Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แน่ใจแล้วหรอว่าอยากเป็นโปรแกรมเมอร์จริงๆ?? ใครที่อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ต้องอ่าน!!!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตอนนี้ก็ใกล้เข้าสู้โค้งสุดท้ายของเราชาวเด็กแอด56แล้ว
หลายๆคนคงกำลังคิดไม่ตกกับการเลือกเส้นทางอาชีพในอนาคตใช่มั้ยล่ะ เจ้าของกระทู้ก็เป็น
คือเราอยากเรียนวิทยาการคอม เพื่อที่จะได้เป็นโปรแกรมเมอร์ในอนาคต
ทีนี้เราเลยพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพนี้ให้มากที่สุด เพราะเราไม่อยากตัดสินใจพลาด
อย่างที่หลายๆคนรู้ งานทางด้านนี้ค่อนข้างเงินดีพอสมควร คนที่จบมาในสายงานนี้ค่อนข้างมาก(วิศวะคอม วิทย์คอม IT) แต่คนที่จะเก่งในด้านนี้จริงๆ มีน้อย
คนที่จบมาส่วนมากเขียนโปรแกรมแทบไม่เป็น หรือเป็นแค่งูๆปลาๆ และคนที่เก่งๆไปทำงานในต่างประเทศซะเป็นส่วนใหญ่
เข้าเรื่องดีกว่า เราไปเจอกระทู้นึงในพันทิพ ชื่อกระทู้ว่า"พอ! พอกันทีกับอาชีพโปรแกรมเมอร์! งานหนักไม่ต่างอะไรกับกรรมกร ทำงานเยี่ยงทาส นรกชัดๆ นี่หรือแรงงานความรู้ น่าสมเพชจริงๆ"
ชื่อกระทู้น่าสนใจใช่มะ? และรับรองว่าแต่ละความเห็นก็น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน
ในกระทู้นี้ไม่ได้มีแต่ข้อเสียของอาชีพนี้เท่านั้นนะ แต่มคนที่เป็นีโปรแกรมเมอร์หลายคนมาแนะนำแนว แสดงทัศนะคต แชร์ประสบการณ์ และชี้ให้เห็นข้อดีข้อเสียอีกด้วย
เราเลยอยากให้เพื่อนๆที่อยากเป็นโปรแกรมเมอร์เหมือนกัน หรือเลือกเรียนทางด้านนี้โดยที่ยังไม่ค่อยรู้รายละเอียดเกี่ยวกับอาชีพนี้เข้าไปอ่าน
จะได้คิดทบทวนดูว่า สิ่งที่กำลังจะตัดสินใจเลือกนั้น จริงๆแล้วมันเหมาะกับเราหรือป่าว และ "เรารักที่จะทำและสนุกกับมันจริงๆหรือป่าว"
เพราะจากที่เราได้อ่านทำให้รู้ว่า คนที่จะทำอาชีพนี้ได้ต้องอศัยความรักที่จะทำจริงๆ
ยังไงก็ขอให้ทุกคนตัดสินใจเลือกเส้นทางที่ตรงกับตัวเอง ไม่เลือกเส้นทางผิดนะ เราเป็นกำลังใจให้ ขอให้ทุกคนโชคดี
เข้าไปดูได้ที่นี่>>http://www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?Home=/home/InterWeb2000&File=/home2/searchdata/Forums/http/www.pantip.com/tech/developer/topic/DM1749862/DM1749862.html

แสดงความคิดเห็น

>

24 ความคิดเห็น

NuCH_ii 14 เม.ย. 56 เวลา 22:21 น. 1

เจ้าของกระทู้ขออนุญาตนำข้อความมาโพสให้เพื่อนๆชาวเด็กดีได้อ่านกันนะคะ(Cr.PANTIP.COM)<<ขอบคุณข้อมูล

"พอ! พอกันทีกับอาชีพโปรแกรมเมอร์! งานหนักไม่ต่างอะไรกับกรรมกร ทำงานเยี่ยงทาส นรกชัดๆ นี่หรือแรงงานความรู้ น่าสมเพชจริงๆ"

ผมเป็น Programmer มาก็หลายปีแล้วครับ
บอกได้เลยครับว่าชีวิตไม่มีอะไรดีเลย
มีแต่ความทุกข์ทรมานตลอดมา
วันๆ ต้องมานั่ง Coding ผมจึงเริ่มรู้สึกตัวว่า
"ทำไมชีวิตตูมันถึงน่าสมเพชขนาดนี้วะ"
แทนที่จะได้ใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ทั่วไป
กลับต้องมาทำงานหนักเยี่ยงทาส
กลายเป็นเครื่องจักร กลายเป็นหุ่นยนต์
ที่รอรับคำสั่งอย่างเดียว นี่หรือครับ
โลกแห่งความจริงของคนเป็น Programmer
นี่หรือครับ อาชีพที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น
แรงงานความรู้ แรงงานใช้สมอง นี่หรือครับกับคำว่า
Programmer ที่ฟังดูช่างเท่ห์ซะเหลือเกิน
ผมว่า Programmer เป็นเหมือนมนุษย์หุ่นยนต์
ซะมากกว่า ถ้าชีวิตคนๆ หนึ่ง ต้องมากลายเป็นแบบนี้
มันก็พอจะพูดได้แล้วล่ะว่า "ชีวิตบัดซบ" จริงๆ
ในขณะที่ผมเห็นคนอาชีพอื่นมีแต่ความเบิกบาน
สำราญใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส มีความเป็นผู้เป็นคน
แต่ Programmer อย่างผมต้องกลับต้องมาเครียด
กดดัน และอยู่กับหน้าจอจนสูญเสียความเป็นมนุษย์ไป

