อยากให้ทุกคนที่เตรียมตัวสอบลองอ่าน #สอบเข้ามหาลัยไม่ได้ยากอย่างที่คิด
พื้นฐานนิสัย
1)ขี้เกียจ : ไม่ชอบอ่านหนังสือ อ่านคนเดียวไม่ได้ เบื่อ
2)ชอบสอนเพื่อน : เราจะมีเพื่อนอยู่คนนึง มันจะเข้าใจอะไรยากไม่ชอบเรียน สิ่งที่เราชอบทำคือก่อนสอบตอนดึกๆดราจะอ่านหนังสือให้มันฟัง พูดได้คำเดียวว่า แมร่งถามซ้ำจนเราจะได้อ่ะ แบบทั้งวันไม่ต้องอ่านเลยนะ รอมันคนเดียว
3)ชอบซื้อหนังสือ : ไม่ได้ชอบอ่านนะ เป็นคนที่ซื้อหนังสือตุนไว้เยอะมาก เพราะมันอุ่นใจ 55555
4)ไม่ตามข่าวการศึกษา : ชอบอ่านข่าวดารา ความรู้ทั่วไป และคดีความต่างๆ แต่ไอเรื่องอยากเป็นอะไรสอบอะไรนี่เราแมร่ง โง่เป็นควายจริงๆ พรุ่งนี้โรงเรียนหยุดเรายังไม่รู้เลย (SMS dek-d ช่วยชีวิตเราจริงๆ + ถามเพื่อนเอา)
5)รักครอบครัว : ชอบดูหนังกับพ่อแม่
6)ชอบพบปะผู้คน : ที่บ้านค้าขาย
แนะนำพื้นฐานชีวิตครอบครัวก่อนนะ
1)ครอบครัวชอบเปรียบเทียบ : หลายๆคนคงเป็นคล้ายๆเราคือแม่ชอบเอาเราไปเทียบกับลูกชาวบ้าน จนบางทีก็น้อยใจ และทะเลาะกันบ่อยๆ
2)พ่อแม่เป้นที่พึ่งทางการเรียนไม่ได้ : พ่อแม่ไม่มีความรู้ด้านเรียนยังไง เรียนต่ออะไร ต้องสอบอะไร หรือการได้คะแนน GAT PAT เท่านี้ถือว่ามากน้อยเพียงใด
3)ความคิดเดิมๆที่ปลูกฝัง : ลูกต้องเป็นหมอ การเรียนต้องดี สอบทุกอย่างต้องคะแนนดีหมด เกรด 3.8กว่ายังบ่นอุบอิบ
4)เชื่อคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง : โดยเฉพาะไอพวกพ่อแม่เพื่อนน่ะตัวดี หรือชอบคิดไปเองบ้าง เช่นว่าหมอสบาย หมอมีเงิน บลาๆ
5)แม่ไม่เห็น(ชื่อเรา)อ่านหนังสือเลย / (ชื่อเรา)ขี้เกียจขึ้นนะ /ทำไม(ชื่อเรา)ไม่ไปเรียนพิเศษ
>>พอมาถึงจุดนี้ หลายคนคงจะเริ่มมีความคิดแล้วว่า "แล้วไงวะ???"
เพราะพวกเค้าจะฝังความเชื่อผิดๆบางอย่างมาให้เรา เหมือนยาขมนั่นล่ะ เราจะเสียใจกับคำพูดบางคำพูดจนถึงขั้นบางทีเราก็เบื่อ บอกตรงๆว่าชีวิตเราตอน ม.6นี่ค่อนข้างเคว้งคว้างมาก เพราะเราไม่เรียนพิเศษ ไม่รู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร ไม่มีจุดหมาย ไม่อยากทำอะไรเลย อาจจะเรียกว่าช่วงต่อต้านพ่อแม่ก็ได้ ทะเลาะกันบ่อย ทะเลาะกันทุกวัน ประมาณว่า อยากให้สอบหมอใช่มั้ย เอาสิ หนูไปสอบให้ทุกที่เลย แต่อย่าหวังเลยว่าจะติด เคว้งคว้าง ไม่อยากทำอะไรจนกระทั่ง ปิดเทอม 1 เรายังไปนั่งเล่นแบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ทั้งๆที่เพื่อนไปนั่งเรียนกวดวิชากันอยู่เลย สิ่งที่เราคิดตอนนั้นคือ จะเป็นวิศวกร(เราชอบฟิสิกส์) ไม่เอาหมอ หมอเหนื่อย
