Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ช่วยสรุปบทความสามัคคีเภทคำฉันท์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ใครก้อได้ช่วยหนูสรุปที่ถอดคำประพันธ์แล้ว ให้สรุปให้ได้ใจความสำคัญ ๆ ได้ไหม
มีบทความดังต่อไปนี้
"พราหมณ์ผู้ฉลาดคาดคะเนว่ากษัตริย์ลิจฉวีวางใจคลายความหวาดระแวง  เป็นโอกาสเหมาะที่จะเริ่มดำเนินการตามกลอุบายทำลายความสามัคคี  วันหนึ่งเมื่อถึงโอกาสที่จะสอนวิชา   กุมารลิจฉวีก็เสด็จมาโดยพร้อมเพรียงกัน  ทันใดวัสสการพราหมณ์ก็มาถึงและแกล้งเชิญพระกุมารพระองค์ที่สนิทสนมเข้าไปพบในห้องส่วนตัว  แล้วก็ทูลถามเรื่องที่ไม่ใช่ความลับแต่ประการใด ดังเช่นถามว่า ชาวนาจูงโคมาคู่หนึ่งเพื่อเทียมไถใช่หรือไม่  พระกุมารลิจฉวีก็รับสั่งเห็นด้วยว่าชาวนาก็คงจะกระทำดังคำของพระอาจารย์  ถามเพียงเท่านั้นพราหมณ์ก็เชิญให้เสด็จกลับออกไป  ครั้นถึงเวลาเลิกเรียนเหล่าโอรสลิจฉวีก็พากันมาซักไซ้พระกุมารว่าพระอาจารย์เรียกเข้าไปข้างใน ได้ไต่ถามอะไรบ้าง ขอให้บอกมาตามความจริง  พระกุมารพระองค์นั้นก็เล่าเรื่องราวที่พระอาจารย์เรียกไปถาม  แต่เหล่ากุมารสงสัยไม่เชื่อคำพูดของพระสหาย  ต่างองค์ก็วิจารณ์ว่าพระอาจารย์จะพูดเรื่องเหลวไหลไร้สาระเช่นนี้เป็นไปไม่ได้  และหากว่าจะพูดจริงเหตุใดจะต้องเรียกเข้าไปถามข้างในห้อง ถามข้างนอกห้องก็ได้  สงสัยว่าท่านอาจารย์กับพระกุมารต้องมีความลับอย่างแน่นอน  แล้วก็มาพูดโกหก  ไม่กล้าบอกตามความเป็นจริง  แกล้งพูดไปต่าง ๆ นานา  กุมารลิจฉวีทั้งหลายเห็นสอดคล้องกันก็เกิดความโกรธเคือง  การทะเลาะวิวาทก็เกิดขึ้นเพราะความขุ่นเคืองใจ  ความสัมพันธ์อันดีที่เคยมีมาตลอดก็ถูกทำลายย่อยยับลง
  เวลาผ่านไปตามลำดับ เมื่อถึงคราวที่จะสอนวิชาก็จะเชิญพระกุมารพระองค์หนึ่ง  พระกุมารก็ตามพราหมณ์เข้าไปในห้องเฉพาะ  พราหมณ์จึงถามเนื้อความแปลก ๆ ว่า ขออภัย ช่วยตอบด้วย อย่าหาว่าตำหนิหรือลบหลู่  ครูขอถามว่าวันนี้พระกุมารเสวยพระกระยาหารอะไร รสชาติดีหรือไม่ พอพระทัยมากหรือไม่ พระกุมารก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับพระกระยาหารที่เสวย  หลังจากนั้นก็สนทนาเรื่องทั่วไป  แล้วก็เสด็จกลับออกมายังห้องเรียน  เมื่อเสร็จสิ้นการสอนราชกุมารลิจฉวีทั้งหมดก็มาถามเรื่องราวที่มีมาว่าท่านอาจารย์ได้พูดเรื่องอะไรบ้าง  พระกุมารก็ตอบตามความจริง  แต่เหล่ากุมารต่างไม่เชื่อ  เพราะคิดแล้วไม่สมเหตุสมผล  ต่างขุ่นเคืองใจด้วยเรื่องไร้สาระเช่นเดียวกับพระกุมารพระองค์ก่อน  และเกิดความแตกแยกไม่คบกันอย่างกลมเกลียวเหมือนเดิม
