13กลอนเซนสอนใจ
1.ดูแลตัวเองให้มั่นคงแน่นหนาดั่งหินผา
ความผิดพลาดต่างๆก็จะน้อยลง
เรื่องราวต่างๆปล่อยให้ผ่านไปดั่งธารน้ำไหล
รสชาติแห่งชีวิตถึงจะเกิดขึ้นบ่อยๆ
~~ ๐๐๐๐ ~~
2.มองสรรพสิ่งที่เคลื่อนไหวในตำแหน่งที่นิ่ง
ไปในที่ว่างๆเพื่อจับตามองผู้คนที่กำลังวุ่นวาย
ถึงจะรู้รสชาติแห่งการก้าวข้ามกิเลส
และการสลัดค่านิยมเก่าๆให้หลุดลอกออกไป
พานพบสิ่งที่วุ่นวายแล้วทำให้เกิดความสบายใจได้
และที่ที่วุ่นวายก็ทำให้เกิดความสงบได้
และทำให้มีชีวิตที่ยืนยาว
~~ ๐๐๐๐ ~~
3.โบราณว่าเงาไผ่ไม่อาจกวาดฝุ่นให้สะอาดได้
แสงอาทิตย์ก็ไม่อาจส่องน้ำให้เกิดร่องรอยได้
นักปราชญ์ว่ากระแสน้ำแม้จะไหลแรงแค่ไหน ต้นน้ำมักจะนิ่ง
เห็นดอกไม้ร่วงโรยครั้งแล้วครั้งเล่าก็คงจะรู้สึกปลง
หากรู้ถึงสัจธรรมข้อนี้เมื่อเผชิญกับสภาวะต่างๆ
กายและใจคงจะสงบลงได้
~~ ๐๐๐๐ ~~
4.นกกระสาดูเป็นจ่าฝูงในหมู่ไก่
แต่ก็ดูด้อยกระจิดริดเมื่อไปอยู่ในหมู่นกทะเล
และยิ่งเทียบไม่ได้เมื่อไปอยู่ในหมู่หงส์
ดังนั้นคนเราควรจะถ่อมตนและสมถะเข้าไว้
พร้อมกับบ่มเพาะคุณธรรม ไม่หยิ่งยะโสและคุยโว
~~ ๐๐๐๐ ~~
5.ขึ้นคันธนูตั้งแต่ห่านป่ายังมาไม่ถึง
กระต่ายมีอยู่ปล่อยให้หายลับตาถึงร้องเสียดาย
เป็นการทำการที่ไม่ถูกโอกาสและเวลา
ยามลมสงบอย่าก่อให้เกิดคลื่น
เมื่อถึงฝั่งควรขึ้นจากเรือ
ถึงจะเรียกว่ายอดฝีมือ
~~ ๐๐๐๐ ~~
6.แสวงหาสิ่งรู้ ไม่ต้องไกล
สิ่งหรรษา ไม่ต้องมาก
แค่หินจำลองในจานกระเบื้องก็สามารถแสดงถึง
ความมั่นคงของภูเขาที่ห่างไกลออกไปเป็นหมื่นลี้ได้
ปรัชญาเหล่านี้เป็นแนวคิดของปราชญ์เมธีที่
เอกบุรษควรจะนำมาเป็นวิสัยทัศน์ที่พึงตระหนักไว้
~~ ๐๐๐๐ ~~
7.ตกต่ำแล้ว ถึงจะรู้ อันตรายของการไต่เต้าสู่ที่สูง
อยู่ในมุมมืดแล้ว ถึงจะรู้ ความชัดเจนในที่แจ้ง
อยู่อย่างสงบแล้ว ถึงจะรู้ ความกระวนกระวายของการดิ้นรน
สงวนคำพูดแล้ว ถึงจะรู้ อารมณ์จากการพูดมาก
~~ ๐๐๐๐ ~~
8.ยอมอยู่ในสภาพเลวร้ายเหมือนคนไร้ปัญญา
เพื่อเหลือลมหายใจแห่งความยุติธรรมคืนให้กับโลกา
ยอมละจากความเจริญรุ่งเรืองคืนสู่สามัญ
เพื่อเหลือเกียรติยศชื่อเสียงประดับไว้ในโลกา
~~ ๐๐๐๐ ~~
9.ดนตรี หนังสือ กวี ภาพวาด
เป็นน้ำหล่อเลี้ยงวิญญานของบัณฑิต
วัตถุโบราณ คนเด่น คนดัง
เป็นที่ชื่นชมของสามัญชน
สรรพสิ่งล้วนแต่มีมุมมองหลายด้าน
แล้วแต่ว่าจะมองต่างมุมอย่างไร
การจะเรียนรู้สิ่งใดให้ลึกซึ้ง ต้องเริ่มจากใจรักมาก่อน
~~ ๐๐๐๐ ~~
10.เพราะบรรจุจนเต็มสิ่งที่อยู่ในภาชนะอันเลิศจึงล้นออกมา
กระปุกออมสินข้างในล้วนกลวงเปล่า
ด้วยเหตุนี้เอกบุรุษจึง
ยอมอยู่อย่างไม่มี ไม่อยู่อย่างมี
ยอมอยู่อย่างขาด ไม่อยู่อย่างสูญ
~~ ๐๐๐๐ ~~
11.กระดิ่งระฆังลำตัวมักกลวง
เพื่อให้ได้ยินเสียงต้องเกิดการเคาะตี
ธรรมชาติของกวางย่อมท่องไปทั่ว
แต่ถูกจับมาเลี้ยงจึงถูกผูกไมตรีไว้้
จะเห็นได้ว่าเหล่านี้เป็นสิ่งนำภัยมาให้
และอาจเป็นแผนการที่ให้ละจากอุดมการณ์ได้
ผู้ที่จะบำเพ็ญจะต้องออกแรงปัดกวาดสิ่งเหล่านี้ออกไป
~~ ๐๐๐๐ ~~
12.ผู้คนเข้าใจการอ่านที่มีตัวอักษร
ไม่เข้าใจการอ่านที่ไร้อักษร
คนที่รู้จักการภาวนาเหมือนมีขิมที่ล้ำลึก
คนที่ไม่รู้จักก็เหมือนไร้สิ่งเหล่านี้
เพื่อค้นหาสิ่งเหล่านี้ไม่ต้องใช้พลังลึกลับอะไร
และทำอย่างไรถึงจะหยั่งรู้ความล้ำลึกของขิมและหนังสือได้
~~ ๐๐๐๐ ~~
13.เรื่องราวในโลกเราเปรียบเหมือนเกมหมากรุก
ไม่จำเป็นต้องได้เสมอไป ถึงจะเป็นยอดฝีมือ
ชีวิตเปรียบดังเครื่องกระเบื้องเคลือบ
ทำแตกไปแล้วถึงรู้ว่าว่างเปล่าจริงๆ
~~ ๐๐๐๐ ~~
3 ความคิดเห็น
คล้ายเต๋ามากกว่าเซน
PS. 看破世情天理处 人生何用苦营谋 // กรุ๊ปตรงธรรม - http://group.dek-d.com/phunanphing/
ขอบคุณมากค่ะ
แต่พออ่านเซนแล้ว ก็เหมือนเต๋านะ
(ยังไม่ได้ศึกษาเยอะค่ะ อ่านเต๋าแค่สองหน้าเฉยๆ และก็รู้จักเซนนิดเดียว และรู้สึกว่าแก่นเหมือนกัน)
PS. เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?