Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สัตวแพทย์สภา ไม่แนะนำให้เรียน ราชมงคล?!งงเลยคะไงมาฟังคลิปค่ะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีคะ เพื่อนๆพี่ๆ คือหนูได้โทรถามสัตวแพทยสภา เรียบร้อย 
โทรไปสอบถามเรื่อง ของ คณะสัตวแพทย์ ของ ม.ราชมงคลศรีวิชัย
 ด้วยคำถาม
1.สัตวแพทยสภา รับรอง ม.ราชมงคลศรีวิชัยรึยัง
2.ถ้าสมัครเรียนจะมีปัญหาป่าว
3.จบมาสอบใบอนุญาติได้มั้ย
4.จากการาแจ้งของมหาลัย ว่าตรวจแล้วผ่าน100% หมายความว่า จะได้รับรองปีนี้หรือ ปีไหน? 
5.จะมีการรับรองย้อนหลังมั้ยน
6.ถ้าไม่รับรองย้อนหลัง แล้วคนที่ลงเรียนไปแล้ว??
ฟังคำตอบเอาเองนะคะ
เสียงซ่าไปหน่อยต้องขออภัยนะคะ
แต่ที่ทำให้หนูเงิบ จริงๆ ก็คง คำที่พี่เค้าบอกว่า ทางเราไม่แนะนำให้เรียนอยู่แล้ว [bb-003]


แต่หนูลืมถามไปว่า ทำงานได้ปกติ คือ ไม่ใช่หมอเถื่อนใช่มั้ยคะ ??

อะไรยังไงขอผู้รู้มาช่วยขยายความละกันคะ
เพื่อนๆคนใหนที่ยังคาใจก็ โทรถามสัตวแพทย์สภาโดยตรง เลยนะคะ

โทรศัพท์ : 0-2250-0395-8 

แสดงความคิดเห็น

>

23 ความคิดเห็น

สู้ๆนะน้อง พี่เป็นกำลังใ 20 มี.ค. 58 เวลา 20:45 น. 1

จากที่ฟัง เสียงคนรับน่าจะอคติ กับ หมอ ศรีวิชัยนะเหอะๆ เรียนไปเถอะน้องอย่าไปยึดติดกับมหาลัย ถ้าเอาปัจจุบันน ที่ยังไม่เป็นทางการตั้ง 5 ม แต่ศรีวิชัยกำลังผ่าน เหลือ 4 ม ไม่ใช่เรื่องตลก ถ้าทั้ง 4 ม จะฟ้องร้อง หนึ่งในนั้น มี มอ ด้วยนะ ที่ยังไม่เห็นชอบสถาบัน อย่ายึดติดกับ มหาลัย เรียนไปเถอะ

0
เบื่อพงกอวดรู้ 20 มี.ค. 58 เวลา 20:34 น. 2

เฮ้อ ถามจริงเถอะ ต้องการอะไรจากสังคม ถ้าคนมีความรุ้เค้าจะรึ้ว่าหากรับรองหลักสูตร คือมีสิทสอบใบประกอบซึ่งทั้ง5 ม ก็มี และราชมงคลได้เห็นชอบสถาบันแล้ว แต่หนังสือยังไม่มา หนังสือมาคือ จะทำไห้ประกาศอย่างเป็นทางการ นุ้มั้ยพวกที่ทำแบบนนี้ไม่ต่างกับการโชว์ความอวดรู้ ที่ไม่รุ้อะไรเลย แล้วมาพูด คุณไม่ใช่หมอไม่ได้เรียนตอนนี้ความรุ้อาจจะไม่มี อันนี้เข้าใจ ลองได้เรียนหมอแล้วค่อยมาคุยนะ เพื่อจะรู้อะไรบ้าง

0
DiDa 21 มี.ค. 58 เวลา 12:22 น. 3

หลักสูตรเค้าผ่านการเห็นชอบแล้ว สถาบันก้อผ่านการตรวจทั้งแบบรายปี และแบบราย ๕ ปีแล้ว (รอสัตวแพทยสภารับรองเป็นทางการ) คนที่ให้ความเห็นเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ธุรการของสัตวแพทยสภา น่าจะโทรถามนายกสัตวแพทยสภา หรือคณบดีโดยตรงครับ น่าจะเป็นผู้ที่ทราบข้อมูลและมีอำนาจในการให้ข้อมูลแก่น้องๆ ได้ดีครับ หากน้องจะเชื่อเฉพาะเจ้าหน้าที่ธุรการแล้วตัดสินทุกอย่าง พี่ว่าคงไม่ดีมั้งครับ

