Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ถอดคำประพันธ์ เรื่อง อิเหนา หน้า ๕๔-๕๗

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ถอดคำประพันธ์
เรื่อง อิเหนา หน้า ๕๔-๕๗


•    เมื่อนั้น
เห็นระเด่นมนตรีก็ปรีดา
แล้วบอกว่าสมเด็จพระบิดร
มาบรรจบทัพพระองค์ไป
หลายวันแล้วแต่มาคอยท่า
ข่าวศึกว่าประชิดติดบุรี
กะหรัดตะปาตีเชษฐา
จึงเสด็จมาหาทันใด
ให้ข้าคุมนิกรน้อยใหญ่
ช่วยพิชัยดาหาธานี
ยับยั้งโยธาอยู่ที่นี่
มาจะจรลีรีบไป

ถอดความว่า: เมื่อกระหรัดตะปาตีเห็นอิเหนาก็ดีใจ จึงเข้าไปบอกอิเหนาว่าท้าวกุเรปันให้ตนคุมทหารมาสมทบกับทัพของอิเหนา เพื่อไปช่วยกรุงดาหารบกับข้าศึก ที่ยกทัพมาหยุดรอใกล้กรุงดาหาได้หลายวันแล้ว
จึงชวนให้อิเหนารีบยกทัพต่อไป


•    เมื่อนั้น
ข้าก็เร่งรีบร้อนไม่นอนใจ
ว่าแล้วสองกษัตริย์ก็จัดทัพ
เข้ากระบวนสมทบบรรจบกัน
ระเด่นมนตรีเฉลยไข
แต่ทางไกลอ้อมกว่ากุเรปัน
พร้อมสรรพพหลพลขันธ์
แล้วยกจากที่นั่นรีบมา

ถอดความว่า: ฝ่ายอิเหนาก็บอกว่าตัวเองนั้นก็ร้อนใจ แต่ทางที่จะยกทัพไปนั้นไกลกว่าทางที่มาจากกุเรปัน อิเหนากับกะหรัดตะปาตีจึงจัดทัพรวมกัน แล้วรีบยกทัพไปกรุงดาหา


•    ครั้นถึงเนินทรายชายทุ่ง
จึงให้หยุดกองทัพตั้งพลับพลา
แล้วบัญชาให้ตำมะหงง
ทูลศรีปัตหราเรืองชัย
แว่นแคว้นแดนกรุงดาหา
ที่ต้องนามครุฑาเกรียงไกร
ท่านจงรีบเข้าไปกรุงใหญ่
แก้ไขอย่าให้เคืองบาทา

ถอดความว่า: เมื่อถึงชายทุ่งของกรุงดาหา ก็ได้หยุดทัพตั้งที่พักในบริเวณที่มีชัยภูมิที่ดี แล้วจึงสั่งให้ตำมะหงงเข้าไปชี้แจงแก่ท้าวดาหาเพื่อไม่ให้ท่านขุ่นเคืองใจ


•    บัดนั้น
ก้มเกล้ากราบถวายบังคมลา
ตำมะหงงรับสั่งใส่เกศา
มาขึ้นม้าควบขับไปฉับพลัน

ถอดความว่า: เมื่อตำมะหงงรับคำสั่งแล้วจึงถวายบังคมลา และขึ้นขี่ม้าไปอย่างรวดเร็ว


•    ครั้นถึงจึงแจ้งคดี
บัดนี้องค์อิเหนากุเรปัน
สองทัพกับกะหรัดตะปาตี
จงพาเราเข้าเฝ้าพระผ่านฟ้า
แก่ยาสาเสนีคนขยัน
กรีธาทัพขันธ์ยกมา
มาช่วยบุรีดาหา
จะกราบทูลกิจจาให้แจ้งการ

ถอดความว่า: เมื่อเข้ากรุงดาหา ตำมะหงงได้แจ้งข่าวแก่ยาสาว่า อิเหนายกทัพมาพร้อมกับกะหรัดตะปาตี เพื่อมาช่วยกรุงดาหา จึงขอให้ยาสาช่วยพาตนไปเข้าเฝ้าท้าวดาหาเพื่อกราบทูล


•    บัดนั้น
จึงพากันเข้าไปมิทันนาน
ยาสาปรีดิ์เปรมเกษมศานต์
ยังสถานท้องพระโรงรูจี

ถอดความว่า: เมื่อยาสาได้ยินก็ดีใจ จึงรีบพาตำมะหงงไปเข้าเฝ้าท้าวดาหาที่ท้องพระโรง


•    นบนิ้วประนมบังคมคัล
บัดนี้ระเด่นมนตรี
รี้พลมากมายหลายแสน
ใช้ให้ตะมะหงงเสนา
กราบทูลทรงธรรม์ถ้วนถี่
กับกะหรัดตะปาตียกมา
ตั้งอยู่ปลายแดนกรุงดาหา
เข้ามาเฝ้าเบื้องบาทบงสุ์
ถอดความว่า: ยาสาเข้าไปไหว้แล้วกราบทูลท้าวดาหาว่า ตอนนี้อิเหนาและกะหรัดตะปาตีได้ยกทัพมาตั้งอยู่ที่ชายแดนกรุงดาหา และได้ให้ตำมะหงงมาเข้าเฝ้าพระองค์ (ท้าวดาหา)







•    เมื่อนั้น
แจ้งว่าอิเหนาสุริย์วงศ์
มีความเกษมสันต์หรรษา
ด้วยนัดดาเรืองอิทธิฤทธี
พระเปรมปรีดิ์ดีใจอยู่ในพักตร์
จึงแย้มเยื้อนเอื้อนโอษฐ์อภิปราย
ตำมะหงงไปบอกให้ถ้วนถี่
เชิญให้เข้ามาในพารา
พระปิ่นปักนัคเรศสูงส่ง
มาช่วยรณรงค์ราวี
ดังได้ผ่านเมืองฟ้าราศรี
เห็นว่าบุรีไม่อันตราย
มิให้ประจักษ์คนทั้งหลาย
ซึ่งหลานชายของเราอุตส่าห์มา
ว่ากูนี้ขอบใจหนักหนา
จะได้พักโยธาให้สำราญ

