ว่ากันว่า..รังสีเทคนิค..รายได้ดีที่สุดในสายสหเวช!!!
ตั้งกระทู้ใหม่
จริงหรือไม่คับ!! ที่ว่า...
นักรังสีเทคนิค เป็นวิชาชีพที่จัดได้ว่า รายได้ดีที่สุด!! ในสายวิชาชีพทางด้าน
สหเวชศาสตร์ (เทคนิคการแพทย์ รังสีเทคนิค กายภาพบำบัด กิจกรรมบำบัด
โภชนาการและการกำหนดอาหาร บลาๆๆ) แม้จะไม่สามารถเปิดคลีนิกได้ก็ตาม
(ปล.1 ในความคิดผมนะ..ใครเปิดได้เองก็บ้าละ อุปกรณ์แต่ละตัว 20-30ล้าน ทั้นน้านนน
ปล.2 แย่เลย ชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้เป็นนายตัวเอง....(- -")....)
แต่ก็แลกมาด้วยความเสี่ยง จนถึงขั้น อาจเป็นหมันได้!!
(เอ่อ...ถ้าผมเรียนแล้วผมจะเสื่อมฯรึป่าวเนี่ย!!...ยังอยากมีลูกมีเมียนะคราบ!!!!)
แล้ว...จริงหรือไม่คับ!! ที่ว่า...
ในบรรดา สายวิชาชีพนี้หละคับ เทคนิคการแพทย์ ถือว่าล้นเมืองมากที่สุด
จบเยอะ! งานน้อย! บรรจุยาก! รายได้น้อย!
งานส่วนใหญให้ค่าตอบแทนน้อยกว่าพยาบาลเสียด้วยซ้ำ!!
(ผมคิดว่างานเทคนิคการแพทย์แลดูจะใช้ความรู้มากกว่านะคับ
ส่วนงานพยาบาลดูน่าจะใช้ "ใจ" จิตวิทยา และความอดทน มากกว่านะคับ)
จะเปิดคลีนิกแล็ปของตัวเอง อุปกรณ์ก็ราคาสูงพอควร
โอกาสจะได้เป็นเจ้านายตัวเองจึงค่อนข้างยาก(แต่ก็ยังมีโอกาส)
(ปล.เห็นในบอร์ดของ สภาและสมาคมเทคนิคการแพทย์
แลดูจะโอดครวญมากกว่าวิชาชีพอื่นๆ)
แล้ว..จริงหรือไม่คับ!! ที่ว่า..
โภชนาการและการกำหนดอาหาร เป็นสาขาที่ ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ!! ไม่มีใบประกอบโรคศิลปะ!!
ไม่มีสภา!! ไม่มีสมาคม!! ไม่มีอะไรรับรองอนาคตการทำงานและรายได้เลย!!
แต่..เป็นสาขาที่ขาดแคลนมาก ถึง มากที่สุด!!
แล้วถ้าอยากเปิดกิจการเป็นของตัวเองหละ..เปิดร้านอาหาร??..ขายอาหารเสริม??
ยังคับ ยังไม่หมด!! จริงหรือไม่คับ!! ที่ว่า
นักกายภาพบำบัด เป็นวิชาชีพที่ งานเยอะที่สุด!! ทั้งงานราฏษร์งานหลวง ตั้งแต่งานประจำไปยันJOBพิเศษ!!
เปิดคลีนิกเป็นของตัวเองง่ายที่สุด!! รายได้ดี!! และ..ไม่ใช่หมอนวด!!
(แต่ก็มีเรียนนวด...ตกลง จะนวดหรือไม่นวด??)
และที่สำคัญ..เรียนหนักที่สุด!! แถมยังต้องผ่าอาจารย์ใหญ่ตัวจริง..เสียงจริง!!(ถ้าเสียงมาด้วยผมเผ่น!!)
