โครงงานวิทยาศาสตร์
ตั้งกระทู้ใหม่
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
เนื่องจากผู้จัดทำโครงงานได้ประสบปัญหาแผลร้อนในในปาก ซึ่งเกิดจากความสมดุลในร่างกายไม่เท่ากันและปัญหาอื่นๆ เช่น นอนดึก ดื่มน้ำน้อย เป็นต้น ดังนั้นผู้จัดทำจึงไปศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสมุนไพรไทยที่ช่วยรักษาและแก้ปัญหาร้อนในในปากได้ และได้ค้นพบว่าเสลดพังพอน(ตัวเมีย)มีสรรพคุณในการรักษาและแก้ปัญหาร้อนในในปากได้ ซึ่งผู้จัดทำได้พบจากเว็บไซต์เว็บหนึ่งจากอินเทอร์เน็ตซึ่งมีวิธีการทำอยู่แล้ว ผู้จัดทำจึงต่อยอดโดยการศึกษาหาความเข้มข้นของสารละลายของใบเสลดพังพอนตัวเมียและGlycerine pureในการทำยาทาแก้ร้อนจึงได้ทำการทดลองหาอัตราส่วนที่เหมาะในการทำยาทาแก้ร้อนในจากเสลดพังพอนตัวเมีย
จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
1.เพื่อศึกษาการผลิตยาสมุนไพรจากเสลดพังพอนตัวเมีย
2.เพื่อหาอัตราส่วนที่เหมาะสมของสารละลายของใบเสลดพังพอนกับGlycerine pure
3.เพื่อศึกษาหาประสิทธิภาพและคุณภาพผลิตยาสมุนไพรจากเสลดพังพอนตัวเมีย
สมมติฐาน (ถ้ามี)
อัตราส่วนที่เหมาะสมของสารสกัดสมุนไพรที่ต่างกันดังนั้นมีประสิทธิภาพในการรักษาแผลร้อนในที่แตกต่างกัน
ตัวแปรตาม ประสิทธิภาพในการรักษาแผลร้อนในที่แตกต่างกัน
ตัวแปรควบคุม ปริมาณGlycerine pure
วัสดุอุปกรณ์และสารเคมี
(1) วัสดุอุปกรณ์
1. ถังสำหรับหมัก 1 ถัง
2. ตะแกรงสำหรับกรอง 1 อัน
3. ผ้าขาวบาง
4. ถังผสมส่วนผสม 1 ถัง
5. ขวดใส่สาร
6. คอตตอนบัด
(2) สารเคมี
7. Glycerine pure 800 มิลลิลิตร
8. แอลกอฮอล์ 70 % 2,000 มิลลิลิตร
9. ใบเสลดพังพอน 2,000 กรัม
วิธีดำเนินการทดลอง
วิธีการทำยาทาแก้ร้อนในจากเสลดพังพอนตัวเมีย
1. นำใบเสลดพังพอนตัวเมีย 2,000 กรัม หมักในแอลกอฮอล์ 70 % 2,000 มิลลิลิตร หรือใช้อัตราส่วน1:1 หมักไว้ 1 สัปดาห์
2. จากนั้นนำมากรองแล้วนำไประเหย โดยใช้วิธีการต้มในภาชนะที่มีน้ำรองอยู่ `(คล้ายๆวิธีการตุ๋น) จนเหลือ1,300 มิลลิลิตรใช้แทนความเข้มข้น 100% แล้วแบ่งให้เป็น 50,200,400และ600 มิลลิลิตร (เอาแต่สารละลาย)
3. จากนั้นนำมาผสมกับ glycerine pure 200 มิลลิลิตร หรือใช้อัตราส่วน glycerine pure ต่อ สารละลายใบเสลดพังพอน 1:1,1:2,1:3และ1:4
วิธีทดสอบประสิทธิภาพของยาทาแก้ร้อนในจากเสลดพังพอนตัวเมีย
4.นำยาทาแก้ร้อนในจากใบเสลดพังพอนตัวเมียในอัตราส่วน 50 ml:200 ml มาป้ายบริเวณแผลร้อนใน โดย
ใช้คอตตอนบัด บนแผลแรกก่อนนอนทุกคืน
5.นำยาทาแก้ร้อนในจากใบเสลดพังพอนตัวเมียในอัตราส่วน 200 ml:200 ml มาป้ายบริเวณแผลร้อนใน โดย
ใช้คอตตอนบัด บนแผลที่สองก่อนนอนทุกคืน
6.นำยาทาแก้ร้อนในจากใบเสลดพังพอนตัวเมียในอัตราส่วน 400 ml:200 ml มาป้ายบริเวณแผลร้อนใน โดย
ใช้คอตตอนบัด บนแผลที่สามก่อนนอนทุกคืน
7.นำยาทาแก้ร้อนในจากใบเสลดพังพอนตัวเมียในอัตราส่วน 600 ml:200 ml มาป้ายบริเวณแผลร้อนใน โดย
ใช้คอตตอนบัด บนแผลที่สี่ก่อนนอนทุกคืน
8.เมื่อตื่นนอนถ่ายรูปแผลร้อนในทั้งสี่ไว้
9.ทำในข้อที่ 8-11 ไปเรื่อยๆจนกว่าแผลร้อนในทั้งหมดจะหาย
10.จากนั้นบันทึกผล
นี่เป็นลักษณะของตัวยานะค่ะ (ภาพด้านล่าง)
วิธีการใช้คือใช้สำลีหรือคัตตอนบัตจุ่มลงในขวดแล้ว ทาลงบริเวณแผลร้อนในค่ะ
ได้โปรดช่วยกันแสดงความคิดเห็นหน่อย เอาไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอโครงงานและปรับปรุงแก้ไขตัวยาด้วยนะค่ะ
มีอะไรไม่เข้าใจตรงไหนถามได้นะค่ะ
Fairy
24 ก.พ. 58 เวลา 18:53 น.