ดังนั้น ผมจึงคิดได้แล้วว่า พอกับทีกับอาชีพนี้
อีกไม่กี่วันนี้ผมจะลาขาดจากการเป็น Programmer
แล้วครับ และจะไม่หวนกลับมาในเส้นทางนี้อีกเลย
ผมเข็ดแล้วครับกับเส้นทางที่มืดมนไร้อนาคตสายนี้
ผมกำลังจะเป็นผู้หลุดพ้นจากความทุกข์
ผมกำลังจะได้รับการปลดปล่อยจากความทุกข์
ผมจึงเหลือบหันมามองเพื่อนร่วมอาชีพ ผมจึงรู้สึก
สังเวชในชะตากรรมของเพื่อนร่วมอาชีพยิ่งนัก
ที่มีสภาพเป็นทาสไม่ต่างกับผม เพียงแต่เขาเหล่านั้นจำต้องทนก็เพื่อเงินเอามาหาเลี้ยงปากท้องเท่านั้นเอง
ผมรู้ดีครับว่า ถ้าคุณมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าคุณคงไปแล้ว
คงไม่มีใครอยากจะเป็นมนุษย์ทาสหรอกจริงไหมครับ
ผมก็อยากจะบอกกับเพื่อนๆ ว่า ถ้ามันเหนื่อยมากก็
ไม่ต้องไปทนมันหรอกครับ เพราะถึงคุณทนต่อไป
มันก็ไม่แน่ว่าวันข้างหน้ามันจะมีอะไรดีขึ้นไหม
เพราะอาชีพนี้มันก็เหมือนเสมียนหรือนักบัญชียังไง
ยังงั้น เนรเทศตัวเองออกจากอาชีพนี้ดีกว่าครับ
ออกมาสู่โลกกว้าง ออกมาสู่โลกแห่งความจริง
ไม่ใช่หมกตัวอยู่แต่ในโลก Digital อันไร้ตัวตน
ไม่ใช่หมกตัวอยู่แต่หน้าจอ Com เหมือน Operator
หรือคนโรคจิตอะไรสักอย่าง
ผมหวังดีนะครับถึงมาให้ข้อคิดไว้
ส่วนผม ขอลาขาดครับ

0
NuCH_ii 14 เม.ย. 56 เวลา 22:26 น. 2

มาดูความเห็นกันหน่อยละกัน
ฝ่ายแดง>>ข้อเสีย

#บ.ต่างๆที่รับ programmer จะเห็นว่ารับแต่คนอายุไม่เกิน 30 ปี กำหนดว่าต้องเป็นโปรแกรมโน้นโปรแกรมนี้ แล้วโปรแกรมเมอร์เก่าๆ เสร็จหมด หางานแทบไม่ได้ ตอ้งไปทำอาชีพอื่น จากหัวข้อกระทู้บอกได้เลยเกือบทุกคนที่ทำอาชีพนี้มาโดนมาแล้วแทบทั้งนั้น ถึงเวลาต้องไปทำอาชีพอื่น เพื่อนที่รู้จักกันออกไปทำอาชีพอื่นบางคนที่ประสบความสำเร็จก็บอกว่ารู้งี้ทำตั้งนานแล้ว ไม่น่าทำเป็น programmer ตั้งแต่แรกเลย ไม่ได้มาดูถูกโปรแกรมเมอร์น่ะ อยากจะให้น้องๆได้ทราบว่ามันเป็นมาอย่างไรจะได้เตรียมตัวตนเองไม่ให้ตกอยู่ในความไม่ประมาท เพราะทำมาตังแต่ เป็นเด็ก operter ต๊อกต๋อยคุมเครื่อง mini mainframe , ทำงาน support computer , คนอบรมคอมพิวเตอร์ , programmer, sa, manager เป็นมาแทบหมด ทุกวันนี้ก็ยังนั่งเขียนโปรแกรมอยู่ (แต่เป็นลักษณะงานเสริม) และอานาคตก็ยังจะเขียนต่อไปเพราะรักในงานทำโปรแกรม เป็นงานที่ภูมิใจเมื่อเราสามารถนำระบบงานไปให้คนอื่นได้ใช้งาน แล้วเขาเอาโปรแกรมเราไปช่วงให้เขาประสบความสำเร็จ ถึงเราจะคุ้มบ้างไม่คุ้มบ้างมันก็ภูมิใจอยู่ลึกๆ สำคัญสุดคือเรื่อง support อย่าทิ้งละกัน

#โปรแกรมเมอร์ ในการทำงาน กับ การเรียนแตกต่างกันมาก
ตอนเรียนคุณ>>จะสามารถ ออกแบบ คิด ส่วนประกอบของโปรแกรมคุณว่าอยากให้เป็นอย่างไร ไปในทิศทางไหน ได้อย่างอิสระ
แต่ในการทำงาน>>คุณจะต้องทำในสิ่งที่ SA คิดขึ้นมาเท่านั้น( ไม่ว่ามันจะดีหรือไม่ก็ตาม )