โอเคเข้าเรื่อง
เรื่อราวของเรามันจะเริ่มต้นตอนเกือบจะเปิดเทอมสองนี่ล่ะ มันจะมีการสอบ คววามถนัดแพทย์ และ GAT PAT ในเวลาใกล้เคียงกัน ช่วงใกล้เปิดเทอมหนึ่งซักเกือบ 2 อาทิตย์ได้ เราเลยไปเรียนความถนัดเเพทย์ เรียนตามเพื่อนนั่นล่ะ เห็นเพื่อนเรียนแล้วหวั่นไหว เลยลงเรียนของ Ondemand ไป เรียนแค่พาร์ทเดียวคือ จริยธรรม ส่วนเชื่อมโยงเราคิดว่ามันน่าจะคล้ายๆ GAT (โครตคิดผิดเลยค่าาาา)
นี่คือคะแนนเราที่ออกมา ฉบับที่ 1 (เชาว์) มั่วเอา มันทำไม่ทัน
ฉบับที่ 2 (จริย) ไม่เห็นมีวิเวียซักข้อ
ฉบับที่ 3 (เชื่อมโยง) อันนี้เราชอบๆ เราเอาปากกาน้ำเงินต่างยี่ห้อเข้าไป(สีมันจะต่างกัน) ทำเสร็จย่อหน้านึง ขีดทิ้งกันงง แต่ก็นะ มันจะเสร็จเร็วมากอ่ะ แต่เช็คอีกรอบลำบากหน่อย แมร่งเละ
ทีนี้ ก็มาถึงการสอบ GAT PAT รอบที่ 1 อย่างที่บอกว่าตอนนั้นเราอยากเข้าวิศวะ(เพราะชอบฟิสิกส์) และ 1อาทิตย์ก่อนสอบ เด็กม.6จะหยุดโรงเรียนกัน สิ่งที่เราทำคือ เข้าเน็ต แล้วปริ้นข้อสอบเก่ามาทำ โดยมุ่งเน้นไปที่ ฟิสิกส์ และ เคมี อย่างที่บอกว่าเราไม่ชอบอ่านหนังสือคนเดียว เราเลยชวนเพื่อนที่สนิทมา 3-4 คน หาบ้านเพื่อน เเล้วอ่าน (จะตั้งใจอ่านกันมากในวันที่ 1 หลังจากนั้นจะเล่น วันๆนึงก็ได้ซัก 2-3 ชม.ก็หรูและ) และผลที่ออกมา คือ
ตามคาด คณิตศาสตร์ ห่วยแตก อังกฤษแย่ แต่คะแนนฟิสิกส์กับเคมีมันทำให้เราฮึกเหิม!!!![เนื่องจากก่อนหน้านี้ ไปสอบแพทย์ มขและ ม.นเรศวรคะแนนกากมาก อยากเอามาให้ดู แต่หาไม่เจอและ ขอโทษด้วย] เราอยากทำฟิสิกส์ ให้ได้เต็ม และทำเคมีให้ได้คะแนนดีๆในกสพท เราเลยเริ่มเรียนพิเศษ เคมี(A BIG CENTER) ด้วยความรักอาจารย์ผู้สอนล้วนๆ เป็นเกย์ที่น่ารัก ตลกเเละมีความรู้ และเรียนฟิสิกส์กับพี่ที่เรารู้จัก (ลักษณะการเรียนคือ ทำโจทย์เก่าไปเรื่อยๆ ทำไม่ได้ก็ถาม) และนี้คือคะแนนของเรา
และก็โอเน็ต
คำแนะนำ
ด้านจิตใจ
1)ลืมพ่อแม่ : ลืมไปซักพักนึง ลืมที่ท่านพูด เราจะได้ไม่เครียด ไม่กดดันตัวเอง
2)ลืมเพื่อน : ลืมว่าแข่งกันอยู่ อย่าไปอิจฉาใครมาก ใจเย็นๆ ไม่งั้นจะโคตรฟุ้งซ่านเลย ทำอะไรก็ไม่ได้
3)ลืมตัวเอง : ลืมว่าเราเคยเก่งแค่ไหน ว่าเราเคยเรียนอะไร บางครั้งการคิดว่าตัวเองเก่งมันจะทำให้เราพลาด ไม่อยากฟังคนอื่นๆ ไม่อ่านหนังสือ และทนงในตนเอง
