Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

::เมื่อครอบครัวเปลี่ยนไป และผมอยากหายไปจากโลกนี้

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีเพื่อนๆชาวเด็กดีทุกๆคน เรื่องที่จะเล่าต่อไปนีคือเรื่องเกี่ยวกับแม่ผมและผม มันอาจยาวและหลายคนอ่านอาจไม่เข้าใจ แต่วิงวอนต้องอ่านให้จบ.

ตั้งแต่ผมจำความได้ ในตอนเด็กนั้นผมถูกยายกับตาเลี้ยงมา เพราะพ่อกับแม่ผมต้องทำงานที่กรุงเทพ ปีๆนึงจะมาหาผมน้อยมาก แต่ก็ส่งเงินมาให้ทุกเดือน ในตอนเด็กผมจะเรียกยายว่าแม่ (ปัจจุบันอยู่ ม.3 ก็เรียกยายว่า แม่ อยู่)
ยายผมไม่ได้เรียนหนังสือ อ่านหนังสือไม่ออก แต่ตอนเด็กเวลาผมป่วยแกเป็นคนพาผมไปหาหมอ เป็นคนที่พาผมขึ้นรถเมล์ทั้งที่แกไม่เคยขึ้น ตอนเด็กผมเป็นหอบหืดต้องไปพ่นยาที่โรงพยาบาลทุกเดือน ยายผมป้อนข้าว ป้อนนม แทนแม่ผม แกไม่เคยบ่น เวลาผมทำผิดแกก็ตีแบบมีเหตุผล ด่าโดยให้เหตุผลเหนือกว่าอารมณ์ วันที่ผมไปโรงเรียนวันแรก ยายก็ไปส่งผม ไปเคลียเอกสารทุกอย่าง ทั้งที่แกไม่ได้หนังสือ อ่านไม่ออก ตอนนั้น ผมอายุเกิน เลยได้เข้า อนุบาล 2 เลย จนวันนี้ผมอายุ 15 ยังแปลกใจกับสิ่งที่ยายทำว่าแกเลี้ยงผมมาได้้ยังไง แกจะเหนื่อยขนาดไหน แต่แกไม่เคยที่จะบ่นเลย ในตอนเด็กยายเป็นคนที่หัวเราะร่าเริง ยิ้มง่าย แกชอบเข้าวัดด้วย ผมเลยพลอยตามแกไปด้วย เวลาวันพระจะมีปิ่นโตสองอัน อันนึงสำหรับพระ ปิ่นโตนี่จะใหญ่มาก อีกอันจะเป็นปิ่นโตขนาดมินิ เล็กๆ ผมจะใส่ข้าวกับอาหาร ไปกินที่วัดเวลาพระฉันข้าวเสร็จ (ยังเด็กอยู่5555) จนผมขึ้น ป.1 ผมถูกย้ายมาเรียนโรงเรียนแถวบ้าน มันคือโรงเรียนวัด แบบวัดจริงๆ เด็กหลายคนไม่มีแม้กระทั่งรองเท้านักเรียน เข็มขัด เสื้อนักเรียนก็เป็นของโรงเรียนที่แจกฟรี บ้านเด็กบางคนยังไม่มีน้ำประปา ผมยังจำภาพนั้นได้อยู่เลย ภาพที่ครูประจำชั้นผมตอน ป.1 อาบน้ำให้เด็กคนนึง นั้นคือเพื่อนของผม อาจารย์อาบให้โดยไม่มีถ้าทางรังเกลียดแม้แต่น้อย และเด็กหลายคนยังขาดโอกาสมาก โรงเรียนนี้อาจสอนวิชาการไม่ดีเท่าโรงเรียนในเมือง แต่สำหรับที่นี้ผมได้เรียนรู้ว่ายังมีคนที่ไม่มีเหมือนเรา เด็กหลายคนยังขาดโอกาสในการเรียน ซึ่งมันทำให้ผมตั้งใจเรียนมาก เพราะว่าเรามีโอกาสที่จะเรียน โรงเรียนนี้จัดงานวันเด็กโดยที่มีผู้ปกครองมาช่วย และในวันเด็กผมก็ได้เต้น