0
DiDa 21 มี.ค. 58 เวลา 12:34 น. 4

ขอวอนไปยังสัตวแพทยสภา โปรดอย่าให้เจ้าหน้าที่ธุรการให้ความเห็นต่อประชาชน โดยที่ทำหน้าที่เสมือนตัวแทนองค์กร ทั้งที่เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ธุรการ ความน่าเชื่อถือและเกียรติขององค์กรคงจะเสื่อมลงไปทุกที หากมีคนเช่นนี้อยู่ในองค์กร นอกจากให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จ ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียงแล้ว ทั้งคนที่พูดและสัตวแพทยสภาอาจต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง และอาญาได้นะครับ เพราะผู้ที่ให้ข้อมูลได้ในนามสัตวแพทยสภาน่าจะเป็นนายกสัตวแพทยสภา หรือผู้ที่ม่านมอบหมายนะครับ มิใช่เจ้าหน้าที่ธุรการนะครับ เพราะหากสัตวแพทยสภาให้การรับรองหลักสูตรและสถาบันแล้ว นักศึกษาที่เข้าศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา 2555 ถึง 59 ก้อมีสิทธิสอบรับใบประกอบโรคนะครับ และนักศึกษาเก่าสัตวแพทยสภาก้อให้โอกาสในการสอบอยู่แล้วครับ เหมือนสถาบันอื่นที่ต้องสอบตั้งแต่ที่เข้าศึกษาปี 53 เป็นต้นไป และนักศึกษาที่เข้าศึกษาปี 51 และ 52 หากประสงจะสอบสัตวแพทยสภาก้ออนุญาตให้สอบครับ เพราะทั้งมหาวิทยาลัยและสัตวแพทยสภาได้กำหนดแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาไว้อย่างชัดเจนแล้วครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของนักศึกษาดังกล่าวด้วยครับ

0
หมอคนนึง 21 มี.ค. 58 เวลา 14:03 น. 5

ถ้าเกิดสัตวแพทย์สภาจะโดนฟ้องเพราะเจ้าหน้าธุรการหรือพวกโอเปเรเตอร์นี่ ก็สมควรนะ ให้มาตัดสินแทนคนอื่นได้ไง เสื่อมเสียเชื่อเสียงมหาวิทยาลัยหมด สงสัยอะไรทำไมไม่ให้นายกสภาตอบเอาคนธรรมดาที่ทำงานรับสายโทรสัพมาตัดสินมหาวิทลัย ได้ไง นี่เรียนคณะนี้เป็นหมอนะครับ ไม่ใช่เรียนไปเพื่อให้พอรู้ว่าจบปริญญาตรี มีเกียรตินะครับคณะนี้มหาวิทยาลัยนี้ ไม่น่าเอาโอเปเรเตอมาตัดสินคนอื่นนะ องกรนี้ อยากให้เป็นแบบฝากคำถามไว้ แล้วนายกสภาค่อยตอบกลับ หรือสายตรงจะดีกว่า คนตัดสิน ควรจะเป็นตำแหน่งสูงสุดขององค์กร

0
dida 21 มี.ค. 58 เวลา 22:08 น. 6

ตอนนี้มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนคณะสัตวแพทยศาสตร์ มีทั้งหมด ๑๑ มหาวิทยาลัย โดยทุกมหาวิทยาลัยได้รับความเห็นชอบจากสัตวแพทยสภาให้ใช้หลักสูตร จึงสามารถรับนักศึกษาได้ แต่มีสองมหาวิทยาลัยเท่านั้นที่สัตวแพทยสภาได้เข้าประเมินหลักสูตรแบบ ๕ ปี คือ เกษตรศาสตรและศรีวิชัย ผลการประเมินผ่านทั้งคู่ แต่ต้องนำเข้าคณะอนุกรรรมการประเมินฯ และสัตวแพทยสภาคณะใหญ่เพื่อรับรองเปนทางการอีกครั้งหนึ่ง อันเปนขั่นตอนปกติของสัตวแพทยสภาในการรับรองหลักสูตรและสถาบัน โดยในกรณีของศรีวิชัยผ่านการประเมินทั้งแบบรายปีและราย ๕ ปี (ไม่เปนทางการนะครับ)
ส่วนค่าใช้จ่ายในการผลิตนักศึกษาสัตวแพทยศาสตรทุกมหาวิทยาลัยเฉลี่ยต่อหัว สามแสนบาทเก็บจากนักศึกษาเพียง ๑๕% ครับ สาขานี้ผลิตแล้ว ม ขาดทุนครับ แต่เค้าต้องทำเพราะต้องการผลิตกำลังคนให้กับประเทศชาติครับ ดังนั้น ข้อมูลที่ถูกต้องของศรีวิชัย คือ ทั้งหลักสูตรและสถาบันผ่านการรับรองแล้ว กรณีของสถาบัน ยังไม่เปนทางการครับ และ ม ที่รอตรวจสถาบันยุ คือ จุฬา มหิดล ขอนแก่น มหานคร มช ตะวันออก เวสเทิรน มหาสารคาม มอ ครับ โดย ม เก่าน่าจะขอตรวจแบบครั้งเดียวทั้งหมด รวมทั้งตะวันออก ที่เหลือน่าจะขอตรวจแบบรายปีไปก่อนจนกว่าจะพร้อมให้ตรวจครั่งเดึยวครับ
น่าจะให้ข้อเท็จจริงหรือตอบแบบนี้แก่ประชาชนนะครับ ท่านธุรการแห่งสัตวแพทยสภา จึงจะได้ชื่อว่าเปนผู้ปกป้องประชาชนอย่างแท้จริง