4)คุยกับตัวเอง : เราไม่ใช่คนบ้านะ แต่หลายครั้งเวลาที่เราเครียดมากๆ รู้สึกแย่มากๆ ปวดหัวมึนๆอ่ะ ให้ลองหยุดทำทุกอย่างดู แล้วเขียนใส่กระดาษเป็นข้อๆ ว่าปัญหาของเราคืออะไร ต้องเป็นข้อๆด้วยนะ !! เพราะมันจะมีแค่ เบื่อ งานเยอะ ไม่รู้จะเรียนอะไร จากนั้นก็ลองไล่เรียงรายละเอียดเป็นข้อๆเช่นกัน การเขียนอะไรเป็นข้อๆมันทำให้เราต้องคิดก่อน ไม่ใช่สักแต่จะเขียนน่ะ
ด้านการเรียน
>> ทำความเข้าใจเล็กๆก่อนนะ ว่าวิชาทุกอันเนี่ย เราจะเเบ่งเป็น 2 ประเภท คือวิชาท่อง[เน้นทักษะการอ่าน : ไทย สังคม ชีวะ เคมีบรรยาย] และ วิชาทำ[เน้นทักษะการทำและความเคยชิน : อังกฤษ คณิต ฟิสิกส์ เคมีคำนวณ] ส่วนใหญ่ถ้าชอบวิชาในกลุ่มไหน มันก็จะทำดีทั้งกลุ่มเลย
1)หาวิชาที่ชอบ : แล้วคิดว่าเราจะทำได้ดีกว่านี้อีกไหม
2)หาวิชาที่ไม่ชอบ : แล้วคิดว่าเราจะพัฒนาจนมันมาดึงคะแนนได้มั้ย
3)ใช้ข้อ 1 และ 2 มาเลือกวิชาอ่าน : เราเป็นคนนึงที่เลือกอ่านเฉพาะบางวิชาเท่านั้น เพราะเราคิดว่าเราคงเตรียมตัวอะไรไม่ทัน เราขี้เกียจอ่ะ พูดกันตรงๆ
4)เทคนิคการทำ : ข้อสอบส่วนใหญ่จะออกจากคนกลุ่มเดิม ดังนั้น แนวข้อสอบจะคล้ายเดิม ให้เอาข้อสอบเก่า ซัก 3-4 ปีมาดู (ไม่ได้เอามาทำนะ) มาดูโจทย์และ จับผิด เพื่อหา คีย์เวิร์ดสำคัญ
เช่น
เคมี
- เผาไหม้เเล้วเป็นเขม่า = มีพันธะ 2,3,หรือ เบนซีน
- ทำปฎิกิริยากับ Na = -OH , -COOH
- ออกไซด์เป็นกรด = อโลหะ , ออกไซด์เป็นเบส = โลหะ ดูตัวยกเว้น
- สารละลายบัฟเฟอร์ = กรดอ่อน/เบสอ่อน+เกลือของมัน
ฟิสิกส์
- ดูเรื่องที่ออก
- ชอบออกตัวเเปล(จุดนี้โครตหน้าสนใจ บางคนอาจคิดว่ายากคำนวณไม่ได้ ให้ใจเย็นๆก่อน เพราะ ตัวเเปลจะมีหน่วยซ่อนอยู่ บางข้อแค่รู้หน่วยคำถาม แล้วมาดูหน่วยในช้อยก็ตอบได้เลย)
- ฝึกทำซัก 2 ชุด โดยชุดที่ 1 ก็ทำปกติอ่ะ เปิดสูตรทำไป พอชุดที่ 2 ก็เขียนให้มันเป็นระเบียบ จะได้ง่ายต่อการเรียบเรียงความคิด
ชีวะ (เราโชคดีมากตรงที่ เพื่อนที่เราชอบสอนอ่ะ มันมาขอให้เราสอน เพราะมันจะเอาคะแนนไปยื่น เราเลยเอาข้อสอบ มาปาดโจทย์กับคำตอบ)
- ข้อสอบออกคล้ายกัน ลักษณะการเรียงโจทย์ ลักษณะการหลอกล่อ
- ข้อสอบแต่ละปีมีความสัมพันธ์กัน คือ ช้อยปีนี้ อาจเป็นข้อสอบปีหน้า กราฟๆนี้ อาจออกปีหน้าแต่เปลี่ยนจุดถาม
- เราทำได้แค่อ่านผ่านๆจริงๆอ่ะ ไม่ทันได้สอนมันหรอก เน็ตมันกาก สไกด์ไม่ได้
