10 อาชีพ 10 คณะยอดฮิตที่เรียนแล้วไม่ตกงานมีงานทำในอานาคต ตวามต้องการสูง (ไม่ล้นตลาด) ตามเทรนอาเซียน
ทุกอาชีพนับจากปี 2555 เป็นต้นไป
อ้างอิงจากส่วนหนึ่ง http://www.dek-d.com/content/admissions/28111/8-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%AE%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99-2558-.php
วิชาชีพ 10 คณะ 10
หมอ >>> ต้องเรียนคณะแพทยศาสตร์เท่านั้น + +
พยาบาล >>> คณะพยาบาลศาสตร์
ทันตแพทย์ >>>พวกหมอฟัน
วิศวกร >>> คณะวิศวกรรมศาสตร์ ในที่กำลังฮิตคือสาขาธรณี /นักสำรวจสร้างถนน
สถาปนิก >>คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
การโรงแรม /บัญชี
อาหาร ธุรกิจสปา >> ธุรกิจสปานิยมเรียนผ่านคณะแพทย์แผนไทยนะ
นักวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์ >> เนื่องจากประเทศไทยต้องการการพัฒนาด้านอุตุนิยมวิทยาอย่างมากจึงต้องมีบุคคลกรด้านนี้มาช่วยพัฒนาให้การพยากรณ์ในประเทศไทยพัฒนาแล้วคาดการณ์อากาศได้แม่นยำึขึ้น อาชีพสุดท้ายคือ >>\
นิติศาสตร์>>> เพราะนับวันนี้เมื่อเข้าอาเซียนประเทศเราต้องการบุคคลากรด้านนี้มากขึ้น เพื่อเป็นหัวคิดกันประเทศอื่นมาแทรกแซง ...
ส่วนอาชีพที่คาดว่าจะล้นตลาดในอีก 4 ปีข้าง
หน้านับจาก ปี 2555
1. เภสชัศาสตร์ เพราะอัตราการผลิตนักศึกษาที่มากเกินความต้องการ ต่อจำนวนอัตราบรรจุ โดยตำแหน่งงานในกรุงเทพส่วนใหญ่เต็ม ส่วนต่างจังหวัดก็คาดว่าจะเต็มในปี 2557 เพราะต้องแข่งกับประเทศอื่นด้วย พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ก็จบแล้ว!
2. เทคนิคการแพทย์ สาขาเทคนิคการแพทย์ เนื่องจากอาชีพนี้มีตำแหน่งบรรจุน้อย แต่อัตราการรับนักศึกษาเยอะมาก เปิดหลายที่อัตราการแย่งงานก็สูงตาม
3. สาธารณสุขศาสตร์
4. วิทยาศาสตร์
แต่อาชีพอะไรก็แล้วแต่ถ้าม่เลือกงานก็มีงานทำหมดแหละ แต่อาจได้ไปอยู่ไกลจากบ้านเกิด ซึ่งส่วนใหญ่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าบางครั้งก็ต้องเลือกงานเพื่อให้เหมาะสมกับฐานะของตนเอง >>ตามความหมายของเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงที่กล่าวว่า
>>"ที่เราพูดว่าเศรษฐกิจพอเพียงหมายถึง ให้ใช้อย่างเหมาะสมกับฐานะของตนเอง อย่าน้อยเกินไป และมากเกินไปตามฐานะตนเอง "
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 29 สิงหาคม 2555 / 09:50
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 29 สิงหาคม 2555 / 09:51
54 ความคิดเห็น
ความเห็นส่วนตัว นิติศาสตร์เอาจริงๆนะครับหางานยากมากๆจบมาเยอะจริงแต่คนทำงานด้านนี้มีไม่มากเพราะหางานยาก ส่วนการเปิดประชาคมอาเซียนถ้าจะบอกว่าต้องการนักกฎหมายเพิ่มมันไม่น่าจะเกี่ยวครับเพราะส่วนราชการก็รับคนเท่าเดิม ถ้าจะพูดถึงกฎหมายระหว่างประเทศ ประเทศอื่นเค้าก็มีนักกฎหมายเยอะครับ
ส่วนวิศวะก็เอาจริงตกงานแน่ครับ (คหสต) ดูจากอัตราการเพิ่มมากขึ้น
เอาจริงๆสุดท้ายไม่ว่าจบอะไรถ้าไม่เลือกงานก็ไม่ตกงานหรอกครับ เรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ
หรอ!!รู้ขนาดนั้นเลยหรอว่าเรียนนิติแล้วตกงานอะ ได้มาเรียนรึยังทำมาเป็นรู้ดี...
