>>..หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว..<<
หลักปรัชญาเศษรฐกิจพอเพียง
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง
"เศรษฐกิจพอเพียง" เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทาง การดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้ำ แนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลง
มีหลักพิจารณา ดังนี้
กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็นโดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัยและวิกฤติ เพื่อความมั่นคงและความยั่งยืนของการพัฒนา
คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ โดยเน้นการปฏิบัติบนทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน
คำนิยาม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะพร้อม ๆ กัน ดังนี้
1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกิดไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ
2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้นจะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ
3. การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบ และการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล
เงื่อนไข การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรุ้ และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน กล่าวคือ
1. เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ
2. เงื่อนไขความธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความชื่อสัตย์สุจริต และมีความอดทน มีความพากเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต
แนวทางปฏิบัติ/ผลที่คาดว่าจะได้รับ จากการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือ การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมสิ่งแวดล้อม ความรู้และเทคโนโลยี
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 7 มกราคม 2554 / 21:26
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 7 มกราคม 2554 / 21:38
38 ความคิดเห็น
ขอบคุณกระทู้ดีดี ที่มีการมานำเสอน เกี่ยวกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงน่ะค่ะ
เห็นด้วยอย่างมากเลยค่ะ เพราะ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของคนในประเทศชาติ
แล้วเราสามารถนำเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้ยังไงค่ะ?
หลักเศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจำวันสามารถทำได้ง่ายๆคะเริ่มจากสิ่งเล็กๆน้อยๆ
อย่างเช่น
-การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ใช้อย่างรู้จักคุณค่าของเงิน
-เก็บออมสะสมเงินไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็น
-การทำบัญชี รายรับรายจ่าย เพื่อจะได้มีภูมิคุ้มกันในอนาคต
-การปลูกผักสวนครัวรับประทานเอง
-กินอย่างพอเพียง เช่น การรับประทานอาหารภายในบ้านจะถูกกว่ารับประทานอาหารข้างนอก
-การประหยัดไฟฟ้าภายในบ้าน ใช้แล้วปิดให้เรียบร้อย ก็เป็นการประหยัดเงินในกระเป๋าไปในตัวนะคะ
โดยยึดหลักปรัชญาเศษฐกิจพอเพียง เริ่มจากสิ่งง่ายๆสิ่งเล็กๆน้อยๆ แล้วค่อยพัฒนาไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้ชีวิตมีอยู่กินแบบพอเพียง มีเงินเก็บ มีความสุข โดยที่ไม่ต้องไปแข่งขันทำให้เกิดความไม่สบายกายและใจ สามารถนำไปปรับใช้ในแต่ละยุคสมัยได้อย่างง่ายดายคะ
ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ
ประการที่สำคัญของเศรษฐกิจพอเพียง
  1. พอมีพอกิน ปลูกพืชสวนครัวไว้กินเองบ้าง ปลูกไม้ผลไว้หลังบ้าน 2-3 ต้น พอที่จะมีไว้กินเองในครัวเรือน เหลือจึงขายไป
  2. พออยู่พอใช้ ทำให้บ้านน่าอยู่ ปราศจากสารเคมี กลิ่นเหม็น ใช้แต่ของที่เป็นธรรมชาติ (ใช้จุลินทรีย์ผสมน้ำถูพื้นบ้าน จะสะอาดกว่าใช้น้ำยาเคมี) รายจ่ายลดลง สุขภาพจะดีขึ้น (ประหยัดค่ารักษาพยาบาล)
  3. พออกพอใจ เราต้องรู้จักพอ รู้จักประมาณตน ไม่ใคร่อยากใคร่มีเช่นผู้อื่น เพราะเราจะหลงติดกับวัตถุ ปัญญาจะไม่เกิด
          "การจะเป็นเสือนั้นมันไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่เราพออยู่พอกิน และมีเศรษฐกิจการเป็นอยู่แบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกิน หมายความว่า อุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตัวเอง"
เศรษฐกิจพอเพียง จะสำเร็จได้ด้วย ความพอดีของตน
อยากทราบว่า  โครงการที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจพอเพียง มีอะไรบ้างค่ะ?
การนำเอาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน
            เศรษฐกิจพอเพียงเป็นโครงการของในหลวงที่สร้างขึ้นมาเพื่ออยากให้ประชาชน อยู่ดี กินดี อยู่ได้ด้วยตัวเอง ดิฉันก็อีกคนหนึ่ง
ที่นำเอาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงมาใช้ในชีวิตประจำวัน  เช่น
            การทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย เป็นของตัวเองว่าในแต่และวันดิฉันใช้เงินไปกับอะไรบ้าง ตัวอย่างเช่น  เงินที่ได้ไปโรงเรียน
ดิฉันได้ไปวันละ 60 บาท เมื่อก่อนดิฉันอยากกินอะไรก็กิน อยากซื้ออะไรก็ซื้อ แต่พอได้มาทำรายรับ - รายจ่ายแล้วทำให้ได้รู้ว่าบ้างอย่าง
ก็ไม่ใช้สิ่งจำเป็นที่จะต้อง ซื้อก็ได้ดิฉันจึงตัดเงินส่วนนั้นออก โดยการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ทุกวันนี้ดิฉันเหลือเงินกลับบ้านไปวันละไม่ต่ำ
กว่า 10 บาท บ้างคนอาจบอกว่าแค่ 10 บาท ลองมาคิดดูสิคะ 10 บาท 10 วัน ก็ 100 บาทแล้วแค่ 10 บาทก็คือเงินเราไม่ควรดูถูกเงิน
เมื่อแต่บาทเดียว
            การทำเศษผ้าหรือเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่มาทำให้เกิดประโยชน์ บ้านของดิฉันจะนำเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่แล้วมาทำเป็น ผ้าเช็ดเท้า   
ผ้าถูพื้น  และผ้าเช็ดตู้ โต๊ะต่างๆ ถ้ามีเสื้อผ้ามากๆก็นำไปบริจาคได้ทั้งบุญ ได้ทั้งประหยัดเงินในกระเป๋า
            การนำขวดน้ำมาใช้ใหม่ ขวดน้ำ ขวดเป๊ปซี่ ขวดนม เมื่อกินเสร็จแล้วบ้านดิฉันจะนำมาล้าง แล้วนำมากรองน้ำไว้กิน ทำให้ไม่
ต้องไปซื้อขวดน้ำให้เปลืองเงิน
            การประหยัดไฟฟ้าในบ้าน  จะช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง ทำให้ผู้ปกครองมีเงินเหลือมากขึ้นวิธีในการประหยัดไฟของดิฉันมีดังนี้
1. ปิดไฟทุกดวงเมื่อไม่ใช้ หรือไม่มีคนอยุ่ตรงนั้น
2. รีดผ้าที่ละมาก เมื่อเหลือ 2 ตัวสุดท้ายให้ถอดปลั๊กออกเพราะเตารีดยังร้อนอยู่พอที่จะรีดได้อีก 2- 3ตัว
3. ไม่เปิดโทรทัศน์หลายเครื่องถ้าดูช่องเดียวกัน
4. เปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ไว้เมื่อเราไม่ได้ใช้ในเวลาสั้นๆ
          ปลูกผักสวนครัวไว้กิงเอง ในบ้านดิฉันจะมีแปลงเล็กๆไว้สำหรับปลูกต้นไม้ ดิฉันก็เลยนำผักสวนครัวบ้างชนิดมาปลูกไว้กินเอง จะ
ได้ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อ
          ในบ้านของดิฉันก้อได้นำเอาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้อยู่ตลอดเวลา จนตอนนี้มีเงินเหลือเก็บ แถมอยู่อย่างมีความสุขอีกด้วย ถึง
เราจะเป็นคนในเมืองเราก็สามารถนำเอาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ได้ในชีวิตได้
- เพื่อให้ความพอเพียงในระดับบุคคลและครอบครัวแบบพื้นฐาน
- เพื่อให้เกิดความพอเพียงระดับหน่วยงานและชุมชน
- เพื่อเป็นการส่งเสริมรายได้ลดรายจ่ายในครอบครัวให้พออยู่พอกิน,
- เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัว
- เพื่อให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยได้ร่วมกิจกรรมกับชุมชน
- เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ
- เพื่อเป็นการสนับสนุนโครงการเศรษฐกิจพอเพียงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ตัวอย่างเช่น
ที่ตั้งโครงการเศรษฐกิจพอเพียงด้านหลังสถานีตำรวจ
สวนพืชผักผสมผสาน
จุลินทรีย์ชีวภาพ (EM)
หมูชีวภาพ (หมูหลุม) เป็นหมูที่เลี้ยงโตไว ไร้กลิ่นเหม็น
เลี้ยงไม่ยาก โตมาจับกิน จับขาย สบายใจ
ผักสมุนไพรก็มี สามารถใช้รักษาโรคต่างๆ ได้
ตามแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้จะเห็นได้เลยนะคะว่า สามารถนำมาปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวันอย่างง่ายๆได้เลยคะ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 7 มกราคม 2554 / 22:03
พี่ๆ แล้ว หลักการใน การใช้ 5 ข้อ นั่น มัน ใช้ ไงหรอคับ ผมอ่านแร้วไม่ค่อยเข้าจัย เรยอะ
อ่าน แร้ว งง ๆ ๆ
เซฟรูป....