#ผมมองว่า อาชีพโปรแกรมเมอร์เหมือนศิลปิน เหมือนดารา นักร้อง ตอนแรกๆอายุยังน้อยไฟแรง โอ๊ย มาเหอะ นั่งเขียนได้เป็นไฟข้ามวันข้ามคืนไอเดียกระฉูด พอแก่ตัวลง ไฟมอด มันจะมาเป็นช่วงๆ บางทีไอเดียมาก็เขียนไหลลื่น แต่บางวันมันไม่มีอารมน์เขียนเลยจะเค้นยังไงก็ไม่ออก นั่งมองหน้าจอเปล่าๆทั้งวันก็เขียนไม่ได้ซักบรรทัด อายุยิ่งเยอะความสามารถก็ลดลงไป ผมถึงมองว่ามันเหมือนศิลปิน จะสร้างสรรค์งานศิลปะได้ต้องมีอารมน์ที่อยากจะทำ ถ้าไม่มีอารมน์จะทำมันก็ไม่มีอะไรออกมา และเหมือนอาชีพดารา นักร้อง พอแก่ตัวก็หมดคุณค่าต้องไปหาอาชีพอย่างอื่นทำ ตอนนี้คุณคงเหมือนศิลปินที่หมดอารมน์ไม่มีไอเดียอะไรออกมา แต่ต้องถูกเค้าถูกบังคับให้งานมันออกมาคุณเลยรู้สึกเหนื่อยมาก ท้อมาก ผมเชื่อโปรแกรมเมอร์ทุกคนที่ทำมานานๆแล้วต้องเจอสถานการณ์แบบนี้และเข้าใจความรู้สึกแบบนี้
ไม่รู้ใครคิดอย่างผมหรือเปล่าแต่ผมคิดว่า อาชีพโปรแกรมเมอร์มันไม่ยั่งยืน พอเราสมรรถภาพถดถอย คลื่นลูกใหม่ก็มาแรงกว่า มันก็จะมาถึงวันนึงที่เราคิดว่า คงต้องวางมือในฐานะโปรแกรมเมอร์อาชีพได้แล้ว เลยอยากฝากให้เพื่อนๆได้ลองคิดและลองหาทางหนีทีไล่เอาไว้ เผื่อว่าวันนึงเราคิดอยากจะเลิกทำแล้วจะได้มาหนทางอื่นที่จะขยับขยายหนีไปได้ในอนาคตครับ ไม่ใช่จมอยู่กับการเป็นโปรแกรมเมอร์อย่างเดียว แล้วพอถึงวันนึงที่เราทำไม่ได้แล้วก็ไม่รู้จะไปทำอะไรกิน

#โปรแกรมเมอร์ในไทยผมว่ารุ่งยากครับเรื่องเงิน บริษัทที่จะจ่ายหนักๆ ก็ต้องเป็นบริษัทที่รับหนักๆ และบริษัทที่รับหนักๆ ในไทย ก็ไม่ใช่บริษัทที่เกี่ยวกะคอม บริษัทพวกนี้เป้าหมายธุรกิจไม่ได้อยู่ที่ software ก็เลยต้องการแค่โปรแกรมเมอร์ที่พอไปวัดไปวาได้ จะจ่ายแพงทำไม ถ้าต้องการงานแค่ง่ายๆ หลายคนอาจจะเถียงว่าคนเก่งกะคนไม่เก่งทำงานออกมาต่างกัน ความง่ายในการแก้ไข ความเร็ว ความทน จริงครับ นั่นเป็นมุมมองของโปรแกรมเมอร์ด้วยกัน แต่คนภายนอกเค้าไม่สนหรอก เค้ารู้แค่จะใช้ทำอะไร แค่นั้น อะไรจะวิ่งวุ่นกันข้างในบ้าง who cares?
แต่ก็ใช่ว่ามันจะหมดหวังไปซะทีเดียว มีบริษัทฝรั่งหลายแห่งที่จ่ายหนักๆ ถ้าคิดว่ามีความสามารถพอ ลองไปสมัครดูสิครับ
จริงๆ แล้วเรื่องเงินจะได้มากได้น้อย ผมมั่นใจว่าอยู่ที่ฝีมือเราครับ เอาไปเลย 80% สำหรับฝีมือ ที่เหลือ 20% เป็น ดวง + เส้น + บุคลิก เรื่องอายุผมว่าไม่เกี่ยว ถ้าการเปลี่ยนเทคโนโลยีถือเป็นตัวการสำคัญในการทำให้แพ้คนรุ่นใหม่ ขอให้ทุกคนลาออกจากอาชีพโปรแกรมเมอร์ไปเลย เพราะคุณก็เหมือนคอม 486 ในยุค P4 นั่นแหละ คุณเคยคิดมั๊ย ว่าทุกวันนี้คุณอ่านอะไรที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ บ้างมั๊ย? อยากรู้บ้างหรือเปล่าว่าตอนนี้มีแนวคิดเจ๋งๆ เกิดขึ้นหรือไม่? หรือรู้สึกว่าจะอ่านไปทำไม ไม่ได้ใช้ซักหน่อย? ไม่มีเวลา? ไม่มีใครสนหรอกครับ เค้าสนแค่ว่าคุณน่ะ 486 หรือ P4 แค่นั้น

