มีคนเรียนหมอไม่ไหว จนต้องลาออกมั๊ยคะ
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
19 ความคิดเห็น
มี
แต่เราไม่อยากให้คนเหล่านี้มาเป็นตัวตัดสินเราเลยนะ คือ คนพวกนี้เลือกตามกระแส เลือกเพราะพ่อแม่ ไม่ได้ใจรักจริง
พอไปเจออุปสรรคยากๆ สิ่งที่จะยึดเหนี่ยวให้สู้ต่ออย่างคำว่ารักในวิชาชีพ รักในคณะมันไม่มี ก็เลยไม่สู้ต่อ
ส่วนใหญ่คนลาออก หรือซิ่วออกจากหมอ ไม่ใช่เรียนไม่ไหวหรอก แต่เป็นเพราะพึ่งจะเจอตัวเองว่าไม่เหมาะมากกว่า
คนที่สอบเข้าแพทย์ได้ คือคนที่มี potential ที่จะเรียนจบ และเป็นหมอได้ (ถึงการจบหมอ และเป็นหมอ จะยากกว่าการสอบเข้าก็เถอะ)
แต่ข้อสอบคัดคนเข้าหมอ มันก็มีความหมายอยู่ในตัวของมันนั่นแหล่ะ
สู้ๆนะ เราเข้าใจหัวอกคนป่วยวันสอบเป็นอย่างดี
ขอบคุณนะคะ ^__^
สอบเข้าว่ายากเข้าไปเรียนยากกว่าเยอะ เหมือนสอบกสพท.ทุกวัน
เรียนหมอต้องมีความเพียร เนื้อหาจะยากขึ้นเรื่อยๆๆตามลำดับชั้นปี ลองเสริชหาอ่านมีคนpost เยอะ
เวลานอนไม่ได้นอน กินเช้าตอนเที่ยง กินเที่ยงตอนค่ำ หาสามมื้อตามเวลาหายาก คิดให้ดีก่อนเรียนชาวบ้านชมว่าเก่งตอนสอบเข้า แต่เข้าไปเรียน โค ตรเหนื่อย ประกาศคะแนน ถ้าฐานไม่แน่จะมีเสียวตลอด ไม่เชื่อลองดู
สิ่งที่ง่ายที่สุดของการเป็นหมอคือการสอบเข้าค่ะ
ถ้าน้องมีความตั้วใจ มีพลังใจ ทำร่างกายให้แข็งแรง ต้องเป็นไปได้อยู่แล้วค่ะ
แต่หมอกว่าครึ่งสุขภาพแย่กว่าตอนเป็นนักเรียนธรรมดาค่ะ
...ถ้าน้องรู้อยู่แล้วว่าเป็นโรคอะไร เข้มงวดกับการป้องกันตัวเองให้มากขึ้น ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรงตามที่กสพท.กำหนดไว้ ก็ไม่มีปัญหาค่ะ
ก็มีอยู่ เหมือนหลายๆ คณะนะคะในความคิดเรา ถ้าเข้ามาไม่ไหว (แบบว่าไม่ไหวแล้ว จะตายแน่ๆ ) ก็ออก ถ้าคิดว่าลุยต่อให้ถึงที่สุดก็สู้ๆ ค่ะ
PS. ความหวังที่ริบหรี่ตอนนี้กลับส่องสว่างเจิดจ้ายิ่งกว่าดาวฤกษ์ใดๆ
แพทยสภามีสถิติว่าหมออายุเฉลี่ยสั้นกว่าตนอาชีพอื่น แค่ 60 เอง
ตอนแก่ เห็นโทรมมาก ป่วยกันเยอะ
อย่างที่ความเห็นบน ๆ บอกนั่นแหละ "สิ่งที่ง่ายที่สุดของการเป็นแพทย์ คือการสอบเข้าแพทย์"
PS. อ่านคำตอบแล้วช่วย กด เห็นด้วย หรือ ขอบคุณ สักนิดจะได้รู้ว่าอ่านแล้ว
