Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ผมอายุ 26 ปีเรียนมหาลัยยังไม่จบ ปีนี้กำลังขึ้นปีที่ 8 หาเงินยังไม่ได้ ไม่มีเพื่อน ไม่แข็งแรง ตัวเตี้ย อ่อนแอ แต่..

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ก่อนอื่นที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา

หนึ่ง เพื่อขอคำปรึกษาจากพี่ๆผู้ใหญ่หรือเพื่อนๆน้องๆ และอยากจะระบาย  
สอง ตอนนี้ผมกำลังสับสนและท้อแท้  ถึงแม้ใจผมจะยังสู้ แต่วันนี้ผมรู้สึกโดดเดี่ยวเกินกว่าจะสู้ไหวจริงๆ

ถ้าพี่ๆขี้เกียจอ่านดราม่า  ประเด็นของกระทู้นี้อยู่ด้านล่างฮะ

ผมขอชื่อบอลละกันนะครับ ผมเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยค่อนข้างมีชื่อ จบจากโรงเรียนที่ค่อนข้างดี  
ฐานะทางบ้านดี คุณพ่อมีหน้ามีตา คุณแม่เป็นแม่บ้าน แต่พ่อผมเกษียณแล้วนะ  

ตอนนี้ผมเหลืออีกสี่วิชา เกรดเฉลี่ยไม่ถึงสอง  เหลือเวลาอีกหนึ่งเทอมที่ต้องเรียนให้จบให้ได้  

ผมสารภาพอย่างน่าอายว่าสาเหตุที่ผมเรียนไม่จบคือ ปมด้อยเรื่องส่วนสูง และ ผู้หญิง และ คณะที่ผมเรียนอยู่ไม่ใช่สิ่งที่ผมชอบ ครับ  ผมไม่ใช่คนเที่ยวกลางคืน ไม่ชอบกินเหล้า หรือติดเกมติดการพนัน

หลายคนคงจะงงว่าปมด้อยส่วนสูงมาเกี่ยวอะไร   ถ้าใครที่ตัวเตี้ยคงจะเข้าใจนะครับ  เพราะผมสูงแค่ 159.5 ทุกครั้งที่ออกนอกบ้านแล้วเงยหน้าขึ้นคุยกับเพื่อนๆ  เพื่อนๆในคณะเดินเข้ามาหาผมแล้วบอกว่าเตี้ยจัง ตัวเล็ก เวลาเข้าไปจีบสาวคำถามแรกที่ได้ยินคือ ทำไมตัวเล็กจัง...บางคนก็ส่ายหน้าแล้วก็บอกว่าไม่ดูส่วนสูงตัวเองเลยนะ..เตี้ยบ้าง..ไม่เจียมตัวบ้าง..เตี้ยสุดในคณะป่าว...ผมเจอมาเยอะมากครับที่มีคนพูดถึงปมด้อยเรื่องส่วนสูง แต่จะให้ผมทำยังไงก็มันได้แค่นี้...

แต่ทีนี้ในที่สุดผมก็มีแฟนคนแรกได้ครับ ตอนปีหนึ่ง..แต่เป็นลูกสาวร้านขายถั่วเล็กๆครับ ติดการ์ตูน ติดอินเตอร์เน็ต ติดเกม ขี้เกียจ ไม่เรียนหนังสือ ไม่ทำงาน วันๆเธอก็คลุกตัวอยู่แต่ในห้อง ขอเงินแม่ใช้ไปวันๆ และเอาแต่ใจมาก

ตอนนั้นผมคิดว่า..."เอาเถอะนะ เรามันตัวเตี้ยหาแฟนได้แค่นี้ก็บุญโขแล้ว"

ช่วงนั้นก็เป็นวิกฤติของครอบครัวด้วยครับ  พี่ชายติดเที่ยว พ่อก็ใกล้จะแยกกับแม่ ส่วนแม่ผมเป็นคนอารมณ์ร้ายมากครับ (ครอบครัวของผมทะเลาะกันรุนแรงทุกวัน ปาข้าวของอะไรทำนองนี้เลย)  

พอขาดความอบอุ่น ประกอบกับที่ผมเรียนรร.ชายล้วนมาครับ  ผมไม่ประสาผู้หญิงเลย  ทำให้ผมติดแฟนมาก ไปช่วยแม่ของแฟนขายของ ไม่มีเพื่อน ไม่เข้ากิจกรรม  และสุดท้ายก็ทำให้ไม่เจอหน้าใคร และไม่มีใครรู้จัก...

หลังจากขึ้นปีสองแฟนทิ้งผมไปหาคนใหม่ครับ(ผมก็คิดว่าสมควรแล้วละ) จากนั้นทุกอย่างก็เคว้ง หาเหตุผลไม่ได้สักทีว่าเขาทิ้งเราเพราะอะไร เอาแต่ร้องไห้ด่าตัวเองว่าทำไมเกิดมาเตี้ย  ตอนนั้นอยากคุยกับใครก็ไม่ได้เลย    พ่อกับแม่กำลังจะหย่า พี่ชายติดเหล้าติดเที่ยวกลับมาก็โวยวายใส่  ผมก็เลยย้ายออกมาอยู่หอคนเดียว ใช้เงินเก็บตัวเองที่น้อยนิดมาก  ผมยังจำวันที่ร้องไห้นั่งแกะกินมาม่าแห้งๆข้างถนนได้อยู่เลย  ี มันรู้สึกโดดเดี่ยวมากๆครับ ผมแทบจะใช้น้ำตาแทนน้ำซุปมาม่าเลย

