Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

นโยบาย และการแก้ปัญหาน้ำท่วม(ที่ล้มเหลว) ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

นโยบาย และการแก้ปัญหาน้ำท่วม(ที่ล้มเหลว) ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์


         รัฐบาลซึ่งนำโดยผู้หญิงคนแรก ที่ชื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นที่ทราบกันดีกว่า มาอย่างปัจจุบันทันด่วน มาอย่างไม่มีใครรู้จัก ทุกคนรู้จักเธอในนามสกุลชินวัตร และทราบโดยทันทีว่ามีพี่ชายนาม ทักษิณ ผู้ซึ่งแสดงตัวตนว่าต้องการกลับเข้ามามีอำนาจ ต้องการเงิน และทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนมา โดยไม่สนใจหรือเห็นหัวของประเทศไทยมานานหลายปี

         ความอุตสาหะที่ต้องการอยากเป็นใหญ่ของพี่ชาย จึงต้องมีโควต้าร่วมสายเลือดที่จะช่วยนำพาอดีตผู้นำคนนี้กลับประเทศ โดยมีหน้าที่หลัก คือล้างความผิดในคดีทุจริตคอรัปชั่นร่วมสิบคดี รวมถึงได้เงินคืนและกลับมาทวงอำนาจอีกครั้ง โควต้านั้นมาลงที่น้องสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ยอมทำเพื่อพี่ชาย แม้จะไร้ประสบการณ์อย่างชัดเจนตั้งแต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง

          ผมเห็นคุณยิ่งลักษณ์ครั้งแรก ในช่วงที่บริหารบริษัท SC asset ก็รู้จักเพียงแค่นั้น เมื่อมาลงสมัครเลือกตั้ง ผมอยากเห็นความสามารถของเธอมากกว่าการอ่านสคริปหาเสียง แต่เธอไม่ยอมดีเบตระหว่างผู้นำพรรคต่างๆ ทำให้ผมหมดสิทธิที่จะรู้ความคิดเห็น และไหวพริบภาวะผู้นำของเธอ นั้นเป็นครั้งแรกที่ผมไม่พอใจเธอ อย่างไรก็ตาม ในสภาวะนั้น คนไทยต่างจุดกระแสพากันเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย ทั้งคนที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลง ทั้งอยากเห็นผู้นำหญิงคนแรก แม้จะรู้ดีว่าเธอไม่มีประสบการณ์ ไม่มีความเป็นผู้นำ และไม่รู้จักเธอดีพอ แต่คนไทยเลือก เพราะรู้จักทักษิณ ชินวัตร นับเป็นความไว้วางใจครั้งยิ่งใหญ่ ถึง 15 ล้านเสียง ที่คนไทยอยากจะเลือกมานาน

         อย่างไรก็ตาม 15 ล้านเสียงในวันเลือกตั้ง กลับกลายเป็นการหมดความเชื่อมั่นอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน จะเป็นอย่างไร มาดูกันอาทิตย์ต่ออาทิตย์

         ช่วงแรกๆ รัฐบาลกำลังหลงระเริงในอำนาจสดๆร้อนๆ ส.ส.หน้าใหม่ๆที่เพิ่งเข้ามา มักอ้างว่าบ่อยครั้งว่าเสียงส่วนใหญ่ อยากทำอะไรก็ได้ แก้รัฐธรรมนูญก็ได้ แก้กฎหมายก็ได้ โยกย้ายใครก็ได้ และไม่มีใครมาห้ามได้ เพราะคนส่วนใหญ่เลือกเข้ามาแล้ว

          รัฐบาลจึงมัวแต่ง่วนอยู่กับการล้างความผิดให้กับทักษิณ ชินวัตร นำโดย ดร.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งหาวิธีการและสารพัดกฎหมายมาช่วยเอื้ออำนวยประโยชน์กับนายใหญ่ และเห็นจะเป็นนโยบายเร่งด่วนที่สุด ที่ไม่ได้ประกาศไว้ตอนหาเสียง