ซึ่งคนที่มาดูผมก็คือยายผมนั้นเอง แกยิ้มให้ผมตลอดตั้งแต่ผมอยู่บนเวที แกซื้อพวงมาลัยมาให้ผม แต่พอขึ้น ป.2 ผมก็โดนย้ายโรงเรียน โรงเรียนใหม่ของผมอยู่ไกลจากบ้านมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก วันแรกที่เข้าเรียนผมมีพ่อกับแม่ไปส่ง โรงเรียนใหม่สังคมแตกต่างจากโรงเรียนเก่ามาก ที่นี้เด็กส่วนใหญ่เป็นลูกคนรวย บางคนนี่ลูกคุณหนู อาจารย์บางคนยังทำเหมือนดูถูกผมด้วยเวลารู้ว่าผมมาจากโรงเรียนวัด ช่วงตั้งแต่ ป.2 ตั้ง ป.5 ผมบอกได้เลยว่ามีความสุขมากกก ชีวิตปกติมากกกกกก แต่พอขึ้น ป.6 หลายอย่างเปลี่ยนไป ตากับยายทะเลอะกันมากขึ้น ตาผมมักจะอารมณ์ร้าย แต่แกเก่ง แกหาเงินเลี้ยงผม ช่วยแบ่งเบาภาระแม่กับพ่อ มีวันนึงตาแกโมโหถึงกับเอาไม้ไล่ฝาดยาย ตั้งแต่นั้นมาตายายก็ทะเลอะกันทุกวัน ส่วนผมก็นั่งดูแกทะเลอะ จนผมกลายเป็นเด็กเก็บกด เอาแต่ใจ อารมณ์ร้าย แต่สิ่งไม่น่าเกิดขึ้น ก็เกิดแม่ผมตกงาน ส่วนพ่อติดพนันบอล เงินที่แม่ได้จากบริษัทที่เยี่ยวยาคนตกงาน ก็เอาไปใช้ให้พ่อผมหมด จน ผมอยู่ ป.6 เทอม 2 ตาป่วยหนัก จนต้องเข้าไปในโรงพยาบาลที่กรุงเทพ ช่วงนั้นประมาณมีนาคม แม่ผมบอกแค่ว่าตาเป็นเนื้องอก หมอกำลังตรวจมาเป็นเนื้องอกร้ายหรือป่าว จนเข้ามาเดือนเมษา ผมเพิ่งรู้ว่าตาเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ตาเสียใจมาก อยากฆ่าตัวตาย แกไม่อยากอยู่บนโลกนี้ แต่ผมก็คอยปลอบใจแก ทั้งที่ปลอบใจใครไม่ค่อยเป็น หมอบอกว่าแกจะทำอะไรกินอะไรให้แกทำ จนอาการแกหนักขึ้นเรื่อยๆ ต้องให้อาหารทางสายยาง แกนอนอยู่บนเตียงพูดไม่ได้ จนวันที่ 4 ตุลาคม 54 ตาแกก็จากไป ผมนึกไม่ออกแล้ว ว่าตอนนั้นเป็นยังไงมั่ง แต่พอตาตายแม่ผมก็ย้ายมาอยู่บ้านตอนแรกก็ปกติดี แต่พอหลังๆแม่กับยายผมทะเลอะกันหนักมาก ทะเลอะทุกวัน ย้ำทุกวัน บางครั้งแม่ของผมก็ขว้าจานข้าวใส่ยาย ทั่งที่ยายคือแม่ของแม่ผม แม่ผมด่ายายแบบรุนแรงมาก คำด่าที่แม่ผมชอบใช้กับยาย คือ "อีปัญญาอ่อน" เพราะยายแกไม่ได้เรียนหนังสือ เลยถูกแม่ด่าเชิงดูถูกแรกๆผมเงียบมาก แต่ก็แอบไปปรึกษาพี่ ที่ไม่ได้เป็นพี่จริงๆหรอก แต่สนิทกันเพราะตอนเด็กแม่ผมช่วยพี่คนนนี้ตอนเรียนมหาลัย พี่คนนี้คือลูกของป้าผม และป้าผมก็คือ พี่ของแม่ ตากับยายมีลูก 3 คน คือ ป้า แม่ผม และก็น้าชาย พี่คนนี้ขอใช้ชื่อสมมุติว่า