ส่วนวิชาอื่นๆ เราคงบอกเทคนิคอะไรไม่ได้ เพราะเราไม่ได้แตะต้องเลย แต่เท่าที่เจอในข้อสอบนะ
คณิต : ปีนี้ออกเมตริก กะจำนวนเชิงซ้อนเยอะกว่าปีอื่นๆ
ไทย : ออกการใช้การจับใจความ ไม่ออกหลักภาษา
สังคม : ไม่ออกข่าวเลย คสช อะไรก็ไม่มี
อังกฤษ : สวดมนต์เยอะๆ ทำบุญกรวดน้ำให้ครูเค้าบ่อยๆ เข้าห้องสอบจะได้หลับสบาย
_____________________________________________________________________
เรียนพิเศษกะอ่านหนังสือ
- เคมี : A BIC CENTER คอส ตะลุยโจทย์กสพท
- ฟิสิกส์ : https://www.facebook.com/choikung?fref=ts พี่เรียนกับคนนี้อ่ะ
ปล.เราเรียนพิเศษวันเสาร์วันเดียว เน้นทำโจทย์เองก่อนไปฟังเฉลย ใช้เวลาแค่วันล่ะชั่วโมงกว่าๆ เอาช่วงเวลาที่ชอบที่สุดก็ เริ่ม4ทุ่ม นอนก่อนเที่ยงคืน ก่อนหน้านี้ก็ดูหนังจีน ปริศนาฟ้าแลบ อ่านกระทู้ //อย่าไปเครียด ใจเย็นๆ แม่ด่าก็เอาหูทวนลม เพราะพอเราอินกับแม่ปุ๊บ เราจะเฟล จะกดดัน จะแข่งขันกับคนอื่น และไม่มีสมาธิ [ที่ๆเงียบๆเย็นๆ หรือมีเพลงที่เราฟังไม่ออก(ของเราเป็นเพลงสากลช้าๆ)คลอไปเบาๆ และไฟสม่ำเสมอจะโอเคมาก] // ถ้าฟังออกเดี๋ยวเผลอร้องตามละโคตรซวย ห้ามเอาเพลงเร็วด้วย เดี๋ยวโยก 5555
ปล2.ถ้าอ่านหนังสือเครียดๆก็วาดตัวการ์ตูนเล่นๆข้างๆให้กำลังใจตัวเองอ่ะ ของเราวาดหน้ากลมๆเหมือนในปังย่าอ่ะ แล้วก็ใส่คำพูดแบบ สู้ๆนะคุณ มันจะทำให้เรามุ้งมิ้งขึ้นไป 1 ระดับ
ปล3.ถ้าเบื่อห้ามเล่นโทรศัพท์นะ!!!! มันเพลิน บางทีจะพัก 5 นาที ดันพักเป็นชั่วโมง ให้เดินเล่นแทน เช่น หาไรกิน อ่านขายหัวเราะ ล้างหน้า ออกกำลังกาย เปลี่ยนทรงผม เปลี่ยนชุด(เราทำบ่อยมาก ยิ่งชุดแปลกเท่าไรยิ่งดี : ใส่ผ้าขาวม้าแทนกางเกง ใส่หมวกหมี ใส่เสื้อสวยๆปานจะออกนอกบ้าน // ถ้าเราแต่งตัวสบายๆเราจะรู้สึกเหมือนกำลังจะเข้านอน เราจะชิว ตาจะปิด) สร้างความตื่นเต้น กระปรี้กระเปร่า
_____________________________________________________________________
เอาล่ะ ทีนี้ มันจะมีอีกประเด็นนึงที่ น่าสนใจเหมือนกัน บางคนก็พลาดไม่รู้ตัว คือ การเลือก 4 อันดับ คือบางคนคะแนนไม่ใช่เเย่นะ แต่เขาเลือกอันดับไม่ดี นั่นคือ ประเมินตัวเองสูงเกินไป เลือกแต่ที่ดีๆ เลยอาจทำให้ชีวิตพลาดไม่รู้ตัว ตอนนั้นเรามีตัวช่วย
Cr.http://www.dek-d.com/board/view/2558036/
Cr.http://www.dek-d.com/board/view/3354992/
มีอีกจึ๊กนึง!