ผมเสียเวลาทำใจอยู่นานมาก ไปเรียนก็พยายามจะคุยกับเพื่อนเขาก็ไม่ค่อยคุยด้วย เพราะพอขึ้นปีสองเขาก็จะมีกลุ่มของเขาที่สนิทกันแล้ว ทำให้ผมนั่งเรียนคนเดียว คนที่จำผมได้ก็จะทักทายกันเฉยๆไม่มีการชวนไปกินข้าวหรือไปเที่ยวไหน จากนั้นไม่นานเงินเก็บก็ค่อยๆหมดลงจนไม่ไหว ผมจึงตัดสินใจโทรไปขอเงินพ่อซึ่งพ่อก็เต็มใจให้ครับ และขอให้ผมเรียนให้จบ หลังจากนี้พ่อจะเป็นคนส่งเอง

ผมคุยกับพ่ออย่างนึงว่าผมอยากจะย้ายคณะ  เพราะวิชาที่เรียนอยู่มันไม่ใช่ตัวผมเลย ผมไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคมเลย พ่อก็อ้ำๆอึ้งๆแล้วบอกว่าก็ตามใจผม แต่น้ำเสียงของพ่อลำบากใจมาก เพราะพ่อรู้นิสัยแม่  ถ้าแม่ผมรู้   แม่ก็จะโทรมาด่าพ่อแล้วก็ทะเลาะโวยวายคุยเรื่องอย่ากันอีก  

ถึงผมจะไม่ค่อยได้คุยกับพ่อ  ผมก็เคารพพ่อมากครับ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรยังไงพ่อจะช่วยผมอยู่เสมอ ถ้าผมย้ายคณะแล้วทำให้พ่อต้องทะเลาะกับแม่ผมก็จะไม่ย้าย  ผมลองเช็คด้วยการแอบโทรไปแย้บๆแม่เรื่องย้ายคณะ อารมณ์ก็เดือดขึ้นมาทันที เพราะพี่ชายผมก็เรียนไม่จบคนนึงแล้ว  ผมเลยตัดสินใจไม่ย้ายและทนเรียนต่อไปให้จบ

พี่ๆที่มีประสบการณ์ถูกแบนจากสังคมคงจะเข้าใจความรู้สึกของผมดี  ทุกเทอมที่ต้องบากหน้าไปเรียน  ทุกครั้งที่ต้องมีการจับกลุ่ม ไม่มีใครคุยกับผม  ขอใครเข้ารวมกลุ่มก็เต็มแล้ว  จนต้องบอกอาจารย์  อาจารย์ก็ช่วยถามว่ามีใครจะรับพี่บอลไหม  แต่ปรากฏว่าไม่มีใครเอาครับ ผมเลยบอกอาจารย์ว่าขอทำงานคนเดียวก็ได้  

หลังจากขึ้นปีสาม ผมติดเอฟกระจายครับ เยอะมากเพราะผมไม่เข้าใจที่อาจารย์สอนเลย  มันไม่ใช่วิชาที่เข้าหัวสมองของผมเลยสักนิดเดียว
กิจวัตรประจำวันของผมก็คือ ไปนั่งเรียน  กินข้าว และกลับหอ...ซ้ำๆกันอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งผมขึ้นปีสี่

บอกตามตรงว่าตอนนั้นเหงาแบบจนไม่รู้จะเหงายังไง...เดินออกไปเห็นเพื่อนๆคุยกันสนุกสนานเฮฮา...บางคนกระหนุงกระหนิงกับแฟน...
วันๆหนึ่งผมพูดไม่ถึงห้าคำครับ  โทรไปหาพ่อพ่อก็ยุ่งมากจนไม่มีเวลา โทรไปหาแม่ก็รังแต่จะทำให้แม่โมโห...

อยากจะทำงานพิเศษ เพราะบางทีอาจจะมีเพื่อนใหม่ก็ได้ แต่พ่อก็ไม่ให้ทำ..ให้เอาเวลาที่ทำไปอ่านหนังสือดีกว่า..

ดังนั้น..เพราะความเหงาบวกกับความกดดันรอบข้าง...ทำให้ผมคิดว่าอยากจะลอง เที่ยวผับดูสักครั้ง...

ผมไม่เคยเที่ยวผับเลยครับ เพราะผมไม่ชอบ ก็เลยลองไปเที่ยวดู สั่งเหล้า ใส่รองเท้าที่ส้นมันหนาๆให้ดูสูง คือหน้าตาผมไม่ได้แย่และหุ่นไม่ได้อ้วนอะไร  ดังนั้นคืนแรกที่ผมเที่ยวผับ  ก็มีสาวมาแจกเบอร์ครับ...และเธอคนนั้นก็เลยกลายเป็นแฟนคนที่สองของผม...แต่...