หากมีความตั้งใจ และอยากจะเป็นแพทย์จริงๆ ก็เชื่อว่าจะต้องอดทนและพยายามไปถึงจุดหมายได้อย่างแน่นอน การเรียนแพทย์หนักเละเหนื่อย แต่ก็ไม่เกินความสามารถและความพยายามของคนๆหนึ่งอย่างแน่นอน ถ้ามีความตั้งใจอยากเป็นจริงๆ ก็ไม่มีอุปสรรคใดมาขวางได้ค่ะ สู้ๆนะคะ
มีค่ะ  เป็นเพื่อนเราเอง เรียนแพทย์ปี 4 จากที่หนึ่ง แล้วเขาคิดว่ามันไม่ใช่ แต่แม่ไม่ยอมให้ออก เขาก้ทนเรียนมาตลอดจนปี 4 เขาเกรดตกเรื่อยๆ เพราะเริิ่่มไม่ค่อยสนใจ ไปเที่ยวกลางคืน และตัดสินใจซิ่ว มา ม เอกชนเรา ถ้าถามเราจริงๆมันน่าเสียดายมาก
แต่ถ้าเรารู้ตัวว่ามันไม่ใช่ ก้ออกมาเถ๊อค่ะ อย่าฝืนต่อไป ก้จะเป็นแบบเพื่อนเรา สู้ๆ น่ะ่คะ
เรียนหมอ มีรุ่นพี่เป็น SLE ตอนนี้ใกล้จะจบแล้วค่ะ
ว่ากันว่าสอบเข้ายาก แต่ตอนเรียนยากกว่า จริงค่ะ เพื่อนๆตอนนี้ต่างก็ท้อใจ เหตุผลก็ต่างๆกันไป เช่น ไม่ได้พักผ่อน หน้าโทรม ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง และคนที่เรารัก แต่ละคนก็มีเหตุผลไม่เหมือนกัน แต่ถ้าน้องยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองเลือก ก็ทำเถอะค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ
มีจ้า เป้นปกติแหละ มีทุกปี
มีแน่นอนจริงๆ จ้ะ บางคนเรียนอยู่ปีสี่แล้วทนไม่ไหว (เพราะไม่ใช่ตัวตน) จนต้องลาออกมาขึ้นปีหนึ่งวิดยายังมีเลยนะ (ทางแพทยศาสตรืให้ใบปริญญามาให้อยู่เพราะเห็นว่าตั้งใจเรียน)
PS. วีรกษัตริย์ วีรสตรี บรรพบุรุษ ยอมเสียสละชีพเพื่อบ้านเมืองได้ แล้วเราล่ะกล้าทำเช่นนั้นเพื่อบ้านเมืองหรือเปล่า...?
เรากำลังอยากเป็นหมอแล้วก็รู้ว่า มันยาก
แต่เราคิดว่าเรามีแรงศรัทธาพอที่จะฝ่าอุปสรรคไปนะ
ไม่รู้ว่าหลงตัวเองหรือเปล่า แต่ถ้าคนเรามีแรงบันดาลใจอะไรๆ
ก็ทำได้หมดนั้น
PS. ไม่รู้เลยเธออยู่ที่ไหนกับใคร...แต่ขอให้เธอได้โปรดฟังไว้ว่าคนคนนี้นั้นรักเธอ
ถ้าร่างกายไม่ดีนี่ก็ ลำบากครับ
เพื่อนผม เป็นโรคภูมิแพ้ ขาดหาหมอบ่อย
พอเรียนไม่ทันก็เริ่มเครียด เข้าหน้าหนาว หอบ ไซนัส ไมเกรน มาพร้อมกันเลย
แล้วก็ออกไปตอนนั้นแหละ มันค่อนข้างจะเรียนยากนะหมอ
แล้วยิ่งร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงด้วยนี่ก็อันตราย เพราะมันก็มีผลเกี่ยวกับความเครียดมาก
