[กลเม็ดเคล็ดไม่ลับ] ตอนที่ 2 : เขียนแนวไหนดีนะ?/กลัวพล็อตซ้ำ...ทำไงดี?
ตั้งกระทู้ใหม่
มาตามสัญญาแล้วค่า
เมื่อวานเราพูดกันไปคร่าวๆ ถึง พล็อต และ ธีม หรือแก่นเรื่องกันไปแล้ว
วันนี้เรามาพูดถึงเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวโยง และเป็นปัญหาที่น่าหนักใจของใครหลายๆ คนกัน
เมื่อวานพลาดไปหน่อยหนึ่ง ตรงที่ลืมวางวงจรการเขียนพล็อตเอาไว้ให้ดู จริงๆ จะบอกว่าเป็นรูปแบบหนึ่งที่สามารถเอาไปใช้กับแนวของนิยายหลายๆ แนวได้ พอดีไม่ได้มีเอกสารอยู่ด้วย เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู แต่จะเขียนให้ดูกันคร่าวๆ นะคะ
วงจรการดำเนินเรื่อง
จริงๆ ชื่ออย่างเป็นทางการเค้าไม่ได้เรียกกันแบบนี้หรอก แต่เราเรียกแบบนี้เองเพราะมันดูจำง่ายกว่า เข้าเรื่องกัน วงจรที่ว่าเนี่ย เป็นรูปแบบพล็อตหนึ่งที่ค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จ และเป็นที่นิยม สามารถเอาไปปรับใช้ได้หลากหลายแนวเลยล่ะค่ะ
-วงจรที่ว่าเนี่ย มันเป็นแบบนี้ค่ะ
ตัวเอกใช้ชีวิตปกติ -----> เจอความขัดแย้ง/อุปสรรค (conflict) -----> เกิดการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร -----> ออกผจญภัย (เดินทาง/เข้าสู่ความขัดแย้ง) -----> เข้าสู่จุด climax -----> กลับมาใช้ชีวิตปกติธรรมดา (ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป)
พอพูดถึงวงจรนี้ทีไร ปัญหาที่ตามมาก็คือ ต้องมาอธิบายศัพท์กันหน่อย
conflict คือ ปัญหา ความขัดแย้ง การต่อสู้ ผลประโยชน์ทับซ้อน ฯลฯ อะไรที่มันตรงกันข้าม หรือกลายเป็นสิ่งที่เราต้องแก้ไข พิศวง หลงไปกับมัน นี่ถือเป็นคอนฟลิคค่ะ
conflict เป็นสิ่งที่ควรจะหยอดเอาไว้ในนิยายเป็นระยะๆ จะเล็กจะใหญ่ก็ตามสบาย (แต่ที่นิยมกันคือจะค่อยๆ ใหญ่มากขึ้นๆ ตามการดำเนินเรื่อง)
ถ้าเป็นนิยายแฟนตาซี conflict อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องออกเดินทางไปตามหา หรือทำให้เราต้องผจญภัยสู่โลกกว้าง หรือแม้แต่ชาติกำเนิดที่เราเพิ่งรู้ พลังที่เราเพิ่งค้นพบ เป็นต้น
นิยายรัก conflict อาจจะเป็นได้ทั้งฐานันดรที่แตกต่างกัน นางร้าย ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ หรือน้องพระเอกตาย อะไรทำนองนี้ล่ะค่ะ
นิยายสืบสวนสอบสวน conflict อาจจะเป็น ปมเล็กๆ ถึงปมใหญ่ๆ ที่สร้างมาให้ตัวละครเอกต้องแก้ปัญหาเรื่อยๆ
สรุป conflict ที่เรียกกันง่ายๆ ว่าอิตัวปัญหาเนี่ย เราวางเอาไว้ และจำเป็นต้องมีไว้ เพื่อให้ตัวละครในนิยายเราก้าวข้ามมันไปค่ะ และหากวาง conflict อย่างสมเหตุสมผล จะทำให้ตัวละครของเรามีคนเอาใจช่วยขึ้นเยอะเลย (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่นิสัยตัวละครด้วยเน้อ)
จริงๆ เรื่องนี้ควรจะแตกอีกประเด็น เอาไว้เราค่อยคุยกันกระทู้ใหม่ก็ได้เนอะ ^_^
มาถึงหัวข้อกระทู้กันดีกว่า
คำถามที่เราจะถามตัวเองก่อนทุกครั้งในการเริ่มต้นเขียนนิยายสักเรื่อง นั่นก็คือ "เรา 'อยาก' เขียนแนวไหนกันนะ?"
