตยสารและคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้ ปัจจุบัน เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในแถบอเมริกาเหนือ
Gulab Jamen
(ไม่เคยกินคงเหมือนไข่หงษ์มั้ง)
ก้อนขนมปังหวานที่คงไม่ถูกปากฝรั่งตาน้ำข้าว แต่คอนเฟิร์มว่าอยู่ในรายชื่อขนมอันดับต้นๆ ของชาวอินเดีย และเมื่อมีคนกว่าพันล้านคนชื่นชอบ ก็ยากจะปฏิเสธได้ว่ามันไม่อร่อย ปกติแล้วมักทำขึ้นโดยใช้ครีมสองชั้นและราด้วยน้ำเชื่อมเข้มข้น เป็นที่นิยมในอินเดีย ปากีสถาน เนปาล และประเทศในแถบเอเชียใต้
Baklava
ประวัติที่แท้จริงของบาคลาวายากที่จะระบุให้แน่ชัดเพราะว่ากันว่ามันมีต้นกำเนิดจากจักรวรรดิอ็อตโตมัน ดินแดนเมโสโปเตเมีย และอาหรับ โดยขนมหวานชนิดนี้ทำขึ้นจากการนำแป้งฟิลโลมาสอดไส้ไว้ด้วยถั่ว น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อม หากต้องการลิ้มลองรสชาติแบบต้นตำรับก็ต้องไปรับประทานถึงถิ่นที่อ้างว่าเป็นจุดกำเนิด ทั้งกรุงอิสตันบูล กรุงเอเธนส์ และกรุงเบรุต แม้แต่ละที่อาจจะมีรสแตกต่างกันไปบ้าง แต่ก็ยังการันตีได้ถึงความเอร็ดอร่อย
Candy Apple
(อันนี้อยากลองมากๆๆ เคยเห็นในหนังคิดว่าคงจะอร่อย)
หลายคนคงจะไม่เคยเห็นมันเป็นขนมที่ฮอตฮิตของอเมริกาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในเทศกาล วันฮาโลวีน และGuy Fawkes Nightเนื้องจากเป็นช่วงเก็บเกี่ยวพอดี อ่อ และอาจพบได้ในช่วง คริสมาสต์ Candy Apple นี้ มีหลายรูปแบบส่วนใหญ่จะทำโดยการเคลือบน้ำเชื่อมคาราเมล ไม่ก็ช็อคโกแลต โรยด้วยถั้ว ผลไม้แห้ง ไม่ก็ ไวท์ช็อคโกแลต คอนเฟลต และอื่นๆตามใจชอบในประเทศไทยยังไม่เคยเห็นเลยอยากลองจัง
Macaroon
(อันนี้เคยลองอร่อยมาก หวานๆดี กรอบนอกนุ่มใน หาซื้อได้ที่ Paragon ร้านอาหารฝรั่งเศสอันนี้จ.ข.ท ชอบมาก)
เป็นขนมหวานขึ้นชื่อ ของฝรั่งเศสมากเลยทีเดียวคนฝรั่งเศสแทบจะขาดมันไม่ได้เลยทีเดียวหาซื้อได้ง่านพบโดยทั่วไปของฝรั่งเศส เดิม macaroonเป็นคุกกี้อัลมอนด์เมอแรงค์คล้ายกับ amaretti กรอบนอกนุ่มในทำจากไข่ขาวตีให้เข้ากับอัลมอนป่น มีหลายรสชาติให้เลือกสีสันสวยงามMacaroon เกิดจาก สองพี่น้องMarguerite Marie - Elisabeth ได้ขอลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเสสช่วงปฎิวัติฝรั่งเศส และได้ทำขนม เบเกอรี่ต่างๆขายเพื่อเป็นค่าเช่าหนึ่งในนั้นก็มี Macaroonและนั้น ทำให้เป็นที่รู้จักจนถึงปัจจุบัน
Teok
(ไม่เคยกินแต่อยากลองอยู่นะ)
(หลายคนน่าจะเคยลอง)