(แล้วผมจะรอดมียเนี่ย!!...แอบกลัวผีนะ แต่ไม่แสดงออก...เดี๋ยวเสียฟอร์ม)
ปล.พิมพ์เองยังคิดว่า รายการล้วงลับตับแตก 555+
51 ความคิดเห็น
ข้อแรก นักรังสีเทคนิครายได้ดีที่สุดจริงหรือ
เรื่องเงินเดือนนี้ ถ้าเป็นงานในโรงพยาบาล ไม่นับงานเซลล์ รังสีเทคนิคถือว่ารายได้ดีสุดจริงคั้บ แลกกับอันตรายเรื่องการรับรังสี...คุ้มไม่คุ้มชั่งใจเอาเองละกันนะคั้บ
ข้อสอง นักเทคนิคการแพทย์ล้นเมืองจริงหรือ
อันนี้คือจบมาถ้าไม่เลือกงาน ไม่ว่าจะงานโรงพยาบาล งานเซลล์ งานสภา ก็ไม่น่าจะตกงานนะคั้บ...พูดง่ายๆว่าเยอะก็จริง แต่ยังไม่ถึงขั้นล้นเมืองหรอก
ข้อสาม โภชนาการและการกำหนดอาหารไม่ใบประกอบฯ ไม่มีสภารองรับ จริงหรอ
ด้านอาหารนี้ไม่รุ้เหมือนกันคั้บ....ไม่เคยสนใจจะเรียน เลยไม่เคยสนใจศึกษาหลักสูตร เลยไม่สามารถตอบได้
ข้อสี่ คำถามย่อยเยอะ ไม่ทวนละกัน ตอบเลย
นักกายภาพบำบัดงานเยอะ?...น่าจะจริงนะคั้บ...ถ้างานหลากหลาย น่าจะเปนเทคนิคการแพทย์มากกว่า
การเรียนนวดของนักกายภาพ ออกแนวรักษาโรคมากกว่านวดผ่อนคลายนะคั้บ...แบบว่า นักเทคนิคการแพทย์ ตรวจวินิจฉัยโรค แล้ว นักกายภาพบำบัด รักษา
เรื่องเรียนหนัก...หนักจริงคั้บ แต่คงไม่ที่สุดหรอกคั้บ ยังไงแพทย์ก็หนักกว่าสาหัส
เรื่องผ่าอาจารย์ใหญ่...ไม่ได้ผ่าคั้บ แค่เรียนกับอาจารย์ใหญ่เฉยๆ แบบนั่งดูอะไรประมาณนั้น(พวกสายวิทฯสุขเกือบทั้งหมดต้องเรียนอนาโตมี่1เกือบหมดแหละ) ส่วนเรื่องผ่าคงเฉพาะคณะแพทย์อะนะคั้บ
ป.ล.ถ้าพูดไรผิดก็รบกวนแก้ไขไห้ด้วยนะคั้บ
ขอแก้นักกายภาพบำบัด ผ่าอาจารย์ใหญ่จริงค่ะ (ทุกมหาวิทยาลัยค่ะ ต้องผ่าค่) ไม่ใช่แค่นั่งดู แต่จะไม่ผ่าอวัยวะภายในลึกๆแบบแพทย์เท่านั้นค่ะ นอกนั้นต้องรู้รายละเอียดหมดค่ะ
เสริมนักายภาพบำบัดเรียนนวด (บางที่มีเสริมสปา มาสัก 2-4 ชั่วโมง) จริงค่ะ แต่นวดจะเป็นเทคนิคนวดเพื่อรักษา เช่นการ deep friction ส่วนสปาก็เพื่อจะได้เรียนรู้งานอีกแขนงหนึ่งที่นักกายภาพบำบัดจะทำได้ค่ะ
เสริมนักกิจกรรมบำบัด (ขอผู้รู้มาเสริมอีกที) งานและชื่อคล้องไปกับกายภาพบำบัดแต่ เทคนิคการรักษานักกิจกรรมบำบัดน่าจะเน้นไปตามชื่อเขา และเขาจะเน้น fine motor function เยอะกว่ากายภาพบำบัดที่เน้น Gross motor function
ไม่จริง ลองไปศึกษาที่เค้ารับตำแหน่งตามโรงพยาบาล แล้วดูเงินเดือนขั้นต่ำ
ทุกอาชีพ รายได้ตอนหลังจะมากน้อยแค่ไหนอยู่ที่ตัวเอง
แต่ยืนยันว่าอาชีพรังสีเทคนิค เงินเดือนขั้นต่ำ ต่ำกว่าเทคนิคเทคนิค
แน่ใจหรอครับ? ยุคสมัยเปลี่ยนอะไรๆก็เปลี่ยนครับ
เรื่องเงินเดือนตามรพ.รังสีเทคนิคต่ำกว่าเทคนิค(แลป)มั้ยไม่รู้
แต่แลปเงินเดือนตำ่จริงๆค่ะ ทำงานใกล้เกษียณยังได้แค่ 20000 กว่าบาท
แถมทั้งแผนกมีคนได้บรรจุไม่กี่คน รอเป็นสิบๆปี
แต่ถ้าไม่ฟิคงานรัฐก็รับจ๊อบเยอะๆเอาค่ะ
PS. .....นอย น่อย น้อย น๊อย น๋อย.....แน่ นังพวกตัวแม่ทั้งหลาย หลบเดี๊ยนไปเลยนะคริคริ
พี่ผม คุมเครื่องเอ็กซ์เรย
แต่งงานมา 6 ปีแล้ว
ยังไม่มีลูกเลย!!!!!!!!