เกรดในโรงเรียน : จะทิ้งก็ได้ แต่วิธีที่ดีกว่าคือจับกลุ่มกับเพื่อนซัก 9 คน แล้วจับฉลากทำสรุปกัน เราจะได้ไม่ต้องอ่านทั้งหมอ อ่านจากเพื่อนเอา (เดี๋ยวว่างๆจะเอาตัวอย่างให้ดู)
O-net : เราทำเหมือนตอนชีวะอ่ะ คือ หลายคนชอบโดนครูหลอกว่ามันง่าย จริงๆมันยากมากอ่ะ แต่เราไปเอาข้อสอบ กะแนวข้อสอบที่เค้าแจกมาอ่านคำถามกะคำตอบ (คะแนนแมร่งมายั่งกะจับฉลาก) จริงๆมันเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับ Admission นะ
Pat2 : ยากกว่า 7สามัญมากๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ว่ามันออกทฤษฎีเยอะ เเทบไม่มีคำนวณเลย ขอให้ใจเย็นๆ บางอันให้ตัวเลขมา แต่เอาทฤษฎีมาหาคำตอบได้ ให้ดูคำหลอกมันดีๆ พวก เเรงลัพท์ แรงของ.... หรืออย่างเคมีที่โจทย์ยาวๆอ่ะ ให้ใจเย็นก่อน เพราะจริงๆแล้วเฉลยมันก็อยู่ในโจทย์นั่นแหละ มันจะชอบให้คำอธิบายมายาวๆข้างบน โจทย์จะสั้นๆอยู่ข้างล่าง ให้เรามองมันแยกกัน มันก็เหมือนครูสอน แล้วให้ทำแบบฝึกหัดอ่ะ แค่ต้องใจเย็นๆ
Pat3 : อันนี้ง่ายมาก ถ้าเทียบกับ Pat2 เหมือนข้อสอบคำนวณ ให้ดูเรื่องที่ออก กับสูตรที่ต้องใช้ในแต่ล่ะข้อ เดี๋ยวปีหน้ามันก็ออกสูตรนี้ล่ะ
__________________________________________________________________
__________________________________________________________________
!!มันยังไม่จบ!!
เราว่านะ บางคนเข้าใจวัตถุประสงค์ในการตั้งกระทู้เราผิดไปเล็กน้อยเเล้วล่ะ
1)เราไม่ได้ฟลุคติด : เราเเค่ใช้เวลาเตรียมตัวน้อย
2)แค่อยากจะเเชร์วิธีการอ่านที่ต่างออกไป : ทำความรู้จักกับข้อสอบก่อน เเล้วค่อยไปอ่านเนื้อหา เราจะอ่านน้อยลง ตรงจุดมากขึ้น
3)ถ้ารู้ว่าตัวเองขี้เกียจก็ต้องหาตัวช่วย : การจับกลุ่มกับเพื่อนคนอื่นๆ เพื่อช่วยกันทำสรุปวิชาต่างๆ(หลอกล่อเค้าด้วยคำว่า ทำ1ได้ถึง9 // ตอนเรียนก็คอยจับผิดครู อะไรพูดบ่อยก็ให้ดาว //ใช้สอบที่อื่นต่อได้ด้วยนะเออ ^ ^)
4)เราต้องการให้ทุกคนเห็น ว่าใครๆก็มีปัญหา :บางคนชอบอ้างว่า โรงเรียนเราเรียนหนัก เรียนเหมือนเตรียมฯ เหมือนมหิดล เหมือนสอวน ข้อสอบเป็นข้อเขียน เป็นโน่นนี่// คนอื่นก็เป็นค่าาาา แต่บางทีมันก็ต้องเลือกนะ เกรด โอเน็ต GATPAT 7วิชา แนวข้อสอบมันไม่เหมือนกัน (อย่าจับปลาสองมือ : เพื่อนเรามันเรียนพิเศษครบ 7วิชาเลย ปรากฎว่า ไม่มีเวลาทบทวน ทำให้ได้คะแนนไม่ดีมาก)
5)เรียงลำดับความสำคัญให้ถูกจุด : ไม่ต้องมโนว่านั่งเฉยๆจะติด (ก็มีอ่ะถ้าดวงดีจริง) แต่อ่านเหอะ อ่านที่สำคัญกับเรา หาสิ่งที่สำคัญ หลัก และ รอง ลงมาให้เจอ
อย่างที่บอกว่า เกรด โอเน็ต GATPAT 7วิชา แนวข้อสอบมันไม่เหมือนกัน // หาเป้าหมายตัวเองให้เจอก่อน แล้วคิดเอาเอง อะไรควรตัด อะไรควรทุ่มเท
เช่น อยากเป็นวิศวะ ก็ไปอ่าน GAT PAT1 PAT3(กรณีรับตรง), GAT PAT2 PAT3 O-net(กรณีแอดกลาง)
อยากเป็นหมอ ก็ไปอ่าน ความถนัด 7สามัญ
คณะสายวิทย์ Pat2,O-net
คณะสายศิลป์ GAT,Pat1
อะไรประมาณเนี่ย ไปดูก่อนว่าคณะเราใช้อะไร
6)เพื่อนเป็นสิ่งมีชีวิตที่โคตรมีค่า : เราดูเเลกันด้วยความรักและหวังดี นั่นจึงเรียกว่าเพื่อน เราช่วยเค้าวันนี้ วันหน้าเค้าก็ช่วยเรา อย่ามองว่ามันคือการเอาเปรียบ มันคือการไปด้วยกัน หลายคนพยายามเรียนเพื่อเเข่งกับเพื่อน แต่ถามจริงๆเถอะ ใครที่ไม่มีความสุข
แจก!!!!!