ถอดความว่า: เมื่อท้าวดาหาได้ฟังว่า อิเหนามาช่วยรบก็ทรงดีใจ เพราะ อิเหนาเก่งกาจ จึงคิดว่ากรุงดาหาคงจะไม่ตกอยู่ในอันตรายแล้ว แต่พระองค์ก็ไม่ได้แสดงออกถึงความดีใจให้ผู้อื่นทราบ และได้ให้ตำมะหงงไปขอบใจอิเหนาและเชิญเข้ามาพักทัพในเมือง


•    บัดนั้น
จึงสนองมธุรสพจมาน
ให้ข้าทูลองค์พระทรงฤทธิ์
จะขอทำการสนองพระบาทา
ตำมะหงงได้ฟังพระบรรหาร
พระหลานรักถวายบังคมมา
ด้วยโทษผิดติดพันอยู่หนักหนา
เสร็จแล้วจึงจะมาอัญชลี

ถอดความว่า: เมื่อตำมะหงงได้ฟังคำของท้าวดาหาแล้ว จึงตอบกลับไปว่า อิเหนาได้ให้ตนบอกท้าวดาหาว่า ด้วยที่ตนเอง (อิเหนา) นั้นมีความผิดอยู่มาก จึงจะขอทำการช่วยรบให้สำเร็จก่อน ถึงจะเข้ามากราบพระองค์


•    เมื่อนั้น
ได้ฟังตำมะหงงเสนี
จึงผันพระพักตร์มาบัญชา
บัดนี้อิเหนาชาญชัย
กับกะหรัดตะปาตีพี่ยานั้น
เจ้าจะอยู่ทำการพารา
พระผู้ผ่านดาหากรุงศรี
มิได้มีพจมานประการใด
แก่สุหรานากงศรีใส
กรีธาทัพใหญ่ยกมา
แม่นมั่นเหมือนคำของเจ้าว่า
หรือจะช่วยเชษฐาราวี

ถอดความว่า: เมื่อท้าวดาหาได้ฟังคำตำมะหงงก็ไม่ได้ตอบอะไร แล้วหันหน้าไปถามสุหรานากงว่าจะอยู่ในเมืองหรือจะออกไปช่วยอิเหนากับกะหรัดตะปาตีรบ

•    เมื่อนั้น
ได้ฟังผ่านฟ้าพาที
แต่มาอยู่ดาหาก็ช้านาน
ขอกราบบาทภูวนาถบังคมลา
ทูลพลางทางถวายอัญชลี
ออกมาอยู่ที่ภูวไนย
ครั้นเสร็จเสด็จทรงอาชา
ยกจากพระนครจรจรัล
สุหรานากงเรืองศรี
อัญชลีแล้วสนองพระบัญชา
ยังมิได้ทำการอาสา
ออกไปช่วยเชษฐาชิงชัย
ลาศรีปัตหราเป็นใหญ่
ตรวจเตรียมทัพชัยฉับพลัน
พร้อมพี่เลี้ยงเสนากิดาหยัน
ตำมะหงงกุเรปันก็ตามมา

ถอดความว่า: เมื่อสุหรานากงได้ฟังคำท้าวดาหา ก็ตอบกลับไปว่า ตั้งแต่มาอยู่เมืองดาหาตนยังไม่ได้ทำคุณประโยชน์อะไรเลย จึงขอกราบทูลลาท้าวดาหาเพื่อจะออกไปช่วยอิเหนารบ แล้วรีบออกมาเตรียมทัพทันที เมื่อเสร็จแล้วก็ขึ้นทรงม้ายกทัพออกจากเมืองพร้อมทัพของมหาดเล็กและตำมะหงง


•    ครั้นถึงจึงหยุดจตุรงค์
ถ้อยทีมีใจปรีดา
แล้วแถลงแจ้งเหตุบรรยาย
วันเมื่อน้องมาถึงธานี
ดูทีท้าวตรัสเห็นขัดเคือง
เมียเขาเขารักดังแก้วตา
แต่พระเชษฐาให้หาตัว
เกิดณรงค์สงครามก็เพราะใคร
นับประสาอะไรแก่ตัวเรา
เห็นเคืองขัดตรัสซ้ำอยู่ดังนี้
เสด็จไปเฝ้าองค์พระเชษฐา
ตรัสสั่งสนทนาพาที
แต่ต้นจนปลายถ้วนถี่
ได้ทูลว่าพระพี่จะยกมา
ว่าไหนจะจากเมืองหมันหยา
หรือจะอาจคลาดคลาเห็นผิดไป
ก็ไม่มีความกลัวยังขัดได้
จนเดือนร้อนทั่วไปทั้งธานี
ถึงตายเขาก็ไม่ดูผี
พระภูมีจงทราบบทมาลย์

ถอดความว่า: เมื่อถึงที่หมายจึงหยุดทัพ แล้วสุหรานากงก็ไปเข้าเฝ้าอิเหนาด้วยท่าทียินดีพร้อมเล่าเรื่องทั้งหมดให้อิเหนาฟังว่า ในวันที่ตนมาถึงเมืองดาหาก็ได้บอกท้าวดาหาว่าอิเหนาจะยกทัพมา แต่ท้าวดาหาดูเหมือนจะยังน้อยใจอิเหนาอยู่ จึงพูดประชดประชันอิเหนาให้สุหรานากงฟัง

  
•    เมื่อนั้น
ฟังสุหรานากงแจ้งการ
ซึ่งท่านขุ่นแค้นเคืองนัก
ไม่ถือโทษโกรธตอบพระผ่านฟ้า
เสร็จศึกจะเข้าไปอัญชลี
เมื่อได้เกินแล้วก็จนใจ
ระเด่นมนตรีใจหาญ
จึงตอบพจมานอนุชา
ก็ประจักษ์แจ้งใจไม่กังขา
จะตั้งหน้าหักหาญพาลภัย
จะด่าตีก็ตามอัชฌาสัย
ตามแต่ภูวไนยจะปรานี

