Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ช่วยแปล ' อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง 'หน่อยค่ะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
...บัดนั้น                                           ตำมะหงงกุเรปันกรุงใหญ่
รับสั่งบังคมลาคลาไคล                  ออกไปจัดทัพฉับพลัน

อิเหนาและอนุชากรีธาทัพ เผชิญทัพกะหมังกุหนิง

...เมื่อนั้น                                          พระผู้พงศ์เทวากระยาหงัน
ครั้นฤกษ์ดีแจ่มดวงสุริยัน             ทรงธรรม์ชวนกะหรัดตะปาตี
ทั้งสุหรานากงอนุชา                      สังคามาระตาเรื่องศรี
กับระเด่นดาหยนผู้ภักดี                มาเข้าที่สรงน้ำทิพมนตร์



....ห้าองค์ชำระสระสนาน              กิดาหยันถวานพานเครื่องต้น
บรรจงทรงทาพระสุคนธ์              ปรุงปนเกสรสุมาลี



ใครช่วยแปลขอให้ สวย ๆ หล่อ ๆ ทุกคนค่า >//<
และขอให้เรียนได้เกรด ดี ๆ ทุกคน เพี้ยง !!!

PS.  

แสดงความคิดเห็น

>

11 ความคิดเห็น

SFlower.PetaL 11 ก.ค. 54 เวลา 17:28 น. 1

เออ

อ่านแล้วเข้าใจแต่ ไม่มีความสามารถแปลออกมาได้สวยๆอะค่ะ

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้แล้วกันค่ะ คิคิ



อิเหนามีเมียตั้ง 10 คน มีแต่คนคอยยกย่อง แต่วันทองมีผัวแค่ 2 คน ถูกคนรุมด่าซะงั้น


PS.  Full Taste ''รัก.. หลาก.. รส..'' Pascali... พาสคาลิ'' Sound scare" รักหยอกๆ หรือหลอกเล่นๆ
0
เพียง 11 ก.ค. 54 เวลา 18:56 น. 2

ก็วันทอง เป็นผู้หญิง ไงค่ะ
ส่วน อิเหนา เป็นผู้ชาย มันไม่น่าเกลียดหรอกค่ะ
มันไม่เท่าเทียมกันตรงนี้ = ="

ศึกกระหมังกุหนิง ของ แผนการเรียน ม.4 อะสิเนอะ
ไม่ยากมากหรอกจ้า แต่ถ้าให้แปลอะ มันการบ้านใช่ป่ะนั่น 555
บทที่ให้มามัน งง ๆ = =" ไม่ค่อยปะติดปะต่อเท่าไหร่ แปลไม่ถูกงะ
แต่ก็พอจับใจความได้ว่า มีการยกทัพ และเจ้าเมืองก็กำลัง
เตรียมตัว อาบน้ำ ปรุงน้ำหอม อะไรต่อมิอะไรก่อนที่จะออกมาพบกับ
กองทัพ

ปล. ไม่เกี่ยวกับกระทู้ ขอโทษด้วยจ้ะ

0
sappcsa sine 11 ก.ค. 54 เวลา 19:34 น. 3

 .บัดนั้น                                           ตำมะหงงกุเรปันกรุงใหญ่
รับสั่งบังคมลาคลาไคล                  ออกไปจัดทัพฉับพลัน

ตำมะหงงเมื่อรับคำสั่งแล้วจึงทูลลา รีบไปจัดทัพทันที

...เมื่อนั้น                                          พระผู้พงศ์เทวากระยาหงัน
ครั้นฤกษ์ดีแจ่มดวงสุริยัน             ทรงธรรม์ชวนกะหรัดตะปาตี
ทั้งสุหรานากงอนุชา                      สังคามาระตาเรื่องศรี
กับระเด่นดาหยนผู้ภักดี                มาเข้าที่สรงน้ำทิพมนตร์


อิเหนาเห็นว่าเป็นเวลายามดีแล้ว จึงชวนกะหรัดตะปาตี สุหรานากง 
สังคามาระตาระเด่นดาหยัน มาอาบน้ำทิพย์(น้ำศักสิทธิ์)