Pat2_Phy_แยกบท : http://www.4shared.com/office/E4zNMKo4ba/PAT2_.html
7_Saman_Phy : http://www.4shared.com/folder/8qS4B7RC/Phy7saman.html
เราช่วยท่านได้แค่นี้นะ เราอ่านแค่2 วิชาจริงๆ ฟิเราทำเอง ลองดู ถ้าติดก็ในเน็ตโลด ส่วนเคมี เราเรียนบิ๊ก เราเลยทำโจทย์ในเล่มเเล้วไปฟังเฉลยที่เรียน(อย่าไปทำตอนเรียนนะ ตอนเรียนเอาไว้เฉลย!! จะได้รู้ว่าผิดตรงไหน เพราะอะไร) ถามในนี้ได้ https://www.facebook.com/groups/HighSchoolPhysics/
ก่อนจากกัน
>> จะทำอะไรขอให้ใจเย็นๆ รักตัวเองให้มากๆ เริ่มจากสิ่งที่ตัวเองชอบ ไม่ต้องกดดันตัวเอง เราเป็นคนนึงที่ ถึงแม้แม่จะอยากให้เป็นแพทย์ แต่เราไม่ต้องการ เราไม่พร้อมที่จะเข้าไปหากินกับอาชีพที่ดีงามแบบนั้น เราเลยเลือกสี่ดันดับดังนี้ หมอจุฬาฯ(เลือกทิ้ง) ทันตะจุฬา ทันตะมหิดล หมอมอ(ถ้าต้องเป็นหมอจริงๆเราอยากจะพิสูจน์ให้แม่เห็นว่า มันมีเกียรติมากกว่าเงินทอง เลยเลือกที่ๆน่าจะต้องการหมอมากที่สุด) เราได้ทันตะมหิดล ซึ่งเราก็รับได้ เพราะทันตะ มีเวลามากกว่าหมอ เรามีโอกาสทำอาชีพเสริมอื่นๆควรคู่ได้ เช่น ดูแลกิจการของครอบครัว หรือเที่ยวเล่น พบปะผู้คน และแน่นอนว่า ยังสามารถเอาความรู้มาช่วยคนที่ต้องการโอกาสได้(ต่างจังหวัดของประเทศไทยขาดแคลนทันตแพทย์ และประชาชนส่วนใหญ่มีปัญหาช่องปากเพราะเน้นรสชาติเกินไป) และ ปฏิเสธไม่ได้ว่า วิศวกรโยธา สำหรับผู้หญิงไม่ใช่คำตอบที่ดีนัก การเหยียดเพศในหน้าที่การงานยังคงมีอยู่ (คิดง่ายๆว่าผู้หญิงไปสั่งงานกรรมกรผู้ชายถึกๆ มันคงจะเชื่อเราอ่ะ)
>>เอาเป็นว่าคุยกับตัวเองให้เยอะๆ มองโลกความเป็นจริงให้มากๆ เพราะถ้าเราได้เเพทย์ หรือทันตแพทย์ขึ้นมาจริงๆ สิ่งที่ต้องเจอต่อก็คือการเรียนที่หนักอีกหกปี เพื่อจบมาจำงานที่เครียดพอสมควรในกรณีของหมอ(รับผิดชอบชีวิตคน + อาจมีคนตายใจมือเรา) และจำเจอย่างทันตะ (เจอแต่ฟัน) แต่เชื่อเถอะ ว่าทุกอาชีพมีทางออก(หมอก็ปลง ทันตะก็จัดเวลานัดคิว) และช่องทางทำมาหากิน(คนขับแท็กซี่ก็เดือนละประมาณ 30,000 : กำไรประมาณ 1,000บ/วัน) วางแผนสำรวงไว้เยอะๆ คิดดีๆ เพราะบางทีเราอาจจะต้องอยู่กับมันไปทั้งชีวิต
__________________________________________________________________________________________________________________________________________
อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกันใคร เพราะไม่มีใครเหมือนเรา
คิดซะว่ากระทู้ของเราก็แชร์อีกวิธีนึงละกันเนาะ ชอบไม่ชอบปรับใช้
//เเอบเห็นมีคนพูดว่าเราเก่งอยู่แล้ว ก็แล้วเเต่อ่ะ เอาที่สบายใจ ถ้าคิดอย่างงั้นแล้วจะสู้ก็ดีมาก แต่ถ้าคิดเพื่อจะถอดใจ บอกได้เลยว่า ไปนอนซะนะคุณ ยังไม่ทันเริ่มก็หลอกตัวเองและ (แหม่-"- ปลอบใจตัวเองเหลือเกินนะคุณ : จะบอกว่าที่ทำไม่ได้อยู่ตอนนี้เพราะพระเจ้าสร้างมาช๊ะ??)