ปล.ถ้าอยากทำงานเกี่ยวกับรังสี-นิวเคลียจริงๆ มาเรียนฟิสิกดีกว่าครับ ความรู้แน่นกว่าพวกรังสีเทกนิกเยอะ เงินเดือนเท่ากัน
แต่ที่สำคัญ นักฟิสิกรังสีที่โรงพยาบาล จะไม่ค่อยได้ไกล้เครื่องฉายเท่ากับ พวกเทกนิคการแพทย์ด้วย
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 8 ธันวาคม 2553 / 12:35
PS. ผ่านพ้นวันเลวร้าย ร่างกายก็ยังมีแผลมากมาย ถึงแม้ไม่ตายก็เหมือนต้องตายทั้งเป็น วันนี้ยังจดจำ เรื่องราวที่กายบอบช้ำเจียนตาย ที่ล้มทั้งยืน แต่ฝืนให้กายสู้ไป
อย่ามากล่าวหา ไซโคน้องๆสิครับ เพลียจริงๆ ถ้าเรียนแล้วเป็นหมันจริงจะเปิดหลักสูตรมาเพื่อ?? คิดหน่อยสิครับคิด
ตอนนี้เราเรียน รังสีเทคนิค ที่มหิดล อยู่อ่ะนะ
เรื่อง รายได้ดีหรือไม่ดี เราก็ไม่รู้
แต่เรื่องความปลอดภัยนั้น
รับรองว่าปลอดภัย 100 % ค่ะ
เพราะเวลาเรียน+ประกอบอาชีพ มีการป้องกันทุกครั้ง
แค่อาจจะมีบ้างที่โดนรังสี แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายแน่นอน
(อาจารย์เค้าบอกมาค่ะ)
ไม่งั้นคงไม่มีใครเรียนแล้วค่ะ ถ้าอันตรายจริงๆ
และที่เ เลือกเรียน ไม่ใช่คิดว่าวิชาชีพไหน รายได้ดีกว่ากัน
เราเลือก รังสีเพราะว่า เป็นวิช่ชีพที่น่าสนใจ แค่นั้นเองค่ะ
เราก็ฝากด้วยนะคะ เราตอบเท่าที่รู้ ^^
คือผม รู้จักกับอาจารย์ที่มีความรู้ด้านรังสีนะครับ
อุปกรณ์ป้องกันนั้น ป้องกันได้แค่ ไม่ให้เป็นมะเร็งครับ
ส่วนการเป็นหมัน ไม่สามารถป้องกันได้
ในเพศชาย ถ้า รังสีบางเอิญดันเข้าไปในภายในเซลล์ของอัณฑะพอดี
ก็จะทำให้สร้างเชื้ออสุจิน้อยลง ซึ่งถ้าน้อยลงเรื่อยๆก็เป็นหมันครับ
ส่วนในเพศหญิง มีโอกาสเป็นหมันแต่น้อยกว่าผู้ชาย เพราะ มดลูกมีัผนัง
ป้องกันหนากว่าครับ
อาจารย์พูดถูกครับ ถ้าน้องไม่มีการป้องกัน แต่นักรังสีมีวิธีป้องกันและอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพสากลครับ ถ้าน้องไปเอกซเรยฺ์ที่อัณฑะน้องแบบโดสสูงๆและไม่ป้องกัน ก็เป็นหมันกันพอดีสิครับ คิดสิครับคิด จะมีนักรังสีไปทำไมครับ? ถ้ามันอันตรายจริง คิดสิคิด
ฟังอาจารย์พูดๆมา  ถ้ามองดูในแง่ของ "อนาคต"
ถ้าอยากได้เงินตลอด กายภาพจะดีกว่าเทคนิคการแพทย์ (มีแต่คนฟันธง เชียร์อยากให้เรียนกายภาพ)
เพราะอนาคตคนแก่จะล้นโลก คนเกิดจะน้อยลง เพราะสภาวะเครียด +  คนไม่ค่อยแต่งงาน  อาจจะไปอยู่ตามสถานเลี้ยง 