เธอคนนั้นอายุ 30 กว่าๆ ...ในขณะที่ผมอายุ 22

ถ้าใครเคยดูรักสุดท้ายป้ายหน้า...บางอารมณ์ก็เป็นแบบนั้นเลยครับ คบกันอย่างปิดบัง...แฟนต้องโกหกเพื่อนร่วมงานว่าผมทำงานแล้ว และผมเพิ่งรู้ตัวว่าการถูกผู้หญิงหลอกเอาเงินมันเป็นยังไง...เนื่องจากฐานะของพ่อผมดี...เธอเลยให้ผมยืมเงินพ่อมาให้เธอใช้ด้วยเหตุผล
ต่างๆนาๆ ถ้าไม่ให้เธอก็จะบอกว่าผมคงเป็นคนที่ดูแลเธอไม่ได้...เธอมีหนี้...เธอต้องการผู้ชายที่มาซับพอร์ตเธอได้....

ผมก็ไม่ประสาเรื่องผู้หญิง...และคิดมาตลอดว่าตัวเองตัวเตี้ยแค่นี้...การจะหาแฟนมันยากจะตาย..พระเจ้าประทานมาให้อีกคนนึงก็ดีแล้ว
..และคิดว่าเธอคนนี้ก็จบการศึกษาดี ทำงานก็ดีไม่น่าจะหลอกเอาเงิน  แล้วพอเรียนจบถ้าผมหางานได้ก็จะแต่งงานกัน อายุไม่เป็นอุปสรรคหรอก
เหมือนในหนังไง (ฮ่าๆๆ โคตรเพ้อ)

ผมขอเงินพ่อมาและให้เธอยืมไปเยอะพอสมควร...เธอเอาไปเปิดทำธุรกิจและให้ผมเป็นคนดูแล...ส่วนเธอมาเก็บตังอย่างเดียว
แล้วทีนี้ผมจะเอาเวลาที่ไหนมาดูแลล่ะครับ  แน่นอนว่าผมต้องยอมสละเวลาเรียนมาดูแลร้าน   บอกตามตรงว่าตอนนั้นผมตาบอดมากๆ
และคิดอยู่อย่างเดียวว่าไม่อยากถูกผู้หญิงทิ้งอีกแล้ว มันเหงา มันโดดเดี่ยวเหลือเกิน ก็เลยทุ่มเทเต็มที่ให้ร้านมันไปได้สวยเธอจะได้เห็นว่า
เด็กอย่างผมก็พึ่งพาได้...สุดท้ายเสียเวลาไปอีกสองปี...และสุดท้ายร้านก็เจ๊ง...

และแน่นอนว่า...ผู้หญิงคนนั้นก็จากไป...

ตอนนั้นผมอายุ 24 เรียนอยู่ปีหก ติดเอฟ เจ็ดตัว...และเหลือวิชาอีก 38 หน่วยกิจ....เกรดเฉลี่ยไม่ถึงสอง..

แต่ครั้งนี้ไม่ใช่อกหักครั้งแรกครับ ผมไปนั่งตรงบันไดเซเว่นที่เดิม  ซื้อมาม่าแห้งๆรสเดิมมานั่งกินคนเดียว แต่น้ำตาที่ไหลเป็นกับแกล้มมาม่ามันรสชาติต่างออกไป ผมรู้สึกว่ามันอร่อยกว่าเดิม.ผมมีสติมากขึ้นกว่าเดิมเยอะทีเดียว

ผมควักเงินก้อนที่พ่อให้มา เหลืออยู่ไม่ถึงหมื่น เพราะผมต้องใช้หนี้ค่าเช่าที่จากร้านที่เจ๊ง ผมไม่พอจ่ายค่าเทอมแน่นอน และผมเองก็ไม่กล้าจะบากหน้าไปขอเงินพ่ออีก  แต่สำหรับเทอมนี้มันยังพอค่าลงทะเบียนรักษาสถานภาพนิสิต ผมเลยดร้อปเรียนไปอีกหนึ่งเทอมโดยไม่บอกใคร

ผมต้องรอเทอมหน้าที่พ่อจะโอนเงินมาให้   ผมเลยออกจากหอแอบไปอยู่กับญาติห่างๆครับ  ญาติ ก็ทำอาหารเผื่อไว้ให้ตลอดทำให้ผมไม่ต้องใช้เงินอะไร  ระหว่างนั้นผมก็ใช้ชีวิตตามปกติ  บางครั้งก็บังเอิญเจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่จบไป  มาถามผม ผมก็ต้องโกหกไปด้วยความอายว่าเรียนจบแล้ว ทำงานแล้ว

ช่วงนั้นทุกวันๆ ผมก็นั่งจมอยู่กับความทุกข์ครับ ถามตัวเองว่าทำไมครอบครัวเป็นแบบนี้  ทำไมตัวเองต้องตัวเตี้ย ทำไมตัวเองถึงต้องอ่อนแอเรื่องผู้หญิง  ทำไมผมต้องโดนทิ้ง ทำไมผมต้องเรียนไม่จบ  ทำไมผมถึงเจอแต่ผู้หญิงแบบนี้...
ทำไมญาติคนอื่นเขาได้ดิบได้ดี ได้แฟนสวย สูงหล่อ สวย แถมมีเงินเดือนสูงๆกันหมด... ทำไมผมถึงเป็นกากที่ไม่มีอะไรดีเลย

ทำไมๆๆๆๆๆๆๆ...ต่างๆนาๆ

และวันนึงผมก็ได้พิมพ์คำว่า ท้อ เรียนไม่จบ อยากตาย ลงในกูเกิ้ลครับ

หลังจากนั้น คำถามทั้งหมดก็หายไปจากใจผมทันที เพราะว่าอ่านเรื่องราวชีวิตต่างๆของพี่ๆในเว็บ ทั้งเด็กดี ทั้งพันทิพย์

ไม่ใช่ว่าผมหาคำตอบทั้งหมดได้หรอกนะครับ  แต่ผมคิดคำถามใหม่ได้ต่างหาก..