ด้วยความมีชื่อเสียงในเรื่องชนิทเซล เบียร์ และเค้กรสชาติอร่อยมากมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่เยอรมนีจะกลายเป็นสถานที่ดื่ม-กินยอดนิยมของเรา โดยเจ้าช็อกโกแลตเค้กที่ทับซ้อนหลายชั้นด้วยครีม เชอร์รี่ และบรั่นดีผลไม้นี้ถือกำเนิดขึ้นในช่วงต้นยุค 1900 ทางตอนใต้ของเยอรมัน (ภายหลังได้รับการปรุงแต่งให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วยฝีมือของช่างทำเค้กในกรุงเบอร์ลิน) และทุกวันนี้เป็นทื่ชื่นชอบของคนทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่า นี่ก็เป็นหนึ่งในของโปรดของเราเช่นกัน
ต่อมา Halo Halo
(สีสันสวยงามน่าลิ้มลอง)
จานเด็ดของชาวฟิลิปปินส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้ไข่บาลุท แต่รับประกันได้ว่าไม่น่าสะอิดสะเอียน ทั้งนี้ ฮาโล ฮาโล ไม่มีสูตรการทำที่แน่นอน แต่ดูๆ ไปก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำแข็งใสของบ้านเรา โดยนำน้ำแข็งบดมาเติมด้วยเครื่องเคียง เช่น ถั่วเขียว ลูกตาล ขนุน มะพร้าวอ่อน ไอศกรีม วุ้นมะพร้าว สับปะรด และอื่นๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการราดนมข้นหวานและน้ำเชื่อม โดยสามารถหารับประทานได้ทุกที่ในกรุงมะนิลา
Tiramisu cake
(อร่อยมากของโปรเจ้าของกระทู้เลย)
เค้กชื่อดังของอิตาลีทำขึ้นจากเลดี้ฟิงเกอร์ราดเอสเปรสโซ่ สอดไส้ด้วยมาสคาร์โปนชีสและซาบากลิออเน ลือกันว่าทีรามิสุมีจุดกำเนิดมาจากการที่แม่บ้านของทหารในสงครามโลกครั้งที่สองทำเค้กให้สามีรับประทาน โดยเชื่อว่าส่วนผสมของคาเฟอีนกับน้ำตาลจะช่วยให้พวกเขามีพลังและแคล้วคลาดจากอันตราย ช่างโรแมนติคเสียนี่กะไร
ข้าวเหนียวมะม่วง
(อร่อยไม่แพ้ชาติไหน)
ขนมหวานแบบไทยๆ ที่นำมะม่วงสุกเหลืองอร่ามมาทานคู่กับข้าวเหนียวมูนราดด้วยน้ำกะทิรสชาติเป็นที่รู้กันดี มะม่วงหอมๆแช่เย็น ทานคู้กับข้าวเหนียวมูลหวานๆมันๆ ฟังแล้วชวนน้ำลายสอเป็นอย่างยิ่ง โดยได้รับความนิยมจากทั้งชาวสยามและชาวต่างชาติ ทั้งยังสามารถหาลิ้มลองได้ทั้งที่โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ภัตตาคาร และร้านอาหารตามท้องถนนทั่วไป
Crème Brulee
(เคยลองแล้วอร่อยดีก็เหมือนคัสตาสทั้วไปนั้นแหละ)
แม้ชื่อจะฟังดูแล้วฝรั่งเศสสุดๆ แต่อย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าเป็นเช่นนั้น เนื่องจากวิทยาลัยทรินิตี้ในเคมบริดจ์ได้อ้างว่าพวกเขาคือต้นตำรับผู้คิดค้นขนมสูตรเด็ดนี้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 1600 อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีจุดกำเนิดจากอังกฤษ แต่เชื่อแน่ว่าคงไม่มีสถานที่ใดเหมาะแก่การทานคัสตาร์ดเย็นๆ โรยด้วยน้ำตาลไหม้ ได้เท่ากับใต้หอไอเฟลที่ประดับด้วยไฟสว่างไสวในยามค่ำคืนในกรุงปารีส
apple pine
(อันนี้ก็เคยทานใน กาโต้เฮ้าก็มีแต่อาจจะไม่เหมือนต้นตำรับหรอกนะ)