และเดี๋ยวนี้อายุ 25 ก็เริ่มทำกายภาพกันเยอะ เพราะนั่งทำงานหน้าคอมตลอด
เสร็จจากเวลางานอาจไปหารับจ๊อบตามบ้าน หลังละ 1000  ค่าน้ำมันเค้าก็ออกให้
แบบจะหางานได้ตลอด
กายภาพ กับ พยาบาลจะไม่ตกงานเหมือนกัน แต่กายภาพจะสบายกว่า
แต่ข้อเสียคือ  ต้องใจเย็น เพราะบางทีเจอคนแก่ๆเอาแต่ใจ  ร้องจะไม่ทำไม่ยอม  เราก็ต้องรับให้ได้
ลองถามๆดู  อาจารย์ที่ร.ร.ไม่ค่อยมีใครแนะนำให้เรียนเทคนิคการแพทย์ เพราะงานล้นแล้ว และถ้าไม่ไปรับจ๊อบข้างนอกก็ไม่พอกิน
จริงๆจะเป็นไงก็ไม่รู้นะ  เพราะเราก็ไม่ได้เรียนเองจริงๆ -O-
PS. เซ็ง เครียด, I believe I can fiy~ ฉันรักทุกสิ่งที่เป็นเธอ *__*
หาทำกายภาพตามวงเล่นไพ่ก็รายได้ดีนะค่ะเพราะคนปวดเมื่อยไม่ค่อยยอมลุกไปไหนเลยจั่วกันทั่งวันทั้งคืน หนู้ต้องค่อยเสริฟน้ำเสริมข้าวกันทั้งวัน จะลุกไปห้องน้ำยังบอกว่่าเสียเวลาเลยค่ะ
คห 1 กายภาพบำบัด ผ่าอาจารย์ใหญ่นะ เน้น ว่า ผ่า ไม่ได้แค่ดู
แล้ว อาจารย์บอกว่าการดูฟิลม์เอ๊กซ์เรย์อ่ะ หมอดูได้เท่าไหน กายภาพ..ก็ต้องดูได้เท่านั้น
ตอบ จขกท.. ก็คงเป็นงั้นมั้ง
(ตอนนี้เรียน กายภาพบำบัด CU)
ส่วนเรื่องสาขาอื่นไม่ค่อยรู้จริงๆ
อ่อคั้บ ขอบคุณที่มาแก้ไขให้นะคั้บ
รายได้ยังไงไม่รู้น้า เราว่าแล้วแต่โชคด้วย
เราก็ไม่รู้สายอื่นได้กันเท่าไหร่
แบบพี่เพื่อนเรา จบกายภาพบำบัดมา ได้ทำงานรพเอกชน
รวมค่าล่วงเวลานี่ เยอะนะ สำหรับคนพึ่งจบ
ส่วนเพื่อนคนอื่นๆเค้าถ้าได้งานรพรัฐ เงินเดือนเริ่มต้นก็ปกติอะ
(หมื่นกลางๆปลายๆ)<ไม่ค่อยแน่ใจ
เหอะๆ ผ่า เลยค่ะ คุณขา
ทำให้รู้ว่า
ความสวยไม่คงที่ แต่ความดีสิคงทน
PT ต้องถึก และบึกบึนค่ะ
ใครอยากเรียน ปรึกษาได้ค่ะ
เราเรียน มข นะคะ
พี่เรียนเกี่ยวกับอะไรค่ะ
สาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอกก็น่าสนใจนะ เราว่าอ่ะ ได้อยู่ในห้องผ่าตัดด้วย เห็นเค้าบอกมาว่ารายได้ดีนะ
ข้อมูลเพิ่มเติมที่
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1980762
เรื่องรายได้ของรังสีเทคนิค เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอ่านะ แต่ว่ารุ่นพี่แนะนำให้ ไปเป็นนักฟิสิกส์รังสี พี่เค้าบอกว่่าแค่คำนวนโดส ของสารกัมมันตรังสี ก็ได้แล้ว 50,000 ต่อเดือน แล้วรังสีสาขาเวชศาสตร์นิวเคลียร์จะได้รายได้ดีกว่าสาขารังสีรักษากับรังสีวินิจฉัย เพราะเสี่ยงกว่า แต่ก็อยากบอกว่าในสายสุขภาพน่ะ มันเสี่ยงหมดแหละ  แค่เสี่ยงมากหรือน้อยกว่ากันไม่เท่าไหร่เลย ส่วนตัวแล้วก็ชอบรังสีค่ะ สนใจเวชศาสตร์นิวเคลียร์ เป็นงานที่น่าสนใจ ตอนนี้เรียน รังสีเทคนิค สหเวชฯ ม.นเรศวร 
