ความภาคภูมิใจของคนเรียน "ราชภัฎ"
คนเรียนที่ "ราชภัฎ" คุณทุกคนควรภาคภูมิใจ
เพราะคุณคือ "คนของพระราชา"
หลายๆคนคงเคยได้ยินคำพูดดูถูก วิพากษ์วิจารณ์พาดพิงถึงสถาบัน"ราชภัฎ"
เคยได้ยินคำพูดดูถูกเกี่ยวกับคนที่เรียนในมหาวิทยาลัยราชภัฎต่างๆเอาไว้
ถึงเรื่องสิ่งที่ไม่ดีหรือสิ่งที่ไม่สมควรอะไรก็ตามเเต่เกี่ยวโยงกับชื่อเสียงของสถาบัน
ซึ่งสิ่งที่มันไม่ดีเเละเป็นสิ่งที่หลายๆคนดูถูกมานั้นมันไม่เกีี่่ยวกันเลยกับชื่อเเละตัวของสถาบัน
แต่มันเกี่ยวกับหลักสูตรและการบริหารงานของผู้บริหารสถาบันนั้นๆต่างหาก
ดังนั้นจึงไม่อยากให้ไปเหมารวมถึงชื่อเสียงเเละตัวสถาบัน
มีคนเคยพูดไว้ว่า
"เรียนราชภัฎ ไม่น่าภูมิใจเท่าไหร่หรอก สู้ที่อื่นๆก็ๆไม่ได้ ไปเรียนที่เอกชนดีกว่า ที่จะเรียนที่ราชภัฎ"
เเต่เมื่ิอผมได้รู้จักคนๆหนึ่งที่เขาสอบติดในมหาวิทยาลัยราชภัฎ เขาบอกกับผมถึงความภาคภูมิใจและความรู้สึกดีของเขาที่สอบติดในมหาวิทยาลัยราชภัฎของเขาว่า
"เราภูมิใจที่เราจะได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย "ราชภัฎ" ซึ่งนามนี้ได้รับพระราชทานจากพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งมีความหมายว่า "คนของพระราชา"
และที่สำคัญยังได้รับพระราชทานตราพระราชลัญจกรประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเป็นตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยอีกด้วย
ดังนั้นเราจะขอกล่าวว่าเเละขอตอบกลับคนที่ดูถูกมหาวิทยาลัยของเราว่า
"คนที่ดูถูกมหาวิทยาลัยราชภัฎเท่ากับคนๆนั้นดูถูก "คนของพระราชา"
หลังจากที่ได้ฟังความรู้สึกของคนๆนี้เเล้ว ตัวผมเองก็รู้สึกเสียดายแทนเพื่อนๆน้องๆนักศึกษาของสถาบัน "ราชภัฎ" ที่ต่อไปในอนาคต หลายๆมหาวิทยาลัย "ราชภัฎ" จะไม่มีคำว่า "ราชภัฎ" ในชื่อของสถาบันอีกต่อไปเเล้ว
ซึ่งมีข่าวออกมาว่าผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ หลายๆท่านได้ออกมาบอกว่ามันไม่เกี่ยวกับเรื่องของ "นามพระราขทาน"
เเต่สาเหตุที่เปลี่ยนชื่อเเละนำคำว่า "ราชภัฎ" ออกนั้นเพราะเรื่องตัวบทกฏหมายนั่นเอง
ซึ่งในข้อนี้ผมก็คิดว่ามันเป็นในเรื่องตรงนั้น เเต่สิ่งที่จะกล่่าวต่อไปนี้คือ
ความเป็น "ราชภัฎ" ที่ยังคงอยู่เเละนักศึกษาทุกคนควรจะจดจำเเละนึกอยู่เสมอว่า ตนเองศึกษาอยู่ ณ.สถานที่ ที่ได้ชื่อว่าเป็น สถาบันที่ได้รับ "นามพระราชทาน"
และ ตนเองเป็น "คนของพระราชา"
ทุกๆคนควรปฏิบัติตนให้เป็นคนดีของสังคม คนดีของประเทศชาติ สืบต่อๆไป
ในอนาคตผมไม่สามารถที่จะทราบได้ว่ามหาวิทยาลัย "ราชภัฎ" จะยังคงเป็น "ราชภัฎ" อยู่หรือเปล่า
เเต่อย่าลืมว่าไม่ว่ามหาวิทยาลัยจะเปลี่ยนชื่อหรือนำเอาคำว่า "ราชภัฎ" ออกจากชื่อมหาวิทยาลัย
เเต่นักศึกษาก็ควรจะเตือนตนเสมอว่าตนก็คือ "คนของพระราชา"
ผู้ที่จะจบการศึกษามาเเล้วมาทำงานเพื่อส่วนรวม เพื่อคนอื่นๆ เหมือนที่
พระราชาของเราได้ทำ....มาตลอด 66 ปี
แม้ตัวผมเองจะไม่ได้ศึกษาในสถาบันอันได้ชื่อว่า "ราชภัฎ"
เเต่ผมก็เคยได้มีโอกาสได้เข้าศึกษาในสถาบัน "ราชมงคล"
ซึ่งมีความหมายว่า "สถาบันอันเป็นมิ่งมงคลแห่งพระราชา"
ผมจึงมีความภูมิใจอย่างยิ่งว่าทุกๆคนควรมีความเคารพและให้เกียตริแก่สถาบันของตนและสถาบันของผู้อื่นด้วย
>>>Panjapon Kamsajja
PS. ในหนึ่งชีวิตของคนเราการได้เป็นคนรักเเละการได้รักใครสักคนมันก็เพียงพอเเล้ว
1 ความคิดเห็น
เศรษฐกิจแบบพอเพียง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเข้าพระราชหฤทัยในความเป็นไปของเมืองไทยและคนไทยอย่างลึกซึ้งและกว้างไกล ได้ทรงวางรากฐานในการพัฒนาชนบท และช่วยเหลือประชาชนให้สามารถพึ่งตนเองได้มีความ " พออยู่พอกิน" และมีความอิสระที่จะอยู่ได้โดยไม่ต้องติดยึดอยู่กับเทคโนโลยีและความเปลี่ยน แปลงของกระแสโลกาภิวัฒน์ ทรงวิเคราะห์ว่าหากประชาชนพึ่งตนเองได้แล้วก็จะมีส่วนช่วยเหลือเสริมสร้าง ประเทศชาติโดยส่วนรวมได้ในที่สุด พระราชดำรัสที่สะท้อนถึงพระวิสัยทัศน์ในการสร้างความเข้มแข็งในตนเองของ ประชาชนและสามารถทำมาหากินให้พออยู่พอกินได้
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?