Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

“10 ปลา”... ที่..“น่ากลัว”ที่สุดในโลก...

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

“10 ปลา”... ที่... “น่าเกลียด”... ที่สุดในโลก...

...
...

แต่ละอันดับของปลาที่ติดอันดับจะเป็นปลาประเภทฉลามเป็นส่วนมาก

แน่นอนเพราะว่าฉลามเป็นปลาที่เรารู้จักมากที่สุด และเรากลัวพวกมันที่สุด

ดังนั้นจึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่ทำให้พวกมันต่างพากันติดอันดับต้นๆ

...
...
 

อันดับ 10 Great white shark




ฉลามขาวยังคงเป็นสัตว์ที่มนุษย์ยังคงหวาดกลัวมันจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเรา

สามารถพบเห็นมันตามแถบทะเลชายฝั่งเกือบทั่วทุกมุมโลก ด้วยขนาดตัวที่ค่อน

ข้างใหญ่ และมีความยาวประมาณ 6 เมตร น้ำหนักประมาณ 2250 กิโลกรัม

(กินเนสบุ๊ค ออฟ เวิลด์เรคคอร์ด (Guinness Book of World Records) ได้บันทึก

ปลาฉลามขาวที่ตัวใหญ่ที่สุดไว้ได้ 2 ตัวซึ่งตัวหนึ่งยาว 11 เมตรจับได้ที่ทางตอนใต้

ของประเทศออสเตรเลีย ใกล้กับพอท แฟร์รี่ (Port Fairy) ในปี 1870

และอีกตัวหนึ่ง ยาว 11.3 เมตร ติดอวนชาวประมงที่เมือง New Brunswick ประเทศ

แคนาดา ในปี 1930) ทำให้ปลาฉลามขาวเป็นปลานักล่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

เป็นสิ่งมีชีวิตสปีชี่ส์เดียวในสกุล Carcharodon ที่ยังเหลืออยู่

ปลาฉลามขาวเป็นสัตว์กินเนื้อ เหยื่อที่มันเลือกจะล่ามีปลา (รวมทั้งปลากระเบนและ

ฉลามที่ตัวเล็กกว่า) ปลาโลมา แมวน้ำ สิงโตทะเล เต่าทะเล และเต่าตะหนุ ทั้งยังมีชื่อ

ในเรื่องกินไม่เลือก แม้กระทั่งของที่กินไม่ได้อย่างกระป๋อง ทุ่มลอยน้ำ และฉลามขาว

มีจมูกที่ไวต่อกลิ่นเลือดเป็นอย่างมาก เพราะฉลามขาวสามารถได้กลิ่นเลือดเพียง 1

หยดที่อยู่ไกลออกไปถึง 3 กิโลเมตร

ส่วนเรื่องของปลาฉลามขาวจู่โจมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันมากผ่านทางภาพยนตร์ อย่าง

เช่นเรื่อง จอร์ (Jaws) ผลงานของสตีเว่น สปิวเบอร์ก (Steven Spielberg) แสดงให้

เห็นถึงภาพฉลามที่โหดร้าย กินคน และเป็นอันตรายอย่างยิ่งกับมนุษย์ ให้ฝังในใจของ

ผู้ชม อย่างไรก็ตาม จากรายงานพบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่มีสาเหตุมาจากถูกปลาฉลาม

ขาวจู่โจมในรอบ 100 ปี มีน้อยกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่ถูกสุนัขกัดเสียอีก

 

อันดับ 9 Frilled shark 

Frilled shark เป็นฉลามในสกุล Chlamydoselachus มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์

ว่า Chlamydoselachus anguineus เดิมคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่มีรายงานพบใน

หลายพื้นที่ รวมถึงในเขตน่านน้ำญี่ปุ่น ทำให้กลายเป็น “ฟอสซิลมีชีวิต” อีกชนิดหนึ่ง

ที่ยังคงมีชีวิตเหลือรอดในยุคครีเทเชียส จนกระทั่งปัจจุบัน ช่วงศตวรรษที่ 19 ล่าสุด

ในเดือนมกราคมปี 2007 ชาวประมงญี่ปุ่นพบตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ในเขตน้ำตื้นนอกชายฝั่ง