#อ่านมาก็นานแหล้วนะ แต่ผมกลับเข้าข้างเจ้าของกระทู้น่ะ อย่าว่ากันเลย ประสบการณ์แต่ละคนทำให้พูดจาเข้าข้างตัวเองทั้งนั้น
- เคยเจอ Project ERP ราคาขายลูกค้า 1 ล้าน แต่ถูกบังคับให้ทำคนเดียว 4 เดือนไหม เป็นทั้ง programmer , project manager , system admin (ติดตั้ง ระบบ nt ด้วย) db admin , tester ถามจริงคุณจะเอาเวลาที่ไหนไปเที่ยวกับแฟน ไปดูหนัง เงินเดือนก็แค่ 12,000 แต่ละเดือนก็แทบไม่เหลือแล้ว
 - หมกมุ่น ทำอยู่ภาษาเดียวตลอด ทุ่มเทสุดขีด ตอนลาออกมามีแต่คนรับแต่ VB แล้วภาษาที่เราเฝ้าศึกษามาแทบตาย กลายเป็นขยะ
- เคยคิดไหมว่า ถ้า project ไม่เสร็จ อะไรจะตามมา ประวัติมันจะตามคุณไปตลอดชีวิต แทบหาที่เกิดใหม่ไม่ได้
โดนขู่จะฟ้องบ้างล่ะ จะตัดเงินเดือน จากค่าปรับรายวันในสัญญาลูกค้าบ้างล่ะ ขี้เกียจจะเล่า เจอมาหมดแล้ว
programmer น่ะ รับผิดชอบสูงท่วมหัว แต่ค่าตัวนะติดดิน
 
#ผมก็คิดเหมือนเจ้าของกระทู้นะ เอางี้ ถ้าคุณไม่เคยเจอปัญหาในการเขียนโปรแกรมแบบว่าคุณไม่สามารถหาทางแก้ได้ คนอื่นก็ไม่สามารถตอบได้ ตัวเองก็ไม่สามารถทำได้ด้วย เมื่อคุณรู้ถึงขีดจำกัดคุณ คุณก็จะรู้เอง ว่ามันน่าเบื่อมาก แล้วต้องมารับคำสั่งจากคนอื่นอีก
เพื่อนผมบอกกับผมว่า ผู้จัดการแผนกเค้า จบการตลาดมา แต่ใน cdg นะคับ ผู้จัดการมันยังดูถูกพวกโปรแกรมเมอร์เลย หน้าที่ของเค้าคือหาลูกค้ามาโปะ ๆ ให้เรา เงินเค้าได้ หน้าเค้าได้ ปัญหาเราแก้ เห็นไรมั่งปะคับ
ถ้าเราเป็นคนขาย software หรือเป็น software house เอง เราได้แต่กำไรคับ
 
#บอกได้คำเดียวว่า เลิกเถอะ อาชีพนี้ ใครใจยังสู้ ก็สู้ไป แต่ถึงวันที่หมด แล้วคุณจะเข้าใจ พวกที่เลิกอะ ใจสู้ทุกคนแหละ เห็นโปรแกรมเมอร์ คนนึง กลับบ้านเที่ยงคืน หกโมงเช้ามาทำงาน อายุ 35 แล้ว ใครๆ ก็เรียกอาจารย์ๆ ไปถามไร เค้าตอบได้หมด เก่งมากๆ แต่ดูเพื่อนๆ เค้ากับชีวิตเค้ามันคนละเรื่องเลย ใจรักอย่างเดียวครับ เงินเยอะนะ แต่ชีวิตไม่มีคุณภาพเลย ผมได้อยู่จนถึงวันที่เห็นเค้าร้องไห้ ให้กลับตัวเอง เค้าบอกวา ทุ่มเทมาทั้งชีวิต เงินเดือนสูงไป สำหรับตำแหน่งนี้ ถูฏขอให้ออก หรือเปลี่ยนตำแหน่ง เค้าขอลาออก เก็บของใส่กล่องทั้งน้ำตา เศร้าไปทั้งบริษัทเลย เจ้าของบริษัท ก็เพื่อนเค้าเองนะ ไม่กล้าถามเงินเดือนอะ ทำมา 18 ปี ตั้งเรียนอะ เฮ่อ! ผมทำมามาอีก 2 เดือน ก็ตัดใจเปลี่ยนอาชีพดีกว่า เงินเดือน สองหมื่นกว่าๆ ทำอะไร แทบไม่ได้ เปิดร้านขายราดหน้า ยังเงินเยอะกว่าเลย ไปหละ ใครยังมีไฟ อย่าทุ่มจนหมดนะครับ เก็บไฟ ไว้ทำอาชีพอื่นด้วย อายุ 30 คงจะเริ่มตั้งทำอย่างอื่น เพราะเห็นพี่ๆ ทุกคนเป็นแบบนั้นกันหมด

#โปรแกรมเมอร์ไทย 100 คน ประสบความสำเร็จในอาชีพไม่ถึง 1 คน Copy กันเข้าไป ทำ Crack ทำ Open Source กันเข้าไป คนที่ตั้ง Open Source ไม่ใช่ Programmer ซักคน เป็น Engineer ทั้งนั้น แต่โปรแกรมเมอร์จริง ได้ปลื้ม ได้งานเร็ว แต่ไม่มีราคา อิ อิ ไม่รู้ฉลาด หรือ โง่ ดู SAP ไม่แพร่หลาย โปรแกรมเมอร์ 7-8 หมื่น แต่คนรู้เยอะๆ ตอนนี้ 2-3 หมื่น ก็เยอะ แล้ว


0
NuCH_ii 14 เม.ย. 56 เวลา 22:31 น. 3

อย่าเพิ่งท้อนน๊าทุกคน มาๆๆ มาดูความเห็นที่ค้านกระทู้นี้ซะหน่อย^^
ฝ่ายน้ำเงิน>>ไม่เห็นด้วยกับกระทู้นี้!!