เช่นเคย แม้จะฟังดูเป็นอเมริกันจ๋า แต่จริงๆ แล้วมีต้นกำเนิดจากเมืองผู้ดี โดยได้รับการคิดค้นขึ้นเมื่อปี 1381 และปกติจะอบด้วยแป้งสองชั้น ในสมัยก่อน ตอนที่ชาวอังกฤษอพยพมาตั้งรกรากในอเมริกา พวกเขาได้นำเมล็ดแอปเปิลมาปลูกด้วย จึงทำให้มันมีความเกี่ยวพันกับวัฒนธรรมของชาวมะกัน แต่ไม่ว่าจะที่โรงแรมในลอนดอนหรือภัตตาคารในแอลเอ แอปเปิลพายก็เป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดาลูกค้าเหมือนกัน
Daifuku
(หาซื้อได้ทั้วไป ประเทศไทยก็มีเยอะแยะ)
ขนมเจลลาตินทรงกลมจากแดนอาทิตย์อุทัยมีมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกนู้นมักสอดไส้ไว้ด้วยถั่วแดงหวาน (และบางครั้งก็อาจเป็นแยมสตอเบอร์รี่หรือสตอเบอร์รี่สดแบบในภาพชวนกินน่าดู) โรยด้วยแป้งบางๆ โดยสามารถหาซื้อมารับประทานได้ทั้งจากกรุงโตเกียว โอซาก้า เกียวโต นากาโนะ และทุกแห่งในญี่ปุ่น
Nanaimo Bars
แคนาดาขึ้นชื่อเรื่องขนมหวาน? ได้ยินแล้วไม่ต่างกับการพูดว่ากรุงเทพขึ้นชื่อเรื่องทะเลยังไงยังงั้น แต่กระนั้น ขนมรสเลิศดังกล่าวก็มีที่มาจากเกาะแวนคูเวอร์ในเมืองนาไนโม รัฐบริติชโคลัมเบีย โดยได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นจากฝีมือแม่บ้านท้องถิ่นซึ่งได้ส่งเจ้าขนมทรงจัตุรัสชิ้นนี้ไปประกวดในนิตยสารและคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้ ปัจจุบัน เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในแถบอเมริกาเหนือ
Gulab Jamen
(ไม่เคยกินคงเหมือนไข่หงษ์มั้ง)
ก้อนขนมปังหวานที่คงไม่ถูกปากฝรั่งตาน้ำข้าว แต่คอนเฟิร์มว่าอยู่ในรายชื่อขนมอันดับต้นๆ ของชาวอินเดีย และเมื่อมีคนกว่าพันล้านคนชื่นชอบ ก็ยากจะปฏิเสธได้ว่ามันไม่อร่อย ปกติแล้วมักทำขึ้นโดยใช้ครีมสองชั้นและราด้วยน้ำเชื่อมเข้มข้น เป็นที่นิยมในอินเดีย ปากีสถาน เนปาล และประเทศในแถบเอเชียใต้
Baklava
ประวัติที่แท้จริงของบาคลาวายากที่จะระบุให้แน่ชัดเพราะว่ากันว่ามันมีต้นกำเนิดจากจักรวรรดิอ็อตโตมัน ดินแดนเมโสโปเตเมีย และอาหรับ โดยขนมหวานชนิดนี้ทำขึ้นจากการนำแป้งฟิลโลมาสอดไส้ไว้ด้วยถั่ว น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อม หากต้องการลิ้มลองรสชาติแบบต้นตำรับก็ต้องไปรับประทานถึงถิ่นที่อ้างว่าเป็นจุดกำเนิด ทั้งกรุงอิสตันบูล กรุงเอเธนส์ และกรุงเบรุต แม้แต่ละที่อาจจะมีรสแตกต่างกันไปบ้าง แต่ก็ยังการันตีได้ถึงความเอร็ดอร่อย
Candy Apple
(อันนี้อยากลองมากๆๆ เคยเห็นในหนังคิดว่าคงจะอร่อย)
หลายคนคงจะไม่เคยเห็นมันเป็นขนมที่ฮอตฮิตของอเมริกาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในเทศกาล วันฮาโลวีน และGuy Fawkes Nightเนื้องจากเป็นช่วงเก็บเกี่ยวพอดี อ่อ และอาจพบได้ในช่วง คริสมาสต์ Candy Apple นี้ มีหลายรูปแบบส่วนใหญ่จะทำโดยการเคลือบน้ำเชื่อมคาราเมล ไม่ก็ช็อคโกแลต โรยด้วยถั้ว ผลไม้แห้ง ไม่ก็ ไวท์ช็อคโกแลต คอนเฟลต และอื่นๆตามใจชอบในประเทศไทยยังไม่เคยเห็นเลยอยากลองจัง