ผมถามตัวเองว่า...."ทำไมผมถึงยังนั่งอยู่เฉยๆ"

พอมีคำถามนี้ขึ้นมาผมก็ลุกขึ้นครับ...ไม่รู้ด้วยว่าจะลุกขึ้นไปไหน...ไม่รู้ว่าจะทำอะไร...แต่ผมไม่อยากจะนั่งอยู่เฉยๆ...ตอนนั้นเห็นโฆษณาแอร์เอเชียมีโปรโมชั่นไปต่างประเทศใกล้หมดเขตแล้ว  ผมตัดสินใจออกไปต่างประเทศคนเดียวเป็นครั้งแรกในชีวิตครับ ขายมือถือ ขายการ์ตูน ขายโน๊ตบุ๊ค ขายทุกอย่างที่ขายได้  

ไม่รู้ไปทำไมเหมือนกันครับ

ภาษาก็ห่วย
เส้นทางก็ไม่รู้
แผนที่ก็ไม่มี
ที่พักก็ไม่มี

ผมคงบอกชื่อประเทศไม่ได้เพราะถ้าบอกคนรู้จักที่มาอ่านจะรู้ทันทีว่าคนเขียนคือผม แต่ก็เป็นประเทศใกล้ๆเรานี่ละครับ  
ผมลงจากสนามบินมา ถูกแท็กซี่หลอกเอาเงินไปเกือบพันบาท  พาไปส่งโฮสเตลราคาถูกห่างจากสนามบินนิดเดียวแต่พาไปอ้อมโลก

ผมไปพักโฮสเตลครับเนื่องจากเงินน้อย  ก็ไปพักรวมกับพวกฝรั่งราวๆหกเจ็กคน ผมพูดภาษาอังกฤษงูๆปลาๆ เขาถามว่ามาทำอะไรทำไมมาคนเดียวก็โม้ไปว่าผมเป็นนักข่าวท่องเที่ยวเขียนเรื่องท่องเที่ยวในประเทศนี้ครับ
เขาก็ถามใหญ่เลยว่าทำไมตัวเล็ก ทำไมหน้าเด็กจัง

ถ้าใครเคยไปพักโฮสเตลจะทราบดีว่าโฮสเตลส่วนใหญ่ ตอนกลางคืนจะมีปาร์ตี้ มีการมาจับเข่านั่งคุยกันตามประสาแบ็คแพ็คเกอร์
และผมเองก็เอ๋อไปนั่งกับเขาด้วย  ก็เลยได้เล่าเรื่องของตัวเองแบบงูๆปลาๆ  ถูกบ้างผิดบ้าง...และก็ได้รับฟังเรื่องราวชีวิตของคนต่างชาติ
ผมรู้สึกทันทีเลยว่าทำไมโลกมันกว้างใหญ่จัง...มีโลกอื่นที่เราไม่รู้จักอยู่ด้วย...

...ผมไปเจอไกด์คนนึงครับ...เป็นฝรั่งผู้ชายตัวเล็กๆ...พอๆกับผม..เขาอยู่ที่ประเทศ
นี้มานานแล้วและคอยให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวที่มาพักที่นี่....    

ผมกับเขาพอมองตากันก็เข้าใจครับ...คนตัวเตี้ยด้วยกันจะมองกันอย่างเข้าใจ...และผมกับเขาก็มีชีวิตคล้ายกันทีเดียว....
เขาเลยลองให้ผมมาช่วยงาน

ผมอาศัยอยู่ในประเทศนั้นเต็มโควต้าในพาสปอต..ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยไกด์...แบกของเสริฟน้ำอยู่บนเรือกลางทะเล...
จนกระทั่งหมดโควต้าและกลับประเทศ...

รู้สึกโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่มาก และมันทำให้ผม เห็นความสำคัญของภาษามากกว่าความรู้ในมหาลัยเสียอีก
ผมกลับมาเรียนมหาวิทยาลัยตามเดิมแต่ความคิดผมเปลี่ยนไปแล้ว...
คือว่าผม ไปเรียนภาษาญี่ปุ่น  จีน  และอังกฤษตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ เรียนด้วยตัวเองทั้งหมดเลยครับ

วันจันทร์ภาษาจีน
วันอังคารภาษาญี่ปุ่น
วันพุธภาษาอังกฤษ

อะไรที่ไม่เข้าใจ ผมก็ใช้วิธีจดเอาไว้  
แล้วออกไปอ่านหนังสือข้างนอกตามสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวเยอะๆ ตามร้านกาแฟ  แล้วหน้าด้านเดินเข้าไปถามเจ้าของภาษาตรงๆ  

ผมทำแบบนี้มาตลอดสองปีจนตอนนี้อายุ 26 เรียนมหาลัยปีที่แปด และเหลือวิชาอีกสี่วิชา เกรดยังไม่ถึงสอง