ถอดความว่า: เมื่ออิเหนาได้ฟังสุหรานากงเล่า จึงตอบกลับไปว่า แม้ท้าวดาหาจะไม่พอใจตน ตนก็จะไม่ถือโทษโกรธเคืองท้าวดาหา จะตั้งใจรบอย่างเต็มกำลัง และเมื่อเสร็จศึกแล้วจะเข้าไปกราบขออภัย แม้ท้าวดาหาจะด่าตีอย่างไรตนก็ยอมตามแต่ท้าวดาหาจะให้อภัย



•    บัดนั้น
จึงกราบทูลแถลงแจ้งคดี
ให้ข้าบังคมทูลภูวไนย
ขอเชิญเข้าไปในพารา
ข้าจึงทูลสนองพจมาน
เสร็จศึกจึงจะบทจร
พระมิได้ตอบคำว่าขาน
แต่ดูพระกิริยาพาที
ตำมะหงงบังคมเหนือเกศี
องค์ศรีปัตหรารับสั่งมา
ว่าชี้ชอบขอบพระทัยหนักหนา
จะได้พักพลโยธาพลากร
พระนัดดาจะทำการแก้ตัวก่อน
มาเฝ้าภูธรธิบดี
ตรัสแต่กิจการกรุงศรี
เหมือนจะเคลื่อนคลายที่โกรธา

ถอดความว่า: ตำมะหงงจึงกราบทูลเล่าว่า ท้าวดาหาให้ตนนั้นมาขอบคุณอิเหนาและเชิญให้เข้าไปพักทัพในเมือง ตนจึงตอบกลับไปว่า พระองค์ (อิเหนา) จะทำการรบแก้ตัวก่อน เมื่อเสร็จศึกแล้วจึงจะเข้ามาเฝ้า
ท้าวดาหาก็ไม่ได้ตอบอะไร แต่ดูท่าทีก็เหมือนจะหายโกรธขึ้นมา


•    เมื่อนั้น
ได้ฟังตำมะหงงเสนา
จึงเสด็จคลาไคลเข้าในห้อง
สุหรานากงทรงชัย
พระโฉมยงพงศ์อสัญแดหวา
เกษมสันต์หรรษาเป็นพ้นไป
ให้ชักปิดม่านทองสองไข
ก็กลับไปที่ประทับพลับพลา

ถอดความว่า: เมื่ออิเหนาได้ฟังที่ตำมะหงงเล่าก็รู้สึกโล่งใจ จึงเดินกลับเข้าห้องไป ส่วนสุหรานากงก็กลับเข้าที่พักเช่นกัน
อิเหนามีบัญชาให้จัดทัพเตรียมรบกับทัพกะหมังกุหนิง

•    เมื่อนั้น
ได้ฟังพระพี่เลี้ยงทูลคดี
ตำมะหงงจงเร่งไปตรวจตรา
เราจะออกหักโหมโรมราญ
พระผู้พงศ์เทวาในราศี
จึงมีพระบัญชาการ
เกณฑ์พลโยธาทวยหาญ
รับรัดจัดการให้พร้อมไว้
ถอดความว่า: หลังจากที่อิเหนาได้ฟังตำมะหงงเล่า จึงมีคำสั่งให้ตำมะหงงรีบไปจัดเตรียมกองทัพ


•    บัดนั้น
รับสั่งบังคมลาคลาไคล
ตำมะหงงกุเรปันกรุงใหญ่
ออกไปจัดทัพฉับพลัน

ถอดความว่า: ตำมะหงงรับคำสั่งก็รีบออกไปจัดทัพทันที

แสดงความคิดเห็น

>

84 ความคิดเห็น

namenam namnoi 25 มิ.ย. 56 เวลา 21:31 น. 3

อยากได้บทช่วยแปลให้หน่อยนะคะ
+ก้มเกล้ากราบทูลภูวเรศ ว่าเคยได้เห็นทัพใหญ่
ยกมาแน่นดงพงไพร ดูไปไม่สิ้นโยธา
เซ็งแซ่แตรสังข์ฆ้องกลอง ช้างเรียกร้องกันสนั่นป่า
เสียงโกลนกระทบแผงข้างม้า ดังว่าเสียงพยุอึงอล
อันแสงอาวุธหอกดาบ ปลาบแปลบแวบวาบเวหน
ผงคลีมืดคลุ้มโพยมบน บดบังสุริยนในท้องฟ้า
ธงหน้ามาปักลงบัดใจ แลไปไม้ราบไปทั้งป่า
แล้วมีทัพออกจากพารา เข้าหาสมทบบรรจบกัน
กำลังสงครามครั้งนี้ ดูทียิ่งยวดกวดขัน
พรุ่นนี้น่าจะมีโรรัน พระทรงธรรม์จงทราบจงทราบฝ่าธุลี
0
ตะวัน 2 พ.ย. 56 เวลา 10:41 น. 11

ครั้นมาถึงท้ายค่ายมั่น ท้าวประหมันปาหยังเป็นใหญ่
จึงหยุดปรึกษากันทันใด อันเราจะหนีไปเห็นไม่พ้น
ครั้นจะคืนเข้าค่ายรายรับ ไม่ทันทีกองทัพยังสับสน
จะซ้ำเสียเสนีรี้พล จะจำผ่อนให้พ้นมรณา
มาเราจะเข้าบังคมคัล พระผู้พงศ์อสัญแดหวา
จึงให้ยกธงอัปรา โยธายั้งหยุดพร้อมกัน


สององค์ลงจากอาชา เสด็จมากับหมู่กิดาหยัน
เสนาแวดล้อมแน่นนันต์ จรจรัลมาสมรภูมิชัย

ครั้นถึงจึงแจ้งกิจจา แต่ตำมะหงงเสนาผู้ใหญ่
เราผู้น้องระตูที่บรรลัย ตั้งใจจะมาเฝ้าบาทบงส์

