หนังไทยโดนแบน...Insects in the Backyard โดนแบน มีเนื้อหาขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
ทาง Facebook ของนิตยสาร Bioscope แจ้งว่าภาพยนตร์ในโครงการ Indy Spirit Project หมายเลข 2 เรื่อง Insects in the Backyard ไม่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวิดีทัศน์ ซึ่งก็คือได้เรตห้ามฉาย เนื่องจาก “มีเนื้อหาขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน” และขณะนี้ทีมผู้สร้างกำลังทำเรื่องอุทธรณ์กันอยู่
อนึ่งเนื้อเรื่องของ Insects in the Backyard เป็นหนังอิสระว่าด้วยชีวิตของคนในครอบครัวหนึ่งประกอบด้วย เจนนี่ และจอห์นนี่ พี่น้องกำพร้าพ่อแม่ พวกเขาถูกดูแลโดย ทันย่า พี่สาวคนโตซึ่งเป็นเพศที่สาม เธอแต่งตัว กินอาหาร สูบบุหรี่ และทำตัวเหมือนดาราที่ชื่นชอบ ซึ่งสร้างบรรยากาศประหลาดให้กับคนทั้งสอง และค่อยๆ ห่างเหินจากบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่จนหนีออกไปในที่สุด
เนื่องจากในการแจ้งดังกล่าวไม่มีการบอกรายละเอียดว่าการขัดต่อความสงบ เรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนคืออะไร ฉากไหน จึงยังไม่ขอวิจารณ์ ทั้งนี้หนังเป็นผลงานการกำกับ เขียนบท และแสดงนำโดย ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ อดีตคนทำหนังสั้นเจ้าของรางวัลรัตน์ เปสตันยี จากการประกวดภาพยนตร์สั้นไทยครั้งที่ 12 เรื่อง I’m fine.สบายดีค่ะ ในปี 2551
เรื่องย่อ
“Insects in the backyard” เป็นภาพยนตร์แนวดราม่า coming of age ที่เล่าเรื่องราวของความสัมพันธ์ของ “ธัญญ่า” กะเทยวัย 35 ที่ชอบใช้ชีวิตเลียนแบบดาราฮอลลีวู้ด กับ “เจนนิเฟอร์” น้องสาววัย 17 ที่พยายามทำติสท์ตามกระแสวัยรุ่น และกำลังอยากมีแฟนอย่างมาก และ “จอห์นนี่” น้องชายวัย 15 ที่ไม่มีเพื่อนที่โรงเรียนและมักจะเก็บตัวอยู่ในห้องกับโลกไซเบอร์
… หนังจะเล่าเรื่องราวของพวกเขาผ่านเรื่องของความรักที่พยายามไขว่คว้า ความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง มิตรภาพที่ต้องพิสูจน์ อีกทั้งความต้องการทางเพศที่คุกรุ่นอยู่ในใจ ทั้งหมดนี้ต่างเป็นตัวปัญหาของพวกเขา และมีผลทำให้พวกเขาเหล่านี้ไม่เข้าใจถึงความรู้สึกนึกคิด ของคนที่มีความแตกต่างระหว่างวัยและเพศที่แตกต่างกัน หนังเล่าเรื่องราวของแต่ละคนก่อนและหลังเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้พวกเขาต้อง แยกจากกันไป เพื่อได้เรียนรู้สิ่งที่ทำลงไป และได้ทำความเข้าใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อสะท้อนถึงสิ่งที่ผ่านมาในอดีต ที่จะทำให้พวกเขาได้เติบโตขึ้นและตัดสินใจเลือกชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยตัวเอง
http://movie.mthai.com/movie-news/81391.html
สิ่งที่อยากจะบอกคือ การแบนหนังเรื่องนี้ด้วยเหตุผลเพียง (กลับไปดูหัวข้อเรื่อง) มันเป็นอะไรบ้าบอคอแตกและเลวร้ายอีกครั้งนับจากการแบน หนังแสงศตวรรษของอภิชาติพงษ์ ที่โดนแบนด้วยฉากพระดีดกีตาร์ พระเล่นจานร่อน หมอจูบกับแฟน หมอดื่มเหล้า ซึ่งกลายเป็นคำถามถึงสิทธิเสรีภาพในการทำงานศิลปะของคนในประเทศนี้ว่า เป็นอะไรกันไปหมด ประเทศนี้เป็นประเทศนี้ที่ปากบอตัวเองเป็นประชาธิปไตย แต่ปิดกั่นความคิดเห็น การวิพากษ์วิจาณณ์ของคนในประเทศนี้ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งซะแบบนั้น มันทำให้เราคิดว่า เฮ้ย... ประเทศนี้มันประหลาด พูดอะไรไม่ได้ ว่าิอะไรไม่ได้ แล้วจะมีการสร้างสรรค์งานที่สื่อถึงสภาพสังคมนัึ้นออกมาได้ยังไง
อภิชาติพงษ์เคยกล่าวไว้ว่า หนังคือ ลูกเรา เขาจะมาทำกับลูกเราแบบนี้ไม่ได้ ซึ่งถ้าใครทำหนังจะรู้ว่ามันจริง แค่ไหน
เรตติ้งมีไ้ว้หา....อะไร
PS. ผลักดันดาร์คแฟนตาซี ต่อต้านกองเซ็นเซอร์ เบื่อพันธมิตร ขับไล่ประชาธิปปัตย์ เอวังกับนิยายแนวโรงเรียน สิ้นชีพเพราะสัปดาห์หนังสือ เดินหน้าสู่ด้านมืด...