ใกล้สวนน้ำอะวาชิมาในเมืองชิสึโอกาทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียว

ก่อนตายในเวลาต่อมา นอกนี้มันน่าจะกระจายไปทั่วโลก ในน้ำลึกตั้งแต่ระดับ

400-4,200 ฟุต ทำให้เป็นฉลามที่หายาก พบมากในเขตใกล้นอร์เวย์ แอฟริกาใต้

นิวซีแลนด์ และชิลี (สำหรับตัวที่พบที่ญี่ปุ่นเชื่อว่าอาจขึ้นมาเหนือน้ำเพราะป่วยหรือ

อ่อนแอ ผลจากน้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้น)

หน้าตาของฉลามชนิดนี้แตกต่างจากฉลามที่เรารู้จักกันทั่วไป เพราะคล้ายกับปลาไหล

สีน้ำตาลหรือสีเทามากกว่า แต่การมีช่องเหงือก 6 คู่ เป็นจุดที่ยืนยันว่ามันคือฉลาม

ตัวเต็มวัยยาวได้ถึง 6.5 ฟุต ส่วนตัวที่พบล่าสุดยาว 5.3 ฟุต และเป็นไปได้ว่ามันมี

พัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปจากสมัยดึกดำบรรพ์น้อยมาก มีฟันแตกเป็นดอกแหลม

3 แฉก คาดว่าเป็นนักล่าที่น่ากลัวตัวหนึ่ง แต่ไม่เป็นอันตรายกับมนุษย์

 

อันดับ 8 Wolf Fish  

Seawolf ปลาหมาป่าหรือหมาป่าทะเล (นอกจากนี้ยังมีหลายชื่อเช่น Atlantic catfish,

ocean catfish, wolf eel )เป็นปลาทะเลขนาดใหญ่จำพวก Anarhichas เป็นปลาโบราณ

อีกชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในโลกเมื่อ 50 ล้านปีมาแล้ว บางชนิดอยู่ในเขตร้อนในน้ำจืด

แต่พวกมันชอบอยู่ในน้ำเย็นมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ มากกว่า  โดยมักอาศัยหลบ

ซ่อนตามโขดหินปลาหมาป่าเป็นปลาที่มีหัวค่อนข้างใหญ่ มีปากขนาดใหญ่และฟัน

แหลมคม ฟันนี้ใช้สำหรับแทะเพื่อกินเม่นทะเลเป็นอาหาร (สัตว์น้ำจำพวกที่มีเปลือก

เป็นอาหารหลักของมัน) พวกมันสามารถมีขนาดใหญ่ถึง 20 กิโลกรัม และสามารถยาว

ถึง 150 เซนติเมตร ผิวมีสีน้ำเงินเข้มแต่พอขึ้นจากน้ำดันเป็นสีน้ำตาลซะงั้น นั้นคือ

ข้อมูลเล็กๆน้อยทางชีวะของมัน ที่สำคัญปลาหมาป่านั้นมีรสชาติอร่อยมาก มนุษย์ชอบ

จับมันเป็นอาหารในจำนวนมากๆ แต่คงต้องระมัดระวังมากหน่อยละเกี่ยวกับฟันของมัน

ลองได้กัดผิวนุ่มๆ ของมนุษย์ละก็เป็นอันไม่ปล่อย

 

อันดับ 7 Goliath Tigerfish

ปลา Tiger Fish เป็นปลาน้ำจืดกลุ่ม Characin(กลุ่มเดียวกับปิรันย่า) ที่มีขนาดใหญ่

มักอาศัยใน แม่น้ำ Lualaba และทะเลสาป Tanganyika ประเทศคองโก ขนาดใหญ่สุด

มี น้ำหนักถึง 80 ปอนด์ ที่เรียกว่า “ปลาเสือ” ก็เพราะ ก็อันเนื่องมาจากข้อมูลพฤติกรรม