....ห้าองค์ชำระสระสนาน              กิดาหยันถวานพานเครื่องต้น
บรรจงทรงทาพระสุคนธ์              ปรุงปนเกสรสุมาลี


ทั้งห้าพระองค์อาบน้ำ คนใช้ก็ถวายของเครื่องแต่งกาย
แล้วบรรจงทาน้ำหอมกลิ่นดอกไม้


ความหมายก็ประมาณนี้นะ เราพึ่งเรียนเหมือนๆกัน 
ปล.เรียบเรียงคำให้สวยๆนะ

0
+++ Prince The Ripper +++ 12 ก.ค. 54 เวลา 17:27 น. 6

ใจความสำคัญของเรื่อง อิเหนา&nbsp ตอน ศึกกะหมังกุหนิง

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ตั้งแต่วิหยาสะกำได้ชมรูปภาพของนางบุษบาก็หลงรักนาง และอยากได้นางมาเป็นมเหสี ท้าวกะหมังกุหนิงก็ตามใจลูกส่งทูตไปขอนางบุษบากับท้างดาหา และเตรียมกองทัพไว้ถ้าท้าวดาหาปฏิเสธก็จะยกทัพไปตีเมืองดาหา ท้าวกะหมังกุหนิงได้เล่าเรื่องราวและขอความช่วยเหลือจากน้องชาย คือ ระตูปาหยัง และท้าวประหมัน ซึ่งระตูทั้งสองก็ทูลทัดทาน ขอให้ตรึกตรองดูให้ดี เพราะท้าวดาหาเป็นวงศ์อสัญแดหวา ซึ่งมีกำลังทหารมากมาย ทั้งไพร่พลก็ชำนาญในการสงคราม ท้าวกะหมังกุหนิงก็บ่ายเบี่ยงเลี่ยงตอบว่าการทำสงครามครั้งนี้เป็นการช่วงชิงนางบุษบาจากจรกา แม้พระอนุชาจะอ้างเหตุผลอย่างไรก็ตาม ท้าวกะหมังกุหนิงก็ยืนยันความตั้งใจเดิม ไม่เปลี่ยนใจจะทำเพื่อลูก



&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ฝ่ายท้าวดาหาเมื่อปฏิเสธไม่ยอมยกนางบุษบาให้แล้ว ก็มีหนังสือไปขอความช่วยเหลือไปหาท้าวกุเรปัน พระเชษฐา&nbsp ท้าวกาหลังและท้าวสิงหัดส่าหรี พระอนุชาทั้งสอง ท้าวสิงหัดส่าหรีเมื่อทราบข่าวก็ส่งทหารไปบอกท้าวดาหาว่าไม่ต้องวิตก จะส่งสุหรานากงไปช่วย ฝ่ายเมืองกุเรปันท้าวกุเรปันได้มีหนังสือ 2 ฉบับ ให้ดะหมังนำไปให้อิเหนา 1ฉบับ และให้ระตูหมันหยา 1 ฉบับ แล้วให้กะหรัดตะปาตี ยกทัพไปสมทบกับอิเหนา ช่วยท้าวดาหาทำศึก กะหรัดตะปาตีก็ยกทัพไปคอยอิเหนาที่ชายเมืองหมันหยา ส่วนท้าวกาหลังก็ให้ตำมะหงงกับดะหมังคุมพลยกออกจากเมืองกาหลังมาพบสุหรานากงจากเมืองสิงหัดส่าหรี สองทัพก็สมทบกันยกไปเมืองดาหา



&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เมื่อท้าวดาหาปฏิเสธไม่ยอมยกนางบุษบาให้ ท้ากะหมังกุหนิงก็เตรียมจัดทัพยกไปตีเมืองดาหา ให้วิหยาสะกำเป็นกองหน้า พระอนุชาทั้งสองเป็นกองหลัง ท้าวกะหมังกุหนิงเป็นจอมทัพ ท้าวกะหมังกุหนิงได้ให้โหรโหรตรวจดูดวงชะตาว่าร้ายดีประกาใด โหรทำนายว่าดวงชะตาของท้าวกะหมังกุหนิงและวิหยาสะกำนั้นถึงฆาต ถ้ายกทัพไปในวันพรุ่งนี้จะพ่ายแพ้แก่ศัตรูแน่นอน ให้เว้นไปซัก 7 วัน แล้วจึงจะพ้นเคราะห์ไปทำศึกได้ แต่ท้าวกะหมังกุหนิงก็มิได้เปลี่ยนความตั้งใจ ยกทัพไปตามกำหนดที่ตั้งใจไว้