         เมื่อมาถึงนโยบายหาเสียงจริงๆกันบ้าง ว่าด้วยนโยบายที่ประกาศกันโครมคราม ค่าแรง 300 ปริญญาตรี 15,000 บาท โดยจะทำทันที ทั่วประเทศ คำว่า "ทำทันที" กลายเป็น 2-4 ปี และเป็นการตบหน้าประชาชนที่เลือกเข้ามาเพราะนโยบายนี้ นอกจากนี้ นโยบายที่ประกาศว่าจะ "ยกเลิกกองทุนน้ำมัน" ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน กลายเป็นการยกเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนชั่วคราว จนถึงปีหน้าก็ขึ้นราคาเท่าเดิมหรือแพงกว่าเดิมตามราคาน้ำมันโลก เป็นนโยบาย "แก้บน" ที่เรียกว่า "ฉันทำตามที่หาเสียงแล้ว" เพราะรู้ดีว่ามันส่งผลเสียต่อรัฐบาล จึงต้องยกเลิกชั่วคราว ไม่เหมือนที่เคยประกาศไว้ต่อประชาชน

         นโยบายรถคันแรก และบ้านหลังแรก เมื่อดูเงื่อนไขแรก ปรากฏว่า "ต้องมีเงินเดือนอยู่ในระบบภาษี 20,000 บาทขึ้นไป" แล้วเยี่ยงนี้ คนรากหญ้า คนที่ไม่จ่ายภาษีจะเข้าข่ายมีสิทธิได้อย่างไร หรือนโยบายเหล่านี้ มิได้ต้องการช่วยเหลือคนจนจริงๆ แถมต้องเสียงบประมาณโดยใช่เหตุไปกับเรื่องที่ไม่จำเป็น

         นโยบายรถไฟฟ้าฟรี 20 บาทตลอดสาย อันนี้ผมค่อนข้างชอบ คิดว่าจะทำทันที แต่สุดท้ายต้องสร้างรถไฟฟ้าให้ครบทุกสายเสียก่อน ซึ่งคงต้องรอจนแก่ไปอีกหลายอายุ จนป่านนั้นก็คงไม่ได้เห็นรัฐบาลชุดนี้แล้ว กลายเป็นนโยบายขี้โม้อีกนโยบายหนึ่ง และที่โม้ยิ่งกว่าคือ "บัตรเครดิตเกษตรกร" คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะนโยบายนี้ถูกยกเลิกไปแล้วโดยสิ้นเชิง และที่โม้ที่สุดคือ "ถมทะเล 1.8 ล้านล้านบาท" ถ้าตอนนี้เมืองไทยถมทะเลแล้ว น้ำท่วมตอนนี้ คงต้องรอจนรากงอกน้ำก็ยังไม่หมด

          อีกนโยบายที่สิ้นเปลืองและไม่เข้าท่าอย่างยิ่ง คือ แจกแท็ปเล็ตเด็ก ป.1 ประเด็นก็คือ เด็ก ป.1 ยังอ่านไม่ออก เขียนไม่คล่อง ทำไมไม่แจกในวัยที่เหมาะสมและจำเป็นจริงๆ เปลืองงบประมาณ ค่าไฟ ค่าซ่อม ค่าทำหาย แถมปัญหาเด็กติดเกม เด็กเขียนหนังสือไม่เป็น และอีกสารพัดปัญหาจะตามมา

         มาถึงนโยบายต้นกำเนิด "ดีแต่โม้" ที่ฮอตฮิตชั่วข้ามคืน "นโยบายจำนำข้าว 15,000 บาท" ซึ่งราคาข้าวสูงกว่าราคาตลาดโลก จนคิดว่าเราจะบังคับให้ต่างชาติซื้อในราคาที่เรากำหนดได้ แต่นั่นแหละครับ สุดท้ายต่างชาติจะหาลู่ทางไม่ซื้อข้าวไทย จนเราส่งออกข้าวไม่ได้ แถมรัฐบาลต้องเสียเงินร่วม 4 ล้านแสนในลักษณะขาดทุนยับเยิน รวมถึงชาวนาก็ไม่ได้ผลประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะโรงสีทั้งหลายเก็บเกี่ยวข้าวเพื่อรอขายต่อให้รัฐบาลแล้ว

