Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ประสบการณ์การเรียนสายอาชีพที่อยากเล่า

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่




          เราเขียนขึ้นเพราะอยากเล่าให้คนที่ยังลังเลว่าจะต่อสายสามัญหรือสายอาชีพได้อ่านกันคะ นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเรานะ...

          ประสบการณ์การเรียนสายอาชีพ ปวช. ตอนนี้เรากำลังจะจบ ปวช.1 แล้ว มันอาจจะเป็นเพียงแค่ปีเดียวที่ได้เก็บเกี่ยวความรู้จากสถานศึกษา แต่เราก็มีประสบการณ์ดี ๆ ที่อยากจะเล่าให้ชาวเด็กดีบอร์ดสายอาชีพได้อ่านกัน อยากเล่าตั้งแต่ตอนแรกเลยนะ

          ตอนเราเรียนม.ต้น เราสอบเข้าโรงเรียนประจำจังหวัดได้ ตอนนั้นสอบเป็นพันคนแต่เราสอบได้ลำดับที่ 119 เราก็ไม่เคยคิดว่าชีวิตตัวเองจะต้องมาเรียนสายอาชีพหรอก เราวาดฝันไว้ว่าโตขึ้นจะเรียนมหาลัยดี ๆ เรียนครู มีอนาคตที่สดใส

           ตอนแรกที่กำลังจะจบม.ต้น คะแนนเราถือว่าดีในระดับนึง เฉลี่ยแล้วได้ 3.5 เราคิดไว้แล้วละว่าคงจะต่อม.ปลายแน่ ๆ ด้วยความที่ตอนนั้น เราเองก็ติดเพื่อนอยู่นะ เพราะคบกันมาสามปีก็ไม่อยากจะแยกกัน ในหัวก็คิดแค่ว่าจะอยู่ต่อนี่แหละ อยู่โรงเรียนเดิม อยู่กับเพื่อนรักของเรา แต่ไป ๆ มา  ๆ แล้ว เราก็เกิดอาการลังเลขึ้นมาตอนที่ไปนั่งอ่านกระทู้ กระทู้หนึ่ง ซึ่งเป็นกระทู้เกี่ยวกับสายอาชีพ

           เราอ่านดูแล้วรู้สึกว่าสนใจในสายการเรียนนี้ขึ้นมาซะอย่างนั้น ก็เลยเอาไปปรึกษาแม่ คุยกับแม่จนแม่เริ่มรำคาน ประมาณว่า ถามอยู่นั่นแหละ แต่แม่ก็ตอบทุกคำถามของเรา แม่เรียนจบปวส.


           แม่เราทำงานเป็นพนักงานขาย ของบริษัทขายหมวกกันน็อคชื่อดังบริษัทนึง
เราก็ไม่รู้ว่าแค่บริษัทขายหมวกกันน็อคจะทำรายได้อะไรมากมายขนาดนั้น เงินเดือนแม่เราปกติก็หมื่นห้า แต่แม่บอกว่ามีค่าคอมพ์ให้ด้วย

           แม่เป็นคนพูดโน้มน้าวคนเก่ง พูดจาดี เราว่างานนี้ก็เหมาะกับแม่แล้ว ก็เลยหายสงสัยว่าทำไมทำงานได้เดือนละสามหมื่นทั้ง ๆ ที่แม่ไม่ได้จบป.ตรี

           เราก็เริ่มจะมองเห็นแล้วว่า ถ้าขยัน แล้วก็๋มีความสามารถในด้านสายอาชีพนั้น ๆ  ทำงานไปก็ยิ่งได้ดี แต่มันก็แลกมาด้วยความเหนื่อย แม่บอกว่าบริษัทจะพิจารณาเป็นพิเศษแน่ๆถ้าเรามีประสบการณ์ทางด้านนั้น ๆ มาก่อน

           ย้อนกลับมาที่เราอีกครั้ง ตอนนั้นเราเริ่มจะเอนเอียงไปทางสายอาชีพแล้ว
1.เพราะเราอยากเรียนในสิ่งที่จบมาแล้วปฎิบัติได้จริง
2.เราอยากเรียนเพื่อทำงาน มีเงินเก็บ ไม่ได้อยากเรียนพอแค่ผ่าน ๆ ไป มีงานก็ทำ ไม่มีก็ไม่ทำ