เรียนนิติไม่ตกงานเสมอไปคะ
สำหรับคนตั้งใจจริงๆ เราคิดว่ามหาลัยก็มีบริษัททนายต่างๆลองรับนักศึกษาแต่ใครที่จะเป็นอัยการผู้พิพากษามีความมั่ใจในตนเองก็พอตั้งใจอ่านหนังสือไม่มีอะไรยากแน่นอนคะ
ส่วนเจ้าของความคิดเห็นถ้าไม่รู้อย่าพูดดีกว่าคะ
บั่นทอดความตั้งใจของคนอื่นหมด
เอาจริงๆนะ บัญชี ถาปัด วิวะ แถวบ้านเราตกงานเยอะอ่ะ O_o"
แล้วแถวบ้านเรา ไม่นิยมทำงานเอกชน แล้วงาน ราชการ แถวบ้านเราก็พวกตาม อบตไรงี้
จะรับวุฒ ป.ตรี ที่ละคนสองคน แบบว่า ขรก ระดับ 3 ให้มีสายงานละคน
ส่วนคนอื่น ถึงจบ ป.ตรีมา ก็ต้องไช้วุฒ ปวส หรือ อนุปริญญา
มาสมัครเป็น ขรก ระดับ 2 แทน เพื่อให้ตัวเองมีงานทำที่มั่นคง
ส่วนคนที่รับสภาพไม่ได้ แบบว่า จบตั้ง ปตรี แต่บรรจุ ระดับ 2 ก็ตกงาน
นานๆที ค่อยจะมีพวกรับเหมามาจ้าง งานใหญ่ๆ พอหมดงานก็ไม่ได้ทำอะไร
ผมว่าวิศวกรไม่ตกงานแน่นอน
ถ้าเป็นอาเซียนเมื่อไร อาเซียนจะกลายเป็นฐานการผลิตอันดับ 2 ของโลก รองจากแค่จีน
อย่างของไทยเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ กับฮาร์ดดิสก์อันดับ 1 ของโลก
แล้ววิศวกรเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมการผลิต ถ้าวิศวกรตกงานเมื่อไรแสดงว่าเศรษฐกิจโลกล้มละลายทั่วโลกแล้วล่ะครับ
เราเรียนหมอฟันนะ เราว่า อาชีพอะไรๆ ถ้าเก่งจริง ก็ไม่ตกงานหรอก
อีกอย่าง เมืองไทยเรา ทำเลดี อยู่ตรงกลาง ทรัพยากรเยอะ
ถ้าภาษาอังกฤษพวกเราดีขึ้นนะ เราว่า ดีไม่ดี เมืองไทยอาจเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจเอเชียอีกแห่งเลยอะ
ปล. แต่ห้าม คอร์รัปชั่นนะ ถ้ายังมีเยอะละก็ ประเทศพังแน่
พี่สาวเรียนหมอฟันที่ไหนหรอค่ะ
ค่อนข้างจะมั่นใจว่า คนทำอันดับ สับสนคำว่า "ไม่ได้บรรจุ" กับ "ไม่มีงานทำ"
PS. ผ่านพ้นวันเลวร้าย ร่างกายก็ยังมีแผลมากมาย ถึงแม้ไม่ตายก็เหมือนต้องตายทั้งเป็น วันนี้ยังจดจำ เรื่องราวที่กายบอบช้ำเจียนตาย ที่ล้มทั้งยืน แต่ฝืนให้กายสู้ไป
อาชีพนักกฎหมาย ถ้ามองดีๆ มันไปได้หลายทาง การเป็นนักกฎหมายจริงๆมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นทนายความ อัยการ ผู้พิพากษา หรือเข้าราชการ อย่างเดียว
เพราะอาเซียน นอกจากรัฐเป็นฝ่ายได้ประโยชน์และผลกระทบแล้ว ยังมีเอกชนด้วยก็เช่นกัน
อันที่จริงๆ มันมีหลายทางๆมาก แต่มันนึกไม่ถึง มองแต่มุมแคบจริงๆ เพราะทุกองค์กรล้วนก็แต่ต้องการนักกฎหมายมาช่วยเหลือ ไม่จำเป็นต้องภาครัฐ ซึ่งอาจจะทำในรูป ที่ปรึกษา นักวิชาการ จนท.ที่ดูแลผลปรโยชน์องค์กรรวมถึงเอกชน