จนถึงบัดนี้ผมก็ไม่ได้ดีจากเดิมมากซักเท่าไหร่ เอาจริงๆผมยังไม่มั่นใจว่าจบไปผมจะทำอะไรได้เลยด้วยซ้ำ จะสามารถทำงานดีๆเหมือน
คนอื่นเขาได้ไหม ผมจะสามารถหาแฟนดีๆสักคนนึงได้ไหม
แต่สิ่งที่ผมคิดว่าผมพอจะมีเป็นต้นทุนในหัวก็คือตอนนี้ผมมีความรู้ด้านภาษาเล็กน้อยและมีความฝันเล็กๆ

1.ภาษาญี่ปุ่น ระดับ N3
2.ภาษาจีน ระดับ 4
3.ภาษาอังกฤษ โทอิค 615 +(ทรานสคริปคณะบริหารเกรด 1.8)  
4.ภาษามาเล เล็กน้อย
5.ภาษาเหนือ
6.ผมรักภาษาและหนังสือ อยากทำงานหนังสือ
7.ผมอยากทำงานที่ต่างประเทศ
8.ผมอยากมีแฟนอาหมวยตัวเล็กๆสักคน

พี่ๆครับ ผมเล่าเรื่องราวมายืดยาวขนาดนี้ เหตุผลหลักก็คือ ตอนนี้ผมเหนื่อยมากเพราะกำลังเจอวิชาหนักๆ เกรดผมก็ไม่ถึงสองสักที
ผมไม่มีเพื่อน ไม่มีแฟน อยู่ห้องคนเดียว เรียนคนเดียว ส่วนครอบครัวก็แทบไม่ได้พูดคุยกันเลย ผมอยากจะเล่าชีวิตให้ใครสักคนรับรู้
และอยากขอความเห็นจากพี่ๆว่าผมจะสามารถทำงานอะไรได้บ้างครับด้วยความรู้ที่ม

แสดงความคิดเห็น

>

51 ความคิดเห็น

-\มาดามจาง/- 18 เม.ย. 56 เวลา 20:44 น. 1

หนูอายุ 17 ปี ขอโทษที่หนูแนะนำอะไรไม่ได้มาก
แต่เป็นหนึ่งกำลังใจให้นะคะ : )

'ทำไมเราอยู่เฉยๆ' กระแทกใจมาก
จะอ่านหนังสือแต่ตอนนี้ จะไม่ปล่อยเวลาผ่านไปอีกแล้ว

ปล. ถ้าหนูจะคบใครหนูก็ไม่ได้สนส่วนสูงเึ้้ึ้ค้านะคะ
บางทีที่ทักว่าตัวเล็กเพราะเห็นว่าน่ารักดี อย่าเอามาเป็นปมด้อยเลยค่ะ

ล้มแ้ล้วท้อน่าอาย ล้มแล้วลุกก็ยังบอกใึครๆได้อย่างภูมิใจเหมือนพี่
ขอให้เจอคนดีๆนะคะ

0
Small Heart 18 เม.ย. 56 เวลา 21:07 น. 4

เป็นกำลังใจจร้าาาาาาาาาา  


PS.  กายุน สวยหวาน จีฮยอน สวยเปรี้ยว จียุน สวยเท่ห์ ฮยอนอา สวยเซ็กซี่ = 4minute จงเจริญ
0
สู้ๆ 18 เม.ย. 56 เวลา 21:12 น. 5

เรื่องส่วนสูง อย่าคิดมาก อย่าเอามาเป็นปมด้อยอย่าสนใจมันเลย เคยเห็นมั้ยตลกที่ตัวเล็กๆที่เค้าเป็นคนแคระเค้าก็ยังอยู่ในสังคมได้แถมยังสร้างเสียงหัวเราะและความสุขให้คนอื่นๆได้ และที่สำคัญเค้าก็ยังมีครอบครัวได้ จำไว้เสมอว่าต้องมีคนที่เหมาะกับเราอยู่แล้ว เพียงแต่เราอาจจะย้งไม่เจอ หรือต่อให้ไม่มีเนื่อคู่คุณก็ยังมีคุณพ่อที่ยังรักยังห่วงคุณเสมอ
ส่วนเรื่องงาน&nbsp มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีความรู้แค่ไหน แต่มันขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากทำอะไรและคุณทำอะไรได้มากกว่า เคยเห็นมั้ยคนที่เค้าจบ ป.4 หรือที่เค้าอพภยพมาจากเมืองจีน เค้ามีความรู้อะไรแค่ไหนบ้าง&nbsp แต่เค้าก็สร้างตัวเองทำงานที่เค้าสามารถทำได้ จนมีธุรกิจเป็นพันล้านหมื่นล้าน


ค้นหาตัวเองให้เจอทำสิ่งที่ตัวเองรักและทำให้ดีที่สุด อย่ากังวลกับเรื่องส่วนสูงและเรื่องผญ สักวันเมื่อคุณมีพร้อมแล้ว จะมีแต่คนวิ่งเข้าหา แล้วอย่าลืมเลือกคนดีๆด้วยล่ะ
สู้ๆนะ