         คราวนี้ มาพูดเรื่องกู้เงินกันบ้าง รัฐบาลชุดที่แล้วถูกกล่าวหาว่า "ดีแต่กู้" ก็คงจะเข้าใจว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันต้องหาเงินเก่งแน่นอน ไม่มีทางกู้เงินแม้แต่บาทเดียว แต่แค่ 2 เดือนมีข่าวรัฐบาลยิ่งลักษณ์เตรียมกู้เงินอีกมโหฬาร เริ่มด้วยการกู้เงินปีละ 2 แสนล้านบาท ถ้าครบเป็นรัฐบาลครบ 4 ปีก็รวม 8 แสนล้านบาท ปลายปี 2554 กู้เงินอุดหนุนกองทุนน้ำมัน 2 หมื่นล้านบาท ปี 2555 รมว.คลัง ประกาศจะกู้เงินอีก 7 แสนล้านบาท เพื่อทำตามนโยบายหาเสียง หลังน้ำท่วมปีนี้ เตรียมกู้ 8 แสนล้านบาท รองรับนิวไทยแลนด์ ซึ่งตอนนี้น้ำยังท่วมไม่หมด อาจจะยังต้องเสียหายมากกว่านี้ คิดป้องกันน้ำท่วมตอนนี้ก่อนคิดจะกู้เท่าไรดีกว่าไหม

          มาถึงจุดเริ่มต้นการล่มสลายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ นั่นคือจุดเริ่มต้นของภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และมาแจ๊คพอตที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทันที ช่วงแรกๆที่น้ำท่วม นายกไปเยือนประเทศบูรไนและกัมพูชา เราได้เห็น ส.ส.รัฐบาลกลุ่มใหญ่ ออกไปโชว์พลังเตะบอลกระชับมิตร พร้อมเข้าคารวะ คุกเข่าไหว้นายกฮุนเซนอย่างงาม ซึ่งท่านทั้งหลายคงรู้แก่ใจว่า น้ำท่วมเริ่มแล้ว ท่านยังไปเตะบอลที่กัมพูชา ละอายใจหรือไม่

         จนเมื่อน้ำเข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงจะกระตุ้นเซลล์เฉื่อยของคณะรัฐบาลที่มัวแต่หาผลประโยชน์ให้พวกพ้อง โยกย้ายข้าราชการ สนับสนุนเครือญาติ และช่วยเหลืออดีตผู้นำประเทศ มาเริ่มช่วยเหลือประชาชนกันอย่างจริงจังเสียที

         รัฐบาลนำโดยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ทุกคนพากันไปช่วยเหลือด้วยจิตอาสาไปสนามบินดอนเมือง แพ๊คถุงยังชีพ ที่มาด้วยใจ ทำด้วยใจอย่างแท้จริง แต่ภาพที่ออกมาเป็นระยะๆปรากฏว่า

1. ถุงยังชีพ มีการมีติดชื่อรัฐมนตรี และส.ส. หลายท่าน

2. อมของบริจาค ไม่ยอมแจกจ่ายให้ประชาชน จนกว่าจะได้รับอนุญาตจาก ส.ส.

3. เด็กเส้นเต็ม ศปภ. ชาวบ้านขอของบริจาค ไม่ยอมแจก นักการเมืองขอ เอาไปได้เลย

4. รถที่แจกจ่ายของบริจาค ติดชื่อว่า "ด้วยรักและห่วงใย จากทักษิณ ชินวัตร อีกทั้งรถยนต์ เรือพาย ข้าวสาร น้ำดื่ม ถุงยังชีพ ฯลฯ