เรื่องของเกรดด้วยเพราะ รูปแบบการเรียนหมอ มอเรามันเรียนเป็นบล๊อกๆ
ถ้าบล๊อกนี้ต่ำกว่าซี ก็ต้องกลับไปเรียนวิชานี้พร้อมน้อง แล้วก็ลงต่อไปอะไรไม่ได้ประมานนี้
ยิ่งแพทย์โอดอดนี่ยิ่งโคตรเซงเลย เพราะต้องใช้ทุนด้วยเวลาเรียนสองเท่า
เอาเป็นว่า ถ้าคิดว่ารับมือกับความเครียดขั้น อัลตร้า ไหว ด้วย สุขภาพที่ไม่ค่อยดีเท่าไร ก็สู้ๆครับ
แต่ดูท่า จขกท แบบว่า ไม่รุดิ โรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันประมานเลือดจาง หรือภูมิแพ้ไรงี้ มันก็ไม่น่าเสี่ยง
เพราะบางทีต้องเข้าแลคเชอแบบติดๆกัน สี่ห้าชั่วโมง ด้วยความกดดันสูง ขนาดคนปกติยังมี
จะอ้วก หน้ามืด คลื่นไส้ หรือบางที ถ้าวิชายากๆ ไฮเปอร์ขึ้นกลางห้องก็มี แล้วถ้าร่างกายไม่พร้อม
ก็กลัวจะอันตรายไปนะครับ
PS. ผ่านพ้นวันเลวร้าย ร่างกายก็ยังมีแผลมากมาย ถึงแม้ไม่ตายก็เหมือนต้องตายทั้งเป็น วันนี้ยังจดจำ เรื่องราวที่กายบอบช้ำเจียนตาย ที่ล้มทั้งยืน แต่ฝืนให้กายสู้ไป
เราอยู่แพทย์ ‘ม.เอกชน’ นะแต่เราดันเป็นdepressionจนอ.บอกให้ดรอปตั้งแต่’ปี1’อะคืออะไรง่ายสำหรับคนอื่นบางทีมันยากสำหรับเราแหะ เราเข้าโรงบาลไปสองครั้งเพราะทำร้ายร่างกายตัวเอง ที่บ้านบอกให้เราไปเรียนอย่างอื่นแทนอย่างพวกศิลปะที่เราถนัดมากกว่า แต่พอดรอปมาทบทวนตัวเองเราได้เจอกับคนไข้ในวอร์ดอะพบว่าพวกเค้าหนักกว่าเราเป็นร้อยเป็นพันเท่า เราอยากช่วยเหลือพวกเค้าเพราะเรารู้ว่าโรคนี้แม่งทรมาน ต่อให้มีอุปสรรคในการเรียนเช่นเราได้คะแนนไม่ดี เรียนยาก ไม่ได้พัก ในวันข้างหน้าเราไม่หวั่นแล้วแหละเพราะเรารักจริงยกเว้นถ้าเราเรียนเกิน12ปีนั่นแหละเราถึงค่อยพิจารณาตัวเอง เข้ามายังไงก้อเรียนจบค่ะแค่คุณรักษาจิตใจอันแน่วแน่ของคุณไว้ ยกเว้นแต่คุณพบว่าไม่ใช่ทางก้อไปเรียนคณะอื่นเถอะค่ะเป็นหมอมันไม่สบายนะคะ ใจคุณต้องรักจริงค่ะ (เข้ามาเวิ่นชีวิตตัวเองแล้วจากไป)
ฆ่าตัวตายก็มี ปีนี้ก็เป็นข่าวดัง เอาคอมเพรสเซอร์ผูกขา แล้วโดดน้ำตาย
ที่ไม่เป็นข่าว มีสารพัดนะ ถ้าพื้นฐานไม่ดี ใจสู้ มีทั้งสู้ได้ ไปรอด
สู้ไม่ไหว ลาออก สู้ไม่ไหว จิตตก ฯลฯ
แต่ถ้าพื้นฐานดี ใจไม่สู้ ก็อยู่ไม่ค่อยรอดเหมือนกัน
เยอะจนนีบนิ้วไม่ไหวเลยแหล่ะ อีกหนู
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?