0
...... 18 เม.ย. 56 เวลา 21:13 น. 6

อย่าไปเครียดเลยพี่ หาน้อยนะประสบการณ์เยอะแบบนี้คิดว่ามันคือประสบการณ์ครับอะไรที่ไม่ดีที่มันทำให้เราต่ำลงก็อย่าไปทำอีกผมไม่ได้ว่าพี่นะแต่ผมแค่คิดว่าบางที ผญ มันไม่ได้มีแค่คน2คนในโลกนี้หรอกอย่าไปคิดว่าหาได้แค่นี้ก็บุญแล้ว ไม่ได้นะพี่คิดแบบนี้ไม่ได้ คนเราจะคบกันเป็นแฟนนะไม่ได้เป็นลูกที่เราจะได้หาได้ทุกอย่าง ถ้าไม่รู้ว่า ผญคนนั้นจะคบดีไหม ก็ลองคิดง่ายๆว่า "เห้ย..มันเหมาะจะเป็นแม่ของลูกเราไหม"ทำตัวให้มีค่าพี่แล้วเราจะมีค่าอย่าทำตัวให้มีราคาที่เค้าจะมาเอาแต่เงิน
ถ้าเราไม่เลิกสู้ไม่ท้อมุ่งไปข้างหน้าตลอดทั้งการกระทำและความ ผมเชื่อว่าเราไม่มีทางที่จะหยุดอยู่กับที่หรอก เราทุกคนมันก็คน2มือ2เท้าเหมือนกัน สู้ๆต่อพี่ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป
เอาเมลผมไว้ก็ได้ครับเผื่อพี่ไม่มีเพื่อนchittawan_hippo@hotmail.com
ผมจะแอด มทสปีนี้ครับ
อีกอย่างผมก็หน้าตาไม่ดีนะหุ่นก็ไม่ไดี แต่แฟนผมสวยทุกคนนะพี่5555+

0
the forth 18 เม.ย. 56 เวลา 21:14 น. 7

ถ้าหนูเป็นพี่...
หนูคงจะ้เป็นไกด์ เพราะอย่างน้อยพี่ก็มีประสบการณ์เล็กน้อย
ภาษาพี่ก็พูดได้เยอะ แต่บางทีพี่ต้องขวนขวายกว่านี้บ้าง
อาชีพที่พี่ทำจะรุ่งถ้าพี่มีความสามารถในด้านอาชีพของพี่
แรกๆพี่อาจเหนื่อย แต่ถ้าพี่พยายามไขว่คว้าอย่้างที่สุด...หนูก็ไม่เชื่อหรอกว่าพี่จะล้มเหลว
เมื่อไหร่ที่พี่มีชื่อในด้านนี้ พี่ก็เริ่มจะสบายแล้ว

เรื่องสังคมของพี่...
หนูว่าพี่ลองหาข้อเสียของพี่ดู แล้วแก้ไข
คงไม่มีใครรังเกียจพี่เพราะเรื่องแค่นี้หรอก เพราะถ้าหนูมีเพื่อนแบบพี่ หนูก็คงจะอยู่ข้างพี่
แม้ว่าใครจะรังเกียจเพื่อนเรา แต่เรากูไม่อยากทิ้งให้เขารับความเจ็บปวดไว้คนเดียว
พี่อาจหาเพื่อนร่วมทุกข์สุขยาก..พี่ลองช่วยเพื่อนสักคนยามที่เขาไม่มีใคร
ทำให้เขารู้ว่าพี่ไม่มีวันทอดทิ้งเขา จริงใจกับเขา

เรื่องผู้หญิงน่ะนะพี่..
หนูยังเคยชอบคนที่ตัวเล็กกว่าเลย ^ ^ สูงร้อยหกสิบเอง ถึงรึเปล่ายังไม่รู้เลย
เพราะเขามีเสน่ห์ เขาไม่ได้หน้าตาดีอะไรมากมาย
พี่ก็ต้องหาเสน่ห์ที่มันเป็นตัวพี่ พี่ต้องรู้จักตัวเอง อย่าลอกเลียนแบบใคร
อย่าคิดว่าเป็นแบดบอยแล้วสาวจะตรึม ไม่แนะนำมากๆ สงสารผู้หญิงดีๆที่เขาหลงรัก
อย่ามองว่าเตี้ยแล้วหาแฟนไม่ได้
การที่พี่เตี้ย..ถ้ามองในแง่ดีนะ พี่จะได้แฟนที่ไม่มองพี่แต่ภายนอก
การที่พี่อกหักบ่อยๆพี่ก็จะได้เรียนรู้ชีวิต
การที่เกิดมาครอบครัวฐานะดี พี่อาจไม่ได้เรียนรู้อุปสรรคมากมายที่หลายๆคนพบเจอ
พอมาพบก็ท้อ อย่าทำแบบนั้นนะ
คนลำบากกว่าพี่มีอีกเยอะ
เวลาหนูเรียนวิทยาศาสตร์ หนูก็อดคิดไม่ได้ว่าตัวเองโชคดีที่เกิดมาครบ โรคบางโรคที่พบมาก เราก็ไม่เป็น บางคนพิการ แต่เรารอด หลายร้อยหลายพันโรคที่หลายร้อยหลายล้านคนเป็น น่ายินดีนะคะ
ไม่มีเหตุผลสำหรับหนูที่จะท้อ หวังว่าพี่คงเป็นอย่างนั้น..