แต่ด้วยความที่คนมันเรียนเยอะขึ้นกับอัตราส่วนแหล่งงาน มันอาจจะไม่สมดุลกันครับ ที่เรียนๆแล้วไปทำอย่างอื่นก็เยอะ เพราะกว่าจะได้ออกมาฝึกงาน
นอกจากชั้นปริญญาตรีแล้ว ส่วนใหญ่ศึกษาต่อเนติบัณฑิต ปริญญาโท ทนายความฯลฯ เพื่อเพิ่มหนทางและโอกาสให้กับตัวเอง จึงต้องใช้เวลานานกว่าวิชาชีพอื่น หรืออาจจะพอๆกับวิชาชีพอื่น
อืม จะว่าไม่ตกงานมันก็ไม่เชิงนะ อย่าลืมว่าทั้ง 10 อาชีพเนี่ย มี 7 อาชีพที่สามารถทำงานได้เสรีทั่วทั้งประเทศอาเซียนก็คือ
แพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ วิศวกร นักสำรวจ(พวกธรณีทั้งหลาย สำรวจหินดินแร่ อากาศ พลังงาน เชื้อเพลิง นู่นนี่นั่น) สถาปนิก นักบัญชี
7 อาชีพนี้เปิดเสรีทั่ว คือประเทศไหนๆก็สามารถเข้าไปทำงานได้หากคุณมีอาชีพนี้ ข้อเสียเด็กไทย ไม่เก่งอังกฤษ คนที่ไม่เก่งภาษาจะออกไปทำประเทศอื่นๆได้ลำบาก
ในขณะที่ประเทศอื่นเก่งภาษา สามารถไหลเข้ามาทำในไทยได้จำนวนมาก ผู้จ้างไม่ซีเรียสหรอกว่าจะพูดไทยได้หรือไม่ได้ ขอแค่มีภาาากลางที่สื่อสารกันเข้าใจเป็นพอ ค่าครองชีพบ้านเราก็ไม่ได้สูงเว่อร์ ความเป็นอยู่ก็พอใช้ได้ ยิ่งประเทศที่ยังเป็นรองเราอยู่บ้าง ต่อให้ความรู้เขามีเท่าเราแต่เรทค่าแรงอาจจะจ้างได้ถูกกว่าจ้างคนในประเทศเรา คนลงทุนก็เลือกค่าแรงถูกกว่าแต่ได้งานเหมือนกันอยู่แล้ว(ยิ่งคนไทยงานหนักไม่สู้ แต่หนูจะเอาตัง)
แต่อีกจุดหนึ่งคือคนไทยที่เก่งภาษาก็จะพากันไหลออกนอกด้วยความที่หวังค่าแรงที่มากขึ้นและความเป็นอยู่ที่อาจจะดีขึ้นกว่านี้เมื่อเทียบกับการอยู่แต่ในประเทศ (อย่าโลกสวยว่าฉันรักประเทศไทย คนที่หวังอยากมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่าเดิมบนโลกนี้มีเยอะ)
ดังนั้น 7 ใน 10 ที่ว่าไม่ขาดแคลนน่ะอาจจะใช่ แต่คนเก่งจะไหลออกหมด คนไม่เก่งก็ย่ำอยู่กับที่โดนคนนอกเข้ามาแย่งที่อีกด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าเลือกงานมากๆเข้า เรียบร้อย
เพราะฉะนั้น 7 ใน 10 อย่าพึ่งคิดว่าได้เข้ามาเรียนแล้วไม่มีทางตกงานแน่นอน อย่าคิดอย่างนั้น สิ่งที่คุณต้องเรียนไปสู้ต่างชาติเขาไม่ใช่แค่วิชาชีพต่อไปแล้ว ภาษาคุณต้องได้ด้วย
อักษรจะเป็นอีกคณะหนึ่งที่โดนเเย่งงานมากที่สุด
เพราะไม่มีวิชาชีพอะไรเป็นหลักเลย เเถมภาษาเราก็สู้เขาไม่ค่อยได้
