Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

กรรมจากการฆ่าวัวด้วยการทุบหัว

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
    อาชีพฆ่าสัตว์ ที่เกิดมาเป็นอาหารของมนุษย์  เช่น หมู เป็ด ไก่ วัว ฯลฯ หลายคนบอกว่า  “ไม่บาป” ทั้งๆที่เป็นพุทธศาสนิกชน  พูดแบบชาวบ้านว่า มันเกิดมาเพื่อให้คนกินโดยเฉพาะ   แต่ตามหลักของพระพุทธศาสนา ไม่เห็นมีข้อยกเว้น ถือว่า ผิดศีลข้อ 1 ว่าด้วย “ปาณาติบาต”  แม้กระทั่งคนที่ไม่จงใจฆ่า แต่บังเอิญไปทำให้มันตายเข้า เช่น เดินไปเหยียบถูก มด แมลง  


 ทางพระยังสอนให้เรารู้จักอุทิศส่วนกุศลไปให้  เมื่อมีโอกาสทำบุญหรือปฏิบัติธรรมทุกครั้ง  เป็นการขออโหสิกรรม ไม่จองเวรต่อกัน  แต่ถ้าจะถามว่า  ถ้าหากไม่มีมือเพชรฆาตเหล่านี้แล้ว  คนที่ว่าบาป  จะเอาเนื้อสัตว์อะไรมากินได้ จะหาซื้ออาหารเหล่านี้ได้จากที่ไหน มิต้องกินแต่ผักหญ้าหรืออย่างไร
  เรื่องนี้ เคยถามทางพระอยู่เหมือนกัน  คำตอบที่ได้คือ  “ผลย่อมมาจากเหตุ”  เป็นวิบากกรรมจองเวรอย่างหนึ่งในอดีตชาติ ของผู้ที่มีอาชีพนี้โดยเฉพาะ  การปาณาติบาต ซึ่งสัตว์ที่ถูกฆ่า 
ก็จะจองเวรในชาติต่อ ๆ ไป เป็นวัฏจักรเช่นนี้ไม่มีที่สิ้นสุด 

      แต่เรื่องที่ผมจะเล่าในวันนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจริง   เป็นกรรมที่ตามทันในชาตินี้   ไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้าเลย  ผมจะเล่าโดยย่อๆนะครับถ้ายาวไปบางท่านอาจจะรู้สึกเบื่อและขี้เกียจอ่าน 
         เรื่องนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน     ผมจะไม่ขอกล่าวถึงพร้อมทั้งชื่อของเขาด้วย  มีชายอยู่สองคนชอบฆ่าวัวเป็นอาชีพหรือเป็นชีวิตจิตใจ คนหนึ่งในนั้นจะเป็นคนหลักในการฆ่าวัวในแต่ละครั้ง  ส่วนอีกคนเป็นรองลงมาเมื่อคนแรกติดธุระหรือไม่สบาย  


 เมื่อในหมู่บ้านนั้นมีงานมีการทีไรหรือมีการฆ่าวัวเพื่อนำไปขายหรือแจกจ่ายในโอกาสต่างๆสองคนนี้จะไม่พลาดทุกครั้ง และก็จะแสดงอาการดีใจออกหน้าออกตาทุกครั้งที่จะได้ฆ่าวัว โดยวิธีการฆ่าก็จะนำวัวไปผูกกับต้นไม้แล้วก็ใช้ฆ้อนหรือใช้ทางด้านหัวของจอบที่ใช้ทำไร่ทำสวนฟาดลงไปตรงหัวของวัวครั้งแล้วครั้งเล่าจนวัวนั้นดิ้นทุรนทุรายน้ำตาร่วงก่อนล้มทั้งยืน นั่นคือวิธีการของเขา ซึ่งเขาทำแบบนี้มานานพอสมควรตั้งแต่เริ่มเป็นหนุ่มจนถึงวัยกลางคนมีลูกมีเมียก็ยังทำโดยไม่ได้ค่าจ้างเพียงแต่ได้ส่วนแบ่งของเนื้อวัวบ้างนิดหน่อยหรือความสุขที่ได้เป็นเพชฆาตทุกครั้งที่ลงมือ  


แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง วันที่เขาจะต้องชดใช้กรรมก็มาถึง    วันนั้นมีเพื่อนๆของเขาสามสี่คนมาชวนไปตัดต้นไม้จะเอาไม้มาสร้างบ้าน     ตัดโดยใช้เลื่อยเครื่องยนต์ตัด  ต้นไม้ที่เลือกไว้จะตัดนั้นบังเอิญมีอีกต้นหนึ่งขึ้นอยู่คู่กันห่างออกไปไม่เกินห้าเมตร  พอถึงเวลาต้นไม้จะขาดคนตัดก็ส่งเสียงให้เพื่อนๆหลบห่างออกไป    เพื่อความปลอดภัยแต่ละคนก็หลบออกไปคนละทิศละทางกัน  แต่คนที่ฆ่าวัวนั้นหลบไปทางต้นไม้ที่ขึ้นคู่กันไม่รู้เพราะสาเหตุอะไรที่ทำให้เขาไปทางนั้นพอดี  พอต้นไม้ขาดล้มลงถึงพื้นส่วนปลายที่เป็นพุ่มจะถึงก่อน  

 ซึ่งส่วนปลายที่เป็นพุ่มไม้นั้นจะเป็นสปริงอย่างดีทำให้ส่วนโคนต้นที่ขาดออกจากต้นดีดตัวขึ้นไปทางชายคนนั้นพอดีส่วนปลายโคนของต้นไม้ไปกระแทกศรีษะของชายคนนั้นเข้ากับต้นไม้อีกต้นที่อยู่ใกล้กันอย่างจังเป็นเหตุทำให้ศรีษะของชายคนนั้นกระโหลกแตกมันสมองกระจายตายคาที่ทันที โดยไม่มีเวลาที่จะได้สั่งลาครอบครัวหรือเพื่อนๆของเขาเลย สร้างความตกใจให้กับเพื่อนๆที่ไปด้วยกัน  


     บางท่านอาจจะคิดว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้แต่สำหรับผมแล้วคิดว่ามันเป็นเวรกรรมที่เขาได้กระทำเอาไว้ซึ่งเขาได้ชดใช้แล้วในชาตินี้  ส่วนเพชฆาตมือรองลงมานั้นยังมีชีวิตอยู่ทุกวันนี้
 ตั้งแต่วันนั้นเขาก็เลิกฆ่าวัวอีก   แต่เวรกรรมก็ยังได้ลงโทษเขาเหมือนกันโดยฟันของเขาในปากด้านบนหลุดทั้งหมดไม่มีฟันบนเหมือนวัวแต่ข้างล่างยังอยู่ ส่วนจะฟันเขาจะหลุดด้วยสาเหตุอะไรไม่ทราบแน่ชัด
 นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น และ ที่ผมต้องนำเรื่องของชายคนที่ฆ่าวัวมาลงก็ไม่ได้มีเจตนาประจานแต่อย่างใดเพียงแต่อยากให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจคนที่ฆ่าสัตว์ได้รับรู้ว่าเวรกรรมมันมีจริง  ส่วนเวรกรรมจะตามทันในชาตินี้หรือชาติหน้าก็ว่ากันอีกทีหนึ่งครับ
ท่านผู้อ่านและเพื่อนๆล่ะครับ พอจะเลิกเชื่อหรือยังว่า “การฆ่าสัตว์ที่เกิดมาเป็นอาหารนั้น ไม่บาป” เพราะตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนานั้น ไม่มีข้อยกเว้นนะครับ คำสอนของพระพุทธองค์นั้น เป็นจริงเสมอ  เป็นจริงตลอดกาล  และ  “พิสูจน์ได้ด้วยตัวของตัวเองเท่านั้น”


PS.  สิ่งที่เราพิสูจน์ไม่ได้ ไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง ใช่ว่าจะไม่มีในโลก

แสดงความคิดเห็น

>

9 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาไม่เหมาะสม

ซ่อนนาม 18 มี.ค. 56 เวลา 14:33 น. 3

...กรรมตามสนอง
เป็นกุศโลบายที่ดี ในการยัดเยียดคนอื่นว่าเป็นคนเลว ด้วยการจับแพะชนแกะ


PS.  ถ้าถูกผิดคือขาวกับดำ แล้วสีอื่นจะให้อยู่ในหมวดไหน ดังนั้นโลกนี้มีแค่ถูกผิดจริงหรือ ?
0
White Frangipani 18 มี.ค. 56 เวลา 15:02 น. 4

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณที่แบ่งปัน "ความเชื่อและศรัทธา"ที่คุณมี

เชื่อเช่นกันเรื่องของ บาปและเวรกรรม รอกระทู้ต่อๆไปนะคะ ^__^


PS.  ความหวังคือพลังของชีวิต
0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาไม่เหมาะสม