40 ความคิดเห็น
เรตติ้งบ้านเรามันไม่มีมาตรฐานน่ะสิครับ คิดเองเออเองมาหลายเรื่องแล้ว อันที่ควรจะเบลอจะแบนไม่ทำ อันที่ไม่ควรจะทำก็ดันทำ
อันที่จริงแล้วการทำงานโดยรวมของหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจนี่ประชุมกันเยอะนะครับ ทั้งสังเกตกับเจอด้วยตัวเอง อย่างน้อยก็สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
ถ้าเป็นผู้บริหารหรือทีมทำงานหนึ่งจะมากกว่านี้อีก แถมประชุมกันทีก็ครึ่งวันอย่างน้อย บางอย่างก็เป็นวัน
แต่น่าแปลกใจที่มีประชุมกันเยอะแบบนี้ แต่กลับหาสาระไม่ได้ในเรื่องการแบนหนังเลย... สงสัยกับหน่้วยงานเซนเซอร์จริงๆว่าวันๆเขาทำอะไรบ้าง...?
ไม่ใช่ว่าไม่เห็นด้วยกับการดูแลความเหมาะสมของเรทหนังละคร
เพียงแต่ว่าขอให้มันเป็น มาตรฐาน หน่อยได้ไหม? อะไรคือรุนแรง อะไรคือวาบหวาม อะไรคือไม่เหมาะสมกับเยาวชน มีการนิยามความหมายไหม และำคำๆนั้นครอบคลุมอะไรบ้าง... การทำงานยังต้องมีคู่มืิอปฏิบัติงานนะครับ แล้วการจัดเรทล่ะมีคู่มืออธิบายไหม?
แล้วจะทำก็ทำสักอย่าง
จะจัดเรทก็จัด และเบลอก็เบลอ เอาสักอย่าง จัดเรทก็บังคับใช้กฎหมายไปว่าต่ำกว่าเท่าไหร่ห้ามเข้า ถ้าแล้วก็ไม่ต้องเบลอ... หรือถ้าจะเบลอก็ไม่ต้องจัดเรท...
เอวังกับวงการบันเทิงของไทยมาตั้งแต่ยุคคุณธรรมจอมปลอมแล้วครับ ประสาอะไรกะแค่หนังเปาบุ้นจิ้นเอามาดูเพื่อเน้นคุณธรรมแต่เอาฉากตัดคอออก... (ซึ่งในหนังมันก็ไม่ได้มีอะไรมาก) เบลอเหล้ารายการทำอาหารก็เซ็งแย่แล้ว ดันมาเจอเบลอป้ายเหล้าในข่าวกีฬาอีก...
ไม่ว่าจะหวังดีหรือทำเพราะกลัวตามนายสั่งก็เถอะนะ...
แต่ผมว่าบ้านเราน่าจะถึงเวลาสังคายนามาตรฐานทั้งประเทศแล้วกระมัง
PS. Ragnarok Fiction - The legend of descendant - เรื่องราวของตำนานรบตำนานรักบทใหม่ มีอา-มังกรน้อยปาฏิหาริย์ - (Master And The Little Dragon) - รักพี่จ๋าที่สุดในโลกเลย !!
เบื่อเรตไทย
ขายบนดินไม่ได้ ก็ต้องระเห็จไปอยู่ใต้ดิน...