บัดนั้น จึงมหาเสนาตำมะหงง
พาระตูพี่น้องมั้งสององค์ มาเฝ้าพระสุริย์วงศ์พระธรรม์

วันทาทูลแถลงแจ้งคดี บัดนี้ท้าวปาหยังกับประหมัน
น้องระตูผู้ม้วยชีวัน มาบังคมคัลพระภูวไนย

เมื่อนั้น สองระตูตัวสั้่นหวั่นไหว
ก้มกราบบาลมูลแล้วทูลไป ภูวไนยได้ทรงพระเมตตา
ข้าน้อยทั้งสองเป้นไพรี โทษผิดครั้งนี้นักหนา
จงโปรดปรานประทานชีวา ไว้เป็นข้าใต้เบื้องบทมาลย์
ขอเอาพระเดชปกเกศเกล้า ตราบเท่าสิ้นชีวังสังขาร
ถึงปีจะมีบรรณาการ มาถวายตามบุราณประเพณี

แปลทีละบทน่ะคะ ขอวันนี้ได้ไหม

0
vainetw 1 ธ.ค. 56 เวลา 14:06 น. 13

ขึ้นเกยกิริณีที่ประทับ ผันพักตร์สู่พายัพทิศา
พร้อมหมู่อำมาตย์มาตยา โหราธิบดีชีพราหมณ์
พอได้ศุภฤกษ์ก็ลั่นฆ้อง ประโคมคึกกึกก้องท้องสนาม
ปุโรหิตฟันไม้ข่มนาม ทำตามตำราพิชัยยุทธ์
ทัพหน้าทัพหลวงทัพหลัง พร้อมพรั่งตั้งโห่อึงอตม์
ทหารโบกธงทองกระบี่ครุฑ ฝรั่งจุดปืนใหญ่เป็นสัญญา
บีกูก็เบิกโขลนทวาร โอมอ่านอาคมคาถา
โห่สนั่นลั่นฆ้องขึ้นสามลา คลายเคลื่อนโยธาทุกหมวดกอง

แปล*** แล้วจึงขึ้นที่ประทับ หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมหมู่อำมาตโหราปุโรหิต พอได้ฤกษ์ก็ได้ลั่นฆ้องชัย ปุโรหิตก็ทำพิธีตัดไม้ข่มนาง ทัพหน้าและทัพหลังต่างใหญ่โต และมีการร่ายคาถาแล้วโห่สามลา ก่อนเคลื่อนทัพ

ครั้นออกมานอกนคเรศ พระทรงเดชเศร้าสร้อยละห้อยไห้
เหลียงหลังตั้งตาดูเวียงชัย ฤาทัยหวั่น ๆ ถึงกัลยา
โอ้ว่าเจ้าดวงยิหวาพี่ ป่านนี้จะคร่ำครวญหวนหา
ใครจะปลอบโฉมงามสามสุดา แต่พอพาใจเศร้าบรรเทาคลาย
สงสารน้ำคำที่พร่ำสั่ง คิดถึงความหลังแล้วใจหาย
ครวญพลางกำสรดระทดกาย แล้วคิดอายพวกพลมนตรี
จึงชักม่านทองทั้งสี่ทิศ ดังจะปิดบังแสงพระสุริย์ศรี
ลมหวนอวลกลิ่นสุมาลี เหมือนผ้ายาหยีซึ่งเปลี่ยนมา
แว่วเสียงสำเนียงบุหรงร้อง ว่าเสียงสามนิ่มน้องเสน่หา
พระแย้มเยี่ยมม่านทองทัศนา เห็นแต่ป่าพุ่มไม้ใบบัง
เอนองค์ลงอิงพิงเขนย กรเกยก่ายพักตร์ถวิลหวัง
รสรักร้อนรนพ้นกำลัง ชลนัยน์ไหลหลั่งลงพรั่งพราย

แปล*** หลังจากออกนอกเมืองแล้ว พระองค์ก็ทรงเศร้าเป็นยิ่งได้พรรณาถึงนางอันเป็นที่รัก ดังนั้นพระองค์จึงทรงปิดม่านเพื่อไม่ให้เห็นเมืองแล้วคิดถึงเมือง พอไปเลื่อยๆก็มีลมเย็นพัดมาพระองค์จึงทรงเปิดม่านดูปรากฏว่าเห็นป่า แล้วจึงเอนตัวนอน

จบหน้า52 ------------------------------------------------------

๏ บัดนั้น ประสันตาพี่เลี้ยงพระโฉมฉาย
ขี่ช้างพระที่นั่งมาข้างท้าย เห็นพระไม่สบายคลายทุกข์ทน
จึงเสแสร้งแกล้งกล่าววาจา ป่านี้สนุกกว่าทุกแห่งหน
แต่เห็นมามากมายหลายตำบล ก็ยังไม่ชอบกลเหมือนป่านี้
แม้นไม่มีราชการงานเดือน คงจะมาปลูกเรือนอยู่ที่นี่
น้ำท่าหาง่ายสบายดี สารพัตรจะมีไม่ยากใจ
ถ้าเลิกทัพกลับมาหมันหยา จะจำป่าไว้ทูลแถลงไข
ให้พระพาสามสมรอรทัย มาประพาสพรรณไม้ให้สำราญ

๏ เมื่อนั้น พระสุริย์วงศ์เทวาศักดาหาญ
นิ่งฟังประสันตาอยู่ช้านาน ค่อยคลายร้อนรำคาญวิญญาณ์
จึงลุกขึ้นตรัสถามทันที ป่านี้หรือสนุกหนักหนา
ตรัสพลางแหวกม่านทัศนา ไหนชี้บอกมาอย่าลวงกัน
๏ บัดนั้น ประสันตาแสนกลคนขยัน
ทำตกใจทูลองค์พระทรงธรรม์ ข้าสำคัญมั่นคงอยู่ดงนี้
ด้วยช้างบาทย่างทีสะเทิน เดินเกินตำบลมาพ้นที่
เขาว่าดงหน้าก็ยังมี จึงจะชี้ทูลเชิญให้ทัศนา