0
dida 21 มี.ค. 58 เวลา 23:23 น. 7

โดยในการตรวจสถาบันนั้นจะต้องผ่านการตรวจทุกตัวชี้วัดครับ โดยที่ต้องดำเนินการให้ได้เมื่อนักศึกษาเริ่มเข้าศึกษาในชั้นปีที่ ๑ คือ โรงพยาบาลทั้งสัตวใหญ่และสัตวเล็ก พร้อมห้องผ่าตัดสมบูรณ์แบบ อาคารพักสัตวป่วย ต้องแยกสัตวติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ ห้องชันสูตรซากสัตว์ นายสัตวแพทยประจำโรงพยาบาลสัตว อย่างน้อย ๒ คน ศูนยชันสูตรและวินิฉัยโรคสัตว อาจารยจำนวน ๑ ต่อ ๘ ต่อนักศึกษา และต้องมีผลงานวิจัยตีพิมพ์คนละ ๐. ๓ เรื่อง เตาเผาซากสัตว ประเดนเหล่านี้ โดยหากไม่มีประเมินสถาบันยังไงก้อไม่ผ่านครับ

0
dida 22 มี.ค. 58 เวลา 08:42 น. 8

คำถามที่สอง สมัครเรียนได้หรือเปล่า นักศึกษาที่เข้าศึกษาตั้งแต่ ปี ๒๕๕๕ ใช้หลักสูตรปรับปรุง ๒๕๕๕ สัตวแพทยสภารับรองแล้ว ใช้รับนักศึกษาที่เข้าปี ๒๕๕๕ ถึง ๕๙ ครับ ส่วนกาคตรวจสถาบันผ่านแล้ว แต่ยังไม่ประกาศเปนทางการครับ คำถามข้อ ๔ จบมารับใบประกอบได้ไหม เมื่อรับรองสถาบันเปนทางการแล้วนักศึกษาสามารถสอบใบบำบัดโรคสัตวได้ครับ โดยสัตวแพทยสภา กำหนดให้นักศึกษาที่เข้าศึกษาตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ ของทุกสถาบันต้องสอบเพื่อขอใบบำบัดโรคสัตวครับ

การที่มหาวิทยาลัยบอกว่าผ่าน ๑๐๐ เปอเซนต คือ สัตวแพทยสภาเข้าประเมินสถาบันเมื่อวันที่ ๒ ถึง ๕ มีนาคม ๕๘ โดยเปนการตรวจแบบราย ๕ ปี คือตรวจการจัดการเรียนการสอนชั้นปีที่ ๑ ถึง ๖ โดยตรวจ ๑๓๐ ตัวชี้วัด ผ่านทั้ง ๑๓๐ ตัวชี้วัด แต่ต้องเข่าคณะอนุกรรการฯ และสัตวแพทยสภาชุดใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเปนขั้นตอนปกติของสัตวแพทยสภาในดารรับรองสถาบันครับ ซึ่งปัจจุบันมีเฉพาะเกษตรศาสตรและศรีวิชัยที่ได้ประเมินแบบ ๕ ปีไปแล้วครับ