เราไม่เคยเห็นคนโง่ เราเห็นแต่คนที่เก่งในเรื่องที่ต่างออกไป
จริงๆตอนผิดหวังก็มีเยอะนะ ไอช่วงก่อนหน้าที่จะตั้งเป้าหมายให้ตัวเองอ่ะ เรียกว่าไม่ติดอะไรเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าเล่ามันก็เริ่มจะกลายเป็นประวัติชีวิตแล้วล่ะ 55555
งงๆเหมือนกัน พอดีเเชร์ลงเฟสด้วย เจอแบบคะแนนเยอะไป เก่งอยู่แล้ว กับคะแนนน้อยไป ไม่เต็มไม่ต้องมาสอน ใครสอนครัชชชช เล่าให้ฟังอ่ะ อ่านสิอ่าน!!! เสนอแนวทางใหม่เผื่ออยากปรับใช้
____________________________________________________________________
โอเค จบจริงๆแล้วล่ะ
โชคดีนะคะ
//แหม่ กระทู้ส้นตื้ดอะไรไม่รู้ ยาวชิบ -"-
110 ความคิดเห็น
เดี่ยวต้องลองไปนั่งถามตัวเองดูบ้างแล้วครับ
ขอบคุณคะ คุณครู // ผิด เตรียมก่อนสอบเข้ามหาลัย อีก 3 ปี 55555
คุณเจ๋งมากๆเลยค่ะ ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีๆมาแบ่งปันนะคะ พอจะบอกได้มั๊ยคะว่าเรียนพิเศษคอร์สอะไรไปบ้าง
เยี่ยม! เป็นคำแนะนำที่ดีมากเลย
แนะนำให้เด็ก ม.ปลายมาอ่าน โดยเฉพาะ ม.4 ควรจะเตรียมตัวได้แล้ว
ป.ล. ทำไมเราคิดว่า pat 3 มันยากจังอะ หรือว่าเราอ่านหนังสือไม่หนักพอ =w=
ป.ล.1 คะแนนนายโหดมาก เรานับถือจริงๆ!
A BIG CENTER คอสตะลุยโจทย์กสพทจ้าา แต่ว่า ต้องทำก่อนไปเรียนนะ ไม่ต้องเร่งคูณสองอะไรหรอก ครูเค้าตลกดี
ส่วนอื่นๆเราไม่แนะนำนะ มันไม่โอเคอ่ะ ส่วนโจทย์มีแจกตามแว็บทั่วไปจ้า
ไม่ใช่หรอก นายไม่ชินมากกว่า Pat3 น่ะ มันจะมีข้อยากอยู่แรกๆ มันเอามาทำให้หวั่นไหว สูตรที่ใช้มันจะเหมือนๆเดิม
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าคนออกมันอยากให้เราคิดว่ายากง่ะ
ปล.อย่างที่บอกว่ากระทู้นี้ไม่ได้เน้นขยัน การเรียนหนักไม่ใช่คำตอบ ต้องหัดสังเกตุ ใจเย็นๆ
ตอนเราสอบเสร็จนี้ แอบตะโกนในใจ
LET IT GO!!!!!
55555 ฟรุ้งฟริ้งไปไงบางทีอ่ะ
ขอเซฟกระทู้ไว้ค่าาา พื้นฐานนิสัยข้อ 1-4 เหมือนกันเลย T__T ยิ่งพื้นฐานครอบครัวด้วยแล้วคือโดนแม่ด่าบ่อยมากว่าไม่อ่านอะไรเลย 5555555 คือบางทีอ่านแต่แม่ไม่เห็น บางทีก็โดนยัดเยียดความคิดต่างๆนานาจนไม่อยากจะอ่าน ความคิดคือตรูไม่อ่านแม่มมม เหมือนประชดซะอย่างนั้น นิสัยไม่ดีเลยเรา ขอเซฟกระทู้นี้ไว้นะคะ จะเอาไว้เตือนสติตัวเอง ฮึบๆ
โอ้โห้ ตรงมากๆ 5555 อารมณ์นี้เลย เพราะเราอ่านดึก บางทีอ่านก็ไม่เห็น ไม่อ่านแม่มเหมือนกัน 5555
พี่เรียนที่ไหนครับบ เก่งฟิสิก มากๆเลยแนะนำหน่อยครับ
เหมือนกันทุกข้อครับตั้งแต่นิสัยส่วนตัว พฐ. ครอบครัว เพื่อนที่ให้ติว แต่ตตอนนี้มันหายไปแล้ว.><
แอดไปได้เปล่าครับ.?? พี่ครับพอจะแนะนำคลอสสอบ กสพท. ให้ได้หรือเปล่าครับ.ตอนนี้ผมอยู่ม.ห้าเครียดมากๆๆๆๆๆทั้ง กสพท. O-Net GAT PAT ตอนนี้ยังไม่มีคลอสเรียนเลยครับ.