PS. ใครว่ามนุษย์ล่วงรู้ทุกสิ่ง ไม่งั้นจะสร้างประโยคคำถามไว้ทำไม
ขนาดจะดู Borat กับ Bruno ยังหาโรงลำบาก จำกัดโรงฉายทำไมหนังออกจะสร้างสรรค์
เมืองไทยมันตัวแม่คับ...ยากที่จะเข้าใจ ชอบทำอะไรโง่ๆ และไม่มีเหตุผล
มีเรทติ้งให้ทำ ให้จำกัด ก็ไม่ทำ ข้าจะแบนมันลูกเดียว.....อันนี้ยากที่จะเข้าใจ มีเรทติ้งแล้วไม่จัด มีทำไม?
เซ็นเซอร์อะไรโง่ๆ เช่น เซ็นเซอร์ปืนจ่อหัว เซ็นเซอร์บุหรี่ในปาก....อันนี้ชอบทำอะไรโง่ๆ เซ็นเซอร์ทำไมของพวกนี้ คิดว่าผมจะเอามะละกอมาจ่อหัว หรือเอาไส้กรอกมาอมเล่นในปากหรือไง?
สุดท้าย กองเซ็นเซอร์และกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงบุคลากรความคิดครอบกะลา เช่น เจ๋เบียบทั้งหาย....พวกนี้ไม่มีเหตุผล ไม่เคยเปิดรับในสิ่งที่เขาไม่ชอบ ไม่เคยศึกษาอะไรจริงจังในสิ่งที่ขัดกับตัวเอง
สุดท้าย อยากจะบอกว่าเมืองไทยเป็นอะไรที่Flexible มาก แต่ไม่ใช่flexibleทาง+ นะ มันเป็นflexibleทาง-...กล่าวคือสิ่งที่คุณทำและคิดว่าเป็นบวก อาจสามารถกลายเป็นลบสุดขีดได้ในสังคมไทย(นี้แค่วงการหนัง ภาพยนตร์ และสื่อนะ ไม่ต้องพูดถึงทางการเมืองที่คุณอาจนอนซังเตข้อหา' เป็นภัยต่อความมั่งคงของชาติ ' ได้ทุกเมื่อหากทำอะไรที่มันอาจไปขัดแข้งขัดขาเบื้องบน)
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2553 / 09:40
กองเซนเซอร์เมืองไทย (ไม่รู้ปัจจุบันเปลี่ยนไปใช้หน่วยงานไหนละ หลังจากที่ไม่ได้ใช้ กบว) มันมีจินตนาการสูงกว่าชาติใดในโลก
พวกเรื่องที่ชาวบ้านชาวเมืองไม่คิด มันจะคิด
แต่เรื่องไหนที่ชาวบ้านชาวเมืองคิด มันจะไม่คิด
เซนเซอร์หาแป๊ะอะไร ขวดเหล้า ขวดเบียร์ แม่งยกแล้วเมาซวก ๆ เด็กประถมมันยังรู้ว่าแดกเหล้า - -"
เซนเซอร์หาแป๊ะอะไร บุหรี่ ยกสูบกันควันฉุย ทำไมไม่เซนเซอร์ควันไปด้วยล่ะ...
เซนเซอร์หาแป๊ะอะไร ฉากเอาปืนจ่อกบาล ทีตอนแม่งยกปืนขึ้นมาเฉย ๆ เจือกไม่เซนเซอร์ ต้องจ่อกบาลก่อน ถึงจะเซนเซอร์ - -"
ตูล่ะหน่าย
PS. ...บางคน...พูดเก่ง...แต่ฟังไม่เก่ง... ...บางคน...ฟังเก่ง...แต่พูดไม่เก่ง... ...บางคน...พูดเก่ง...เพราะฟังเก่ง... ...แต่บางคน...พูดเก่ง...แต่ไม่ฟังคนอื่นเลย...
ท่านน็อค Bruno มันก็ออกจะเกินไปหน่อยเหมือนกันนะท่านในความคิดของบอมอ่ะ
PS. พาหนะของบอมคือเต่า!!!~ ท้าทายอำนาจเวปบ้างอะไรบ้างก็ตื่นเต้นดีนะ
ขนาดดูรายการกระทะเหล็ก ยังเบลอภาพขวดเหล้า ทั้งที่ขึ้นคำเตือนไว้ว่า มีไว้เพื่อประกอบอาหาร ยังเบลออีก ชิ
PS. vbvb World of Warcraft Classes Rogue Hail~ Megatron!