0
dida 22 มี.ค. 58 เวลา 09:10 น. 9

ข้อ ๕ และ ๖ การรับรองมีผลย้อนหลังหรือไม่ ศรีวิชัยรับนักศึกษาตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ ถึง ปัจจุบัน สัตวแพทยสภากำหนดเกณฑ์ในการรับรองหลักสูตรและสถาบัน เมื่อ ๑ กค ๕๒ หลังที่ศรีวิชัยรับนักศึกษา ๒ ปี นักศึกษา นักศึกษาของศรีวิชัยจึงมาก่อนเกณฑ์ของสัตวแพทยสภา โดยความคุ้มครองของกฎหมายจึงมีสิทธิ์ได้รับใบบำบัดโรคเหมือน ม เก่าทั้ง ๖ ม ครับ การที่สัตวแพทยสภาปฎิเสธไม่ให้จึงเปนความรับผิดชอบของสัตวแพทยสภาโดยตรง และรับความเสี่ยงต่อความรับผิดทางปกครอง อาญาและแพ่งครับ หากมีการฟ้องร้อง ส่วนนักศึกษาที่เข้าศึกษาในปี ๒๕๕๓ และ ๕๔ ยังไงก้อต้องสอบเพื่อรับใบอนุญาตตามที่สัตวแพทยสภากำหนดครับ

และสัตวแพทยสภามีหนังสือถึงมหาวิทยาลัยถึงแนวทางการแก้ปัญหา นศ ปี ๕๑ ถึง ๕๔ อย่างชัดเจน คือ ให้เรียนเพิ่มเติมให้ครบตามหลักสูตร ๒๕๕๕ โดยเมื่อผ่านการรับรองสถาบันจึงอนุญาตให้ นศ ปี ๕๑ ถึง ๕๔ เข้าสอบรับใบบำบัดโรค ทั้งนี้มหาวิทยาลัยได้ให้ความร่วมมือไปแล้ว แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของ นศ ด้วยครับ ส่วนผู้เข้าศึกษาในปี ๕๓ เปนต้นไปของทุก ม รวมทั้งศรีวิชัยสัตวแพทยสภากำหนดให้สอบอยู่แล้วครับ

สรุปว่า น้องๆ ที่เข้าศึกษาในปี ๒๕๕๕ ไม่มีปัญหาทั้งหลักสูตรและสถาบันครับ แต่รอประกาศรับรองเปนทางการครับ นศ ที่เข้า ปี ๕๑ ถึง ๕๔ สัตวแพทยสภาได้กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนมายังมหาวิทยาลัยแล่วครับ และจะ ดำเนินการเมื่อสัตวแพทยสภาประกาศรับรองอย่างเปนทางการครับ

0
หมอบ้านนอก 22 มี.ค. 58 เวลา 12:03 น. 10

เอกสารการรับรองจะมาวันไหนครับ ก่อนจะได้ไม่เป็นกังวลของผู้ที่ส่งบุตรหลานเข้าเรียน ใน สพ.ราชมงคลศรีวิชัย
กรณี ของนักศึกษาเก่า ที่จบไปแล้ว ทาง สพภ เขาให้ใบประกอบแล้วหรือยังครับ อย่างน้องผมเป็นผู้ประกอบการ จะได้รับนักศึกษา จากสถาบันเปิดใหม่ มาทำงาน. เพราะ6สถาบันเห่า ชอบย้ายงาน ทำงานไม่กี่เดือนก็ ไปรับเงินที่สูงกว่า บางครั้งต้องสอนงานใหม่บางเรืองเหมือนกัน ผมเป็นผู้ประกอบการ อยากลองของใหม่ครับแล้วอยากรู้ว่า คุณภาพ ความสามารถ ในการทำงานแตกต่างกันอย่างไร

0
dida 22 มี.ค. 58 เวลา 14:29 น. 11

ครับอย่างที่อธิบายไป สัตวแพทยสภาต้องใช้เวลาอย่างต่ำไม่น้อยกว่าสามเดือนครับ แต่อย่างไรก้อตาม ผมชี้แจงว่าตอนนี้มีเพียง ๒ สถาบันเท่านั่นที่สัตวแพทยสภาเข้าประเมินสถาบันราย ๕ ปี และผลประเมินผ่านเหมือนกัน แต่ต้องรอประกาศเปนทางการครับ ส่วนที่เหลือคงทยอยประเมินกันไปครับ บางแห่งคงยังเปนการประเมินรายปี ปีละ ๒ หนครับ จนกว่าจะพร้อมให้ประเมินแบบครั้งเดียวครับ
ส่วนนักศึกษาเก่าที่สำเรจกาศึกษาไปแล้ว คงต้องรอให้รับรองเปนทางการก่อนครับ จึงจะดำเนินการให้ได้มาซึ่งไปประกอบโรคครับ