๏ เมื่อนั้น พระโฉมยงวงศ์อสัญแดหวา
ยิ้มพลางทางตอบวาจา ปดเล่นต่อหน้าไม่อายใจ
ครั้นซักไซ้ไล่หาความจริง ยังกลอกกลิ้งกลับลวงไปใหม่
ชอบผลักให้พลัดตกลงไป คนอะไรเช่นนี้ก็ยังมี

๏ ว่าพลางทางชมคณานก โผนผกจับไม้อึงมี่
เบญจวรรณจับวัลย์ชาลี เหมือนวันพี่จากสามสุดามา
นางนวลจับนางนวลนอน เหมือนพี่แนบนวลสมรจินตะหรา
จากพรากจับจากจำนรรจา เหมือนจากนางสะการะวาตี
แขกเต้าจับเต่าร้างร้อง เหมือนร้างน้องมาหยารัศมี
นกแก้วจับแก้วพาที เหมือนแก้วพี่ทั้งสามสั่งความมา
ตระเวนไพรร่อนร้องตระเวนไพร เหมือนเวรใดให้นิราศเสน่หา
เค้าโมงจับโมงอยู่เอกา เหมือนพี่นับโมงมาที่ไกลนาง
คับแคจับแคสันโดษเดี่ยว เหมือนเปล่าเปลี่ยวคับใจในไพรกว้า
ชมวิหคนกไม้ไปตามทาง คะนึงนางพลางรีบโยธี

ประสันตาขี่ช้างตามมา เห็น......(อันนี้หมายถึงใครไม่ทราบเหมือนกัน หมายถึงอิเหนารึเปล่าคะ) ดูไม่สบายใจ จึงได้พูดขึ้นมาเพื่อให้สบายใจว่า ป่าที่นี่ดูสนุกกว่าทุกที่ ไปที่ไหนก็ยังไม่เหมือนป่านี้ ถ้าเกิดไม่มีงานทำ ก็คงจะมาปลูกบ้านอยู่ที่นี่ น้ำท่าก็มีกิน หาง่าย ไม่ลำบาก ถ้าเลิกทัพกลับหมันหยาเมื่อไหร่ จะมาเที่ยวในป่านี้ให้สำราญไปเลย
จากนั้นพระสุริยวงศ์ที่นั่งฟังประสันตาอยู่นั้นก็เริ่มใจเย็นลง จึงลุกขึ้นถามทันทีว่า ป่านี้สนุกจริงหรือ อย่ามาหลอกกันเลย
ประสันตาผู้แสนกลจึงทำท่าทางตกใจก่อนจะบอกว่าเขาชอบป่าแห่งนี้ แต่ถ้าอยากจะหาที่อื่น ข้างหน้าก็ยังมี
ขณะนั้น พระโฉมยงวงศ์อสัญแดหวา (อิเหนา??) พลางยิ้มก่อนจะตอบไปว่าคนอะไรชอบโกหกยิ่งนัก พอถามความจริงก็ทำเป็นเฉไฉกลับกลอก คนแบบนี้ก็ยังมีอยู่อีก
หลังจากที่พูดไป พลางก็ชมหมู่นกในป่าไปด้วย เบญจวรรณจับเถาชาลี เหมือนตัวพี่จากสามสุดามา นางนวลจับกันนอน เหมือนพี่นอนแนบกับน้องสมรจินตะหรา จากพรากที่จากกัน เหมือนตัวพี่ที่จากนางสการะวาตี แขกเต้าที่ไม่ส่งเสียง เหมือนกับพี่ที่จากมาจากมาหยารัศมี นกแก้วที่ร้องคุยกัน เหมือนกับทั้งสามนวลน้องสั่งความมา ตระเวนไปในป่านั้นมันเหงา นกเค้าโมงทีอยู่ตัวเดียว เหมือนตัวพี่ที่จากน้องมา ขณะที่ชมนกชมท้องฟ้าไปตามทาง ใจก็คิดที่จะให้ถึงที่หมายไวๆ

แรมรอนร้อนนอนพักมาหลายวัน ถึงทางร่วมกุเรปันกรุงศรี
พบทัพกะหรัดตะปาตี ภูมีให้หยุดโยธา
อิเหนาเองก็เดินทางมาหลายวันจนถึงทางที่จะไปกรุงดาหาระหว่างได้พบกับหะหรัดตะปาตีจึงสั่งให้หยุดกองทับ

จบหน้า53--------------------------------------------------

เมื่อนั้น กะหรัดตะปาตีเชษฐา
เห็นระเด่นมนตรีก็ปรีดา จึงเสด็จมาหาทันใด
แล้ว บอกว่าสมเด็จพระบิดร ให้ข้าคุมนิกรน้อยใหญ่
มา บรรจบทัพพระองค์ไป ช่วยพิชัยดาหาธานี
หลาย วันแล้วแต่มาคอยท่า ยับยั้งโยธาอยู่ที่นี่
ข่าว ศึกว่าประชิดติดบุรี มาจะจรลีรีบไป

แปล*** กะหรัดตะปาตีเห็นระเด่นก็ดีใจ รีบเสด็จไปหาทันทีทันใด แล้วกล่าวว่าเสด็จพ่อให้คุมไพร่พลมาสมทบกองทัพของพระองค์ที่นี้ เพื่อที่จะไปตีเมืองดาหา ได้ข่าวว่าข้าศึกมาประชิดเมืองแล้ว

เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีเฉลยไข
ข้าก็เร่งรีบร้อนไม่นอนใจ แต่ทางไกลอ้อมกว่ากุเรปัน
ว่าแล้วสองกษัตริย์ก็จัดทัพ พร้อมสรรพพหลพลขันธ์
เข้ากระบวนสมทบบรรจบกัน แล้วยกจากที่นั่นรีบมา