รู้หรือไม่ว่า คนทั่วไปจะได้รับรังสีมากกว่า นักรังสีเทคนิค ถ้าคุณไม่รู้จักวิธีป้องกัน
ในโลกใบนี้มีรังสีที่กระจายอยู่รอบโลกตามธรรมชาติอยู่แล้ว หรือที่เรียกว่า background radiation
การจะบอกว่าคนหนึ่งคนได้รับรังสีนั้นจะทำให้เกิดผลตามมาอีกได้หรือไม่ ไม่สามารถบอกได้แน่นอนเพราะก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนั้นๆ ต่อการตอบสนองต่อรังสี ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในปริมาณที่เหมาะสมไม่เกิดผลตามมาเลย
ในการใช้รังสีทั้งวินิจฉัย หรือรักษา นั้น ก็ได้กำหนดปริมาณรังสีให้กับคนไข้อย่างเหมาะสมและไม่เป็นอันตราย คือใช้น้อยและให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
อ่านแต่ละความเห็นแล้วอดสูใจจัง  มีแต่รู้ไม่จริงทั้งนั้น
การจะเป็นหมันนั้น  ไม่ใช่เอะอะโดนรังสีก็จะเป็นหมันนะครับ  มันต้องได้รับรังสีบ่อย ๆ นานๆ ซึ่ง รังสีเทคนิคเอง ว่ากันจริง แทบจะไม่โดนรังสีเลยสำหรับการถ่ายภาพเอกซเรย์ จะมีก็แต่การตรวจพวก fluoroscope เท่านั้น  แต่เวลาปฏิบัติงานก็จะมีชุดป้องกันที่ทำจากใยตะกั่วซึ่งสามารถดูดกลืนพลังงานเอกซเรย์ได้ 100 เปอร์เซนต์ครับ เพราะฉะนั้นส่วนที่เป็นเซลล์สืบพันธ์ก็จะไม่โดนรังสี จะมีบ้างก็พวกแขน หน้า ซึ่งเซลล์เหล่านั้นไม่ค่อยไวต่อรังสีเท่าไหร่ จริงๆ แล้ว รังสีแพทย์ รับรังสีเยอะกว่านักรังสีด้วยซ้ำไป
ส่วนที่มากล่าวอ้างว่า เรียนฟิสิกส์นั้นความรู้เยอะกว่า  คือ จะบอกว่า จุดประสงค์ของ สองหลักสูตรนี้ต่างกันนะครับ  รังสีเทคนิคเรียนฟิสิกส์รังสีมาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนเรียนฟิสิกส์เลยดีไม่ดี เรียนเยอะกว่าด้วย รังสีเทคนิค เป็น applied science ส่วน ฟิสิกส์ เป็น pure science  สำหรับเมืองไทย พวกเรียน applied science จะหางานง่ายกว่าและรายได้ดีกว่าแต่ถ้าเมืองนอก เมกา ยุโรปพวกเรียน pure science จะดูดีกว่า  รังสีเทคนิคเรียนเพื่อเอาความรู้มาใช้กับผู้ป่วย ส่วนฟิสิกส์เขาเรียนเพื่อเอาความรู้ไปทำวิจัย...เถียงกันไม่จบหรอกยาวเรื่องนี้