5. ศปภ. ทิ้งของบริจาคจำนวนมาก เมื่อน้ำท่วมสนามบินดอนเมือง

         ภาพทั้งหลายที่ออกมานี้ ล้วนสร้างความ "ตาสว่าง" แก่ประชาชนจำนวนมาก จนประชาชนเริ่มไม่บริจาคให้ ศปภ. รวมถึงจิตอาสาทั้งหลายไปทำงานให้หน่วยงานอื่นแทน นับเป็นความล้มเหลว และวิกฤติศรัทธา หมดความเชื่อมั่นอย่างรุนแรงต่อรัฐบาลชุดนี้ กลายเป็นรัฐบาลที่เอาหน้า โกหกหลอกลวงประชาชน คิดหวังหาเอาผลประโยชน์ในช่วงที่ประชาชนกำลังประสบภัยพิบัติ เดือดร้อนอย่างหนัก แต่ ส.ส. หลายท่าน ยังแบ่งฝ่าย ช่วยเหลือหาเสียงในพวกเดียวกัน เอาของบริจาคไปให้ในนามของตนเอง ไม่มียางอาย และความละอายใจต่อบาปแม้แต่น้อย แน่นอนว่า ประชาชนเริ่มเห็นธาตุแท้และสันดานของรัฐบาลชุดนี้ออกมาเรื่อยๆ ทั้งฉาว และถูกแฉรายวัน ยังไม่รวมความไม่เป็นเอกภาพของ ศปภ. ที่แถลงการณ์ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนไม่สามารถจะเชื่อถือได้อีกต่อไป ภาคประชาชนจะต้องร่วมมือดูแลประชาชนด้วยกันเอง ไม่สามารถจะพึ่งรัฐบาลได้อีก นอกจากนี้ การแก้ปัญหาที่ล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง ถึงเวลาที่รัฐบาลจะพิจารณาตัวเองถึง ความไร้ประสบการณ์ ไร้ความสามารถ ไร้วุฒิภาวะความเป็นผู้นำ ใช้อำนาจและทำงานไม่เป็น เพียงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลืออดีตผู้นำ ที่กระหายในเงินและอำนาจ ต้องการกลับมาเป็นใหญ่เพียงเท่านั้น

         ผู้นำหญิงคนแรกของประเทศไทย กลายเป็นความหายนะของประเทศชาติ ที่ไม่สามารถปกป้องประเทศนี้ได้ อ่อนด้อยทั้งสติปัญญา ความสามารถ และมาดความเป็นผู้นำ มาจนตอนนี้ เห็นได้ชัดเหลือเกินว่า เธอไม่พร้อมตั้งแต่แรก และคิดผิดที่เข้ามาในตำแหน่งนี้ นายกรัฐมนตรี คือตำแหน่งของผู้ที่พร้อมทั้งคุณธรรม และความสามารถ ผู้มีจิตใจทำงานช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่ตำแหน่งของผู้ที่ทำงานช่วยเหลือเครือญาติและพวกพ้องของตนเอง


จาก ทำงานรับใช้แผ่นดิน

4/11/2554 เวลา 23.20 น.



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 10 พฤศจิกายน 2554 / 00:04

แสดงความคิดเห็น

>

27 ความคิดเห็น

บ้าบอ002 10 พ.ย. 54 เวลา 00:26 น. 1

เอิ่ม เราว่า น้ำท่วมน่ะคือ ภัยธรรมชาติตอนนี้เรื่องที่ต้องทำคือ ช่วยกัน ไม่ใช่รอ ใครคนใดคนหนึ่งมาช่วย มาแก้ไขเพราะมันคือปัญหาของประเทศไทย ประเทศที่เป็นของเราทุกคน ถ้ามัวแต่มาพูดว่า คนนั้นผิดอย่างนั้นอย่างนี้ มันก็คงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว มาช่วยกันคิดหาทางแก้ไข และทีสำคัญลงมือปฏิบัติกันก่อนจะดีไหม ดีกว่ามานั่งพูดว่าใครผิด
มันน่าจะดีกว่านะ&nbsp 