PS. เราไม่ได้สีแดงนะ แต่-สีเดียว-ต่างหาก
อยากทราบว่ามีวิธีการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ในสถานศึกษา อย่างไรบ้างค่ะ?? ?
ความจริงวิธีการทำตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่พูดมาทั้งหมด
มันเป็นเศษเสี้ยวของหลักนี้เท่านั้นนะ
แถมมีบางอย่างที่เราคิดว่าไม่ใช่
1 ปลูกพืชผักสวนครัว
ความจริงถ้าไม่มีที่ก็ไม่ต้องปลูก เช่นคนที่อยู่ในเมืองไม่ค่อยมีที่ปลูกกันหรอก
2 กินข้าวในบ้าน ไม่ไปกินนอกบ้าน
ถ้าทำงี้ คนขายอาหารก็เจ๊งกันหมดสิ ถ้ามีเงินก็ไปกิน ไม่มีเงินก็กินในบ้าน ตามแต่รายได้ที่เรามี
อะไรคือข้อพิสูจน์ว่ามันน่าจะไม่ใช่ ?
เพราะในหลวงเป็นบุคคลที่คิดลึกซึ้งในหลายมิติ
การจะมาทำอะไรที่ก่อให้คนเกิดความเดือดร้อนไม่มีทางใช่เด็ดขาด
ขนาดการดูแลป่า คนทั่วไปคงคิดว่าไม่ควรให้ชาวบ้านไปยุ่งใช่ไหม ?
ไม่ใช่ ต้องให้ชาวบ้านไปยุ่งด้วย เพราะหากชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์จากป่า แล้วใครจะช่วยดูแล ?
เจ้าหน้าที่ไม่มีทางพอหรอก อีกทั้งเหมือนกับใช้ปุ๋ยเคมีดูแลพืช
แต่การให้ชาวบ้านช่วยดูแลสิเหมือนกับใช้ปุ๋ยหมักกับพืช
ดังนั้นจึงต้องให้ชาวบ้านได้เห็นถึงประโยชน์ของการดูแลป่า และเข้าไปช่วยด้วย
เหมือนกับหลักที่ว่า
ดิน-น้ำ-ป่า-คน ทุกสิ่งล้วนแต่สัมพันธ์กัน
(หลักของโครงการในหลวงนะเอ้อ ดูได้ทุกโครงการยึดหลักนี้หมด)
ดินไม่ดี น้ำก็ไม่ถูกเก็บกัก ป่าก็ไม่โต
น้ำไม่ดี ดินก็แห้งแล้ง ป่าก็เฉาตาย
ป่าไม่ดี ดินก็ตาย น้ำก็เหือดแห้ง
ส่วนคน.... ถ้าไม่มีคน ใครจะดูแล ดิน น้ำ ป่า ?