&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp เมื่อท้าวดาหาทราบข่าวศึกก็ให้ตั้งค่ายรอบกรุงดาหาไว้ ทัพเมืองกะหมังกุหนิงก็ได้ยกทัพมาประชิดเมืองดาหา ท้าวดาหาเมื่อเห็นศึกมาประชิดเช่นนั้นก็รู้สึกน้อยใจอิเหนาว่าศึกครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะอิเหนาเป็นต้นเหตุ สุหรานากงและเสนาเมืองกาหลังเมื่อมาถึงก็เข้าเฝ้าท้าวดาหา สุหรานากงแจ้งให้ท้าวดาหาทราบว่า ท้าวกุเรปันส่งกะหรัดตะปาตีให้สมทบกับทัพอิเหนามาช่วย ท้าวดาหาก็เชื่อว่ากะหรัดตะปาตีนั้นคงมา แต่ไม่เชื่อว่าอิเหนาจะจากหมันหยามาได้ ท้าวดาหาเสนอแนะการทำศึกแก่สุหรานากงว่าไม่ควรออกไปสู้รบนอกเมือง เพราะกองทัพศัตรูกล้ายกมาครั้งนี้ก็ย่อมมีความสามารถมีกำลัง ควรตั้งมั่นไว้ในเมืองก่อน ถ้าทัพต่างๆยกมาช่วยแล้วค่อยตีกระหนาบ ศึกก็จะลาเลิกไป



&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp อิเหนาเมื่อได้รับหนังสือจากท้าวกุเรปันให้ยกทัพไปช่วยท้าวดาหา ถ้าไม่ยกไปช่วยก็ขาดจากความเป็นพ่อลูกกัน แม้ตายก็ไม่ต้องไปเผา



&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp อิเหนาอ่านจบแล้วก็นึกว่า นางบุษบาจะงามแค่ไหน ใครต่อใครจึงมาหลงรัก ถ้างามเหมือนจินตะหราก็สมควรที่จะหลงรัก อิเหนาคิดว่าอีก 7 วันจึงจะยกทัพไปแต่ดะหมังทูลเตือนว่าอาจไปช่วยไม่ทัน อิเหนาจึงจำใจยกทัพไปวันรุ่งขึ้น อิเหนาได้เข้าเฝ้าท้าวหมันหยาซึ่งก็ได้รับหนังสือจากท้าวกุเรปันมีใจความตำหนิพระธิดาและท้าวหมันหยา ถ้าท้าวหมันหยายังเห็นดีเห็นงามไม่ให้อิเหนายกทัพไปช่วยศึกดาหา ก็จะตัดญาติขาดมิตรกัน ท้าวหมันหยาจึงเร่งให้อิเหนายกทัพไปและให้ระเด่นดาหยนคุมทัพจากหมันหยาไปสมทบอิเหนาด้วย



&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp อิเหนาจึงมาลาจินตะหรา สการะวาตี และมาหยารัศมี ทั้งที่ใจไม่อยากจากไป อิเหนาสัญญากับจินตะหราว่าเสร็จศึกจะรีบกลีบมาทันที อิเหนายกทัพจากเมืองหมันหยาไปด้วยความโศกเศร้า และคิดถึงสามนางมาตามทางที่ผ่านไป อิเหนายกทัพสมทบกับกะหรัดตะปาตีที่คอยท่าอยู่แล้วพากันยกไปเมืองดาหา เมื่อถึงแดนดาหาอิเหนาก็หยุดตั้งค่าย ให้ตำมะหงงไปทูลท้าวดาหาว่าจะทำศึกให้เสร็จสิ้นก่อนแล้วจึงจะมาเข้าเฝ้า ท้าวดาหาก็ยินดีเมื่อรู้ว่าอิเหนายกทัพมาแล้ว เพราะรู้ว่าอิเหนาเก่งกล้าสามารถ ย่อมชนะศึกแน่นอน ส่วนสุหรานากงก็ยกทัพออกไปสมทบกับอิเหนาแล้วเล่าเรื่องที่ท้าวดาหากล่าวถึงอิเหนาให้ฟัง