ขนาดคนปล่อยคลิปหลักฐานตุลาการ ยังจะโดนไล่ล่าเป็นล่าแม่มดเลย
...ไทยแลนด์ โอนลี่
PS. เป็นแฟนพันธุ์แท้เรา...ต้องอดทน!!!
ได้ข่าวว่าเซ็นเซอร์ฉากแล่ปลาด้วยไม่ใช่หรือ
ปล. กระทู้เริ่มจะกลายพันธุ์แล้วนะคะ (หรือมันกลายตั้งแต่หัวกระทู้?) ระวังกันหน่อยเดี๋ยวประเด็นเปลี่ยน
PS. There's no logic in your arguments, if one doesn't listen, doesn't open up, we can't find the answer. Drifting never ends.
ท่านน๊อค...เรื่อง Bruno รัณเคยดูแต่รู้เหมือนว่าเเรงไปหรือเปล่า..
PS. เราควรจะจงรักภักดีต่อที่ที่เราเกิด ที่ที่ให้เราซุกหัวนอน
PS. ถ้าเขาว่าผิดผมว่าไม่ผิดแล้วผมต้องผิดใช่ไหม ถ้าเขาว่าถูกผมว่าไม่ถูกแล้วผมต้องเชื่อหรือไง
เสียดายหนังดีๆหลายเรื่อง
ไม่ได้ใต้โต๊ะล่ะสิ
PS. คนทุกคนเท่าเทียมกัน แต่บางคนเท่าเทียมมากกว่าคนอื่น (Warhammer 40K) | แนะนำเกมพีซีและอาจมีดาวน์โหลด -> http://teamarcane.blogspot.com/ | เรื่องสนุก โพสไว้ให้ฮา -> http://post4fun.blogspot.com
@ คุณปริสมา
ตรงประเด็นเป็นที่สุด
PS. In omnibus requiem quaesivi, et nusquam inveni nisi in angulo cum libro.
ผมว่ามันเป็นการหนีความจริงซะมากกว่า ถ้าเราจะดูให้หนังมันเป็นแง่คิดมันก็เป็นแง่คิดนะครับ แต่คนไทยเรากลับมองว่ามันเป็นปัญหาไปซะงั้น เศร้า
ความจริงที่วัยรุ่นชอบลองอะไรผิดๆถูกกันเพราะว่าไม่เคยมีภาพด้านลบของการกระทำไม่ใช่หรือ ผมว่าถ้าคนเราเรียนรู้จากด้านลบซะมั่งมันก็จะได้เข้าใจและไม่กล้าไปลองนะ
เพียงแต่กองเซ็นเซอร์มันใช้กฏทำงานมากกว่าสมองมากไปหน่อย เซ็นเซอร์ตามกฏลูกเดียวไม่ใช้หัวคิดเลย
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 14 พฤศจิกายน 2553 / 01:19
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 14 พฤศจิกายน 2553 / 01:19
PS. ค่าของคนอยู่ที่ผลของการกระทำ คำสัญญาร้อยครั้งไม่อาจเทียบได้กับผลของการกระทำเพียงครั้งเดียว
เอาง่ายๆนะค่ะ ถ้าหนังเรื่อนี้เกิดได้คานท์หรือรางวัลใหญ่ขึนมาในวงการหนังโลก แบบลุงบุญมีขึ้นมา อะไรจะเกิดขึ้น ลองคิดล่ะกันค่ัะ
PS. ผลักดันดาร์คแฟนตาซี ต่อต้านกองเซ็นเซอร์ เบื่อพันธมิตร ขับไล่ประชาธิปปัตย์ เอวังกับนิยายแนวโรงเรียน สิ้นชีพเพราะสัปดาห์หนังสือ เดินหน้าสู่ด้านมืด...
มาส่อง...มารับรู้...