PS. เราไม่ได้สีแดงนะ แต่-สีเดียว-ต่างหาก
เห็นตรง "นำไปสู่" แล้วชอบแหะ
ชีวิต
เศรษฐกิจ
สังคม
สิ่งแวดล้อม
สมดุล
มั่นคง
ยั่งยืน
กระทู้ก่อน ๆ เราไม่ได้คิดในหลายประเด็นเลยเหมือนกัน
ชีวิตนี่น่าจะหมายถึงชีวิตมีสุข ร่างกายแข็งแรงนะ
ดังนั้นต้องออกกำลังกาย และใช้เงินเพื่อความหย่อนใจ(ในทางที่ดี)บ้าง
เศรษฐกิจ เคยเรียนเรื่องเศรษฐศาสตร์กันบ้างหรือเปล่า ?
ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้เกิดจากคนไม่มีเงินนะ หากแต่เกิดจากคนไม่ยอมใช้เงินต่างหาก
ซึ่งจะเห็นได้ว่าตอนเกิดปัญหาเศรษฐกิจครั้งที่ผ่านมา เฮียหล่อเริ่มโครงการรัฐแบบเมกะซะเพียบเลย
นั่นก็เพราะต้องการจะกระตุ้นให้คนที่มีเงินเอาเงินออกมาใช้นั่นแหละ
ถ้ามัวแต่ประหยัดจนเกินไป เงินก็จะไปกองอยู่กับตัว ไม่ไปหมุนเวียนในระบบ
เท่านี้ก้เกิดปัญหาเศรษฐกิจขึ้นมาได้
สังคม ก็น่าจะเรื่องการผูกมิตรกับเพื่อนบ้าน อย่ามัวแต่อยู่คนเดียวในโลก
สิ่งแวดล้อม ก็รู้ ๆ กันอยู่ ดิน-น้ำ-ป่า
สมดุล พูดยากแหะ แต่สมดุลก็สมดุล ไม่ขาดไม่เกิน ไม่คอยเข้าใจสักเท่าไหร่ คงต้องศึกษาเพิ่ม
มั่นคง ก็ประมาณว่าชัวร์ไว้ก่อน
ประเภททุนนิยมที่เสี่ยงไว้หลังกำไรไว้ก่อน จะไม่เข้ากับหลักนี้
ต้องเน้นความชัวร์เช่นธุรกิจในชุมชน พอขายดีจึงขยายไปนอกชุมชน
แต่ก็ให้นอกชุมชนนั้นเป็นรอง ส่วนในชุมชนเป็นรายได้หลัก
แล้วอย่าลืมเรื่องของการเก็บออมไว้เผื่อใช้ยามฉุกเฉินด้วย
ยั่งยืน หมายถึง สามารถทำได้ชั่วลูกชั่วหลาน ไม่ใช่ว่าปีแรกทำได้ แต่ปีต่อไปทำไม่ได้แล้ว
นั่นก็ไม่ใช่การยั่งยืน
แม้กระทั้งปลูกผักสวนครัว ถ้าหากทำให้พื้นที่นั้นทำได้แต่ปลูกผักสวนครัว
แต่ใช้ประโยชน์อื่นในอนาคตไม่ได้นั่นก็ไม่ใช่ยั่งยืนเช่นกัน
PS. เราไม่ได้สีแดงนะ แต่-สีเดียว-ต่างหาก
ขอบคุณที่ให้ความรู้นะคะ ^ ^ พี่ ๆ
ตอบ คห.10
      - การปลูกพืชผักสวนครัวมันอาจเป็นเพียงเสี้ยวเล็กๆในสังคมเมืองในกรุงเทพฯก็จริงนะคะ
แต่อย่าลืมนะคะ เศรษฐกิจพอเพียงนำไปใช้ในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับล่างๆ เน้นถึงการที่อยู่อย่างเลี้ยงชีพตัวเองได้นะคะ  แต่คนส่วนใหญ่ใน ต่างจังหวัด บ้านส่วนใหญ่จะค่อนข้างมีพื้นที่ โดยผักสวนครัวบ้างชนิดไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่กว้างขว้างเลยคะ ส่วนผักบ้างชนิดก็สามารถขึ้นเองตามธรรมชาติโดยไม่ต้องดูแลอะไรมากเลยคะ
      - ส่วนการรับประทานอาหารนั้น เราก็ควรที่จะดูรายได้ของเราไม่ควรกินอย่างเกินตัว อย่างเช่นไปรับประทานอาหารร้านแพงๆหรูๆ ซึ่งไม่ได้หมายถึงให้รับประทานอาหารแต่ในบ้านนะคะ มีเวลาก็ไปบ้างตามโอกาสที่เหมาะสม
ขอบคุณสำหรับข้อความ ข้างบนน่ะค่ะ มีเนื้อหาสาระมากเลย
ปรัชญาที่เพื่อนๆ เม้นข้างบน เค้า ใช้ยังไงกันอ่าคับๆๆๆ
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือสิ่งดีๆ ที่นายหลวงท่านประทานให้ชนชาวไทยคับ
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
มีหลักพิจารณาอยู่ 5 ส่วน ดังนี้
      •  กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ ควรจะเป็น โดย มีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สมารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัย และวิกฤต เพื่อ ความมั่นคง และ ความยั่งยืน ของการพัฒนา