นั่นสิ? เราอยากเขียนแนวไหนกัน? จะมาถามคนอื่นๆ หรือจะเขียนตามกระแส สุดท้ายเราก็อาจจะไม่สนุกกับนิยาย พาลไม่ชอบ เขียนไม่จบ หมดกำลังใจ ฯลฯ
ดังนั้น การรู้ว่าเราชอบ หรืออยากเขียนนิยายแนวไหน จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ก่อนค่ะ
เราทำได้ด้วยการมองตัวเลขดังต่อไปนี้
"16 - 36"
มองดูตัวเลขชุดนี้ แล้วคิดถึงอะไรเป็นอันดับแรกคะ? (กรุณาอย่าบอกว่าหวยนะ TT^TT)
อยากจะบอกว่า สิ่งที่ท่านคิดถึงอันดับแรกหลังจากมองเลขชุดนี้แหละค่ะ
'เป็นสิ่งที่คุณชอบ'
และการเริ่มเขียนนิยาย โดยเฉพาะมือใหม่ ควรที่จะเขียนสิ่งที่ตัวเองชอบก่อนนี่แหละค่ะ เพราะความชอบของเรา จะส่งผลต่อกำลังใจในการเขียนของเรา และทำให้เรา 'ชอบ' นิยายของตัวเองตั้งแต่ต้นจนจบ
อีกอย่าง มันจะส่งผลถึงการหาข้อมูลในการเขียนด้วย เพราะมันจะทำให้เราไม่เบื่อที่จะต้องหาข้อมูลมหาศาล หรือจะต้องคิดถึงอะไรที่เกี่ยวกับมันเลย
กระทู้นี้ยาวได้อีก ต่อกันที่ คห.1 เลยนะคะ
atomic_no1
17 ต.ค. 57 เวลา 22:53 น.
641
views
9 ความคิดเห็น
หัวข้อถัดมา
หลายๆ คนมีปัญหาหนักใจในการเขียนนิยาย เช่น อยากได้พล็อตแหวกแนว อยากได้อะไรที่แปลกใหม่ เจ๋งๆ (ศัพท์เก่าไปป่ะเนี่ย?) เอาง่ายๆ คือไม่อยากได้พล็อตซ้ำใครอ่ะ ทำไงดี?
กระทู้นี้มีคำตอบ 555555555 (ว่าไปนั่น)
จริงๆ ต้องเข้าใจคำพูดหนึ่งก่อนนะคะว่า "ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ไม่มีการคิดขึ้นมาก่อน"
มันแปลว่า ไม่ว่าเราจะคิดพล็อตแหวกแนวขนาดไหน ใหม่มากเท่าไหร่ แต่ ย่อมมีคนเคยคิดฝันก่อนเราเสมอ
พล็อตนิยายย เอาจริงๆ มีไม่กี่แบบหรอกค่ะ แต่และแบบก็ซ้ำๆ กัน แต่ความคิดของคนเรามีโอกาสน้อยมากกกกก...ยิ่งกว่าลายนิ้วมืออีกที่จะเหมือนกับคนอื่นได้
พล็อตแฟนตาซีอาจจะเล่นได้หลากหลายหน่อย พล็อตนิยายรักก็อาจจะแบ่งๆ กันใช้บ้าง หรือพล็อตสืบสวนสอบสวนก็อาจจะเป็น who done it? (แล้วใครทำล่ะ?) มากหน่อย ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่จะทำให้เราแตกต่างจากคนอื่น คือสิ่งที่เป็นรายละเอียดปลีกย่อยและการบรรยายนั่นแหละ
แต่อะไรที่จะทำให้เราแตกต่างออกมาได้ล่ะ?