แปล*** ระเด่นก็กล่าวไปว่า ข้าก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างไร ว่าแล้วทั้ง 2 พระองค์ก็ประชุมกัน เพื่อจัดกองทัพให้ยิ่งใหญ่แล้วจึงค่อยยกกระบวนทัพไป
๏ ครั้นถึงเนินทรายชายทุ่ง แว่นแควันแดนกรุงดาหา
จึงให้หยุดกองทัพตั้งพลับพลา ที่ต้องนามครุฑาเกรียงไกร
แล้วบัญชาใช้ตำมะหงง ท่านจงรีบเข้าไปกรุงใหญ่
ทูลศรีปัตหราเรืองชัย แก้ไขอย่าให้เคืองพระบาทา

๏ บัดนั้น ตำมะหงงรับสั่งใส่เกศา
ก้มเกล้ากราบถวายบังคมลา มาขึ้นม้าควบขับไปฉับพลัน

๏ ครั้นถึงจึงแจ้งคดี แก่ยาสาเสนีคนขยัน
บัดนี้องค์อิเหนากุเรปัน กรีธาทัพขันยกมา
สองทัพกับกะหรัดติปาตี มาช่วยบุรีดาหา
จงพาเราเข้าเฝ้าพระผ่านฟ้า จะกราบทูลกิจจาให้แจ้งการ

แปล***เมื่อถึงชายทุ่งของกรุงดาหา ก็ได้หยุดทัพตั้งที่พักในบริเวณที่มีชัยภูมิที่ดี แล้วจึงสั่งให้ตำมะหงงเข้าไปชี้แจงแก่ท้าวดาหาเพื่อไม่ให้ท่านขุ่นเคืองใจ
- เมื่อตำมะหงงรับคำสั่งแล้วจึงถวายบังคมลา และขึ้นขี่ม้าไปอย่างรวดเร็ว
- เมื่อเข้ากรุงดาหา ตำมะหงงได้แจ้งข่าวแก่ยาสาว่า อิเหนายกทัพมาพร้อมกับกะหรัดตะปาตี เพื่อมาช่วยกรุงดาหา จึงขอให้ยาสาช่วยพาตนไปเข้าเฝ้าท้าวดาหาเพื่อกราบทูล
บัดนั้น ยาสาปรีดิ์เปรมเกษมศานต์
จึงพากันเข้าไปมิทันนาน ยังสถานท้องพระโรงรูจี

แปล****เมื่อยาสาได้ยินก็ดีใจ จึงรีบพาตำมะหงงไปเข้าเฝ้าท้าวดาหาที่ท้องพระโรง

จบหน้า 54 ------------------------------------------

นบนิ้วประนมบังคมคัล กราบทูลทรงธรรม์ถ้วนถี่
บัดนี้ระเด่นมนตรี กับกะหรัดตะปาตียกมา
รี้พลมากมายหลายแสน ตั้งอยู่ปลายแดนกรุงดาหา
ใช้ให้ตำมะหงงเสนา เข้ามาเฝ้าเบื้องบาทบงสุ์

เมื่อนั้น พระปิ่นปักนัคเรศสูงส่ง
แจ้งว่าอิเหนาสุริย์วงศ์ มาช่วยรณรงค์ราวี
มีความเกษมสันต์หรรษา ดังได้ผ่านเมืองฟ้าราศี
ด้วยนัดดาเรืองอิทธิฤทธี เห็นว่าบุรีไม่เป็นอันตราย<br /><br />
พระเปรมปรีดิ์ดีใจอยู่ในพักตร์ มิให้ประจักษ์คนทั้งหลาย
จึงแย้มเยือนเอื้อนโอษฐ์อภิปราย ซึ่งหลานชายของเราอุตส่าห์มา
ตำมะหงงไปบอกให้ถ้วนถี่ ว่ากูนี้ขอบใจหนักหนา
เชิญให้เข้ามาในพารา จะได้พักโยธาให้สำราญ



บัดนั้น ตำมะหงงได้ฟังพระบรรหาร<br /><br />
จึงสนองมธุรสพจมาน พระหลานรักถวายบังคัมมา
ให้ข้าทูลพระองค์ทรงฤทธิ์ ด้วยโทษผิดติดพันอยู่หนักหนา
จะขอทำการสนองพระบาทา เสร็จแล้วจึงจะมาอัญชลี
เมื่อนั้น พระผู้ผ่านดาหากรุงศรี
ได้ฟังตำมะหงงเสนี มิได้มีพจมานประการใด<br /><br />
จึงผันพระพักตร์มาบัญชา แก่สุหรานากงศรีใส
บัดนี้อิเหนาชาญชัย กรีธาทัพใหญ่ยกมา
กับกะหรัดตะปาตีพี่ยานั้น แม่นมั่นเหมือนคำของข้า
เจ้าจะอยู่ทำการในพารา หรือจะช่วยเชษฐาราวี
แปล*** ยาสาเข้าไปไหว้แล้วกราบทูลท้าวดาหาว่า ตอนนี้อิเหนาและกะหรัดตะปาตีได้ยกทัพมาตั้งอยู่ที่ชายแดนกรุงดาหา และได้ให้ตำมะหงงมาเข้าเฝ้าพระองค์ (ท้าวดาหา)
เมื่อท้าวดาหาได้ฟังว่า อิเหนามาช่วยรบก็ทรงดีใจ เพราะ อิเหนาเก่งกาจ จึงคิดว่ากรุงดาหาคงจะไม่ตกอยู่ในอันตรายแล้ว แต่พระองค์ก็ไม่ได้แสดงออกถึงความดีใจให้ผู้อื่นทราบ และได้ให้ตำมะหงงไปขอบใจอิเหนาและเชิญเข้ามาพักทัพในเมือง
เมื่อตำมะหงงได้ฟังคำของท้าวดาหาแล้ว จึงตอบกลับไปว่า อิเหนาได้ให้ตนบอกท้าวดาหาว่า ด้วยที่ตนเอง (อิเหนา) นั้นมีความผิดอยู่มาก จึงจะขอทำการช่วยรบให้สำเร็จก่อน ถึงจะเข้ามากราบพระองค์
เมื่อท้าวดาหาได้ฟังคำตำมะหงงก็ไม่ได้ตอบอะไร แล้วหันหน้าไปถามสุหรานากงว่าจะอยู่ในเมืองหรือจะออกไปช่วยอิเหนากับกะหรัดตะปาตีรบ
จบหน้า 55 ----------------------------------------------------