เพราะทุกวันนี้ปัญหามีเยอะมาก&nbsp อีกอย่างหนึ่ง ญี่ปุ่นเจอสึนามิเข้าไปเต็มๆ เขายังฟื้นตัวได้ในเวลาอันสั้น เพราะเขารู้ว่าเขาควรช่วยกันร่วมมือกัน&nbsp ดูสิทิ้งของทั้งหมดไปอยู่ศูนย์ต่างๆที่ัฐบาลจัดขึ้น

เขาทำได้เพราะเขาร่วมมือกัน ประเทศไทยยื่นมือเข้าไปช่วยเขายังปฎิเสธ&nbsp เข้าแถวรับของ&nbsp 

ดูประเทศเราสิ&nbsp รอความช่วยเหลืออย่าเดียว รอ ๆ ๆ ๆ ไม่คิดที่จะช่วยตัวเอง&nbsp 

นั่นแหละปัญหาใหญ่ ต้องแก้ที่บุคคลเปลี่ยนทัศนคติ


**** เปลี่ยนระบบการศึกษา การคิด การวิเคราะห์ รู้จักช่วยตัวเอง&nbsp สิ่งที่สำคัญและควรคำนึงถึงคือ ครู เพราะครูคือที่มาของทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นหมอ เป็น ดร. เป็นทหาร เป็นนายพล เป็นนายก&nbsp คนทุกคนต้องได้รับการศึกษา เพราะฉนั้น เราต้องช่วยกัน ร่วมมือกัน แก้ไข เข้าใจ ปรับปรุง เริ่มใหม่ ทำใหม่&nbsp อนาคตใหม่

เราไปทำค่ายจิตอาสาที่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ เชื่อไหม โคลนครึ่งบ้าน ชาวบ้านมีพละกำลังพอกลับนั่งดู ยืนดู เดินมาดู&nbsp กลุ่มของพวกเราตักโคลนเอาจากตัวบ้าน&nbsp ทั้งๆที่เป็นบ้านของเขาแท้ๆ ของยังนิ่งเฉย รอแต่คนอื่นมาช่วย นี่แหละ นิสัยส่วนใหญ่ของคนไทย


ในฐานะที่เราเรียนคณะครุศาสตร์ กล้าพูดได้เลยว่า มหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์&nbsp 

เราขอสาบานไว้ ณ ที่นี้ว่า เราจะปฏิบัติหน้าที่ของครูอย่างเต็มศักยภาพ อบรม สั่งนสอน ให้ลูกศิษย์เป็นคนดี และใช้ความรู้ในทางทีดี

เราจะสอนวิธีหาปลา และจะไม่หาปลามาให้นักเรียนของเราเด็ดขาดเพราะถ้าวันหนึ่งไม่มีใครหาอะไรให้นักเรียนของเราก็จะอดตาย

ครูนี่แหละคือจุดเปลี่ยนของทุกอย่าง



ประเทศฝรั่งเศส&nbsp  ครูอยู่สูงสุด นักกฏหมายอยู่รองลงมา เมื่อครูสอนให้เขาทำดี ทำเองทำเป็น เขาก็ทำแต่เรื่องที่ดี ไม่มีการยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผิดๆ&nbsp แต่ประเทศไทย ครู อยู่ต่ำสุด ไม่เห็นความสำคัญ&nbsp 