1. หมุนเรื่องค่ะ การหมุนเรื่องคือการที่เรามีพล็อตแบบนี้แหละ มีแก่นเรื่องแบบนี้ แต่เราจะนำเสนอมันด้วยข้อมูลใหม่ หรือสถานการณ์ใหม่
2. แตกต่างด้วยสิ่งแวดล้อมที่ตัวเอกไปประสบ
3. ใช้ตัวละครช่วย เรื่องจะแปลกได้ด้วยคาแรกเตอร์ที่โดดเด่น อย่างเช่น อลินจากสูตรเสน่หา ของกิ่งฉัตร พล็อตแบบคุณหนูโวยวายกับนายเย็นชาเนี่ยมีมานานมากกกกกกกกกกก...แต่ทำไมเรื่องนี้ถึงโดดเด่นออกมา...ก็เพราะมีคุณนายอลินยังไงล่ะ
4. ใช้ตัวละครพาเรื่องเดิน ตรงนี้ต้องให้คาแรกเตอร์ของตัวละครมาช่วยด้วยมากๆ จะทำให้เรื่องสนุกขึ้น เช่น อลิน จากสูตรเสน่หา ที่ทำให้ทั้งฮา ทั้งบ้าไปกับนิยายเรื่องนี้ แม่พลอย จากสี่แผ่นดิน ที่ทำให้เราสามารถตามติดชีวิตแม่พลอยได้ตั้งนาน (สองเล่มอย่างหนา) หรือลำยอง จากทองเนื้อเก้า คนนี้คงไม่ต้องพูดถึงความแซ่บ เรารู้กัน 5555
5. เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้พล็อตเราแหวก คือ ข้อมูล ค่ะ
ข้อมูลที่ว่าเนี่ย จะมาจากไหน จะเป็นอะไรก็ได้ เช่น ข่าวใหม่ๆ ประเด็นใหม่ อยาง อีโบล่า ระบาด เราอาจจะคิดถึงพล็อตที่มีไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ประเด็นแปลกๆ ในข่าวต่างๆ หรือแม้แต่ชีวิตของใครบางคน เราก็สามารถนำมาเขียนได้แล้วค่ะ
ข้อมูลที่ดี มีในหนังสือเยอะแยะมากค่ะ บางทีเราอาจจะเจออะไรแปลกๆ สะดุดตาจากในนั้น แล้วเอามาเขียนก็ได้เนอะ
พล็อตเล็กเกินไป?
หรือโครงเรื่องที่เล้กเกินไป ประเภท ฉันตื่นเช้าขึ้นมา ไปโรงเรียน เรียน ส่งการบ้าน กลับบ้าน ทำการบ้าน นอน จบ เนี่ย เป็นเพราะเราไม่ใส่ในเรื่อง 'สิ่งแวดล้อม' ค่ะ
สิ่งแวดล้อม ก็อย่างพวก ครอบครัว (ตัวละคร พ่อแม่ญาติพี่น้อง) ละแวกบ้าน ข่าว/เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (ในท้องเรื่อง) ปัญหาที่ไม่ใช่ปัญหาของตัวละคร แต่ส่งผลให้ตัวละครต้องดำเนินตาม ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้จะทำให้สเกลเรื่องเราใหญ่ขึ้นกว่าเดิมได้ค่ะ
กระทู้นี้ยาวมากกกกกกกกกกก...ต้องขออภัยสำหรับท่านใดที่ไม่ประสงค์อ่านอะไรยาวๆ ด้วยเน้อ TT^TT
พรุ่งนี้ เรามาทำความรู้จักกับตัวละครของตัวเอง การเปิดเรื่องจะทำยังไงให้ดึงดูด และสิ่งที่เรียกว่า point of view นะคะ
วันนี้ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะทุกคน สู้ๆ!
ขอบคุณสำหรับสาระยามดึกค่ะ /////\\\\\\
แคปรูปเรียบร้อย... พอดีขี้เกียจจดค่ะท่าน 555 ขอขอบคุณท่านอีกครั้งนะคะ // ก้มกราบ
ว้าว สาระ
โชคดีฮะผมแต่งแนวนำ้เน่าแต่พล็อตไม่ซำ้มากเท่าไรนัก เหอะๆ
ขอบคุณที่มาเล่าให้อ่านนะคะ
ขอบคุณนะคะ ติดตามค่ะ ^^
เป็นกระทู้ที่ดีสำหรับนักเขียนหน้าใหม่ขอรับ ^^
สาระ... ผมชอบสาระนะ มันหายากนักในช่วงปิดเทอม(หรือหายากอยู่แล้ว?) /เดินจากไปด้วยความหม่นหมอง... ปล. ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ อีกครั้งครับ /ก้มกราบ
เจ๋งอะเราชอบ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?