0
นศ.สพ.RMUTSV 22 มี.ค. 58 เวลา 15:20 น. 12

ก่อนเข้าเรียนพี่ก็มีคำถามเหล่านี้เหมือนน้องนะคะพี่แอดมิชชั่นเข้ามาด้วยคะแนนที่ไม่ขี้เหร่เท่าไหร่ และมีความกังวลใจมากขึ้นเมื่ออยู่ปี1เพื่อนหลายคนกลัวไม่ผ่านการรับรองลาออกไปก็มี แต่ตอนนี้ความกังวลไม่ได้อยู่ที่จบไปจะมีงานทำมั้ยจะได้เป็นหมอมีใบรับรองรึเปล่า แต่อยู่ที่เรียนจะรอดมั้ยเพราะเรียนยากมากหลายๆวิชาเรียนกับอาจารย์พิเศษเป็นอาจารย์หมอที่มีประสบการ์ณความรู้ วิชาที่พึ่งสอบล่าสุดเรียนวิชาเดียวอาจารย์หมอคนเดียวกับคณะสัตวแพทย์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศุกร์ที่20มีนาที่ผ่านมามีProfessorชาวญี่ปุ่นมาให้ความรู้ มีแบบทดสอบให้นักศึกษาทำเค้าบอกว่าเป็นแบบทดสอบสากลที่สัตวแพทย์อื่นๆก็ต้องเจอ พวกพี่ก็สามารถทำและเข้าใจได้เพราะเรียนผ่านมาแล้ว พี่ไม่ได้จะมาขี้โม้มหาวิทยาลัยนะคะ แต่เป็นชีวิตจริงในมหาวิทยาลัยเพียงบางส่วนของพี่ตอนนี้ เรียนที่นี่น้องจะเป็นหมอที่เก่งและดีได้ค่ะขึ้นอยู่กับตัวน้องเองไม่ได้อยู่ที่สถาบัน น้องมีสิทธิสอบใบประกอบวิชาชีพ อาจารย์ที่นี่จะแนะแนวและมีแนวทางให้น้องชัดเจน แต่พี่อยากแนะนำน้องว่าหากน้องอยากจะเป็นสัตวแพทย์ไม่ว่าจะที่ไหน น้องรู้จักวิชาชีพนี้ดีแค่ไหน ใช่อาชีพที่น้องอยากจะเป็นไปตลอดชีวิตรึเปล่า หรือน้องเป็นเพียงคนรักสัตว์ชอบสัตว์สวยงามน่ารัก นั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่การเรียนวิชาชีพนี้อาจไม่ได้เจอสิ่งสวยงามอย่างที่คิดยังไงก็สู้ๆนะคะพี่เป็นกำลังใจให้^^ สู้สู้