           แต่เราก็ยังไม่เอนไปทั้งหมดนะ เพื่อนเราเริ่มจะค้านเราว่าอย่าไปเลย ที่นั่นไม่ดีหรอก ไม่เคยดูข่าวหรอ เด็กเทคนิคตีกันอะ แหล่งมั่วสุมนะ น่ากลัวนะแก...
เราก็กลัวขึ้นมาอีกรอบ เลยลองไปปรึกษาน้าดู น้าบอกว่าที่วิทยาลัยน่ะไม่ได้มีแค่เด็กเกเรแบบนั้นซะหน่อย เราสามารถกำหนดตัวเราเองได้นี่ว่าจะเลือกคบเพื่อนแบบไหน ชีวิตในรั้ววิทลัยไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น

           ลองมองในแง่อื่นบ้าง คนที่มาเรียนเทคนิคไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกกันทุกคนหรอก คนที่เขาตั้งใจจริงๆก็มี พอฟังจบเราก็เหมือนจะเห็นแสงสว่างนะ ก็เลยตัดสินใจ สมัครสอบเข้าไปเป็นศิษย์พณิชยการบัญชีของที่นั่นเลย 

           วันที่ต้องยื่นใบสมัครสอบ เราก็ไปแบบฉายเดี่ยว ไปเจอสังคมแบบใหม่ ไปเดินดูในวิทลัยว่ามีอะไรบ้าง พอสอบเข้ามาได้เราก็เข้ามาเรียน ตื่นเต้นนะ มันเหมือนเป็นนับหนึ่งใหม่ ต้องสลัดความคิดเดิมในแง่ลบออกไปแล้วมองมุมใหม่ว่าคนที่นี่เขาก็ไม่ได้น่ากลัวเหมือนในข่าวกันทุกคน


           บรรยากาศภายในวิทลัยเหมือนโรงเรียนมัธยมทั่วไป ปกติธรรมดา มีอาจารย์ที่ดุที่สุด อาจารย์ปกครองที่น่ากลัวที่สุด ผอ.ที่พูดหน้าเสาธงนานมากก... แล้วก็นักเรียนหญิงชายทั่วไป กินข้าวคุยกันที่โรงอาหาร มีเพื่อน ทุกอย่างไม่มีอะไรต่างกันเลย

           ตอนแรกเราก็ไม่สุงสิงกับใครนะ เพราะไม่ชินเลยกับที่ใหม่ แต่พอมีเพื่อนเข้ามาก็รู้สึกว่ามันโอเคขึ้น ชินมากขึ้น เป็นความโชคดีของเราที่เรามีเพื่อนดี ดีมากในความรู้สึกเรานะ เพราะว่าส่วนมากเด็กสายพณิชบัญชีจะเรียบร้อย ขยัน

           บรรยากาศในห้องเรียนไม่ต่างอะไรกับตอนมอต้นเลย เสียงคุยกัน โดนอาจารย์ดุ ลอกงาน ทำงาน ส่ง แถมการเรียนจะง่ายกว่าสายสามัญด้วย เราจะเรียนแค่พื้นฐานพอเข้าใจ ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน คณิตศาสตร์พื้นฐาน สมการง่ายๆ(ที่ไม่ง่าย)


           ส่วนวิชาที่จะยากหน่อยก็คือวิชาบัญชีนี่แหละ ทุกคนจะไม่มีพื้นฐานมาก่อน ก็เลยต้องนับหนึ่งด้วยกันทั้งหมด 
ของเราก็ เรียนบัญชีวันละ 2 ชั่วโมงติด เรียนพิมพ์ดีดไทย-อังกฤษ อย่างละ 3 ชั่วโมงติด เรียนภาษาอังกฤษ 3 ชั่วโมงติดกันรวด แต่ละวันเราเรียนไม่กี่วิชาแต่ว่าเป็นวิชาที่ช่างยาวนาน.. แถมที่นี่ยังมีการทำงานเพื่อฝึกประสบการณ์ด้วยนะ เรียกว่าทุกคนต้องฝึกทำงานจริง ไม่งั้นไม่จบปวช.