หนังยังไม่ทันออก...เลยไม่รู้ว่ามันร้ายแรงขนาดไหน - -"
PS. [สถานะ:: มันเป็นเรื่องของโชคชะตา...]// กฎหมาย...ถ้าคนไม่เคารพ มันก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ // It's our "Destiny" // อ๊างงงค์~~~
แต่
หนังเรื่องอื่นๆ หลายๆ เรื่องที่เคยเห็นแว๊บๆๆ..... และโดนแบน เราว่าสมควรโดนแบนแล้ว เราว่าเอาคำว่าเสรี หรือประชาธิปไตยมาอ้างกับเรื่องการทำหนังไม่ได้หรอก คณะกรรมการเขาก็ต้องมองเห็นอะไรบางอย่าง อย่างหนังสั้น และหนังไม่สั้นบางเรื่องเนื้อหารุ่นแรง แฝงยาพิษใส่สังคม แต่คนทั่วไปอาจรู้ไม่เท่าทัน หรือมองไม่เห็น หรือเห็นแต่คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของสังคม ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องที่สังคมไม่สมควรให้การยอมรับ แต่สังคม(บางส่วน) ก็ยอมรับ คนที่ทำหนังก็ย่อมหวังให้หนังเกิดกระแส พยายามถ่ายทอดความรุนแรงของสังคม แต่ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมาต่อสังคม มันเป็นเรื่องระเอียดอ่อน ซึ่งคนทั่วไปก็ยากที่จะเข้าใจ
การเสนอความรุนแรงของสังคมทุกคนสามารถทำได้
แต่
ควรนำเสนอแบบละมุนละม่อม มันเป็นเรื่องของศิลปะ การเป็นนักทำหนังที่ดี หรือแม้แต่การเป็นนักเขียน นักร้อง นักแต่งเพลง หรือจะอยู่ในวงการไหน ก็ต้องรู้จักศิลปะของการถ่ายทอดอารมณ์ ไม่ใช่หยิบความ "หยาบ" ขึ้นมาเสนอ
อย่างหนังเรื่องหนึ่งที่มีภาค 2 ฉายในโรงและออกจากโรงมาพักใหญ่ เราว่ามันไม่ควรผ่านกองเซ็นเซอร์มาด้วยซ้ำ มันเป็นหนังที่ไม่ค่อยให้อะไรกับสังคม นอกจากขายความเซ็กซี่ของดารา ที่พูดอย่างนี้เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่า การทำผิดศึลข้อกาเม จะได้รับโทษอย่างขำๆ หนังมันไม่ทำให้รู้สึกว่าการทำบาปข้อกาเมจะได้รับการลงโทษที่ร้ายแรง ถ้าหากเยาวชนดูแล้วรู้สึกว่าการได้รับการลงโทษเป็นเรื่องตลกขำขันแล้วคนก็จะไม่เกรงกลัวต่อบาป
ถึงจะบอกว่าคนดูเขามีวิจารณญาณสามารถแยกแยะเรื่องผิดถูกในหนังได้ แต่เชื่อสิ พอคนได้ดูหนังแบบนี้เข้าไปบ่อยๆ สติปัญญาจะบอกว่านี่คือเรื่องผิด ไม่ดี แต่ สมองส่วนหนึ่งจะบันทึกให้เกิดการยอมรับโดยอัตโนมัติเมื่อถูกกระตุ้นมากๆ
ก็เหมือนกับเรืองของการใส่เสื้อในกับกางเกงในว่ายน้ำนั่นแหละ ที่คนเดี๋ยวนี้เขาเรียกบีกินี่ สมัยก่อนใส่แบบนี้ออกโทรทัศน์ไม่ได้นะ เพราะจะโดนข้อหาอนาจาร แล้วผู้หญิงสมัยก่อนเขาก็ไม่ใส่กัน แต่เดี่ยวนี้สิ.....เรามีความรู้สึกว่าทำไมผู้หญิงสมัยนี้หน้าด้านจังเลย ดูยังไงชุดบิกินนี่มันก็คือเสี้อในกับกางในอยู่ดี
เสื่อม
ดีแล้วที่ยังมีคนบางกลุ่มพยายามยับยังเรื่องที่ไม่ดีไม่ให้ออกมาสู่สาธารณะ
ชอบประโยคนี้จริงให้ตาย
หงุดหงิดมากับหนังหลายเรื่องละ เซ็นเซอร์ ขวด ให้รู้ว่าเป็นเหล้ามั้ง เซ็นบุหรี่ก็เป็นการโฆษณารึเปล่า
PS. So As I Pray Unlimited Blad Work
แลนไทย เอ้ย!! ไทยแลนด์ ก็งี้
เราถึงเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก และ เมืองหลวงแห่งโสเพณีโลกในเวลาเีดียวกันได้ยังไงหล่ะจ๊ะ
PS. น้ำบ่อ ไม่ยุ่งน้ำคลอง มีลูกหนี้ ต้องมีเจ้าหนี้
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?