ลืมแล้วหรือ เธอเก่งมาจากใคร
&nbsp 
ปล.ไม่ได้นอกเรื่องนะ พูดถึงที่มาของปัญหาวุ่นๆ

0
อยากเห็นประเทศไทยเจริญ 10 พ.ย. 54 เวลา 00:32 น. 2

ไม่ไหวกับรัฐบาลนี้
เมื่อไหร่จะมีนักการเมืองที่ทำเพื่อประเทศจิงๆ ซะที

ไม่รู้น้ะนี้อยากเป็นความเห็นส่วนตัว อยากให้ทหารบริหารประเทศให้มากกว่า

0
คนไทย 10 พ.ย. 54 เวลา 05:40 น. 5

ไม่ว่าจะเป็นนายก รัฐบาล หรือ ประชาชนทั่วไป ก็ไม่มีใครรู้หรอกครับว่า
ตอนไหนที่ไหนน้ำมันจะท่วมบ้าง
เบื่อกับคนที่ชอบหาเรื่องนายกมาก พอเค้าประกาศให้ระวังเตรียมตัวยกของขึ้นที่สูง
พอน้ำไม่ท่วมก็ไปว่าเค้าว่าทำให้ตื่นตระหนก
พอเค้าไม่ได้ประกาศก็หาว่าเค้าทำงานไม่เป็น
พอเค้าตาแดง ก็ไปว่าเค้าร้องไห้อ่อนแอ
การ้องไห้ไม่ได้แสดงถึงการอ่อนแอเสมอไปหรอก ทุกๆคนต่างก็เคยร้องให้
การร้องไห้เป็นสิ่งที่เพศหญิงแสดงถึงความอ่อนโยนแต่ไม่ได้อ่อนแอ
เป็นเป็นเหตุการธรรมชาติที่ทุกๆไม่คาดคิดและไม่มีใครรู้ล่วงหน้าได้หรอก
ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ตาม...
สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือเราต้องรวมมือร่วมใจกันผ่านพ้นมันไปให้ได้
ไม่ใช่เอาแต่มานั้งจับผิดนู้นนิดนี้หน่อยเอาให้มันเป็นเรื่อง
เพียงแค่เพราะว่าคุณไม่ชอบเค้าหรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
เอาแต่พูดว่า การเมืองไทยแย่ อยากให้คนไทยรักกัน ไม่อยากให้แบ่งฝักแบ่งฝ่าย
การกระทำของคุณตอนนี้นะมันไม่ได้เรียกว่า แบ่งฝักแบ่ง ฝ่าย หรอครับ?





คหสต : )

0
มารโลหิต 10 พ.ย. 54 เวลา 07:55 น. 7

เห็นด้วยกับความคิดที่1
เมื่อก่อนนั้นคนไทยนับถือ ครู รองลงมาจาก พ่อ แม่
ครูใด้ชื่อว่าเป็น พ่อและแม่คนที่2.
ไม่ว่าตัวเองจะมีหน้าที่กานงานใหญ่โตแค่ใหน.
ก็ยัง เกรง กลัว เคารพ คุณครูที่เคยสอนเรามาตั้งแต่เล็ก
ปัจจุบัญ.  คนไทยส่วนใหญ่มองว่าครูเป็นแค่เรือจ้าง..เท่านั้น.
ทำไมถึงเป็นแบบนี้.
ระบบความคิดของคนไทยเปลี่ยนไป..เพราะอะไร
เราเข้าใจว่าคนทุกคนย่อมมีความสำนึก ชั่ว/ดี....
รู้สิ่งใหนดี/สิ่งใหนไม่ดี..
ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ดีแต่ทำไมถึงทำ...
พูดมามากพอแล้วแค่นี้แหละ....พูดต่อไปทั้งวันก็ไม่จบ..
.............บาย..........................


PS.  
0
Thaionly 10 พ.ย. 54 เวลา 08:46 น. 8

ว่าแล้ว...ยังไงๆสุดท้าย คนไทยก็จับผิดกันเอง
...ทีอย่างนี้รีบ ทีเรื่องช่วยกันเสียก่อนทำไมไม่ทำ
ขณะนี้อย่าไปมองว่าใครผิดใครถูก มันอยู่ที่ว่า มันจะผ่านไปได้อย่างไรต่างหาก
อย่าแตกคอกันเองตอนนี้ ใครผิดถูกชดใช้อะไรว่ากันทีหลัง
เพราะตอนนี้ แผ่นดินที่เราอยู่กำลังบอบช้ำ อย่าซ้ำเติมด้วยการทะเลาะกันต่อเลย