ของมันที่เป็นนักล่ามาแต่กำเนิด บวกกับเขี้ยวของมันและด้วยรูปร่างของมันคล้าย

ตอร์ปิโด คือมีรูปร่างที่เพรียว ซึ่งออกแบบมาเพื่อทำให้เคลื่อนที่ได้เร็วทำให้ได้เปรียบ

ในการค้นหาและล่าเหยื่อ ลักษณะของเกล็ดมีขนาดใหญ่ มีสีเงินวาว และที่ตัวเกล็ดจะ

มีจุดสีเข้ม ด้วยเหตุนี้ทำให้เห็นเป็นลายพาดตามยาวไปตามแนวข้างลำตัวเหนือเส้น

ข้างลำตัว ทำให้มองดูคล้ายลายของเสือลายพาดกลอน


นอกจากนี้มันยังมีนิสัยก้าวร้าวมาก เป็นหนึ่งในนักล่าที่น่าหวาดกลัวที่สุดในแหล่งน้ำจืด

เท่าที่รู้จักกันมา สัตว์ใดก็ตามที่ตกเป็นเหยื่อของมันก็ยากที่จะมีชีวิตรอดอยู่ได้ เมื่อตก

เป็นเหยื่อ มันจะใช้การกัด เพราะมันมีฟันที่แหลมคมราวกับมีด อีกทั้งยังมีกล้ามเนื้อ

ขากรรไกรที่แข็งแกร่งและทรงพลัง สำหรับพวกมันแล้วมันล่าได้ทั้งที่มีขนาดเท่ากับ

ตัวมันหรือแม้แต่ที่ สัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวมัน ส่วนมันเคยทำร้ายมนุษย์หรือเปล่านั้น

ไม่เคยมีรายงาน

ปลาชนิดนี้แม้ดูจะน่ากลัวก็จริง แต่มันไม่ได้จัดเป็นปลาสงวนตามสนธิสัญญาอะไรทั้ง

สิ้น และเป็นปลาที่นักตกปลานิยมตกมากที่สุด เนื่องจากมีพละกำลังมากเหมาะในการ

ท้าทายในการตกอย่างยิ่ง

 

อันดับ 6 cookiecutter shark

ฉลามคุกกี้คัตเตอร์ หรือ cigar shark ชื่อออกน่ารัก แต่นิสัยมันไม่น่ารักเลยนะครับ

มันเป็นปลาฉลามอีกพันธุ์ที่หายาก อาศัยน้ำลึก 500 ฟุต มีขนาดเล็กขนาดเท่าซิการ์

เท่านั้น แต่พิษสงมันเหลือร้ายทำให้มันล่าเหยื่อขนาดใหญ่อย่างวาฬและโลมาเป็น

อาหารได้สบายๆ โดยฉลามคุกกี้คัตเตอร์นั้นมีเทคนิคซุ่มโจมตีที่ใช้ประโยชน์จากการ

เรืองแสงในตัวเหมือนกับผี เป็นกับดักล่อฝูงทูน่าครีบเหลืองให้พุ่งตรงเข้ามา และเมื่อ

มันจู่โจมมันตะปบกัดและบิดตัวกัดเอาเนื้อออกไปเป็นก้อนกลมเหมือนลูกกอล์ฟ

เหมือนขนมคุกกี้ 

 

อันดับ 5 แฮคฟีช (hagfish)