&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ฝ่ายท้าวกะหมังกุหนิงแม้รู้ข่าวว่ามีทัพยกมาช่วยท้าวดาหาแต่ก็ยังไม่เปลี่ยนใจได้เตรียมทำศึกเต็มที่ เมื่อทัพกะหมังกุหนิงประจันทัพกับทัพของอิเหนา ท้าวกะหมังกุหนิงไม่รู้ว่าเป็นทัพของอิเหนาจึงถามว่าผู้ใดคือจรกา อิเหนาจึงตอบว่าจรกามิได้มาด้วย เรายกมาแต่กุเรปันเพื่อมาช่วยน้อง ท้าวกะหมังกุหนิงเมื่อรู้ว่าเป็นอิเหนาก็รู้สึกหวาดหวั่นแต่ก็มีมานะเจรจาตอบ ในที่สุดสังคามาระตะก็ออกต่อสู้กับวิหยาสะกำ และได้ฆ่าวิหยาสะกำตาย ท้าวกะหมังกุหนิงจึงเข้าต่อสู้กับสังคามาระตะ อิเหนาเข้ารับไว้และฆ่าท้าวกะหมังกุหนิงสำเร็จ ระตูปาหยังและท้าวประหมันเห็นเหตุการณ์เป็นดังนั้นจึงยอมแพ้แก่อิเหนา และจะยอมเป็นเมืองขึ้นจะส่งเครื่องบรรณาการมาถวายตามประเพณี อิเหนาก็ได้อนุญาตให้นำศพท้าวกะหมังกุหนิงและวิหยาสะกำกลับไปที่เมืองเพื่อจัดพิธีศพตามประเพณีต่อไป

ลักษณะ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  กลอนบทละคร

อธิบายผังโครงสร้าง

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ๑) แสดงผังโครงสร้างกลอนบทละคร ความยาว ๒ บท

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ๒) กลอน ๑ บท มี ๒ บาท คือ บาทเอกและบาทโท

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ๓) กลอน ๑ บาท มี ๒ วรรคคือบาทเอกประกอบด้วย วรรค สดับ และวรรค รับ บาทโทประกอบด้วย วรรค รอง และวรรค ส่ง

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ๔) กลอน ๒ วรรค เรียกว่า ๑ คำกลอน

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ๕) เส้นโยงแสดงจุดสัมผัสนอก เป็นกฎบังคับต้องมี สำหรับกลอนวรรค รับ และ ส่ง จะเลือกสัมผัสตรงคำที่ ๒, ๓ หรือ ๕ ก็ได้ ในกลอนบทละครนิยมสัมผัสตรงคำที่ ๒ และ ๕ มาก สำหรับจุดสัมผัสใน โปรดดูคำอธิบาย ที่กลอนสุภาพ

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ๖) กลอนยาว ๒ บทขึ้นไป ต้องเชื่อมสัมผัสท้ายวรรค ส่ง ไปยังคำท้ายวรรค รับ ของบท ถัดไปเสมอ

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  กลอนบทละคร เป็นกลอนสุภาพประเภทหนึ่งจัดอยู่ในหมวดกลอนขับร้อง เช่นเดียวกับกลอนดอกสร้อย สักวา กลอนเสภา และเพลงไทยเดิม

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp วัตถุประสงค์ในการแต่งกลอนบทละคร เพื่อนำไปแสดงละครร้องและรำ ซึ่งในอดีตถือเป็นการแสดงชั้นสูงที่มีเฉพาะในรั้วในวังเท่านั้น



ลักษณะข้อบังคับ

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ลักษณะบังคับ (ฉันทลักษณ์) กลอนบทละคร เช่นเดียวกับกลอนสุภาพ แต่จำนวนคำในวรรค จะอยู่ที่จำนวน ๖-๗ เป็นส่วนมาก ทั้งนี้เพื่อให้จังหวะของเสียงเข้ากับท่าร่ายรำของตัวละคร และท่วงทำนองเพลงปี่พาทย์