0
mono 10 พ.ย. 54 เวลา 10:09 น. 11
เราว่ามับปัญญาอ่อนไป เด็กประถมยังใช้แท้บเล็ตไม่เป็นหรอก เรายังงงเลย
คิดอะไรงี่เง่า
ใครที่เลือกมาก โปรดคิดใหม่ และกรุณาเลือกคนดีเข้าสภาดีกว่า!!
0
wirerat 10 พ.ย. 54 เวลา 12:36 น. 13

แต่เราว่าน้องเราชอบใช้แท้บเล็ทมากเลยนะ
ขนาดอยู่แค่ป.2
.
.
.
เราว่ามันเป็นแค่เรื่องไม่เป็นเรื่องที่ออกมา
โจมตีนายกมากกว่าที่มีแต่คนที่คิดอะไรงี่เง่า
เท่านั้นแหละที่ อิน

คหสต

0
Fujisaki Hitomi 10 พ.ย. 54 เวลา 13:23 น. 14

คห.1 ต่อให้จะมีประชาชนที่มีความสามารถแค่ไหนมาแก้ปัญหาก็แก้ไม่ได้หรอกค่ะ
ประชาชนธรรมดาไม่มีปัญญาที่จะสั่งการทหารเป็นหมื่นๆ นายหรอกค่ะ
ไม่มีปัญญาจะสั่งลูกน้องเป็นพันๆ คนให้มาทำงานให้ได้แบบที่เขาต้องการหรอกค่ะ
ผู้นำต่างหากที่ต้องเป็นคนตัดสินใจ (ไม่ว่ามีใครจะช่วยคิดซักกี่คนก็ตาม)

ผู้นำเป็นคนตัดสินใจค่ะ


PS.  Kagamine twins BANSAI !
0
อ้วยเอ๋ง 10 พ.ย. 54 เวลา 16:44 น. 15

ป้าขอบอก&nbsp &nbsp &nbsp  อิปลวกเกิดมาก็สตรอแล้ว&nbsp &nbsp เป็น หลานสาว-น้าชายตักขี้&nbsp พ่อเป็นคนง่าวสาบสูญ&nbsp จึงสมองกลวงให้ชาวไทยเดือดร้อนไง&nbsp  ถึงแอ๊บแบ๊วเป็นธรรมชาติสุดเดช&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เรย้า เรยา&nbsp  เรยาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

0
ThE PoP 11 พ.ย. 54 เวลา 14:28 น. 17

 แล้วเสียงส่วนน้อยที่ท่านว่า ไม่ใช่เสียงของประชาชน คนในชาติเดียวกันเหรอครับ


PS.  ทั้งชีวิตไม่คิดเป็นวีรบุรุษ แต่ก็สุดจะเห็นชาติพินาศสลาย..
0
Jackie Chan 11 พ.ย. 54 เวลา 21:25 น. 18
แต่เราสงสัยปกติหัวหน้าพรรคมิใช่หรือที่จะได้เป็นนายก แล้วเขาเป็นหัวหน้าพรรคตั้งแต่เมื่อไหร่
PS.  time and tide wait for no man
0
++>>Dark SaZa<<++ 11 พ.ย. 54 เวลา 22:16 น. 19

พอออกมาพูดความจริงก็หาว่าสร้างความแตกแยก...
แต่การที่เอาชื่อแปะของบริจาค แล้วไปแจกแต่พวกพื้นที่หัวคะแนน ไม่สร้างความแตกแยกเลย?
อาสาสมัครที่ไปช่วยศูนย์ดอนเมืองด้วยใจก็โดนบังคับใส่เสื้อแดง แบบนี้ไม่แตกแยกเลย?
ขอร้อง แหกตามาดูความจริงกันได้แล้วครับ
เจ็บบ้างไหม...สีข้างน่ะ


PS.  Frozen inside without your touch without your love darling...only you are the life among the dead...
0
มะลิ 12 พ.ย. 54 เวลา 18:00 น. 20

แต่เป็นเสียงส่วนน้อยที่ไม่ยอมรับเสียงของประชาชนส่วนใหญ่สินะ
หรือเรียกอีกอน่างว่าเสียงส่วน"เกรียน"
นายกสู้ๆค่ะ

0