แฮคฟีช (hagfish) รูปร่างเหมือนทากหรือปลิงแต่ความจริงแล้วเป็นปลา เป็นปลา

ไม่มีขากรรไกรที่อาศัยอยู่ในทะเล โดยการกินปลาตาย หรือใกล้ตายรวมทั้งสัตว์ไม่

มีกระดูกสันหลังที่มีลำตัวอ่อนนุ่ม กลุ่มหนอนปล้อง มอลลัสและครัสเตเชียน ดังนั้น

แฮคพีช จึงไม่เป็นปาราสิต และไม่ได้เป็นสัตว์ล่าเหยื่อ แต่ค่อนมาทางกินซากสัตว์

มากว่า แฮคฟีชมีประมาณ 32 ชนิด ชนิดที่รู้จักกันดีในอเมริกาเหนือ ในมหาสมุทร

แอตแลนติก

แฮคฟีชกินปลาตายหรือปลาใกล้ตายโดยการ กัดไชเข้าไปทางทวารหรือถุงเหงือก

แล้วกินส่วนของตัวปลาที่อ่อนนุ่มเหลือไว้แต่หนังและกระดูก นอกจากนี้แอคฟีชยังกิน

ปลาที่ตำแหอวนลอยอยู่ ทำความเสียหายให้แก่ชาวประมง แต่หลังจากมีการประมง

โดยใช้อวนลากขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพสูง ปัญหาที่เกิดจากแฮคฟีชจึงลดลง

แฮคฟีชมีต่อมเหมือกทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่กระจายอยู่ที่ผิวหนัง และมีต่อม

เหมือนเรียงตัวเป็นแนวอยู่ทางด้านข้างตลอดความยาวของลำตัว มีคำกล่าวว่า แฮคฟีช

1 ตัว สามารถทำให้น้ำ 1 ถัง แปรสภาพเป็นก้อนวุ้นสีขาวภายใน 1 นาที

นอกจากนี้ แฮคฟีช ยังเป็นอาหารอร่อยอีกด้วย ที่เกาหลีจะนำปลาชนิดนี้มาหมักกับ

พริกเอาไปย่างหรือเอาผัดเรียกว่า Bokkeum Kkomjangeo (ไม่แน่ใจนะครับ

เพราะไม่ได้กินอาหารเกาหลี)

 

อันดับ 4 Basking Shark

ฉลามบาสกิ้น ความจริงยังมีฉลามอีกมากควรติดอันดับ เช่นฉลามยักษ์เมกาโลดอน

(Megalodon Sharkหรือฉลามเมกาเมาทธ์ (MegaMouth ) แต่ดูเหมือนว่าฉลาม

บาสกิ้นจะดูโดดเด่นที่สุดในอันดับของเรา โดยฉลามชนิดนี้เป็นยักษ์ใหญ่ผู้ใจดีแห่ง

ท้องทะเลใหญ่เป็นอันดับสองรองจากฉลามวาฬยาวประมาณ 12.27 เมตร หนักกว่า

19 ตัน มีรายงานการพบปลาขนาดใหญ่ที่นอร์เวย์วัดได้ยาว 12 เมตร มีปากขนาดใหญ่

แต่กินแพลงตอนเป็นอาหารโดยปากของมันจะเหมือนตัวกรองที่สามารถดูดน้ำเข้าปาก

ได้ 2000 ตันต่อชั่วโมง พบในมหาสมุทรที่น้ำเย็นทั่วโลก แต่เนื่องจากมันเชื่อมช้าทำให้

มันมักติดมากับอวดของชาวประมงอยู่บ่อยๆ อีกทั้งมันยังถูกล่าในเชิงพาณิชย์อีกด้วย

ทำให้มันเริ่มหายาก (ครีบ กระดูกอ่อนยาจีน เนื้อดิบญี่ปุ่น) ทำให้กลายเป็นสัตว์สงวน

ห้ามล่า

 

อันดับ 3 Blob Fish

ปลาบร็อบ ( Blobfish ) หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ " Psychrolutes marcidus " เป็น

ปลาน้ำลึก ที่พบในน่านน้ำ ออสเตรเลีย ( Australia ) และ แทสมาเนีย ( Tasmania ) 

เนื่องจากการเข้าถึงแหล่งที่อยู่อาศัยทำได้ยาก จึงไม่ค่อยมีผู้พบเห็นมากนัก

ปลาบร็อบ ถูกพบในระดับความลึกที่มีแรงดันมากกว่าปกติ ถึง 12 เท่าทำให้ถุงลม

ขาดประสิทธิภาพ เพื่อที่ปลา สามารถลอยตัวได้ (ที่รู้จักกันในชื่อ "กระเพาะปลา"