  พราหมณ์เจตนาหาเหตุยุแหย่ซ้ำเติมอยู่เสมอ ๆ  แต่ละครั้ง แต่ละวัน นานนานครั้ง  เห็นโอกาสเหมาะก็จะเชิญพระกุมารเสด็จไปโดยไม่มีสารประโยชน์อันใด  แล้วก็แกล้งทูลถาม  บางครั้งก็พูดว่า นี่แน่ะข้าพระองค์ได้ยินข่าวเล่าลือกันทั่วไป  เขานินทาพระกุมารว่าพระองค์แสนจะยากจนและขัดสน  จะเป็นเช่นนั้นแน่หรือ  พิเคราะห์แล้วไม่น่าเชื่อ  ณ ที่นี้ไม่มีผู้ใด ขอให้ทรงเล่ามาเถิด  บางครั้งก็พูดว่าข้าพระองค์ขอทูลถามพระกุมาร  เพราะได้ยินเขาเล่าลือกันทั่วไปเยาะเย้ยดูหมิ่นท่าน  ว่าท่านนี้มีร่างกายผิดประหลาดต่าง ๆ นานาจะเป็นจริงหรือไม่  ใจไม่อยากเชื่อเลยเพราะไม่เห็น   ถ้าหากมีสิ่งใดที่ลำบากยากแค้นก็ตรัสมาเถิด
               พระกุมารได้ทรงฟังเรื่องที่พระอาจารย์ถามก็ตรัสถามกลับว่า  สงสัยเหลือเกินเรื่องไม่สมควรเช่นนี้ท่านอาจารย์จะถามทำไม  แล้วก็ซักไซ้ว่าใครเป็นผู้มาบอกกับอาจารย์  พราหมณ์ก็ตอบว่าพระกุมารพระองค์โน้นตรัสบอกเมื่ออยู่กันเพียงสองต่อสอง  กุมารพระองค์นั้นไม่ทันได้ไตร่ตรอง  ก็ทรงเชื่อในคำพูดของอาจารย์  ด้วยความวู่วามก็กริ้วพระกุมารที่ยุพระอาจารย์ใส่ความตน   จึงตัดพ้อต่อว่ากันขึ้น  เกิดความโกรธเคืองทะเลาะวิวาทกันอยู่เสมอ  ฝ่ายพระกุมารที่พราหมณ์ไม่เคยเรียกเข้าไปหาก็ไม่พอพระทัยพระกุมารที่พราหมณ์เชิญไปพบ  พระกุมารลิจฉวีหมางใจและเหินห่างกัน  ต่างองค์ทะนงว่าพระบิดาของตนมีอำนาจล้นเหลือ  จึงมีใจกำเริบไม่เกรงกลัวกัน
ในขณะนั้นวัสสการพราหมณ์ก็คอยยุลูกศิษย์  แต่งกลอุบายให้เกิดความแคลงใจ  พระโอรสกษัตริย์ลิจฉวีทั้งหลายไตร่ตรองในอาการน่าสงสัยก็เข้าใจว่าเป็นจริงดังถ้อยคำที่อาจารย์ปั้นเรื่องขึ้น  ไม่มีเหลือเลยสักพระองค์เดียวที่จะมีความรักใคร่กลมเกลียว  ต่างขาดความสัมพันธ์ เกิดความเดือดร้อนใจ  แต่ละองค์นำเรื่องไม่ดีที่เกิดขึ้นไปทูลพระบิดาของตน  ความแตกแยกก็ค่อย ๆ ลุกลามไปสู่พระบิดา  