             ในช่วงที่มีนักเรียน นักศึกษาจบการเรียน ปวช. ปวส. ก็จะมีตัวแทนของแต่ละบริษัทมารอรับสมัครพนักงานด้วย หลายหลายงานให้เลือกทำตามสายการเรียนที่เรียนมา



             สุดท้ายนี้ขอบคุณมากนะคะสำหรับพื้นที่เล็กๆที่ให้เราได้ใช้ในการเล่าประสบการณ์ภายในรั้ววิทลัย หลายคนที่จะมาทางนี้ก็คงกำลังกลัวว่าจบมาทำงานได้เงินเดือนน้อย
ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับความขยันของแต่ละคนคะ คนที่ทำงานดี ทำงานขยัน เงินก็จะดีตามมาคะ  จบมามีงานทำแน่ๆ ถ้าไม่เลือกงานจนเกินไป 

เราว่าสายอาชีพเป็นตัวเลือกที่ดีของคนที่ฐานะทางการเงินของที่บ้านยังไม่มั่นคงนะ 
เพราะแว่วมาจากเพื่อนที่โรงเรียนเดิมว่า เสียค่าเรียนพิเศษเยอะกว่าค่าเทอมอีก โฮ..
แต่มันก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนด้วยนะ สำหรับเรา เราชอบที่นี่ ที่วิทยาลัยแห่งนี้ 


ปล.
1.ตามต่างจังหวัดถ้าเรียนสายอาชีพแล้วการจะหาเพื่อนที่เป็นติ่งเกาหลีนี่ยากหน่อยนะ เพราะจากที่เราเรียนมาเรายังไม่เจอคนที่ติ่งวงเดียวกันเลยแหะ (นี่ก็ติ่งเอ็กโซนะ อิอิ)
2. กระแสบางอย่างของบางวิทลัยอาจจะแปลกสักหน่อย อันนี้คงต้องทำใจให้ชิน (?)
3. ได้เพื่อนที่ดีจะเป็นสิ่งดีที่สุด มีความสุขที่สุดในชีวิตการเรียน




สู้ตายจ้า 

แสดงความคิดเห็น

>

11 ความคิดเห็น

Kwangep Iwantwilldie 19 ก.พ. 57 เวลา 00:14 น. 2

พี่ก็เหมือนน้องเลย อยากเป็นครู แต่ว่า อีกใจพี่ก็อยากเรียนวิศว ตอนแรกจะต่อ วิทย์ คณิต แต่สุดท้ายก็ตกลงปลงใจกับสายอาชีพ ไฟฟ้า พี่จบปวช.มานานละ แล้วก็ได้เรียนต่อครูสมดังใจ แถมได้เรียนเกี่ยวกับวิศวอีกต่างหาก สู้ต่อไปนะ

0
karin<f>e Community Master 19 ก.พ. 57 เวลา 16:12 น. 3

ซึ้งงงง 

น้องสาวมีวิธีการเลือกเรียนสายการเรียนที่ดี มีการค้นหาและสอบถามข้อมูลจากผู้ปกครอง และเข้าใจว่าค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตด้วย ทั้งยังมีข้อสรุปที่เกิดจากการตั้งใจเลือกเรียนด้วยตนเอง มีการวาดแผนอนาคตไว้พอสมควร พี่ว่าเป็นวิธีการเลือกเรียนที่ดีมากๆ เลยจ้าา สู้ๆ นะคะ

สายอาชีพนี่เป็นหลักสูตรการเรียนที่ดีนะ แม้พี่เกียรติจะไม่ได้เรียนสายอาชีพมา แต่เพราะพี่เรียนครู ได้พอรู้จักหลักสูตร และเมื่อมาสัมผัสกับคนที่เรียนสายอาชีพจริงๆ ได้สอบถามข้อมูล สัมภาษณ์ ทำคอลัมน์สายอาชีพ ก็รู้เลยว่า เพราะ ค่านิยม ตัวเดียว ที่ทำให้หลายๆ คนเข้าใจ สายอาชีพ/อาชีวะ ผิดเพี้ยนไป และมองแค่ผิวเผินตัดสินว่ามันแย่ไปหมด 