มีหน้าที่ เก็บกักอากาศ หรือปล่อยอากาศออกเพื่อประโยชน์ในการลอยตัว หรือดำน้ำ)

ปลาจึงมีเนื้อที่มีลักษณะเป็นวุ้น มีความหนาแน่น น้อยกว่าน้ำเล็กน้อย เพื่อให้สามารถ

ลอยตัวเหนือพื้นทะเล โดยใช้พลังงานน้อยที่สุดในการลอยตัว และว่ายน้ำ จึงทำให้

ปลาบร็อบ ไม่จำเป็นต้องมีกล้ามเนื้อ และข้อดีอย่างแรกก็คือมันสามารถทิ้งตัวลงมา

จับเหยื่อจากด้านบนจึงเป็นการดีกว่าจะเข้า จู่โจมจากด้านหน้าที่อาจจะได้รับอันตราย

จากการที่เหยื่อต่อสู้

 

อันดับ 2 Lamprey

ปลาแลมเพรย์เป็นปลาไหลชนิดหนึ่ง ลำตัวด้านหลังมักจะเป็นสีดำ มีครีบหลังและ

ครีบหาง แต่ไม่มีครีบคู่ ไม่มีเกล็ด ปากจะอยู่ค่อนลงมาทางด้านท้อง มีลักษณะคล้าย

แว่นใช้สำหรับดูด ปากกลมซึ่งไม่จำเป็นต้องมีกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ขึ้นมาบังคับ

ขากรรไกรให้อ้าและหุบแบบปัจจุบัน พวกมันต้องการเพียงปากที่มีตะขอสำหรับเกาะ

เหยื่อเพื่อดูดเลือดสัตว์อื่นเป็นอาหาร และดำรงชีพเป็นปรสิตเมื่อดูดเลือดของเหยื่อจน

ตัวเหยื่อแห้งก็จะปล่อยแล้วหาเหยื่อใหม่ (แลมเพรย์มีหลายชนิด บางชนิดไม่จำเป็น

ต้องดำรงแบบปรสิต)

แลมป์เพรย์ มีทั้งในน้ำจืดและน้ำทะเล และมีกระจายอยู่ทั่วโลก คือ อเมริกาเหนือ

อเมริกาใต้ ยุโรป อาฟริกาตะวันตก ญี่ปุ่น ชิลี นิวซีแลนด์ และ ทาสเมเนีย

 

อันดับ 1 Goblin Shark

ฉลามก็อบบลิน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Mitsukurina Owstoni (ตามชื่อเรือประมง

ที่ค้นพบ) เป็นปลาฉลามที่หายากและข้อมูลของมันมีน้อยมาก มันอาศัยในแถบ

มหาสมุทรแปซิฟิคตอนใต้ ไล่ไปจนถึงมหาสมุทรแอตแลนติคและมหาสมุทรอินเดีย

ตอนใต้ พบครั้งแรกที่ประเทศ ญี่ปุ่น รูปร่างลักษณะของมันก็เหมือนฉลามธรรมดา

ผิวสีเทา มีหาง มีครีบ แต่จะมีครีบที่ค่อนข้างมากอยู่สักหน่อย และส่วนที่เห็นได้ชัดเลย