หนูไม่รู้นะว่าคำที่หนูบอกพี่ พี่จะกลับมาอ่านไหม แต่ถ้าพี่อ่านแล้วพี่ไม่ชอบ พี่ก็ลืมมันไป
ถ้ามันช่วยอะไรพี่ได้ ก็ขอให้พี่โชคดีนะ ^ ^
หนูยังเรียนมอปลายอยู่ ความคิดหนูอาจไม่ดีเท่าไหร่ เป็นอย่างนั้นก็ขอโทษนะคะ
แต่ถ้ามันเปลี่ยนพี่ไปในทางดีได้หรือแค่ทำให้พี่หายเศร้าระยะสั้น ก็ตอบกลับด้วยก็ดีนะะะ
หนูก็อยากรู้ว่าคนที่หนูเป็นกำลังใจให้ทั้งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน เขาเป็นยังไง.. ^ ^

0
ไม่บอกดีกว่า 18 เม.ย. 56 เวลา 21:22 น. 9

จขกท. เราก็แทบจะไม่มีเพื่อนเหมือนกัน ม.ปลายก็ไม่ได้เรียน ต้องเรียนกศน.แทนเพราะปัญหาสุขภาพ เพื่อนก็ไม่มีเลยเพราะกศน.ที่เรียนมีแต่คนอายุเยอะแล้ว ออกไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้ เพราะแม่เป็นห่วง พอจะเข้ามหาลัยก็ดันมีปัญหาสุขภาพเพิ่มอีกหลายเรื่องต้องเรียนแบบอยู่บ้านแทน เราก็แทบไม่มีคนเข้าใจเหมือนกัน ถ้าจขกท.เล่นไลน์หรือบีบีแล้วอยากรู้จักเรามากกว่านี้ทิ้งพินหรือไลน์ไว้ก็ได้นะ :)

0
ปรางแก้ว 18 เม.ย. 56 เวลา 21:24 น. 10

คุณ..
เราอ่านตัวอักษรของคุณตั้งแต่ต้นจนจบ

คำถามในตอนท้ายนั่นเราก็ตอบให้ไม่ได้

แต่สิ่งหนึ่งที่เราค้นพบคือ คุณเล่าเรื่องได้น่าอ่านมาก
นี่เป็นพรสวรรค์หนึ่งที่คุณมี

tew_proy@hotmail.co.th เมลล์เรา

0
pooo 18 เม.ย. 56 เวลา 21:25 น. 11

ผมเป็นกำลังใจให้คับ เพราะผมเปนคนนึงที่เพื่อนไม่มี และเรียนสาขาที่ตัวเองไม่ชอบ ผมเศร้าๆมากๆเพราะพ่อบังคับให้เรียน

0
LMiiiIZSpz 18 เม.ย. 56 เวลา 21:33 น. 13

พี่คะ อย่าท้อเลยนะคะ
ไม่ว่าเวาเราจะสุขหรือทุกข์ เรายังมีตัวของเรา สองมือสองเท้าที่จะนำความสำเร็จมาให้เรานะคะ
เรื่องความสูขพี่อย่ามองเป็นปมด้อยเลยค่า หนูเตี้ยกว่าพี่อีกๆ 555 แต่เรียกตัวเล็กดีกว่าเนอะ (เข้าข้างตัวเองชัดๆ ) พี่ถือว่าเก่งมากๆนะคะที่สามารถเอาชนะตัวเอง และรู้จักเรียนรู้ด้วยตัวเอง ความรู้ที่พี่มีตอนนี้เป็นไกด์ ล่าม หรือไม่ก็คนแปลภาษาได้นะคะ ถึงแม้จะเรียนมาในทางที่ไม่ชอบ แต่ก็เลือกทำงานในสิ่งที่ตัวเองรักได้นะคะ สู้ๆคะพี่ เป็นกำลังใจให้นะคะ
จากเด็กอายุ 18 ที่ตัวเล็กคนนึง

0
trtert 18 เม.ย. 56 เวลา 21:43 น. 14

สู้ๆนะคะ เรื่องที่พี่เล่ามันดีมากๆเลย แนะนำว่า อะไรที่พี่ทำแล้วมีความสุขก็ทำไปเถอะค่ะ อย่าไปแคร์สังคมจนทำให้ตัวเราไม่มีความสุขเลย&nbsp คนเราเกิดมาเพื่อมีความฝัน ทำต่อไปเถอะค่ะ
เรื่องแฟน สักวัน เขาก็จะมาเองแหละค่ะ ไม่ต้องห่วงไปหรอก :))

0
hatarikio 18 เม.ย. 56 เวลา 21:44 น. 15

ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตนะพี่ สู้ๆ นะคะ
ผญดีๆ มีอีกเยอะจริงๆ
เราเองยังชอบผชเตี้ยๆ เลย น่ารักดี 55


PS.  ฉันจะขอให้ทุกคนและตัวฉัน มีแต่ความสุข และความดี
0
จอมโจรขโมยไม้ไอติม 18 เม.ย. 56 เวลา 21:47 น. 16