เมื่อนั้น สุหงานากงเรืองศรี
ได้ฟังผ่านฟ้าพาที อัญชลีแล้วสนองพระบัญชา
แต่มาอยู่ดาหาก็ช้านาน ยังมิได้ทำการอาสา
ขอกราบ บาทภูวนาถบังคมลา ออกไปช่วยเชษฐาชิงชัย
ทูลพลาง ทางถวายอัญชลี ลาศรีปัตหราเป็นใหญ่
ออกมาอยู่ที่ภูวไนย ตรวจเตรียมทัพชัยฉับพลัน
ครั้นเสด็จ เสร็จทรงอาชา พร้อมพี่เลี้ยงเสนากิดาหยัน
ยกจากพระนครจรจรัล ตำมะหงงกุเรปันก็ตามมา

แปล*** เมื่อสุหรานากงได้ฟังคำท้าวดาหา ก็ตอบกลับไปว่า ตั้งแต่มาอยู่เมืองดาหาตนยังไม่ได้ทำคุณประโยชน์อะไรเลย จึงขอกราบทูลลาท้าวดาหาเพื่อจะออกไปช่วยอิเหนารบ แล้วรีบออกมาเตรียมทัพทันที เมื่อเสร็จแล้วก็ขึ้นทรงม้ายกทัพออกจากเมืองพร้อมทัพของมหาดเล็กและตำมะหงง
ครั้นถึงจึงหยุดจตุรงค์ ถ้อยทีมีใจปรีดา
แล้วแถลงแจ้งเหตุบรรยาย วันเมื่อน้องมาถึงธานี
ดูทีท้าวตรัสเห็นขัดเคือง เมียเขาเขารักดังแก้วตา
แต่พระเชษฐาให้หาตัว เกิดณรงค์สงครามก็เพราะใคร
นับประสาอะไรแก่ตัวเรา เห็นเคืองขัดตรัสซ้ำอยู่ดังนี้
เสด็จไปเฝ้าองค์พระเชษฐา ตรัสสั่งสนทนาพาที
แต่ต้นจนปลายถ้วนถี่ ได้ทูลว่าพระพี่จะยกมา
ว่าไหนจะจากเมืองหมันหยา หรือจะอาจคลาดคลาเห็นผิดไป
ก็ไม่มีความกลัวยังขัดได้ จนเดือนร้อนทั่วไปทั้งธานี
ถึงตายเขาก็ไม่ดูผี พระภูมีจงทราบบทมาลย์

ถอดความว่า: เมื่อถึงที่หมายจึงหยุดทัพ แล้วสุหรานากงก็ไปเข้าเฝ้าอิเหนาด้วยท่าทียินดีพร้อมเล่าเรื่องทั้งหมดให้อิเหนาฟังว่า ในวันที่ตนมาถึงเมืองดาหาก็ได้บอกท้าวดาหาว่าอิเหนาจะยกทัพมา แต่ท้าวดาหาดูเหมือนจะยังน้อยใจอิเหนาอยู่ จึงพูดประชดประชันอิเหนาให้สุหรานากงฟัง

เมื่อนั้น ฟังสุหรานากงแจ้งการ
ซึ่งท่านขุ่นแค้นเคืองนัก ไม่ถือโทษโกรธตอบพระผ่านฟ้า
เสร็จศึกจะเข้าไปอัญชลี เมื่อได้เกินแล้วก็จนใจ
ระเด่นมนตรีใจหาญ จึงตอบพจมานอนุชา
ก็ประจักษ์แจ้งใจไม่กังขา จะตั้งหน้าหักหาญพาลภัย
จะด่าตีก็ตามอัชฌาสัย ตามแต่ภูวไนยจะปรานี

ถอดความว่า: เมื่ออิเหนาได้ฟังสุหรานากงเล่า จึงตอบกลับไปว่า แม้ท้าวดาหาจะไม่พอใจตน ตนก็จะไม่ถือโทษโกรธเคืองท้าวดาหา จะตั้งใจรบอย่างเต็มกำลัง และเมื่อเสร็จศึกแล้วจะเข้าไปกราบขออภัย แม้ท้าวดาหาจะด่าตีอย่างไรตนก็ยอมตามแต่ท้าวดาหาจะให้อภัย
จบหน้า56 ----------------------------------------------------------------

บัดนั้น จึงกราบทูลแถลงแจ้งคดี
ให้ข้าบังคมทูลภูวไนย ขอเชิญเข้าไปในพารา
ข้าจึงทูลสนองพจมาน เสร็จศึกจึงจะบทจร
พระมิได้ตอบคำว่าขาน แต่ดูพระกิริยาพาที
ตำมะหงงบังคมเหนือเกศี องค์ศรีปัตหรารับสั่งมา
ว่าชี้ชอบขอบพระทัยหนักหนา จะได้พักพลโยธาพลากร
พระนัดดาจะทำการแก้ตัวก่อน มาเฝ้าภูธรธิบดี
ตรัสแต่กิจการกรุงศรี
เหมือนจะเคลื่อนคลายที่โกรธา

ถอดความว่า: ตำมะหงงจึงกราบทูลเล่าว่า ท้าวดาหาให้ตนนั้นมาขอบคุณอิเหนาและเชิญให้เข้าไปพักทัพในเมือง ตนจึงตอบกลับไปว่า พระองค์ (อิเหนา) จะทำการรบแก้ตัวก่อน เมื่อเสร็จศึกแล้วจึงจะเข้ามาเฝ้า
ท้าวดาหาก็ไม่ได้ตอบอะไร แต่ดูท่าทีก็เหมือนจะหายโกรธขึ้นมา