      •  คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ โดยเน้นการปฏิบัติบนทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน
      •  คำนิยาม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะ พร้อม ๆ กัน ดังนี้
•  ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่นการผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ
•  ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึง ถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ
•  การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมาย ถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล
•  เงื่อนไข การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้ และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน กล่าวคือ
•  เงื่อนไขความรู้ ประกอบ ด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน และความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ
•  เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต
•  แนวทางปฏิบัติ/ผลที่คาดว่าจะได้รับ จาก การนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือ การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความรู้และเทคโนโลยี
เราควรจะปฎิบัติตน ตามแนวทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง  คือ 1. พอมีพอกิน ปลูกพืชสวนครัวไว้กินเองบ้าง ปลูกไม้ผลไว้หลังบ้าน 2-3 ต้น พอที่จะมีไว้กินเองในครัวเรือน เหลือจึงขายไป
  2. พออยู่พอใช้ ทำให้บ้านน่าอยู่ ปราศจากสารเคมี กลิ่นเหม็น ใช้แต่ของที่เป็นธรรมชาติ (ใช้จุลินทรีย์ผสมน้ำถูพื้นบ้าน จะสะอาดกว่าใช้น้ำยาเคมี) รายจ่ายลดลง สุขภาพจะดีขึ้น (ประหยัดค่ารักษาพยาบาล)
  3. พออกพอใจ เราต้องรู้จักพอ รู้จักประมาณตน ไม่ใคร่อยากใคร่มีเช่นผู้อื่น เพราะเราจะหลงติดกับวัตถุ ปัญญาจะไม่เกิด
พระราชดํารัสเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2541
“เศรษฐกิจพอเพียง... จะทำความเจริญให้แก่ประเทศได้
แต่ต้องมีความเพียร แล้วต้องอดทน
ต้องไม่ใจร้อน ต้องไม่พูดมาก ต้องไม่ทะเลาะกัน
ถ้าทำโดยเข้าใจกัน เชื่อว่าทุกคนจะมีความพอใจได้...”
พระราชดํารัสเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากวารสารชัยพัฒนา
"เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเสมือนรากฐานของชีวิต รากฐานความมั่นคงของแผ่นดิน
เปรียบเสมือนเสาเข็มที่ถูกตอกรองรับบ้านเรือนตัวอาคารไว้นั่นเอง
สิ่งก่อสร้างจะมั่นคงได้ก็อยู่ที่เสาเข็ม
แต่คนส่วนมากมองไม่เห็นเสาเข็มและลืมเสาเข็มเสียด้วยซ้ำไป"
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ อยู่เปนร่มโพร่มไทรขอพระองค์ทรงพระเจริญ อยู่เปนร่มโพร่มไทรขอพระองค์ทรงพระเจริญ อยู่เปนร่มโพร่มไทรขอพระองค์ทรงพระเจริญ อยู่เปนร่มโพร่มไทรขอพระองค์ทรงพระเจริญ อยู่เปนร่มโพร่มไทรขอพระองค์ทรงพระเจริญ อยู่เปนร่มโพร่มไทร
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?