0
หมอเพลีย 28 มี.ค. 58 เวลา 21:13 น. 13

สำหรับความคิดเห็นที่ว่าเรียนๆไปเถอะ อย่าไปยึดติดสถาบันนี่ ความคิดตื้นแบบนี้ตื้นเขินเกินไปนะคะ อยากให้ทบทวนความคิดตัวเองใหม่ มองหลายๆมุม มองลึกๆ อนาคตทั้งชีวิต เรียนมา5-6ปีแล้วสุดท้ายประกอบอาชีพที่ตัวเองเรียนมาไม่ได้เพราะคณะยังไม่ผ่านการรับรองนี่มันไม่ใช่ประเด็นแค่สถาบันแล้ว แต่มันคืออนาคตคุณทั้งชีวิตเลยนะ มันคุ้มมั้ยกับที่จะเอาอนาคตคุณไปเดิมพันขนาดนั้น
คือจริงๆจะเรียนสัตวแพทย์สถาบันไหนก็ได้หมดแหล่ะ ไม่ได้ผิดอะไรหรอก ถ้า...สถาบันนั้นหลักสูตรมัน"ผ่าน"การรับรองเรียบร้อยแล้ว ถามว่า ผ่าน กับ ไม่ผ่านการรับรอง มันต่างกันยังไง เอ้า... มันก็ต้องต่างสิคะ ไม่งั้นเขาจะกำหนดให้ผ่านการรับรองก่อนจะเปิดคณะไปทำไมหล่ะ สมมุติว่าผู้หลักผู้ใหญ่ใครมีเงินแล้วคิดอยากจะเปิดคณะอะไรก็เปิดได้ตามใจชอบ โดยไม่มีมาตรฐานอะไรมารองรับหรือตรวจสอบ แล้วจะเอาอะไรมาเป็นหลักประกันในคุณภาพวิชาชีพซึ่งจะจบออกมารับใช้สังคมในอนาคตละคะ
สมมุติว่ารู้ทั้งรู้ว่าคณะยังไม่ผ่านการรับรองหลักสูตร รู้ทั้งรู้ว่ามีความเสี่ยงที่จะเรียนจบไปแล้วเป็นหมอไม่ได้ คำถามคือ ยังคงมุ่งมั่นหลับหูหลับตาที่จะเรียนคณะที่มีปัญหาคาราคาซังแบบนี้อยู่อีกหรือ???
และแทนที่คุณจะเข้ามาเรียนคณะที่มันยังมีปัญหา คำถามคือ แล้วทำไมไม่พยายามสอบเข้าให้ได้ในสถาบันที่มันไม่มีปัญหาหล่ะ ทั้งประเทศไทยมีตั้ง6สถาบัน(รู้สึกตอนนี้มอ.ผ่านแล้วนะ เพิ่มมาเป็น7) เลือกเอาสิ ถ้าคุณเก่งจริงและเหมาะสมที่จะเป็นสัตวแพทย์จริง คุณต้องสอบได้สักที่อยู่แล้วหล่ะ อะไรที่มันเป็นของเรา มันก็เป็นของเรานะคะ ก็ไม่เข้าใจว่าจะดิ้นรนไปเรียนคณะที่มีปัญหาแล้วคิดเข้าข้างตัวเองว่ามันดีงั้นงี้ไปทำไม
จะเรียนที่ไหน ไม่ใช่ว่าใครเปิดมหาลัยที่ไหนอะไรยังไงก็หลับหูหลับตาไปเรียน ศึกษากันนิดนึง โลกแห่งความเป็นจริง มันโหดร้ายกว่าที่คุณคิดเข้าข้างตัวเองไว้เยอะเลยนะคะ บอกเลยนะคะ พวกคณะที่ดันทุรังพยายามจะลักไก่ให้เปิดได้โดยไม่ได้ทำตามกติกาที่ถูกต้องตั้งแต่ต้น คิดดูละกันว่าแค่จะเปิดคณะให้ถูกตามหลักเกณฑ์ที่เขาตั้งมาตรฐานไว้ คุณยังทำให้ถูกต้องไม่ได้เลย แล้วน้องๆยังจะเอาอนาคตไปฝากกับคณะแบบนี้อีกหรือ สำหรับสังคมสัตวแพทย์ เรามองว่าคณะพวกนี้ถือเป็นตัวถ่วง สร้างความเสื่อมเสีย ทำให้คุณภาพวิชาชีพเราตกต่ำลงค่ะ ถ้าคุณยังดันทุรังเรียน ก็คิดเผื่อไว้ด้วยละกันว่าคุณจะอาศัยอยู่กับเพื่อนร่วมวิชาชีพที่เขาสร้างมาอย่างถูกต้องยังไงในอนาคต - อย่าคิดแต่เข้าข้างตัวเองเพื่อให้ตัวเองได้รับความชอบธรรม ทั้งที่คุณสร้างมาโดยความไม่ชอบธรรม.....
ปล. คนที่ตอบว่าเรียนจบมาสามารถสอบใบประกอบวิชาชีพได้ คุณคนที่ตอบน่ะ ได้ใบประกอบรึยังถึงได้กล้าตอบ ทุกคนที่ตอบทำนองนี้ล้วนไม่ใช่คนจากสัตวแพทยสภาทั้งสิ้น ถามสภาสิคะว่าความจริง ณ ปัจจุบันคืออะไร อย่าคิดแต่เข้าข้างตัวเอง

0
yodleam 28 มี.ค. 58 เวลา 23:42 น. 14

1. ควรถามเลขานุการสัตวแพทยสภา ( เพิ่งเลือกตั้งชุดใหม่ จะประชุมนัดแรก 24 เม.ย.) ลืมคำตอบของธุรการเสีย..
2. ผู้ที่มีสิทธิ์สอบใบประกอบวิชาชีพ ต้องจบการศึกษาตามหลักสูตรที่รับรอง และคณะที่รับรอง ( หลักสูตรดี แต่คนสอน และอุปกรณ์สอน ไม่ดี ก็ไม่ได้)
3. ผู้ได้รับใบวิชาชีพ เท่านั้นที่ทำอาชีพได้ = มีปริญญาไว้สมัครสอบเท่านั้น
4. วิชาชีพสัตวแพทย์ ไม่ใช่รักษาหมา อย่างเดียว .. มีงานตรวจเนื้อสัตว์ในโรงฆ่าสัตว์, รักษาวัวควาย หมู ไก่ ม้า ช้าง ฯลฯ อีกมาก
ความเห็นส่วนตัว.. จะเลือกเรียนที่ไหน ก้อดูให้ดี เพราะต้นสังกัดรับสัตวแพทย์ที่เพิ่งจบมาปีที่แล้วส่งมาทำงาน.. มอบหมายงานให้ แล้วทำไม่ได้เลย เหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อ.. กำลังคิดจะไล่ออกอยู่ครับ