ส่วนรายได้ ในบรรดาสหเวช  จะบอกว่า  สำหรับรัฐบาล อัตราเงินเดือนเป็นไปตามวุฒิ ไม่มีมากกว่าน้อยกว่า  ส่วนที่ต่างกันคือโอทีที่ได้จะต่างกัน  กายภาพไม่ค่อยมีโอทีจะทำงานตามเวลาเหมือนทันตแพทย์  ส่วนรังสีเทคนิค และเทคนิคการแพทย์ โอทีเยอะพอๆ กัน  สำหรับเอกเชน ตอนนี้รังสีเทคนิค รายได้ดีมากกำลังบูม  เพราะ รังสีเทคนิคหายาก  ดังนั้นรังสีเทคนิคสามารถหางาน part time ตาม รพ ต่างๆ ได้ง่ายกว่า
ตำแหน่งงานในหน่วยงานรังสีวิทยา ในโรงพยาบาล
1. รังสีแพทย์ (Radiologist)  ต้องจบแพทย์ศาสตร์บัณฑิต  หลังจากนั้นเทรนต่อเป็น Residency อีก 3 ปี  และถ้าอยากเชี่ยวชาญขึ้นไปอีก ต่อ fellow อีก 2 ปี หน้าที่รับผิดชอบ ทำการตรวจ และแปลผลทางรังสีวิทยา  อ่านฟิล์มนั่นแหล่ะพูดง่าย
2. นักรังสีการแพทย์ หรือ นักรังสีเทคนิค (Radiological Technologist)  ต้องจบ วิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขารังสีเทคนิค มีใบประกอบโรคศิลปะสาขารังสีเทคนิค  ถ้าต้องการเพิ่มคุณวุฒิ ก็มีเรียนต่อ ป โท วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขา Radiological Technology, Medical Imaging,Medical Radiation science, Radiological science  เรียนมาสามารถ up เงินเดือนเพิ่มได้ นอกจากสาขาเหล่านี้นี้ up ไม่ได้    หน้าที่รับผิดชอบ  ทำการถ่ายภาพรังสีผู้ป่วย ด้วยเครื่องมือต่างๆ ทางรังสีวิทยา หรือฉายรังสีให้แก่ผู้ป่วย
3. นักฟิสิกส์การแพทย์  ต้องจบ ป. โท วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขา ฟิสิกส์การแพทย์ (Medical Physics)  ป.ตรีต้องจบสายวิทยาศาสตร์  ส่วนใหญ่คนที่เรียนสาขานี้จะจบรังสีเทคนิคมาก่อน จะทำให้เรียนง่ายและเข้าใจเนื้อหา มากขึ้น  หน้าที่รับผิดชอบ  ทำการควบคุม ตรวจประเมิน เครื่องมือทางรังสีว่ายังมีมาตรฐานเพียงพอที่จะใช้กับผู้ป่วยหรือไม่ วางแผนคำนวณปริมาณรังสีที่จะใช้ฉายทางรังสีรักษา ควบคุมติดตามปริมารรังสีที่ใช้ในหน่วยงานและที่ผู้ป่วยได้รับ  ตรวจรับเครื่องมือก่อนติดตั้ง
4. เจ้าพนักงานรังสีการแพทย์  จบ  อนุปริญญา ทางรังสีเทคนิค  ถ่ายภาพทางรังสีภายใต้การดูแลของนักรังสีเทคนิค
5. ผู้ช่วยนักรังสีเทคนิค จบ ม 6 อย่างต่ำ
นักรังสีเทคนิคเป็นหมันไม่เป็นหมัน อยู่ที่การปกกัน และความประมาทของตัวเองค่ะว่ามีมากน้อยแค่ไหน ถ้าทำตามกฏระเบียบก็เสี่ยงน้อยค่ะ