ปลาย พี่ปลายบอกให้ผมอย่าเก็บมาคิด ทำหน้าที่ของเราตั้งใจเรียนไป แม่ผมชอบด่าผมทั้งที่ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ว่าผมทำอะไรก็ถูกแม่ด่าตลอด ส่วนยายก็ถูกแม่ด่าตลอด จนวันนึงผมทนไม่ไว้เลยด่าแม่ไป บอกจะทะเลอะอะไรกันนักหนา แล้วผมก็ฝาดประตูใส่ แม่ผมก็โทรไปที่ครูประชั้นผม บอกว่าผมเป็นเด็กก้าวร้าว นิสัยเสีย ยอมรับเพราะมันขึ้น ครูประจำชั้นผมท่านคงรู้ว่านิสัยจริงๆผมเป็นยังไง แกแค่มาถามว่าเป็นอะไรทำไมถึงทำแบบนั้น ผมเลยเล่าไป จำไได้ว่าร้องไห้ไปด้วย ครูประจำชั้นแกบอกว่า ยังไงเขาก็เป็นแม่ แกก็เดินออกจากห้องไปเลย แกเหมือนจะร้องไห้ด้วย เพื่อนทุกคนในห้องก็งง และเงียบกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนผมขึ้น ม.1 แม่ผมไปเรียนเสริมสวยกะว่าจะมาเปิดร้าน มันเป็นอะไรที่ผมดีใจมากเพราะยายจะไม่ถูกด่า บ้านจะสงบ จากนั้นผมก็อยู่กับยายสองคน โดยที่แม่พ่อกับส่งเงินมาให้เท่นั้น แต่พอ ม.2 แม่ผมก็มาอยู่บ้านพักนึง ก็เหมือนเดิมผมถูกด่า ว่า เป็นเด็กมีปัญหา เลว ระย้ำ มีครั้งนึงผมกำลังเสียใจที่เพื่อนไม่กล้าเข้าไกล้ผม รังเกลียดผมที่เป็นเกย์ ช่วงเป็นจุดต่ำสุดมาก ผมร้องไห้ แล้วคราวนี้พอมาบ้านก็เจอยายกับแม่ทะเลอะกัน ผมเลยระเบิดเต็มที่เลย จนแม่ผมด่าว่าใอเด็กปัญหาเยอะ ตัวอะไรเกิดมา เท่านั้นแหละ ผมหยิบมีด จะแทงหน้าอกตัวเอง แต่ยายก็มาเคอะประตูห้องน้ำ บอกว่า เลี้ยงโตมาขนาดนี้จะตายทำไม ผมเลยวางมีดลงแล้วพยายามมองอนาคตตัวเองว่า ถ้าไม่ตายวันนี้ เราจะเป็นยังไง ช่วงผมกลายเป็นคนไม่มีเพื่อน ผมไม่พูดกับใคร แต่ก็ต้องขอบคุณเพื่อนสนิทของผมที่คอยให้กำลังใจ ช่วงแม่ผมโทรไปฟ้องครูด้วยว่าผมจะฆ่าตัวตายเพราะไม่ติดเน็ตให้ ช่วงนั้นผมบ่นกับแม่ว่าแอร์การ์เน็ตช้า อยากติด3bb พอผมฆ่าตัวตาย แม่ผมเลยมโนว่าคงเป็นเรื่องนี้ ตอนนั้นครูผมก็โทรบกเพื่อน ผมก็โดนเพื่อนเกลียด นินทา อือ แต่มันก็เข้าใจแล้วก็ผ่านมาได้ จนผมขึ้น ม.3 แม่ผมมาเปิดร้านเสริมสวยถาวรที่บ้าน แม่ผมใช้อำนาจจัดการทุกอย่าง บอกว่าตัวเองเก่ง รู้ทุกเรื่อง แม่ผมด่ายายหนักมาก และผมก็ด่าแม่ทุกครั้งที่แม่ด่ายายเกินความพอดีจนทำให้คนมองว่าเป็นลูกระย้ำ โดยเฉพาะในสายตาแม่ที่บอกเห็นเป็นที่ก้าวร้าว อารมณืร้าย เป็นลูกอกตัญญู บางครั้งเรื่องแค่ยายเปิดน้ำไว้ แล้วลืมปืด แกแค่เตือนปกติก็ได้ แต่แกด่าแบบแรงมาก แล้วแกโยงเรื่องอื่นมาจนมันบานปลาย จนบางครั้งยายร้องไห้ แล้วแม่ก็ชอบซ้ำเต็ม "-ร้องไป ให้ชาวบ้านเขาได้ยิน" จนผมทนไม่ไว้ เลยไล่แม่ออกไปอยู่กับพ่อที่กรุงเทพ ผมก็โทรบอกพ่อด้วยว่า "ถ้ายังให้แกอยู่นี้ ชีวิตบั่นปลายของยายแกไม่มีความสุขแน่" พ่อผมก็รู้ว่านิสัยแม่เป็นยังไง มีช่วงนึงที่แม่กับพ่อผมจะเลิกกันเพราะพ่อติดพนัน แล้วบวกกับนิสัยแม่ผมที่ไม่ฟังใคร ตัวเองใหญ่ รู้ทุกอย่าง ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทุกวันนี้ที่เขายังไม่เลิกกัน ว่าเขายังรักกันอยู่หรือเปล่า แม่แกก็ไปสักพักนึง แกพึงกลับมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วมาวันแรกจะพูดดีมาก ซึ่งเป็นปกติที่แกจะทำแบบนี้ แต่พอไปเรื่อยๆแกกับพูดลับหลังว่า "ที่กุซื้อนั้นนี่ให้ เห็นว่าอยู่แบบอนาถา. เวลาคนมาทำเสริมสวยแกชอบเอายายไปนินทาให้ลูกค้าฟัง แล้วอวยว่าตัวเองทำถูกที่ด่าแบบนั้นนี่ เวลาแกด่ากับยายแกชอบบอกว่าดูเอานะชาวบ้าน ดูมัน วันที่แม่ไปจากบ้านแกเอาข้าวสาร ไปด้วยบอกว่าเงินแกซื้อ ผมกับยายต้องอดข้าวมื้อนึง แล้วตอนเช้ายายก็ไปซื้อข้าวมากระสอบนึง ยายแกร้องไห้บอกว่าเหลือใจกุจริงๆ ผมพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นเดิมเหมือนกับที่ยายเคยมี จนวันนี้ผมกับแม่ไม่ถูกกันอีกต่อไป ผมไม่คุยกับใคร แม่ผมไม่รู้อะไรในตัวผมแม้แต่น้อย ทุกวันนี้ที่ผมยังสามารถนั่งพิมพ์อยู่ได้ เพราะ "ยาย" ผมไม่มีเพื่อนสนิท ไม่มีใครในครอบครัวที่ผมสามารถปรึกษาได้ ผมต้องใช่ชีวิตคนเดียว ในขณะที่พ่อก็ทำงาน แม่ก็ทะเลอะกับยาย และตอนนี้ ม.3 ผมพยายามสอบให้ติดโรงเรียนประจำเพื่อที่จะหนีจากตรงนี้ ผมกลายเป็นเด็กโลกส่วนตัวสูง ผมต้องร้องไห้กับตุ๊กตาเวลาท้อหรือถูกเพื่อนด่า ผมต้องผ่านเหตุการณ์ที่ทำให้จิตใจผมปวดร้าว ด้วยตัวคนเดียว แต่แม่กลับไม่สนใจอะไรเลย เวลาผมร้องไห้ บางครั้งแม่แกก็เห็นแกไม่เคยใยดีแม้แต่ ผิดกับยายที่แม้แกถูกด่า ย่ำยี้ โดนแม่เอานินทาให้ชาวบ้านฟัง จนถูกคนเกลียด แกยิ้มให้ผมในวันที่ผมท้อ และอยากไปปจากโลกนี้ ผมไม่รู้จะพิมพ์อะไรต่อ ไม่ไหวแล้วผมร้องไห้อีกแล้ว
ยาย รักยาย cจะทำให้ยายภูมิใจ แม้จะถูกทำร้ายจิตใจมากขนาดไหน ถ้า c ทำอะไรไป ยกโทษอโหสิกรรมให้ด้วย.........