ว่าแตกต่างไปจากฉลามตัวอื่น คือ เป็นส่วนที่ยื่นออกมาจากหน้าผากมัน หรือก็คือจมูก

ที่มีลักษณะแบนราบซึ่งจะ เป็นตัวช่วยให้ฉลามก็อบบลินหาเหยื่อได้ โดยจะมีอวัยวะที่

ทำงานคล้ายเซนเซอร์ไฟฟ้าอยู่ข้างในจมูกของมัน คอยส่งสัญญาณให้ฉลามก็อบบลิน

รู้ว่าเหยื่ออยู่ที่ไหน ระยะทางเท่าไหร่ แต่บางทีมันก็ใช้การดมกลิ่นแทน ส่วนขนาด

ความยาวทั้งตัวตั้งแต่หัวถึงหางของฉลามก็อบบลินก็ยาวประมาณ 11-15 ฟุตหรือ

3.3 -4.5 เมตร

ปัจจุบันไม่มีรายงานการโจมตีของฉลามชนิดนี้เลยเนื่องจากมันหายากและอยู่ในน้ำลึก

ส่วนสาเหตุที่หายากและใกล้สูญพันธุ์เนื่องมาจากใต้ทะเลนั้นมืดมิด โอกาสที่จะได้เจอ

คู่ของมันนั้นยากมาก ทำให้ไม่มีโอกาสผสมพันธ์กัน

 

อันดับ 0 Fanfin Seadevil

ปลาปีศาจ ครีบพัด (Fanfin Seadevil) หรือ Caulophryne jordani เป็น ปลาน้ำลึก

ในตระกูล Anglerfish ปลาปลาปีศาจ ครีบพัด ( Fanfin Seadevil ) มีสี่งที่แปลก และ

โดดเด่นกว่า ปลาในตระกูล Anglerfish ทั่วไปคือ พวกมันไม่มีหงอนเรืองแสงบนหัว

ที่ใช้สำหรับล่อเหยื่อในที่มืด และทั่วทั้งร่างมีครีบยาว คล้ายพัด เช่นเดียวกับปลาใน

ตระกูล Anglerfish เพศผู้มีขนาดเล็กกว่ามากเพศเมีย เพศผู้เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาด

เพียง 0.5 นิ้ว (1.27 เซ็นติเมตร) ส่วนเพศเมียจะมีขนาดใหญ่ได้ถึง 10 นิ้ว

(25 เซ็นติเมตร ความยาวไม่รวมหนวด) การที่เพศผู้มีขนาดเล็ก และเพศเมีย มีขนาด

ใหญ่นั้นเกิดจากอุปนิสัยที่ เมื่อตัวผู้พบ ตัวเมีย ตัวผู้จะเกาะติดตัวเมียด้วยปาก ทำตัว

เหมือนกาฝาก โดยดูดเลือดของตัวเมียเป็นอาหาร และเมื่อนานวันตัวผู้จะศูนย์เสีย

การมองเห็น และประสาทสัมผัสต่างไป และหลอมรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตัวเมีย

...

...



แสดงความคิดเห็น

>

12 ความคิดเห็น

MeM~mEm 21 ม.ค. 54 เวลา 05:33 น. 1

 ยังจะมีอันดับ0 

อันดับ 0 มันสืบพันธ์ยังไง ถ้าตัวผู้หลอมรวมกันแล้ว


PS.  คำพูดคือภาษีก้าวหน้า
0
นายมะนาว ณ บอร์ดบอย 21 ม.ค. 54 เวลา 13:51 น. 3

ถึง ค. 1

นาวว่ามันก็ไม่ต้องมีกิจกรรมในการผสมพันธุ์แล้วนะครับ

แบบพอรวมตัวกัน มันก็มี 2 เพศในตัวเดียว

พอถึงฤดูผสมพันธุ์ ก็ออกไข่ ไข่ก็เป็นตัวเลย เพราะมีน้ำเชื้อจากตัวผู้ที่รวมเข้ากับตัวแล้ว

คหสต.นะ รอผู้รู้จริงมาตอบ




 

0
Ellie Eiw Grimmie 24 ม.ค. 54 เวลา 00:42 น. 10

  รักคห.7 นึกว่าคิดคนเดียวซะอีก 5555 เอาใขไปใช่เลย (เพื่มเติมให้นั คห.9)


PS.  รักเนื้อคู่ฯที่สู้ดดดดดดดดดด ซิทคอมเรื่อวเยี่ยม ปรบมือค่ะ
0