สู้ๆ นะคะ ตัดสินใจแล้ว มั่นใจแล้ว ก็ต้องเติบโต และมีอนาคตที่สดใสจากทางเลือกเรานี้เนอะ 


ป.ล. มีรูปไหมคะ ขอสัมภาษณ์ไปลงคอลัมน์สายอาชีพ  อิอิ ขอนะ ขอนะ ขอน้าาาาา 

0
september 19 ก.พ. 57 เวลา 17:36 น. 4

นี่ก็จบสายอาชีพมาเหมือนกัน จากคำกล่าวหาของคนภายนอกที่บอกว่าเด็กสายอาชีพเกเรนี่ไม่จริงนะจ๊ะ เด็กเรียนเด็กกิจกรรมก็มี อย่าได้ไปเหมารวม นี่ตั้งใจไว้ตั้งแต่เรียนมัธยมต้นแล้วว่าขอไปด้านสายอาชีพเลย เพราะชอบด้านคอมพิวเตอร์ ก็เลยลงเรียนคอมพิวเตอร์ธุรกิจและมันก็รุ่งจริงๆ ในบรรดาเพื่อนสมัยมัธยมทั้งหมด นี่ได้ทำงานก่อนใครเพื่อน เพราะเมื่อได้วุฒิ ปวช. มาอยู่ในมือก็สามารถสมัครงานได้เลย ส่วนเรื่องเรียนต่อมหาลัยก็ลง ม.รามไป อ่านหนังสือแล้วค่อยไปสอบเอา 
และสิ่งที่ฟินสุดคือวุฒิและความรู้ที่นี่ได้รับมาจากโรงเรียนสายอาชีพมันทำให้เราได้งานมาง่ายมาก (สำหรับเรานะ) ทำให้คิดว่าบางทีไม่จำเป็นต้องไปฝืนเรียนหนักให้เครียด ยิ่งสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ชอบด้วยนะ ปวดหัวเปล่า สายอาชีพไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด เพียงแค่การเรียนการสอนอาจจะต่างจากสายสามัญไปบ้าง ตามสายที่เรียน แต่ส่วนตัวเราคิดว่ามันดีมาก มันส์สุดก็ตอนฝึกงาน ความรู้แน่นสุดก็ตอนฝึกงานนี่แหละ กิจกรรม มิตรภาพในโรงเรียนก็น่ารักไม่ต่างจากสายสามัญ ไม่เคยเสียใจที่เรียนสายสามัญ ไม่เคยคิดอิจฉาเพื่อนคนที่ได้เรียนสายสามัญ เรียนที่ชอบ เลือกที่ใช่ ชีวิตมีความสุขกับการเรียนแล้วก็ได้ใบจบมาแบบฟินๆ 


ปล. เรื่องติ่งเราก็เป็นแล้วเรียนอยู่ต่างจังหวัดด้วย แต่พอดีว่าเป็นคนพูดจาโน้มน้าวคนเก่ง ก็เลยมีเพื่อนมาติ่งด้วยและปัจจุบันก็ติ่ง EXO เหมือนกับ จขกท เลยจ้าาาา 55555

0
Minny__Chen 21 ก.พ. 57 เวลา 20:49 น. 6

ตอนแรกที่อ่านมา ก็เห็นด้วยนะกับการตัดสินใจอ่า แต่พอบอกว่า เป็นติ่ง EXO 
ว้ายยยย พวกเดียวกันนี่นาาาา ความคิดเมื่อกี้หายไปหมด!!! 555555
พออ่านอันนี้และ การตัดสินใจหาที่เรียนต่อของเราก็ง่านขึ้น แต๊งกิ้วววนะ
WE ARE ONE !!!!!! 