แสดงความคิดเห็น

>

226 ความคิดเห็น

Na.mi 25 ต.ค. 57 เวลา 21:28 น. 1

พี่ค่ะ หนูเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ หนูอ่านจบร้องไห้เลยอ่ะ สู้ๆน่ะค่ะ

0
Aomtt 25 ต.ค. 57 เวลา 21:30 น. 2

สู้ๆนะคะ...
เรายอมรับว่าอ่านจบเราน้ำตาซึมเลย จขกท ทำให้เรารู้ว่าปัญหาที่เราผ่านมามันน้อยนิดมาก ขอบคุณนะ :) สู้ๆนะ ขอให้กลับมาใช้ชีวิตอยู่กับยายอย่างมีความสุข แล้วก็ขอให้แม่เข้าใจด้วยนะ 

0
เพื่ออัลไล 25 ต.ค. 57 เวลา 21:30 น. 3

สู้ๆค่ะพูดได้คำเดียว ยังไงเขาก็เป็นแม่ผู้ให้กำเนิดเราเขาไม่ทำแท้งก็ดีเเค่ไหนเเล้ว พยายามคิดถึงยายนะคะเวลาจะทำอะไร คิดให้มากเตือนสติตัวเองเข้าไว้ค่ะ
**อันนี้อีกวิธีคะ คือ นั่งสมาธิค่ะ ก่อนนอนก็ได้แบบนั่งหายใจเข้าออก พยายามคิดถึงเรื่องที่เราทำตลอดทั้งวันฝึกไปเรื่อยจิตใจเราจะสงบค่ะ เราทำมาเเล้ว **
อย่าน้อยเนื้อต่ำใจกับชีวิตตัวเองค่ะ อย่าไปไหนไกลจากยายเลยนะคะ เป็นห่วงท่านคะ  

0
เจ้าหญิงแห่งสงคราม 25 ต.ค. 57 เวลา 22:44 น. 4

อย่างน้อยน้องต้องสู้เพื่อยายนะ
พยายามตั้งใจเรียน ทำงานที่ดีๆ
หลังจากนั้นค่อยไปอยู่กับยายด้วยกัน
อย่าคิดสั้นเลยน้อง ชีวิตยังอีกยาว
ถ้าน้องเป็นอะไรไป ยายจะอยู่กับใครล่ะ
สู้ๆนะน้อง ชีวิตมันยังมีอะไรอีกเยอะ 
ตราบใดที่ยังไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นกันต่อไป
ซักวัน โชคดีก็จะมาหาเรา 
ไม่มีใครโชคร้ายไปตลอดหรอก 
ลองเปลี่ยนมุมมองมันดู ปล่อยผ่านหรือเมินเรื่องแย่ๆไปบ้าง แล้วมีความสุขกับยายของเรา 


0
จขคห. 26 ต.ค. 57 เวลา 05:30 น. 5

อือ ... น้ำตาซึมคะ แต่ถ้าเป็นเรา เราจะตอกแม่กลับไปว่า แม่รักหนูไหม ? นี้คือสิ่งที่อยากรู้มากสำหรับแม่แบบนี้ เรารักยายมากกว่าแม่เหมือนเจ้าของกระทู้นี้แหละ ถ้าเราเห็นแม่ด่ายาย ต่อให้ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกทรพี ไม่รักพ่อแม่ ก็ยอม

0
กีตาร์ไม้ 27 ต.ค. 57 เวลา 14:43 น. 6

สู้นะ ปัญหาอาจคล้ายกับเราเลย แม่ไม่เคยให้กำลังใจเราเลย ชอบซ้ำเติมเรา แต่เรารู้ว่าแม่อยากให้เราเข้มแข็งแต่บ้างครั้งเราก็อยากให้ท่านให้กำลังใจเราบ้าง...
สู้ๆพยายามทำให้ยายภูมิใจให้ได้นะ เราเป็นกำลังใจให้