๛ไหลฤา๛ 18 มี.ค. 56 เวลา 16:57 น. 6

วัฏจักรแห่งกรรม น่ากลัวยิ่งนัก อยากหลุดจากวัฏจักรนี้ไปจริงๆ อยากไปนิพพาน


PS.  เมตตา และ ปัญญา เป็นที่มาของความดี โอม.มณีปัทเมฮุม
0
Big Snake 18 มี.ค. 56 เวลา 17:42 น. 7
อันที่จริงเราก็กินนะเนื้อวัว เนื้อหมู เป็ด ไก่   แต่นานๆกินที และเราก็ไม่ได้สนับสนุนให้เขาฆ่า และก็ไม่ยินดียินร้ายด้วย   ที่เรากินเพราะเขาฆ่าเห็นเป็นเนื้อมาแล้ว  ที่กินเพื่อให้ครบอาหาร  5  หมู่
ส่วนมากเราจะกินสัตว์เล็ก เช่น  ปลา   เป็นต้น  เวลาเราไปตลาดแม้แต่ปลาเราก็จะชื้อตัวที่ตายแล้ว แต่ยังสดอยู่เท่านั้น                



เราเข้าใจมันเป็นธรรมดาของโลกต้องมีปะปนกันไปทั้งสองด้าน  ที่เขาทำบางคนทำเพราะอาชีพ ไม่ได้ทำเพราะความสนุกสนาน    แต่บางคนทำเพราะอาชีพบวกความสนุกสนานความสะใจที่ได้ฆ่าเห็นเป็นเรื่องสนุก    อันนี้บาปกรรมอาจจะตามทันเร็วหน่อย หรืออาจจะช้าก็ได้  แต่ก็เชื่อเถอะจะฆ่าแบบไหนก็บาปกรรมทั้งนั้น  มันเป็นกงกรรมกงเกวียนที่หมุนเวียนกันไปไม่รู้จักจบสิ้น


PS.  สิ่งที่เราพิสูจน์ไม่ได้ ไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง ใช่ว่าจะไม่มีในโลก
0
Wn_. 19 มี.ค. 56 เวลา 18:36 น. 8
กฎแห่งกรรมก็อาจจะไม่ใช่กฎที่ยุติธรรรมก็ได้  กฎแห่งกรรมเป็นเพียงสิ่งที่ค้นพบจากกฎธรรมชาติ อาจจะไม่ได้สอดคล้องกับความดีความชั่วก็ได้


สอนให้รู้ว่า อย่าโง่ !  หลงไป ประกอบอาชีพฆ่าสัตว์
ทั้งที่คนทั้งหลายก็กินสัตว์เป็นอาหาร แต่คนที่ประกอบอาชีพฆ่าสัตว์ต้องรับวิบากกรรมอย่างสาหัส ทั้งที่การประกอบอาชีพฆ่าสัตว์ รายได้ก็มักจะไม่ได้สูง ทำงานก็ลำบาก เจอสิ่งที่น่ารันทดใจ  รู้สึกว่าอาชีพฆ่าสัตว์ นี่ผลกรรมจะรุนแรงยิ่งกว่า ค้ายาบ้า ลักทรัพย์ วิ่งราว จี้ ปล้น (โดยที่ยังไม่ถึงขั้นทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือรับอันตรายสาหัส ) ซะอีก

ประกอบอาชีพอื่น  รวยกว่า สบายกว่า มีความสุขกว่า ได้กินเนื้อสัตว์โดยที่ไม่ต้องมารับกรรมด้วย


นี่เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น ไม่รู้ว่าถูกหรือผิดอย่างไร
หากเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นผู้ใด สิ่งใด ผมขออภัยด้วยครับ
0
กริน 21 มี.ค. 56 เวลา 00:24 น. 9

กฎแห่งกรรมมันมาจากเหตุ ที่ก่อให้ผล ความยุติธรรม อยู่ตรงกลางเป็นสัจธรรมอยู่แล้ว ว่าแต่ใครล่ะจะส่งผลกรรมชั่วนั้นให้เขา แล้วผลกรรมชั่วนั้นที่ส่งไปก็กลายมาเป็นกรรมใหม่ของตนเอง วนเวียนอยู่อย่างนี้ๆ ถึงบอกว่าไม่ยุติธรรม

การกินซากสัตว์ที่ตายแล้วไม่ผิด เพราะซากนั้นไม่มีเจ้าของไม่มีจิต ถึงจะบอกว่าการกินมังสาวิรัส ถ้าไม่รักษาศีลก็ไม่มีประโยชน์

0