Macaroon
(อันนี้เคยลองอร่อยมาก หวานๆดี กรอบนอกนุ่มใน หาซื้อได้ที่ Paragon ร้านอาหารฝรั่งเศสอันนี้จ.ข.ท ชอบมาก)
เป็นขนมหวานขึ้นชื่อ ของฝรั่งเศสมากเลยทีเดียวคนฝรั่งเศสแทบจะขาดมันไม่ได้เลยทีเดียวหาซื้อได้ง่านพบโดยทั่วไปของฝรั่งเศส เดิม macaroonเป็นคุกกี้อัลมอนด์เมอแรงค์คล้ายกับ amaretti กรอบนอกนุ่มในทำจากไข่ขาวตีให้เข้ากับอัลมอนป่น มีหลายรสชาติให้เลือกสีสันสวยงามMacaroon เกิดจาก สองพี่น้องMarguerite Marie - Elisabeth ได้ขอลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเสสช่วงปฎิวัติฝรั่งเศส และได้ทำขนม เบเกอรี่ต่างๆขายเพื่อเป็นค่าเช่าหนึ่งในนั้นก็มี Macaroonและนั้น ทำให้เป็นที่รู้จักจนถึงปัจจุบัน
Teok
(ไม่เคยกินแต่อยากลองอยู่นะ)
อันที่จริงแล้ว ต๊อก ก็คือ ขนมข้าว หรือว่า rice cake นี่เอง หากเราลองพิจารณาขนมไทยเราแล้วก็จะพบว่ามีแป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า เป็นส่วนประกอบหลักด้วยเช่นกัน เพียงแต่ว่าขนมไทยเรานิยมนำเอากะทิ และไข่ มาเป็นส่วนผสมด้วยในขณะที่ ต๊อก เป็นขนมข้าว ไร้กะทิ ไร้มัน คงเหมือนพวกขนมเหนียวบ้านเราอะ จะกินกันส่วนใหญ่ในช่วงเทศกาล เช่น ปีใหม่ และวันสำคัญๆอย่างวันแต่งงาน และวันฉลองอายุ 60 ปี ภายในก็มีใส่ต่างๆเช่นถั่วอดง ฝักหวานอะไรงี่มั้งนะไม่แน่ใจเคยเห็นใน TV
หมดแล้วอิ่มกันรึยัง ^^ ใครหิวโหวตเลยอิอิ
Thank จร่า
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 28 กันยายน 2553 / 20:15
10 ความคิดเห็น
น่ากินมากๆๆๆๆเลย ชอบทีรามิสุสุดๆ :))))
PS. บางครั้งคนเราชอบมองไม่เห็นพรหมลิขิตที่เดินผ่าน แต่จะยากอะไร ก็แค่ทำอนาคตให้เป็นปัจจุบัน..และปัจจุบันให้เป็นอดีต ก็เท่านั้น...เท่านั้นเอง!!!! http://my.dek-d.com/melfa/story/view.php?id=383490
หิว !!
ของไทยไม้แพ้ชาติใดในโลกจริง ๆ
แม่ต๋า หิวข้าวเหนียวมะม่วง
น่าจะมีโหวต
โอ้โห หิว
PS. สวัสดีจ้ะ เด็กหลงทาง ที่นี่คือดินแดนยัยหน้าจืด ที่มีองครักษ์เป็นไซบีเรียนฮัสกี้ ถ้าไม่รังเกียจ เรามาเป็นเพื่อนกันนะ วะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮ่า!
น่ากินมากๆเลย อ่า
อยากกินทุกอย่างเลย
แต่คิดว่าน่าจะแพงอยู่น้า
:b เอื๊อกๆ
(น้ำลายเจิงนอง)
อยากกินข้าวเหนียวมะม่วงงง
แม่!!!
PS. New moon ซื้อตั๋วล่งวหน้าได้แล้วน้า
น่ากินงิ//เดินไปหยิบมาชิ้นนึงแล้ววิ่งออกจากกระทู้
รักเค้กที่สุด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?