• เมื่อนั้น ได้ฟังตำมะหงงเสนา
จึงเสด็จคลาไคลเข้าในห้อง สุหรานากงทรงชัย
พระโฉมยงพงศ์อสัญแดหวา เกษมสันต์หรรษาเป็นพ้นไป
ให้ชักปิดม่านทองสองไข ก็กลับไปที่ประทับพลับพลา

ถอดความว่า: เมื่ออิเหนาได้ฟังที่ตำมะหงงเล่าก็รู้สึกโล่งใจ จึงเดินกลับเข้าห้องไป ส่วนสุหรานากงก็กลับเข้าที่พักเช่นกัน อิเหนามีบัญชาให้จัดทัพเตรียมรบกับทัพกะหมังกุหนิง
จบหน้า57 --------------------------------------------------------------------

คือเราก็รวบรวมมาไม่ต่ำกว่า10เว็บกว่าจะจบ -_- ผิดอะไรตรงไหนขอโทษด้วยนะ
อันนี้เป็นตอนอิเหนากรีธาทัพไปกรุงดาหา
ดีจ้า

3
Palm 21 พ.ย. 58 เวลา 12:21 น. 13-1

ช่วยเราแปลหน้า 35 หน่อยสิ ขอบคุณล่วงหน้านะว้าว

0
ชัชฎาภรณ์ หาไชย 12 ก.ย. 59 เวลา 21:00 น. 13-2

ช่วยถอดคำประพันธ์ อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิงให้หน่อยค่ะ หน้า 58กับ59 ขอบคุณค่ะ ต้องส่งภายในวันจันทร์ที่19เดือนกันยายน พ.ศ.2559 ใกล้จะถึงนี้ค่ะ รบกวนช่วยหนูหน่อยนะค่ะ

0
Kungnang 23 ก.ค. 60 เวลา 11:37 น. 13-3

เอามาจากเว็บไหนบ้างง่าาา ครูแบ่งให้ทั้งห้องคนละหน้าอ่ะ

0
แพรว 13 ธ.ค. 56 เวลา 20:06 น. 14

บัดนั้น ฝ่ายขุนมหาดไทยใจกล้า
ถือหนังสือคุมคนโทษมา นอนทางกลางป่ามาหลายวัน
ลุถึงดาหาธานี ลงจากพาชีขมีขมัน
จึงนำเอาหนังสือบอกนั้น พากันมายังวังใน
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ

ครั้นถึงจึงตรงไปศาลา วางตราเสมียนเวรผู้ใหญ่
แล้วนำนักโทษนั้นเข้าไป กราบไหว้แจ้งการท่านเสนา
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา

บัดนั้น ปาเตะได้ฟังไม่กังขา
ก็ลนลานลงจากศาลา รีบมาพระโรงคัลมิทันนาน
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ
ก้มเกล้ากราบทูลมูลเหตุ พระปิ่นปักนัคเรศราชฐาน
บัดนี้มีหนังสือกรมการ บอกขานข่าวศึกมาติดพัน
จับคนมาได้ให้การว่า จะเข้าตีพาราบุหราหงัน
ราษฎรผ่อนครัวเข้าไพรวัน พระทรงธรรม์จงทราบฝ่าธุลี
ฯ ๔ คำ ฯ

เมื่อนั้น พระผ่านภพดาหากรุงศรี
ได้ฟังข่าวราชไพรี ภูมีสั่งประหรัดกะติกา
ให้ตรวจทัพเมืองขึ้นของเรานั้น มาพร้อมกันอยู่นอกดาหา
ให้ตั้งค่ายรายรอบพารา รักษาเป็นสองชั้นมั่นไว้
ฯ ๔ คำ ฯ

บัดนั้น ปะหรัดกะติกาบังคมไหว้
รับพระบัญชาแล้วคลาไคล รีบไปเร็วพลันทันที
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

จึงบอกกล่าวท้าวพบาทั้งหลาย เร่งตั้งค่ายรายรอบกรุงศรี
ข้าศึกเห็นจะมาถึงธานี รับสั่งครั้งนี้อย่านอนใจ
ฯ ๒ คำ ฯ

บัดนั้น ท้าวพระยาสามนต์น้อยใหญ่
ฟังกำหนดพจนาภูวไนย ก็ตรวจตราหาไพร่ให้พรั่งพร้อม
เร่งตั้งค่ายรายรอบกำแพงเมือง ยักเยื้องมิให้บังหน้าป้อม
ชักปีกกาถึงกันเป็นหลั่นล้อม วงล้อมโอบรอบขอบคู


ถอดบทประพันธ์ให้หน่อยนะ หาคำศัพให้หน่อยนะ นะนะ ช่วยหน่อยนะ
ถ้าถอดแล้ว ส่งมาอีเมลล์ PS_PHOOLMOON@HOTMAIL.COM นะ

ขอด่วนๆนะ ต้องส่งงาน วันทร์ที่ 16 ธ.ค. 2556 แล้วอะ

0
ทิพย์สุดา 19 ธ.ค. 56 เวลา 18:19 น. 16

พระปิ่นภพกุเรปันธานี ให้กะหรัดตะปาตีเป็นทัพขันธ์
ยอออกจากเวียงชัยได้สามวัน บรรจบกันกับระเด่นมนตรี

**ช่วยแปลให้หน่อยนะค่ะ คือต้องส่งพรุ่งนี้แล้วค่ะ
**ส่งวันที่ 20 ธันวาคม 2556กดLIKE

0
ณัฐรดี 24 ก.พ. 57 เวลา 12:24 น. 20

เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงเรืองศรี

เสด็จเหนือแท่นรัตน์มณี ภูมีเห็นสองอนุชา

จึงตรัสเรียกให้นั่งร่วมอาสน์ สำราญราชหฤทัยหรรษา

แล้วปราศรัยระตูบรรดามา ยังปรีดาผาสุกหรือทุกข์ภัย

ซึ่งเราให้มาในทั้งนี้ จะไปตีดาหากรุงใหญ่

ระตูทุกนครอย่านอนใจ ช่วยเราชิงชัยให้ทันการ

ฯลฯ
แปลให้หน่อยค่ะ

0