#พอโปรแกรมเมอแก่ตัว ก็มีอะไรทำอีกตั้งเยอะครับ ที่เขาบอกว่าไม่มีที่ไหนประกาสรับอายุเกิน 30 อะครับเพราะว่าจ้างแพงมากอะครับ แต่ถ้าพูดจริงจริงนะครับผมว่าถ้าใครเป็นโปรแกรมเมอจนถึงอายุ 30 ปีอะนะครับ ถ้ามีความคืดที่อยากจะมีอะไรเป็นของตัวเองอะครับผมว่าประสบการณืแบบนั้นเปิดบริษัทเองได้สบายเพราะน่าจะรู้ทุกระบบต่างต่างดีแล้วละครับ และคนพวกนี้อะครับก็จะจ้างเด็กมาฝึกให้เก่งและทำงานแทนตนและตนเองก็จะคอยคุม อะครับอายุขนาดนั้นประสบการณขขนาดนั้นคงไม่ต้องมาหางานกันอีกแล้วครับผมว่าคงน่าจะมีอะไรเป็นของตัวเองได้แล้ว มองให้ดีไม่มีอคติมันจะวนเวียนกันอย่างนี้แหละครับ
 
#เหนื่อย กะ สนุก หรือมีความสุขในการทำมัน เป็นทาส หรือลุ่มหลงกะสิ่งที่ทำอยู่ เลือกเอาเอง แต่คำตอบง่ายที่สุดคือใครจะเป็นโปรแกรมเมอร์ต้องรักและชอบในอาชีพที่ตนทำอยู่ แค่นั้นแหละคือข้อสรุป คำเตือน โปรดทำความสุขให้กะตัวเองมากๆ เวลาของเรามันผ่านไปเรื่อยๆ ไม่หยุดรอเราหรอก
 
#ผมเริ่มเป็นโปรแกรมเมอร์ ตอนแรกก็รับคำสั่งแล้วเขียนอย่างเดียว ผ่านไปสักสองปี ผมก็เริ่มออกแบบได้ ก็ทำงานประจำได้ด้วย รับจ๊อบด้วย รายได้ก็ดี ตอนผมทำงานผมพยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ได้อบรมเท็คโนโลยี ใหม่ๆ โดยเฉพาะTools และ Database ของ Oracle เงินเดือนก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ ผมมีความสุขกับสายอาชีพนี้ ผมเห็นพวกทำงานอื่นๆ ทุกสาขาในบริษัทผม ก็อิจฉาคนในแผนกผม เพราะได้รับสิทธิพิเศษหลายอย่าง เช่นไปทำงานสายได้ โดยไม่มีความผิด วันไหนไปหาลูกค้าก็จะได้กลับบ้านเร็ว หรือช่วงไหนงานเยอะก็ทำดึกหน่อย ก็สลับกันไป แต่ผมเต็มใจทำมัน เพราะงานด้านนี้มันมีความมันส์อยู่ในตัว พอผ่านไปสามปี ผมเปลี่ยนงาน เงินเดือนก็เพิ่มอีก 15,000 เป็น 30,000 แล้วก็ผมทำงานที่สองได้สองปี ก็เปลี่นอีก ได้เงินเดือนเพิ่มเป็น 40,000 บาทในประสบการณ์ ห้าปี และแถมมีงานนอกอีกหลายหมื่นบาทต่อเดือน เรียกว่าสบายใจเลยหล่ะ
สิ่งที่ผมแตกต่างจากคนทีตั้งกระทู้คือ
1) ผมชอบในอาชีพนี้
2) ผมคงมีความทะเยอทะยานกว่า
3) ผมมีความฉลาดที่จะใช้ชีวิตมากว่า(คนที่โง่ที่สุด คือ คนไม่รู้จักใช้ชีวิต)
4) คนตั้งกระทู้คงเป็นคนที่ไม่เก่ง และเอาดีด้านนี้ไม่ได้ ถูกแล้วที่จะต้องถอยออกไป
ปล. ผมดีใจน่ะ ทีสายงานนี้คนอย่างนี้ออกไป เพราะที่ทำงานผม ผมเบื่อคนพวกนี้มาก พวกที่ไม่รักงานตัวเอง
 
 
 #คนที่ไม่ชอบ ก็ไปทำอย่างอื่นซะเสียครับ ไม่ได้บังคับซะหน่อย
1. คนที่บอกว่า เจอเด็กใหม่ไล่หลังนี่ พวกคุณออกจากอาชีพนี้ไปเถอะครับ ประสพการณ์คุณมีมากกว่าเยอะ มาเจอเด็กใหม่ไล่หลังได้ไง เทคโนโลยีใหม่ๆอะไร พวกคุณก็น่าจะรู้ก่อนทั้งนั้น แต่ไม่ใสใจเพราะคิดว่าที่รู้อยู่ก็พอกิน ทำอาชีพนี้ไม่เจริญหรอกครับ
2. คุณที่บอกว่าเป็นทาส ก็ออกจากอาชีพนี้ไปเถอะครับ ถ้ามัวแต่รับคำสั่ง เสนอความเห็นไม่เป็น requirement ส่วนใหญ่มันไม่ถึงรายละเอียดขนาดนั้น มีหลายอย่างมากที่อยู่ในดุลยพินิจของคุณ อีกอย่าง ถ้าคุณเจ๋งจริง เสนอความคิดที่ดีกว่าออกไปก็ได้ ถ้าคุณรู้ว่า คุณทำได้ดีกว่านั้น พิ่งโปรเจคก่อนนี่เอง ทำ prototype แล้ว demo ให้เขาดู เขาเปลี่ยน requirement ให้ผมเลย
3 คนที่บอกว่าถ้าเก่ง ฉลาดต้องไปเป็นโปรเจคแมเนเจอร์ ก็รีบๆไปเป็นเถอะครับ คุณไม่ qualified ที่จะเป็น โปรแกรมเมอร์ ครับ programer กับ project manager ใช้สมองคนละฝั่งครับ
4. เรื่องไม่มีเวลาทำอะไร ก็ไม่เกี่ยวครับ คุณบริหารเวลาคุณไม่เป็นต่างหาก ผมก็ออกไปเล่นกอล์ฟ ดูหนัง ฟังเพลง กินข้าวกับแฟน ออกกำลังกายตาม gym แบบคนทั่วไป รักจะทำอะไรก็ทำอาชีพนั้นไปครับ ผมไปทำงานทุกวันอย่างมีความสุข นั่งอยู่บ้านยังเขียนโปรแกรมเล่นๆเองเลย หาหนังสืออ่าน update ตัวเองสม่ำเสมอ ยิ่งอ่านยิ่งมีความคิดใหม่ๆเข้า เพราะ เทคโนโลยีมันก็พัฒนาไปเรื่อยๆ ไอเดียดีๆโผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย
 โชคดีครับ อย่ามัวนั่งทำสิ่งที่ไม่ชอบอยู่เลย
ทำสิ่งที่ชอบ ทำสิ่งที่ถนัด แล้วคุณก็จะประสพความสำเร็จครับ
 