20,752
views
18 ความคิดเห็น
สรุปผลและอภิปรายผลการทดลอง
เป็นไปได้ว่าจากสารสกัดสมุนไพรอัตราส่วน 3:1(200 ml:600 ml) ใช้เวลาน้อยที่สุด คือ เฉลี่ย 3 วัน
แสดงว่าอัตราส่วนที่เหมาะสมที่สุดเรียงตามลำดับจากมากไปน้อยดังนี้ คือ
1. 3:1(200 ml:600 ml)
2. 2:1(200 ml:400 ml)
3. 1:1(200 ml:200 ml)
4. 4:1(50 ml:200 ml)
อภิปรายผลการทดลอง
จากการสรุปผลการทดลอง จะเห็นว่าสารสกัดสมุนไพรอัตราส่วน 2:1(200 ml:400 ml) สามารถ ทำให้แผลร้อนในในช่องปากหายเร็วที่สุด ซึ่งเกิดจากที่มีสารละลายใบเสลดพังพอนตัวเมียมากที่สุด จึงทำให้มีสรรพคุณในการรักษามากที่สุด
อยากได้ข้อมูลมากกว่านี้ได้ไหมคะ
มีประโยชน์มากเลยย
้สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง เยี่ยมเลย
เยี่ยมมากอ่ะ สามารถนำมาใช้ได้จริงเลยนะเนี่ย
มีประโยชน์สุดๆเลย
ชอบเป็นร้อนในบ่อยมากเลยยยยย
ดีจังมีคนทำด้วย ><
มีประโยชน์มากจริงๆ
ดีงามมากกครับบ
เพื่อนชอบเป็นร้อนในบ่อยแบบนี้ดีมากเลย
มีประโยชน์มากๆเลยค่า
น่าลองอ่าาาาา
ดีมากเลยครับ ^^ ปรบมือให้เลย
แต่สำหรับการนำไปต่อยอดนะครับ... มีคำแนะนำเล็กๆน้อยๆ (เอ๊ะ แต่ก่อนอื่นขอถามคำถามก่อนนะ 55555)
คือผมสงสัยว่า คนที่ทายาอ่ะครับ (คนที่เป็นร้อนใน)
ในทดลองนี้มีกี่คนอ่า...
ถ้าสมมติ จขกท ตอบว่ามีคนเดียว... แล้วในปากของคนนั้นมีแผลร้อนในกี่จุดเหรอ 5555 (เอ๊ะถามทำไม 555)
ทดลองคนเดียวค่ะ มากสุดที่เคยเป็นคือห้าแผลค่ะ (ขอบอกว่าเป็นอย่างน้อยสองแผล และเฉลี่ยแล้วเป็นเดือนละครั้งค่ะ)
อ๋อ... ถ้าแบบนี้มันอาจเกิดความผิดพลาดจากการทาซ้ำได้นะ
เช่น ถ้าเราใช้สูตร 1:4 ต่อแผลหนึ่ง แล้วมันไม่หาย
เราจึงเปลี่ยนสูตร แต่ทาที่แผลเดิม บางทีผลจากสูตร 1:4 มันอาจส่งผลต่อแผลไปแล้วก็ได้นะ *-*
กับอีกนึงคือ ร้อนใน เป็นแผลที่สามารถหายได้เองโดยไม่ต้องทายา...
ตัวแปรหนึ่งที่เราไม่ทราบค่าคือ ไอ่แผลบางแผลมันอาจกำลังจะหายอยู่แล้ว แต่บังเอิ๊ญญญ เราไปทามันพอดี ก็อาจเป็นได้เน้อ *-*
// แต่ก็ถือว่า เจ๋งมากแล้วละ ทำได้ขนาดนี้
ขอบคุณค่า ที่ทำก็เหมือนรักษาตัวเองเพราะแผลขึ้นอย่างกับดอกเห็ด
ทดลองกับเเผลจริงจริง หรอคะ
งั้นก่อต้องมีหลายๆเเผล -?-
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?