เราก็เป็นเหมือน จขกท นะ แต่เราขี้เกียจกว่า จขกท มากกก แบบอ่านหนังสือไป เปิดเกมเล่นไป เล่นเฟสไป เวลาอ่าน นส แต่ละวันนี่ไม่ถึงชั่วโมงด้วยมั้ง มาตั้งใจอ่านจริงๆนี่ 5 วันก่อนสอบ 7 วิชา เพราะไปตั้งแคมป์บ้านเพื่อน แต่อ่านจริงๆจังๆได้แค่วันเดียว วันที่เหลือก็ทำตัวเหมือนเดิม 555 แต่ก็ติดกสพทมาแบบงงๆ ติดได้ไงไม่รู้เหมือนกัน 555
เราเลยคิดว่าการอ่านหนังสือแบบหามรุ่งหามค่ำก่อนสอบมันช่วยอะไรเราไมได้มากจริงๆ การสอบได้คะแนนดีไม่ได้แปรผันตามการอ่านหนังสือของเรานะ บางคนนี่อ่านแบบนอนเที่ยงคืนตื่นตี 4 แบบนี้ มันไม่ช่วยอะไรเลยนะ สำหรับน้องๆที่จะสอบในปีต่อๆไปเราแนะนำ ให้ตั้งใจเรียนในโรงเรียนให้มากๆ เพราะเราก็ตั้งใจเรียนในห้องมาก มันช่วยได้มากเลยนะ บางทีเราเรียนที่เรียนพิเศษไม่เข้าใจ พอกลับมาเรียนในห้องปุ๊ป เข้าใจทันทีเลย ยิ่งพวกวิชาเคมี ฟิสิกส์ ถ้าเราเรียนมันหลายๆรอบมันจะทำให้เราเข้าใจได้มากขึ้น
ปล. ตอนม.ปลาย เราเรียนพิเศษแค่ 2 วิชา ฟิสิกส์ กับ เคมี เหตุผลเพราะ ขี้เกียจ 5555 วิชาทีเหลือเราอาศัยเรียนในห้องกับอ่านเองนิดๆหน่อย
ใจเย็นๆจ้าา แนะนำว่าไปทดลองเรียนหลายๆที่อ่ะ เค้าให้ลองเรียนฟรี ในกรณีที่อยากเรียนนะ
เคมี : A BIC CENTER
ฟิสิกส์ : https://www.facebook.com/choikung?fref=ts พี่เรียนกับคนนี้อ่ะ
วิชาอื่นพี่ขอโทษจริงๆ
เคมี : A BIC CENTER
ฟิสิกส์ : https://www.facebook.com/choikung?fref=ts พี่เรียนกับคนนี้อ่ะ
วิชาอื่นพี่ขอโทษจริงๆ
รบกวน จขกท ช่วยแนะนำหนังสือที่ใช้อ่านหน่อยครับ
ขอบคุณมากจริงๆนะ เป็นคำแนะนำที่โคตรดี...
ขอให้ จขกท ประสบความสำเร็จในชีวิตนะคะ ^^
มีชีวะเล่มนึง ชอบมาก ของติวเตอร์พ้อย เล่มนกยูงรำเเพน ชอบเอามาซีลอกแล้วขีดๆ เค้าสรุปดีมาก
วิชาอื่นๆ ไปโหลดข้อสอบมาทำโลด
อยากรู้ว่าวิชาภาษาอังกฤษเตรียมตัวยังไงบ้างคะ
จขกท. แนะนำ การอ่านนส. + ที่เรียนพิเศษ + การทำโจทย์ PAat3 ให้หน่อยค่าาาาาาา อยากจะเข้า วิศวะ แต่ไม่มั่นใจ # dek59
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?