- อนาคตเภสัชล้นมั้ย?? ได้ยินว่าเขาจะทยอยให้ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยเมื่อลาออกกลางคันแล้ว เพราะคนเต็มความต้องการ รัฐไม่ต้องสนับสนุนเงินเพื่อหาคนมาเรียน แต่ไม่ได้หมายความว่าคนล้น (เข้าใจป่ะ??) คือถ้าคนจะซิ่วออกคณะนี้ก็ไม่ต้องเสียค่าชดเชยแล้ว เพราะค่าเทอมจ่ายเต็มอัตราศึก ไม่ใช่จ่ายแค่หมื่นสองหมื่นต่อเทอม ไม่ต้องทำงานใช้ทุนอีก ที่จ่ายแค่หมื่นสองหมื่นเป็นเพราะรัฐสนับสนุนเงินทุน
กำลังผลิตเภสัชเท่าเดิมแหละ ไม่ล้นหรอก เพียงแค่ความต้องการในภาครัฐมันเพียงพอแล้ว คุณยังมีงานเอกชนให้ทำอีก และไม่ต้องกลัวคนแห่เรียนเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพราะต่อจากนี้อาจต้องจ่ายเต็ม ใครกำลังเงินไม่ถึงก็อาจจะต้องเป็นจุดอ่อนที่ตกไป(แต่ไม่ฟันธงนะว่าจะจริงหรือไม่ แต่บอกไว้ก่อนว่า ไม่ล้นแน่ๆ)
- เทคนิคการแพทย์ เลือกแต่งานรายได้ดีๆ = ล้น อยากบรรจุราชการ (แต่กว่าจะทำได้ก็นาน) = ล้น ไม่อยากไปทำไกลถิ่น = ล้น ตรรกะป่วยๆของชาวไทย -*- จะว่าล้นมั้ย คิดว่าไม่ ถ้าไม่เป็นอย่างสามข้อที่อ้างถึง
- สาธารณสุข - ขอไม่พูดถึงแล้วกันเพราะไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับการเรียนการทำงานเท่าไหร่
- วิทยาศาสตร์ - ถ้าอยากหางานง่ายต้องเจาะลึก ส่วนเรื่องจบไปทำอาชีพอะไร ไม่ทราบรายละเอียดมากเหมือนสาธา
4 วิชาชีพนี้ไม่อยากให้มองว่าจะตกงาน โอกาสหางานได้ง่ายคือต้องรู้ลึก รู้จริง รู้เรื่องเดียวก็เอาให้ลึกสุดใจทุกซอกทุกมุมไปเลย อีกอย่างไม่โดนอาเซียนเข้ามาแย่งทำงาน แต่ต้องแย่งกันในประเทศแหละ ใครอ่อน ตกรอบ
++++++++++++++++++++++
ขอแก้เรื่อง 7 อาชีพเสรีนั่นนิดว่า เรื่องที่คนเก่งที่จะไหลออก อาจจะได้ไม่มาก(เพิ่งไปอ่านเจอความเห็นหนึ่งมาแล้วคิดตามว่ามันก็เออ น่าจะจริงอย่างที่เขาว่า)
คือบางประเทศที่คุณอยากไป ประเทศที่ค่าแรงดี คุณอาจต้องถือสัญชาติเขาซะก่อน ไปแล้วก็ต้องสอบใบประกอบที่ประเทศเขา รออนุมัติจากสภาสูงสุดของวิชาชีพนั้นให้อนุญาตให้สอบเข้าทำงานในประเทศ อาจจะต้องต่อใบอนุญาติกี่ปีต่อกี่ปีก็ว่ากันไป ไม่ใช่แค่มีใบประกอบวิชาชีพบ้านเราแล้วไปทำได้เสรี
แต่!!!!!! ประเทศไทยอาจจะไม่ใช่อย่างนั้น ขึ้นอยู่กับรัฐบาล กับสภาวิชาชีพนั้นๆ ว่าจะตกลงกันถึงเรื่องนี้ยังไง ประเทศไทยมีโอกาสที่คนนอกอาจจะไหลเข้ามาได้ง่ายดาย ไม่ต้องถือสัญชาติ ไม่ต้องต่อสัญญา แค่ถือใบประกอบเข้ามาก็ทำได้(ซึ่งแนวโน้มมันก็น่าจะเกิดขึ้นได้ ถ้ารัฐบาลยังไม่คิดจะสนใจ)
สรุป 7 ใน 10 อาชีพนั้นน่ะ คุณอาจไม่ตกงานแต่ต้องเก๋าจริงๆ 