0
ดึด้า 30 มี.ค. 58 เวลา 05:50 น. 15

ครับ ติดว่าน้องๆ คงมีข้อมูลพอที่จะตัดสินใจแล้วนะครับ
สถานภาพนะครับ
เกษตร ศรีวิชัย หลักสูตรผ่าน สถาบันตรวจครั้งเดียว ผ่านครับ รอผลเปนทางการ
จุฬา มข มช เวสเทิรน มอ สารคาม ตะวันออก มหานคร มหิดล หลักสูตรผ่าน รอตรวจสถาบันครับ
หลักสูตรผ่านรับเดกได้ รอตรวจสถาบัน โดย ณ วันเข้าตรวจ ต้องมี ๑ โรงพยาบาลสัตว์ เปิดดำเนินการ หมอเตมเวลา ๒ คน ศูนยชันสูตรโรคสัตว ครู-ส่วน ๑ ต่อ ๘ ด้วยครับ สถาบันไหนมีไม่มีตรวจสอบกันเอาเองนะครับ กรรมการเค้ายุติธรรม เชื่อถือได้ครับ ไม่มีให้เล่นเส้นครับ

3
หิมะต้องสาป 2 เม.ย. 58 เวลา 23:13 น. 15-1

ฬ มข มช มหิดล ตรวจสถาบันผ่านตั้งนานล่ะค่ะคุณ - - ศรีวิชัยต่างหากที่ยังไม่ผ่าน

0
Majorica 2 เม.ย. 58 เวลา 11:09 น. 16

หลังจากอ่านข้อมูลที่ อ.ธีระวิทย์ นำมาชี้แจงแล้วก็ชัดเจนระดับหนึ่งนะ
แต่ทั้งก็คงต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของน้องๆแต่ละคนแล้วนะ

เพราะในแง่หนึ่งพี่ว่าในอนาคตทาง ม. คงดัน/ปรับปรุงจนสำเร็จได้
แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งคือมันยังไม่น่าจะ 100% นะคะ
อย่างน้อยคือการประกาศว่าคุณคือ มหาวิทยาลัยที่พร้อม 100% อย่างเป็นทางการ
เพราะตามหลักกฏหมาย ถ้ายังไม่มีหนังสือออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร
แม้ว่าทุกอย่างจะพร้อมแต่มันก็ถือว่ายังไม่มีสิทธิ์นะคะ
(อาจยกตัวอย่างไกลไปหน่อยแต่ก็ เหมือนการมีใบขับขี่
เราอาจขับรถได้คล่อง แต่ถ้าเราไม่ใบขับขี่ที่ถูกต้อง
คุณตำรวจก็ถือว่าเราผิดอยู่ดีเวลาเราขับรถบนถนน)

อีกเรื่องหนึ่งที่ยังสงสัยคือ การรับรองย้อนหลัง
ในเมื่อหลักสูตรยังไม่ผ่านการรับรองจากสภาฯ (ณ. เวลานั้น)
ในตามกฏหมาย/ตรรกะคือ ทาง ม. ไม่น่าจะเปิดทำการสอนหรือรับ นศ. ได้นะคะ
(หนุเรียกว่าเถื่อนของแท้เลย)
แต่ทาง ม. ยังดันทุรังเปิดรับ/สอนนักศึกษา แล้วบอกว่าจะจะพยายามทำให้ถูกต้อง เหมือนไฟไล่หลัง
ตรงนี้ทาง สัตวแพทยสภาน่ามีเอกสารยืนยันนะคะ
(เข้าใจว่าการตรวจสอบต้องมีเอกสารชี้แจง และประเมินผลตามมานะคะ)
จึงทำให้เราสงสัยว่า ทำไมสภาฯต้องมารับผิดชอบในแง่อาญาและแพ่งกรณีที่
สภาไม่ยอมให้ นศ. 2 รุ่นแรก เข้าสอบใบประกอบวิชาชีพ
ตัว ม. และ คณะ ต่างหากที่ควรเป็นผู้ถูกนักศึกษาฟ้องร้องมากกว่า
(กรณีคล้ายแบบนี้เคยมีข่าวออกมาแล้วในมหาวิทยาลัยทางภาคอีสานนะคะ)
ซึ่งเด็กที่จบมาแล้วตอนนี้คือ หมอเถื่อนแท้ๆ เหมือนกัน
มีความรู้ มีใบปริญญา แต่ไม่มีสิทธิ์มีเสียงเหมือนคนอื่นๆ น่าน้อยใจนะคะ
กดLIKE