เราเรียนรังสีเทคนิตอยู่ค่ะ พ่อเพื่อนเราในสาขาคนนึงเขาเป็นนักรังสีเทคนิค เป้นมา 20 กว่าปีแล้วก็ไม่เปนอะไรนะคะ ??  ที่สำคัญ  ถ้าถ้าเป้นหมันแล้วเพื่อนเราเกิดมาได้ยังไงอ่ะคะ  ^_____^
เราคิดว่าเลือกสาขาวิชาที่เรียนมันอยยัับว่าเราชอบเรียนแบบไหน ทำงานแบบไหนมากกว่าค่ะ
เรื่องเงินเดือนเป็นผลพลอยได้ ได้เงินดีแต่ไม่มีเวลาใช้เงินอย่างพวกหมอๆ ก็ไม่เอาอ่ะค่ะ มีเงินมากเงินน้อยก็อยู่ที่ความขยัน แล้วก็การเก็บหอมรอมริบของเรามากกว่านะคะ ^_^
เราก็เป็น 1 คนที่เรียนรังสีเทคนิคค่ะ รายได้เราคิดว่าก็พอใช้จ่ายสบายได้ไม่เดือดร้อนนะค่ะ (กำลังจะจบอยู่ในช่วงมองหางานอยู่ ฮ่าๆ) เงินคร่าวๆ 30,000 บาทต่อเดือน จะมากน้อยก็แล้วแต่โรงพยาบาลอ่ะค่ะถ้าน้อยหน่อยก้อน่าจะสองหมื่นปลายๆ และเงินจะเยอะจะน้อยก็แล้วแต่เราจะขึ้นเวรเลยค่ะ ความเสี่ยงในการทำงานย่อมต้องมี แต่เราเป็นคนทำงานเราย่อมเป็นคนที่รู้วิธีการป้องกันอันตรายจากรังสีดีที่สุด ดังนั้นเราจึงปลอดภัยค่ะ (เรื่องเป็นหมันก็ยังไม่ทราบนะค่ะว่ามีคนเป็นเห็นพี่เทคที่ทำงานอยู่ตาม รพ. ต่างๆ มีลูกทุกคนค่ะ(ที่แต่งงานแล้วอ่ะนะค่ะ ^^)) ตาม คห.14,15 เลยค่ะ
เรื่องกลัวเปนหมันนะคะ เราว่า ความเสี่ยงเป็นหมันมีในคนทั่วไป เราเห็นคนที่ไม่ทำงานรังสียังเปนหมันเลยค่ะ ส่วนพี่ๆที่ทำงานใน แผนก ลูกดกกันจะตาย หายห่วงค่ะ การทำงานเราอยู่หลังฉากตะกั่วกำบังรังสี ปลอดภัย100% ไม่โดนรังสีเลยด้วยซ้ำ จากการทำงานทั้งวัน นอกจากจะมีนคนไข้เด็กดิ้นพล่านไม่ยอมให้เอ็กซเรย์ จึงต้องจับ เราทำที่จุฬาฯค่ะ เงินเดือน ป.ตรี start เท่ากันหมดค่ะ ไม่เหนว่าจะให้ กายภาพเยปะกว่าเลย พยาบาลก็ได้เท่ากัน เผลอๆโดนหักค่าหอพัก ส่วนโอที รังสีสามารถอยู่เวรได้24ชม.แล้วแต่กำลังของแต่ละคน เพื่อนเราทำที่ MRIประชาชื่น เดือนนึงตก5-6หมื่น ไม่รู้ว่ามากหรือน้อยที่แน่ๆ ไม่โดนรังสีเลย  น้าเราอยู่บำรุงราษฎร์ อยู่แต่เวรคลินิกคือไม่เกินสองทุ่ม ก็ตกเดือนไม่ตำ่กว่า40,000 แล้วถ้า ควงเวร บ่าย ดึกล่ะ คิดเอา ส่วนตัวเรารักอาชีพค่ะ มีงานหลากหลาย ไม่ต้องดูแลผู้ป่วยตลอดเวลา
ปล.ยังคิดว่าได้เงินน้อยอยู่มั้ย
เป็นนักรังสีเทคนิคเหรอคะ
ขอทราบเงินเดือนสุทธิได้มั้ยคะ ที่รวมค่าโอที ค่าต่างๆแล้วประมาณเท่าไร
อยากทราบว่าพี่จบมาจากมหาลัยอะไรคะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?