เป็นไกด์สิค่ะ จากที่อ่านเหมือนพี่จะชอบภาษามากกว่านะ ถ้าหนูเป็นพี่เมื่อเจอตัวตนของตัวเองแล้วหนูจะไม่ปล่อยมันไป ถึงแม้จะเรียนมากี่สิบปีก็ตาม แค่พี่เรียนพี่ยังทุกข์ขนาดนี้รับรองเลยว่าถ้าได้ทำงานสายนี้พี่ตายแน่ๆ...หนูว่าตอนนี้พี่โอเคแล้วนะอย่างน้อยก็เจอสิ่งที่ชอบแล้วที่เหลือก็ทำไห้มันใช้ซะ!!พี่เรียนไห้จบนะเอาปริญญาไห้พ่อแม่ก่อนอีกนิดเดียวค่ะ หนูเข้าใจพี่ในความท้อแท้นะ...^^''

....ตอนนี้หนูก็ท้อ เบื่อ หนูอยากออกไปเจอโลกกว้างๆแต่หนูต้องเอาใบปริญญาไห้ครอบครัวก่อนซึ่งมันยากซะแล้วสำหรับหนู รู้สึกเหมือนเดินทางผิด อิอิ เรียนเคมีจะขึ้นปี 3 แล้วค่ะ ฝันไว้ว่าอยากยืนข้างๆหมอพรทิพย์ ทำงานในสามจังหวัดชายแดนใต้ กลัวฝันจะไม่เป็นจริงเพราะนิสัยแย่ๆของตัวเอง เป็นคนไม่อยู่กับร่องกับรอยค่ะ อยากไปนู้นอยากทำนี้ คิดว่าเกิดมาแค่ครั้งเดียวเลยอยากทำอะไรๆไห้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หนูมีคำนิยามของชีวิตที่ต่างจากคนอื่นค่ะ บางทีเลยไม่ค่อยชอบมหาลัยเท่าไหร่เพราะกฎระเบียบ "ใช้ชีวิตให้ยิ้มได้และมีความสุขในทุกๆวันและจงอย่าหวังในวันข้างหน้าเพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้เพียงเสี่ยวนาที" หนูเป็นกำลังใจไห้พี่นะค่ะ
อ่อ เรื่อง ผญ.อย่าคิดมากค่ะ หนูก็โสกและเหงามากเหมือนกัน คิดซะว่า แต่ก่อนไม่มีเค้ายังอยู่ได้ไม่เห็นตายเลย 555+ เรื่องเพื่อนพี่ต้องเปิดใจค่ะ แบบเค้าไม่คุยกูคุยก่อน อิอิ จะคุยอ่ะ และอย่าคิดอะไรที่มันบั่นทอนจิตใจตัวเองค่ะ

0
ิบอลคับ 18 เม.ย. 56 เวลา 22:25 น. 18

เพิ่งเข้ามาอ่านอีกที ตกใจเลย

ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจนะครับ ^_^

อย่างน้อยๆก็มีแรงสู้ได้อีกนาน

วันนึงที่ผมประสบความสำเร็จ&nbsp ผมจะกลับมาบอกทุกๆคนครับ และผมจะเซฟโพสทุกโพสเอาไว้อ่านเวลาที่เหนื่่อยๆนะครับ

ผมคงจะเปิดเผยตัวไม่ได้ แต่ว่าผมได้สมัครเมลใหม่ไว้แล้ว อันนี้เมลผมครับ

balllanguage@gmail.com

0
Garamond. 18 เม.ย. 56 เวลา 22:34 น. 19

สู้ๆนะคะพี่
พี่คะ พอหนูอ่านจบ หนูเจอคำว่าเตี้ยหลายคำมาก 
หนูเชื่อว่าคนที่บอกพี่เตี้ย เขาพูดผ่านๆ แบบเจอเเล้วไม่รู้จะพูดอะไร เเต่เขาคงไม่คิดจะด่าให้พี่เป็นปมนะ  พี่อย่าคิดมาก
เรื่องผู้หญิง วันนึงพี่จะเจอคนที่เข้ากับพี่ อยู่ด้วยเเล้วสบายใจ ไม่ต้องรีบร้อนมีก็ได้คะ
เรื่องเพื่อน พี่ลองหาสิ่งที่ตัวเองเก่งถนัดสิคะ เเล้วหาเพื่อนกลุ่่มพวกนี้ ไปนั่งคุยกับเขาก็ได้ เนอะๆ 
สู้ๆน้า ค่อยๆคุย 
เรื่องงาน หนูเเนะนำไม่ได้ หนูพึ่งม.6 เอง
ตอนพี่เหงาๆว่างๆ ลองเล่นเกมออนไลน์สิคะ ในนั้นมันก็อีกสังคมนึงเนอะ คุยไปเรื่อยๆไม่เห็นหน้า 
สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ อย่ายอมเเพ้ 

0
สู้ๆ 18 เม.ย. 56 เวลา 23:45 น. 20

สู้ๆ ครับพี่ อย่างน้อยก็มีพวกผม เป็นเพื่อนทางอินเตอร์เน็ต ถึงเราจะไม่เห็นหน้ากัน เราก็แบ่งปันประสบการณ์กันได้ พี่มีภาษา ผมว่าไม่ใช่น้อยเลยนะนั่นอะ พี่จบแล้วผมว่าเอกชน หลายๆที่น่าจะรับพี่ทำงาน จากทั้งประสบการณ์ต่างๆที่พี่ผ่านมานะครับ ยังไงน้องก็เป็นกำลังใจให้

0