0
dida7 4 เม.ย. 58 เวลา 15:38 น. 17

หลักสูตรปี ๕๑ สัตวแพทยสภา ให้เราใช้เกณฑ์ของสัตวแพทยศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ ๑ ปี ๒๕๓๘ ซึ่งเปนเกณฑ์ที่สัตวแพทยสภาใช้อยู่ในขณะนั้น หลักจากนั้นกลัวว่าจะมีหลายสภาบันเปิดจึงได้ออกเกณฑ์ว่าด้วยการรับรองปริญญา วันที่ ๑ กค ๕๒ และประกาศหลักเกณฑ์ครวจสถาบันที่ ๒/๒๕๕๗ หลังจากที่ศรีวิชัยรับเดกปี ๕๑ และ ๕๒ แล้วครับ จึงเปนการใช้กฎหมายย้อนหลัง มาบังคับใช้ในทางที่เปนโทษแก่ประชาขน ประเทศที่มีอารยะเค้าไม่ทำกันครับ สรุป ว่า นศ ที่เข้าศึกษาในปี ๒๕๕๑ ๕๒ ย่อมได้ใบบำบัดโรคสัตวเหมือนที่จบจากที่อื่น ส่วนปี ๕๓ ๕๔ ต้องสอบอยู่แล้วครับ เพียงแต่สัตวแพทยสภาไม่อนุญาต เปนกาเข้าใจว่าตนใช้อำนาจถูกต้อง และจะใช้อยู่อย่างนั้นจนกว่าจะมีคนกลางมาบอกว่าผิด ก้อต้องรับเอาสิ่งที่ตัวก่อไปครับ คนกลางที่ว่า คือ ศาลครับ คดีอาญา อายุความยี่สิบปี คดีแพ่งสิบปี หากแพ่งเกี่ยวเนืองกับอาญาก้อยี่สิบเช่นเดียวกัน ศาลปกครองเดกก้อฟ้องยุครับ ม ยืนยันว่าทำถูกต้องทุกประการครับ ทั้งกฎหมาย ตรงเวลา และมาตรฐานการจัดการศึกษาที่ผ่านการครวจสอบทั้งสัตวแพทยสภา และ สกอ ครับ ไม่นานเรื่องเหล่านี้คงจบแล้วครับ โปรดรอดูครับ ความจริงมันจะถูกพิสูจน์ครับ อันเปนไปตามหลักนิติรัฐ อันจะช่วยให้บ้านเมืองเราธำรงอยู่ได้ครับ

0
dida 4 เม.ย. 58 เวลา 16:10 น. 18

ดังนั้น หากจะว่าเถื่อนคงเถื่อนเหมือนกันหมดละครับ เพราะก่อน ปี ๕๒ ก้อใช้เกณเดียวกันหมดทั้งสถาบันเก่าและใหม่ เพราะสัตวแพทยสภาไม่ได้มาตรวจกันเช่นปัจจุบัน ทั้ง จุฬา เกษตร มช มข มหิดล มหานคร และศรีวิชัยครับ ท่านอย่าดูแคลนกันเลยครับ ราชมงคล คือสถาบันอันเปนมงคลแห่งพระราชาครับ

0
Winwin 6 เม.ย. 58 เวลา 00:33 น. 19

เท่าที่รู้ตอนนี้ก็มี เกษตร จุฬา ขอนแก่น เชียงใหม่ มหิดล มหานคร นะครับที่ได้รับการรับรองแล้ว และมีสัตวแพทย์ จบใหม่ที่มีสิทธิ์ สอบใบประกอบโรคศิลป์ ชัวร์ๆ ออกมาทุกปี
สรุป 6 มหาวิทยาลัยข้างต้น จบออกมาแล้วไม่มีปัญหาแน่ๆ ครับ

0
ohoo 9 เม.ย. 58 เวลา 08:00 น. 20

ความเสี่ยงสูงมาก จบมาไม่มีใบประกอบโรคก็มีให้เห็นกันอยู่เยอะแยะ การยอมรับในวงการหมอด้วยกันเองก็น้อย จะไปสมัครทำงานที่ไหนต้องคิดให้ถี่ถ้วนด้วยกับเวลา6ปีที่เสียไป

0