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp นอกจากนี้ กลอนบทละคร จะมีคำนำ ในบางบท เพื่อบอกถึงการกระทำ หรือเหตุการณ์สำคัญ ที่กำลังดำเนินไป ซึ่งจะมีอยู่ ๒ คำ คือ \"เมื่อนั้น\" กับ \"บัดนั้น\"คำว่า \"เมื่อนั้น\" ใช้สำหรับตัวละครสูงศักดิ์ ส่วนคำว่า\"บัดนั้น\" ใช้สำหรับตัวละครชั้นสามัญ&nbsp สิ่งสำคัญที่สุด ที่กวีผู้แต่งบทกลอนละครร้อง จะต้องทราบคือ



&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ๑. ท่าร่ายรำต่าง ๆ ในการแสดง โขน และละคร

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ๒. ท่วงทำนอง จังหวะ ของเพลงปีพาทย์ ขั้นพื้นฐาน และ

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ๓. เพลงหน้าพาทย์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ประมาณ ๓๐ เพลง&nbsp ซึ่งถือเป็นเพลงปี่พาทย์ชั้นสูงของไทย ใช้เป็นเพลง ประกอบการบวงสรวง ไหว้ครู โหมโรงในพิธีการ ประกอบถึงท่าเหาะเหินของตัวละคร

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ความสำคัญดังกล่าวนี้ กวีผู้แต่งบทละครร้อง จะกำหนดไว้ ท้ายบทกลอนแต่ละบท ว่ามีจำนวนคำ (คำกลอน) กี่คำ และใช้เพลงใดกำหนด ท่ารำของตัวละคร



&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ผู้เขียนจำได้ว่า เคยชมการแสดงโขนสด ของ กรมศิลปากร เรื่องรามเกียรติ เวลาผู้พากย์ ๆ จบในแต่ละละคำ (คำกลอน) จะลงท้ายด้วยคำว่า ... บัดนั้น.... เชิด.... วงปี่พาทย์ก็จะบรรเลงเชิด ตัวละครก็ร่ายรำไปตามจังหวะ และท่วงทำนองเพลงนั้น ๆ

&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp จากรายละเอียดที่กล่าวมาทั้งหมด ทำให้สังเกตได้ว่ากวีที่แต่งบทกลอนละครร้องนั้น ล้วนเป็นพระราชวงศ์ ชั้นสูงทั้งสิ้น ทั้งนี้เพราะการแสดงก็ตาม องค์ประกอบ ความรู้ ที่จะนำมาสอดใส่ไว้ในบทกลอนก็ตาม ล้วนเป็น ความรู้ของชนชั้นสูงศักดิ์ทั้งสิ้น

เครดิต : http://www.muslimthai.com/main/1428/content.php?page=sub&category=110&id=16017

0
POR-POR 13 ก.ค. 54 เวลา 17:01 น. 7

โอ๊ะ ๆ&nbsp  ขอบคุณค่ะ คห.6 :))
แต่เราต้องการแค่นั้นอ่ะค่ะ

อ่านหมดนี่เรามึนแน่ 5 55 5 5


PS.  
0
ggm 21 ก.ค. 55 เวลา 00:16 น. 9

ขอกลอนตอนที่อิเหนาลอบเข้าห่จินตะหรา มาหยารัศมี และนางสการะวาตีหน่อยค่ะ ขอบคุณ

0
นุ่น 29 มิ.ย. 56 เวลา 19:04 น. 10

บัดนั้น สองทูตทูลแจ้งแถลงไข
ข้าได้ยินตระหนักประจักษ์ใจ ท้าวดาหาตรัสใช้เสนี
ให้รีบไปแจ้งเหตุพระเชษฐา กับพาราสิงหัดส่าหรี
อนุชากาหลังธิบดี อีกบุรีระตูจรกา
เห็นกษัตริย์ทั้งสี่ธานีนั้น จะมาช่วยป้องกันกรุงดาหา
เมื่อวันข้าออกจากเมืองมา เสนาก็ไปพร้อมกัน



ช่วยแปลให้หน่อย

0