ส่วน 4 อาชีพที่จขกท.ยกมาว่าเสี่ยงตกงาน คุณต้องลงลึกพอตัว ถ้าคิดจะมีที่ยืนที่ดีที่สุด
---------------------------------------------------------------------
**ใครที่ทำอาชีพที่คุยๆกันอยู่นี้แล้วไม่พอใจในความเห็นสองความเห็นเรานี้ ก็ขอให้ถกกันด้วยปัญญาพึงมี
เพราะคนนอกที่เข้ามาอ่านเขาก็ต้องการสาระที่มาถกเถียงกัน เรื่องนี้มันเป็นปัญหาระดับประเทศ ตรงไหนบกพร่องผิดพลาดไปก็ขอให้ช่วยกันแก้ไขให้ถูกต้องที่สุดเท่าที่ต่างคนต่างรับรู้มา ไม่ใช่ช่วยมาด่าแล้วไร้เหตุผลอ้างอิง และที่สำคัญ ไม่ได้มีแจตนาดูถูกวิชาชีพใครทั้งสิ้น
ด้วยความเคารพ~
4อันดับล้นตลาดกูอยากเข้าทั้งนั้น * - *
ข้อมูลมั่วมาก อาชีพที่จขกทบอกมา นอกจากสายแพทย์ แล้ว อาชีพอื่นยังไม่ทันเข้าอาเซียน ก็ล้นตลาดมาตั้งนานแล้ว ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นถึงความด้อยประสิทธิภาพในการหาข้อมูล ยิ่งใช้ครับว่าไม่ได้บรรจุ=ตกงาน ล้นตลาด ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความด้อยประสิทธิภาพของข้อมูลยิ่งขึ้น
คห.13 เรียนนิติจะอยากตำเเหน่งสูงๆ ต้องต่อเนจ่ะ ไม่ใช่ต่อโท
ต่อเน วิชาการว่าความ มันก็เป็น ตำแหน่งในแนวทาง การว่าความ
ถ้าต่อโท เอก ก็ เป็นตำแหน่ง ใน แนว วิชาการ  ซึ่งตำแหน่ง งาของมันก็มี ทั้งรัฐทั้งเอกชน
คนละทาง    กฏหมาย  อาชีพไม่ได้มีแค่ อัยการ ผู้พิพากษา
ถ้ามีเวลาอยากให้ไปถามห้อง สีลมในพันทิป ผู้ประกอบการ หรือ หัวหน้าในบริษัท ผู้มีประสบการณ์การทำงานทั้งนั้น มาถามอะไรกับบอร์ดเด็กดี เพลีย
คห.12
ที่บอกว่าไม่ได้บรรจุ = ล้น ไม่ได้หมายความว่ามันล้น
แต่หมายความว่าคนที่คิดว่าตัวเองไม่ได้เข้าบรรจุ เขามักจะคิดว่าอาชีพเขาคนไม่ต้องการ
เลยเที่ยวมาบอกใครๆว่า ป่านนี้ยังไม่บรรจุ เพราะคนมันล้น บลาๆๆ
คือตัวเองหางานทำไม่ถูกใจซักที เลยไซโคชาวบ้านว่ามันล้น อ้างนู่นอ้างนี่ แต่ไม่ดูตัวเอง
จะบอกว่านี่คือตรรกกะความคิดป่วยๆของคนไทยค่ะ
วิศวะธรณีหรอครับ ไม่เข้าใจหรือว่านักธรณีวิทยาที่พูดๆกันในนี้นะ เห็นคห.7 พูดเหมือนนักธรณีวิทยา จขกท.พูดเหมือนวิศวะธรณีเลยงง
จะตกงานไม่ตกงาน
เรียนให้จบกันก่อนไหม? คิดถึงกำลังตัวเองบ้างไม่ใช่จะเรียนในสิ่งที่ไกลเกินตัว คณะนู้นคณะนี้ไม่ตกงาน แล้วกำลังคุณจะพาไปถึงวันรับใบจบรึป่าว ปล.สำหรับผู้ที่จะเลือกคณะ
แสงผุดในความมืดทันทีที่อ่านเมนท์นี้จบ จากกังวล ๆ นี่หายหมดเลย ฮ่ะ ๆ ๆ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?