  
#ที่สำคัญที่อยากให้คนที่อ่านกระทู้นี้พึงระลึกไว้คือ มองตัวเองเป็นสำคัญค่ะ ก่อนจะมองคนอื่น
คุณเห็นคนอื่นสำเร็จ ก็ไม่มีอะไรการันตีว่า ถ้าคุณไปอย่างเขา จะสำเร็จอย่างเขา ศักยภาพของคนเราไม่เท่ากัน
เหมี่ยวอ่านกระทู้นี้ไปๆมาๆ รู้สึกอยากหางานใหญ่ เอาที่มันใหญ่ๆ เงินดีๆ แต่ถามว่าตอนนี้ตัวเองพร้อมจะไปมั๊ย
เก่งแล้วไง อายุประสบการณ์เรามันน้อย ยังขาดความน่าเชื่อถือ แล้วทำยังไงถึงจะได้มันมา ซึ่งกว่าจะถึงความสำเร็จ มันคงมีเส้นทางของมัน ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม
 
#งานที่ทำอย่างไรบ้าง ถ้าไม่ดิ้นรน ไม่ค้นคว้า มันก้อไม่เก่งสักที ก้อโง่ร่ำไป ทำงานหนักๆ ซ้ำๆ ไปไหนไม่รอด - เหมือนที่คุณบอกว่า "เพราะอาชีพนี้มันก็เหมือนเสมียนหรือนักบัญชียังไง" - เห็นได้ชัดว่า คุณทำงานแบบที่ว่า ยอมให้งานมันบีบคุณ งานโปรแกรมเมอร์มีตั้งหลายอย่าง - อย่างที่คุณบางคนบอกว่า คนเราเจอมาไม่เหมือนกัน ถูกต้อง ไม่เหมือน แล้วทำไมถึงดันสรุปว่า โปรแกรมเมอร์ไม่ดีเล่า หา? ทั้งที่จริงๆ แล้ว อาจจะเพระตัวเอง ไม่กล้าที่จะออกไปหาความรู้ใหม่ๆ ไม่พัฒนาตัวเองให้ไปข้างหน้า จะบ่นทำไม
อยากบอกว่า บางคนที่บอกว่า คนแบบนี้ออกไปซะเนี่ย พูดแรงไป แต่ก้อเห็นด้วยนิดๆ เหมือนกัน อยากจะบอกว่า คนเราเบื่อแล้วก้อด่าก่อนไปหนะไม่ดีหรอก มองตัวเองซะก่อน ว่าทำไมต้องไป โลกนี้ไม่มีอะไรดีหรือร้ายไปหมดหรอก อาชีพสุจริตหนะ .... เพราะฉะนั้น ... ไปคิดให้ดีอีกทีเถอะ อยากไปก้อไป อะนะครับ
ตอนนี้หนะ โปรแกรมเมอร์มันปั๊ม ออกมามากไป ทำงานกันอย่างที่ว่า อยากจะได้เงินกันเยอะๆ ก้อมาทำ ตัวเองเก่งแค่ไหน ไม่ทราบได้
สรุปว่า ผมอ่านความรู้สึกของคุณแล้ว คุณมันไม่ได้รักงานนี้จริงๆ ก้อเท่านั้นเอง ไม่คิดจะทำก้อเลิกไป ดีแล้วครับ
 
#เหมือนเราเล่นเกมส์ฟุตบอลแข่งกับเพื่อน แล้วคุณแพ้ คุณก็เลยอ้างว่าเกมส์นี้ไม่สนุกคุณไม่ถนัดเกมส์นี้ แล้วก็เที่ยวไปบอกคนอื่นว่าอย่าเล่นเกมส์นี้เลยมันไม่สนุก คุณมันไอ่ขี้แพ้นั่นเอง
ทุกอาชีพมีคุณค่าในตัวมัน ถ้าไม่เหมาะก็ออกไปซะถ้าไม่ไหวก็ออกไปซะ ไม่ใช่มาเปรียบเทียบว่าอาชีพนี้มันดีหรือไม่ดีอย่างไร อยากให้คุณเข้าใจในโลกมากกว่านี้นะ
 
 #การเป็น programmer ก็ยังมีอะไรสนุก ๆ อยู่นะครับ หาอะไรที่ "ท้าทาย" ทำซิ อย่าคิดถึงเงินให้มากนัก รองทำอะไรที่ ทำให้คนใช้โปรแกรมเขามีความสุข สนุก และยอมรับผลงานขอเรา ...เราจะรู้สึก "ภูมิใจ" ในอาชีตนี้มาก ๆ ( เก่งเฉพาะด้าน ให้เชียวชาญ รู้จริงให้ถ่องแท้ แต่ละ bit ของการ process ...อย่าเพียงรู้ แต่เอาตัวไม่รอด )