เนื่องจากความหลงเชื่อโอรสของตน  ปราศจากการใคร่ครวญเกิดความผิดพ้องหมองใจกันขึ้น  ฝ่ายวัสสการพราหมณ์ครั้นเห็นโอกาสเหมาะสมก็คอยยุแหย่อย่างง่ายดาย  ทำกลอุบายต่าง ๆ พูดยุยงตามกลอุบายตลอดเวลา  เวลาผ่านไปประมาณ ๓ ปี  ความร่วมมือกันระหว่างกษัตริย์ลิจฉวีทั้งหลายและความสามัคคีถูกทำลายลงสิ้น  ความเป็นมิตรแตกแยก ความเสื่อม ความหายนะก็บังเกิดขึ้น กษัตริย์ต่างองค์ระแวงแคลงใจ  มีความขุ่นเคืองใจซึ่งกันและกัน
พราหมณ์ผู้เป็นครูสังเกตเห็นดังนั้น  ก็รู้ว่าเหล่ากษัตริย์ลิจฉวีกำลังจะประสบความพินาศ  จึงยินดีมากที่ภารกิจประสบผลสำเร็จสมดังใจ  หลังจากเริ่มต้นด้วยความบากบั่นและความอดทนของตน  จึงให้ลองตีกลองนัดประชุมกษัตริย์ฉวี  เชิญทุกพระองค์เสด็จมายังที่ประชุม  ฝ่ายกษัตริย์วัชชีทั้งหลายทรงสดับเสียงกลองดังกึกก้อง  ทุกพระองค์ไม่ทรงเป็นธุระในการเสด็จไป  ต่างองค์รับสั่งว่าจะเรียกประชุมด้วยเหตุใด  เราไม่ได้เป็นใหญ่ ใจก็ขลาด ไม่กล้าหาญ  ผู้ใดเป็นใหญ่ มีความกล้าหาญไม่มีผู้ใดเปรียบได้ พอใจจะเสด็จไปร่วมประชุมก็เชิญเขาเถิด  จะปรึกษาหารือกันประการใดก็ช่างเถิด  จะเรียกเราไปประชุมมองไม่เห็นประโยชน์ประการใดเลย   รับสั่งให้พ้นตัวไป  และทุกพระองค์ก็ทรงเพิกเฉยไม่เสด็จไปเข้าร่วมการประชุมเหมือนเคย
เมื่อพิจารณาเห็นช่องทางที่จะได้ชัยชนะอย่างง่ายดาย  พราหมณ์ผู้รอบรู้พระเวทก็ลอบส่งข่าว  ให้คนสนิทเดินทางกลับไปยังบ้านเมือง  กราบทูลกษัตริย์แห่งแคว้นมคธอันยิ่งใหญ่  ในสาสน์แจ้งว่ากษัตริย์วัชชีทุกพระองค์ขณะนี้เกิดความแตกแยก แบ่งพรรคแบ่งพวก ไม่สามัคคีกันเหมือนแต่เดิม  จะหาโอกาสอันเหมาะสมครั้งใดเหมือนดังครั้งนี้คงจะไม่มีอีกแล้ว  ขอทูลเชิญพระองค์ยกกองทัพอันยิ่งใหญ่มาทำสงครามโดยเร็วเถิด


ช่วยหนูด้วยนะค่ะ เพราะอ.สั่งมาแล้วสรุปไม่ได้เลย อ่านมา 10 รอบแล้ว ไม่เข้าใจเลยค่ะ ขอด่วน ๆ หน่อยน่ะค่ะ เพราะต้องส่ง อ.

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

rabbitalone 18 ก.ย. 59 เวลา 19:39 น. 1


ในหนังสือ ม.6 ก็มีเรื่องย่อหรอสรุปมาให้แล้วไม่ใช่หรอครับ

ป.ล. อยู่ ม.6 เปล่าหว่าาา

1
Amaot-suot 11 ม.ค. 62 เวลา 15:47 น. 1-1

หนังสือที่เราหนังสือไม่มีครับเนื้อย่อเลย

0