0
ก็ไม่รู้สินะ 23 ก.พ. 57 เวลา 00:50 น. 7

ที่อ่านๆมาอยากจะบอกว่าพี่ (เห็นบอกจะจบปวช.1) กับน้องความคิดเดียวกันเลยเหมือนกันทุกอย่าง ทั้งความคิด และสุดท้ายก็ตัดสินใจเรียนสายอาชีพ ต้องนี้จะจบม.3แล้ว กำลังจะเข้าปวช.1 บัญชีเหมือนกัน >< ติ่งเหมือนกันอีก คนเดียวกันป่ะเนีย?

0
รักทุกคลลลลล 23 ก.พ. 57 เวลา 13:40 น. 8

น้องเป็นคนที่มีความคิดดีมากเลย พี่ขอยกนิ้วให้

อันที่จริง สายอาชีพเป็นสายงานที่มีความสำคัญมาก และประเทศเราก็กำลังขาดแคลนสายงานคนเหล่านี้อยู่มาก สำคัญกว่าปริญญาตรีอีก

แต่น่าเศร้า ที่รัฐแทบจะไม่สนับสนุน แถมสื่อยังเสนอแต่ข่าว ภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยจะดี(พวกตีกัน) ให้มาดูวันเว้นวันอีก
เมื่อเทียบกับข่าวด้านดีๆของสายชีพเช่นแข่งนู้นแข่งนี่ระดับโลกชนะที่ 1

รวมถึงค่านิยม ที่ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ค่อยอยากส่งลูกมาเรียนสายนี้ และให้ลูกไปเรียนสายสามัญแทน บางบ้านทะเลาะกันบ้านแตกเพราะลูกอยากเรียนสายอาชีพแต่พ่อแม่ไม่ยอม

สุดท้ายก็ขอชื่นชมน้องนะครับที่เขียนมาเล่าประสบการณ์ดี ๆ ให้คนที่กำลังลังเลอยู่ หรือ มีความคิดอคติ ได้เห็นในอีกมุมของสายอาชีพบ้าง 0 v 0 b

0
Nookky 23 ก.พ. 57 เวลา 14:15 น. 9

นี่ก็เรียนสายอาชีพมาเหมือนกัน ตอนนี้จบ ปวช. แล้ว แล้วก็ได้ทุนเรียนต่อ ปวส. คืออยากบอกว่าสายอาชีพเนี้ยถ้าคนที่เข้ามาเรียนแล้วตั้งใจจริงๆ อนาคตดีกันทุกคนแน่ อีกอย่างถ้ายิ่งหาตัวเองเจอเร็วเท่าก็จะยิ่งดี คือ ถ้ารู้ว่าตัวเองถนัดอะไรหรือมีความสามารถพิเศษทางด้านใด วิทยาลัยเค้าจะคอยสนับสนุนเราอยู่แล้ว เพียงแค่เราเดินเข้าไปทางประสบการณ์ อย่ารอให้ประสบการณ์มาเดินหาเรา อีกอย่างนะ ถ้าใครร่วมแข่งขันอะไรที่ได้รางวัลมา อาจมีบริษัทดีๆดังๆเขาเข้ามาจองตัวเราไปทำงานก็มีนะ เพราะเขาดูจากความสามรถของเรา
คือจ้างมาแล้วทำงานได้ ไม่ต้องสอนงานมาก ไม่ต้องสอนตั้งแต่เริ่มแรก อาจจะสอนข้ามขั้นไปเลย
อ้ออีอย่างที่จะบอก เรียนสายนี้ ได้ฝึกงานตอนปี2 รับรองสนุก และได้ประสบการณ์ทุกคน
กดLIKE

ปล.เราเรียนสายคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ^^" ผู้หญิงก็เรียนกันเยอะนะไม่ได้มีแต่ผู้ชาย

0
Anhks 25 มี.ค. 63 เวลา 13:14 น. 11

หนูอยากรู้ว่า เวลาเราจะสอบเข้าสายอาชีพ เราต้องเตรียมตัวอ่านวิชาอะไรบ้างคะ สอบเข้ายากไหม *หรือเวลาอ่านเตรียมก่อนสอบเข้าเเต่ละสายจะไม่เหมือนกันคะ พอดีหนูกำลังตัดสินใจต่อสายอาชีพพอดี เเต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเลือกเข้าสายไหน

0