2
SSuperProgramon 22 มี.ค. 60 เวลา 15:07 น. 3-2

ตอบหรือเถียง แก้ต่างทำไม ในเมื่อความเป็นจริงมันเป็นอย่างที่เขาเขียน แล้วโปรแกรมเมอร์ไทย จริงๆ หลายคนก็รู้สึกได้

0
ซ่อนนาม 15 เม.ย. 56 เวลา 03:56 น. 4

คนที่รู้ความลำบากของอาชีพใดมากที่สุด ก็ต้องเป็นคนที่อยู่ในอาชีพนั้น
แต่คนที่รู้ความสบายของอาชีพใดมากที่สุด ก็ต้องเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในอาชีพนั้น


เพราะเรื่องแย่จะไม่ถูกพูดถึง คนที่อยู่เท่านั้นถึงรู้จักกับมัน
ส่วนเรื่องดีจะถูกต่อเติมเสริมแต่งจากคนที่อยากจะเป็น จนทำให้ดูเลิศเลอกว่าปรกติ

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 15 เมษายน 2556 / 03:57


PS.  ถ้าถูกผิดคือขาวกับดำ แล้วสีอื่นจะให้อยู่ในหมวดไหน ดังนั้นโลกนี้มีแค่ถูกผิดจริงหรือ ?
0
ลุงดำ 15 เม.ย. 56 เวลา 08:50 น. 5

เห็นด้วยกับจขกท. รุ่นน้องลุงดำเป็นโปรแกรมเมอนี่หละ พวกมันบ่นกันทุกคน เงินดีจริง
แต่งานหนักมาก หนักไม่รู้จบ ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา เดี๋ยวโปรแกรมใหม่มา ...โทษทีไม่ได้คิดเองหรอก ซื้อลิขสิทธิ์จากตปท.มา ต้องไปเรียน ต้องมาเขียน ต้องมาพัฒนาให้บริษัท ลองผิดลองถูก
แก้แล้วก็อีก ไม่ตรงใจหน่วยงานอื่น แก้อีก&nbsp แล้วการแก้ก็ไม่ง่าย โปรมแกรมเมอร์ไม่ค่อยชอบงานแก้
ชอบงานเขียนใหม่ง่ายกว่า

คนชอบก็มี ชอบด้วยใจ แต่ละคน คนไม่ชอบก็มี แล้วแต่เลือกนะ&nbsp อาชีพอื่นก็เหนื่อย เหนื่อยคนละแบบคนละสไตล์

0
Coo-per 15 เม.ย. 56 เวลา 10:47 น. 6

เท่าที่ผมอ่านมานะ ตอนแรกเลยผมสนใจด้านฟิสิกส์ พอขอคำปรึกษากับรุ่นพี่ภาคฟิ เค้าก็บอกว่ายาก งานก็ไม่ก้าวหน้า เงินไม่ดี ผมก็เลยหันมาสนใจด้านคอมพ์ดู เพราะผมไม่ชอบชีวะ พอมาอ่านนี่ก็ไม่ดี งานหนัก แต่เงินดี
คือผมเองตัดสินใจเยอะนะกลับสาขาของวิทยาศาสตร์ แต่ทุกสายงานมันก็มีทั้งข้อดีข้อเสียแหละ ถึงคุณเลือกบัญชี งานคุณก็หนักครับ แต่เงินคุณดี ทั้งนี้ทั้งนั้นผมว่าเลือกที่คิดว่าทำแล้วแฮปปี้ที่สุดก็พอ เพราะสุดท้ายแล้วเมื่ออายุมากขึ้น คุณจะคิดถึงความสุขมากกว่าเงินทอง อันนี้ความคิดผมนะ

0
&#039;gtihMs De-rd~ 15 เม.ย. 56 เวลา 13:29 น. 7

ยาวไปอ่านไม่จบอ่ะ แต่ก็เข้าใจน่ะ
โปรแกรมเมอร์เป็นอาชีพกรรมกรจริง
ความก้าวหน้าในไทยแทบไม่มี ส่วนใหญ่ผันตัวไปเป็นฟรีแลนซ์หมด
ต้องเรียนรู้ของใหม่เรื่อยๆ แถมต้องทำงานปัจจุบันอีก
มันก็ตื่นเต้นท้าทาย แต่ทำนานๆมันจะตายเอา เพราะเหนื่อย


PS.  เสแสร้งกล้งทำ ยังดีกว่าบอกความจริงให้เจ็บช้ำ ^^'
0
sony 16 เม.ย. 56 เวลา 09:22 น. 8

อึ๋ย เรากะจะเข้าวิทยาการคอมเหมือนกัน

กำลังจะแอดแล้วเนี่ย =O=;;; เจองี้เงิบเลย

0
Created to kill 17 เม.ย. 56 เวลา 07:54 น. 9

เพราะประเทศไทยสวัสดิการมันกากกกกกไงคะ ต่างประเทศเค้าเรียกโปรแกรมเมอร์ว่า software engineer ค่ะ ฟังแลดูยิ่งใหญ่กว่าของพี่ไทยเป็นไหนๆ
และโปรแกรมเมอร์ สวัสดิการต่างประเทศมันเมพมากค่ะ อย่างโปรแกรมเมอร์ที่ไหนๆ เค้าก็อยากทำงานที่ google ใช่ไหมคะ คนไทยที่จบสายนี้มา ก็หนีไปเป็นซัพพอร์ตหมด หรือไม่ก็หางานข้ามสายไปเลย มาเป็น coder น้อยมากค่ะ