0
piyamat khumpao 27 ต.ค. 57 เวลา 17:27 น. 7

สู้ๆน่ะค่ะ เป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ เห็นด้วยกับ คห.3 น่ะค่ะ ลองนั่งสมาธิ ทำให้เราจิตใจสงบอะไรๆก็จะผ่านไปได้แน่นอนค่ะ

0
อาคาเอะ สึบาสะ 28 ต.ค. 57 เวลา 11:17 น. 8

สู้ๆนะค่ะ 
ทำให้ยายภูมิใจไว้นะค่ะ ตั้งใจเรียน จะได้มีงานดีๆทำ มีเงินเดือนเยอะๆนะค่ะ เราจะเป็นกำลังใจให้ค่ะ  

0
Nanny Kamisama 28 ต.ค. 57 เวลา 11:24 น. 10

สู้ๆนะคะ ต่อให้ท้อแค่ไหนก็ต้องสู้ ร้องไห้มากแค่ไหน..มันก็แค่น้ำตาที่ไหลออกมา..และมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาเลย ร้องไห้ออกมาให้พอ พอจนเรารู้สึกดีขึ้น แล้วทำวันต่อไปให้มันดียิ่งขึ้น ต่อให้เรารู้สึกท้อมากแค่ไหน เราก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุดนะคะ -เราก็เคยเจอค่ะ เลยคิดไว้ว่า คำพูดคำด่าของใครหลายคนนั้น..อย่าเอามาคิด คำพูดบางอย่างอาจจะเป็นเเรงบันดาลใจก็ได้นะคะ ยังไงขอให้มันผาสนไปด้วยดีนะคะ สู้ๆค่ะ! 

0
white*lotus*love* 28 ต.ค. 57 เวลา 11:48 น. 13

ไม่ว่าจะท้อจะถอยยังไงก็ให้นึกถึงหน้ายายไว้นะคะ คุณยังมีเขาอยู่
ฉันไม่รู้ว่าจะมีใครคิดแบบฉันไหม ที่บ้านฉันถือคนเลี้ยงเป็นใหญ่ค่ะ เพราะคนให้กำเนิด บางทีก็สักแต่ว่าให้เกิดมาแต่ไม่แยแสเราไม่รักเราแต่ไม่ได้หมายความว่าแม่คุณไม่รักคุณนะคะ ฉันไม่ได้พูดแบบนั้น และฉันถือว่าคนที่เลี้ยงฉันมีคุณมากกว่าคนให้กำเนิดค่ะ เพราะอย่างน้อยเขาก็ไม่เคยทิ้งขว้างเรา ต่อให้ฉันโดนเก็บมาเลี้ยงจากไหนแต่ฉันก็จะไม่กลับไปหาคนที่ให้ฉันเกิดแต่ทิ้งฉันหรอกค่ะ แต่ว่ายังไงเขาก็เป็นแม่ ก็นึกถึงเขาหน่อยละกันนะคะ และรักยายไว้ให้มากๆ จะทำอะไรจะคิดอะไรก็ให้นึกถึงยายไว้เป็นหลักนะคะ น้ำตาซึมเลยค่ะพออ่านจบ สู้ๆนะคะ อนาคตยังต้องเจออะไรมากกว่านี้ จะท้อไม่ได้นะคะ 

0
Narisara Anangkanakul 28 ต.ค. 57 เวลา 11:52 น. 14

ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องราวของคุณที่ทำให้หนูมีกำลังใจที่จะก้าวต่อไป

สู้ๆนะคะ ความสุขจะต้องรอคุณอยู่ข้างหน้าแน่นอน

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของ

ไม่ระบุชื่อ 28 ต.ค. 57 เวลา 16:43 น. 19

ขอบคุณนะคับ ตอนนี้ก็ไม่ได้คิดอะไรแร้ว คิดแต่อนาคตตัวเองแหละคับ ตอนนี้ไม่เก็บเรื่องเครียดมาคิดแล้วล่ะคับ^^

0
ไม่ระบุชื่อ 28 ต.ค. 57 เวลา 16:45 น. 20

ผมเชื่อว่าแม่ทุกคนรักลูกแหละคับ แต่การแสดงออกอาจรุนแรง อือ ต้องทำใจอ่ะ สักวันแม่ก็จะเข้าใจผมเชื่ออย่างนั้นสู้สู้

0