0
engineer hacker 28 ส.ค. 57 เวลา 11:27 น. 13

ผมไม่เคยมีความรู้เลยครับ แต่ผมได้ความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์จากพี่ เพราะพี่ของผมเป็นโปรแกรมเมอร์
ผมพยายามศึกษาด้วยตัวเองอยู่บ่อยๆ อ่านกระทู้ของคนที่เขาเก่งๆ แล้วลองหัดทำ รวมทั้งอ่านหนังสือที่ไปเสาะแสวงหาซื้อมาอ่าน รวมทั้งหนังสือของพี่ที่เขาเคยอ่าน ตอนนี้ผมทำงานด้วยเรียนด้วย ผมไม่ไดสนใจเรื่องเงินเท่าใหร่ แต่ผมสนใจในประสบการณ์ และความสามารถของตัวเองมากกว่าครับ เยี่ยม มีคนชมอยู่บ่อยๆว่า ผมเป็นคนที่ชอบ update สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ผมเคยคิดว่าสักวันหนึ่งผมจะเป็นโปรแกรมเมอร์ ที่เก่ง จนได้ไปอยู่กับ google ครับ มันคือความฝันเล็กๆครับ

0
YLT. 7 พ.ย. 57 เวลา 13:45 น. 15
เหนื่อยจุง สำหรับมุมมองของผมแล้ว อาชีพทุกอาชีพบนโลกใบนี้ มันมีทักษะในตัวของมันเอง แต่ละทุกสายอาชีพ ก็ล้วนแต่ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันนะว่ามัย ผมเองก็เป็นโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่เงินเดือนก็ไม่ได้สูงอะไรมากนัก ผมว่าทุกสายอาชีพที่เกิดขึ้นมาก็น่าจะเกิดมาจากความถนัดที่ต่างกัน ขอเพียงเรามุ่งมั่นที่จะเดินไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผมว่าแค่นี้ก็พอใจแล้ว .... เพราะความสุขของแต่ละคนอาจแตกต่างกันก็ได้ ถ้าลองถามชิว่าคุณชอบสีอะไร แค่นี้ก็รู้คำตอบแล้ว OK ปะ.
0
Dream 3 มิ.ย. 58 เวลา 13:03 น. 17

รายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจ
: AntWebsystems is a company specialized in the development and support of the Apache OFBiz ERP open source system in a company networked international environment with competitive rates.
ที่อยู่ :171/28 หมู่ 3 ตำบล หนองแก๋ว อำเภอ หางดง จังหวัด เชียงใหม่
(ใกล้กับมหาวิทยาลัยนอร์ทเชียงใหม่) แผนที่
http://maps.google.com/maps?hl=en&newwindow=1&q=antwebsystems+chiang+mai+thailand&bav=on.2,or.r_gc.r_pw.&um=1&ie=UT 50230 50230 , เชียงใหม่
เว็บไซต์ :www.antwebsystems.com

ประกันสังคม
- มีที่พักให้สำหรับผู้ที่ต้องการ
- มีโบนัสทุกสื้นปี
- ให้ลาพักร้อนในแต่ละปี
- พิจารณาปรับขึ้นค่าแรงทุกปี
- หยุด เสาร์-อาทิตย์
- มีค่าอาหารให้แต่ละมื้อ

0
Mafia Chocolate 1 มิ.ย. 59 เวลา 23:37 น. 19

ไม่รู้อ่ะ อยากเป็นจะเป็นให้ได้ วาดไว้แล้วเราต้องไปให้ถึงสิ จริงไหม?
หากมัวแต่กลัว งานนั้นไม่ดีงานนี้ไม่ได้ ชาตินี้ก็ไม่ต้องทำอะไรหรอก ใช่ไหม?
ดังนั้นคิดอะไรไว้แล้ว อยากเป็นอะไรเราต้องทำให้ได้ 
ถึงงานโปรแกรมเมอร์มันจะเหนื่อย แต่ถ้าเราชอบและรักมันจริงมันก็คงไม่เหนื่อยหรอก ว่าไหม?

เราอายุสิบสี่เองยังไม่ค่อยรู้อะไรหรอก แต่ก็นะ...ยังไงก็กำลังฝึกอยู่ 

สู้ๆ
0
CS.นิรนาม โคราช 2 ก.ย. 59 เวลา 09:48 น. 20

ไม่ได้เลวร้ายอย่างนั้นซักหน่อยครับผมก็เรียนอยู่มีรุ่นพี่ที่จบไปแล้วทำงานดีๆตั้งหลายคนเลยครับ มันอยู่ที่คนเราครับถ้ามีความสามารถก็จะไม่มีความทุกข์ครับสนุกไปกับมัน ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบมันจริงๆหรือเปล่าเรียนแล้วต้องเขียนโปรแกรมให้ได้คนส่วนใหญ่คนที่จบไปแล้วมาพูดแบบนี้คือคนที่จบพอถูๆไถๆไป(เอาตรงๆ)
ผมก็ฝากถึงคนที่คิดอยากจะเรียนนะครับสำรวจตัวเองนะครับว่าคุณชอบมันหรือเปล่า (ไม่ใช่ชอบเล่นเกมส์ลงวินโด้ ลงโปรแกรมแล้วคิดว่าตัวเองถนัดนะครับ) มันเรียนลึกมากกครับมันคือการเขียน code ถ้าชอบก็เรียนเลยครับ

0