10 สิ่งที่ต้องยอมทิ้ง ถ้าคิดจะเป็นหมอ
เชื่อว่าถ้าหากถามนักเรียนมัธยมปลายด้วยคำถามว่าอยากเรียนต่ออะไร จะมีนักเรียนจำนวนมากที่ให้คำตอบว่า “อยากเป็นหมอ” แล้วก็เชื่อเถอะครับว่า ในบรรดานักเรียนเหล่านั้นที่เข้ามาเรียนหมอ ก็เพราะฝันว่าจะได้มีชีวิตที่สบาย มีรายได้ที่ดีและมั่นคง อะไรลักษณะนั้น แต่นั่นจะใช่ชีวิตของการเรียนหมอจริงๆหรือ ? วันนี้ Top-A tutor มีบทความดีๆ เกี่ยวกับ 10 สิ่งที่ต้องยอมเสีย ถ้าอยากเป็นหมอ ไปดูกันเลยครับ
1. ความฝันที่จะร่ำรวย มั่งคั่ง
ถ้าหากคุณมีความฝันที่จะร่ำรวย และมั่งคั่งแล้วละก็ เชื่อเถอะว่าการเป็นหมอนั้นไม่ตอบโจทย์อย่างแน่นอน เพราะอาชีพแพทย์นั้นจะไม่ทำให้คุณร่ำรวย ถ้าหากว่าอยากร่ำรวย ยังมีงานอื่นๆอีกมากมายที่จะทำให้คุณบรรลุเป้าหมายนั้นได้ อีกทั้งยังเหนื่อยน้อยกว่า และเครียดน้อยกว่าอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากคุณมีความฝันที่อยากจะเป็นเศรษฐีตั้งแต่ก่อนอายุ 30 ปี ก็จงล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นหมอไปซะเถอะ เพราะบรรดาแพทย์ทั้งหลายนั้น ตอนที่พวกเขาอายุ 30 ปี เขาอาจจะเพิ่งเรียนจบแพทย์เฉพาะทางกันเท่านั้นเอง
2. ความฝันที่จะเปลี่ยนแปลงโลก
แน่นอนว่าการเป็นหมอนั้นคุณสามารถช่วยเหลือคนไข้ของคุณได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้เขาหายจากโรค ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าความฝันของคุณคือการทำให้โลกนี้ปราศจากความยากจน ปราศจากสงคราม และมีภาวะทางการเมืองที่ดีแล้วละก็ การเป็นหมอนั้นอาจจะไม่ตอบโจทย์คุณเท่าไหร่
3. วันหยุด สุดสัปดาห์
วันหยุด สุดสัปดาห์นั้นเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรนึกถึงเลยละ เพราะมันจะไม่มีตั้งแต่ตอนที่เข้ามาเป็นนักศึกษาแพทย์แล้วละ เนื่องจากช่วงเวลาเหล่านั้นมักจะถูกแทนที่ด้วยการต้องมาอยู่เวร การมาราวน์วอร์ด หรือการอยู่เวรแบบ on-call
4. การได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม
เลิกฝันว่าจะมีในชีวิตการเป็นหมอไปได้เลยละ เพราะช่วงเวลานอนนั้นคุณอาจจะต้องอยู่เวร on-call ไปด้วยซึ่งอาจจะอยู่ติดๆกัน 48-72 ชั่วโมง แม้ว่าอาจจะไม่ถูกตามตัว แต่การนอนของคุณก็จะไม่เต็มอิ่มอีกต่อไปแน่นอน
5. ความไม่อยากรู้สึกโง่
คุณจะต้องเผชิญกับความรู้สึกโง่อยู่ตลอดเวลา ทั้งจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการทำงาน ซึ่งมักจะมีความสำคัญเพราะนั่นส่งผลต่อชีวิตของผู้ป่วย หรือจะเป็นจากอาจารย์แพทย์ที่อาจจะสอนคุณในรูปแบบที่ทำเหมือนคุณไม่มีความรู้อะไรเลย
6. การให้ความสำคัญกับเพื่อนหรือครอบครัวเป็นอันดับแรก
หมอเป็นอาชีพที่ภาระงานนั้นสำคัญ และถ้าหากว่าลาก็จะไม่มีใครมาทำงานแทนได้ จึงมักไม่ค่อยจะได้ลางานไปไหน ดังนั้นการที่จะมีเวลาดูแลเพื่อนหรือคนในครอบครัวนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
7. การทำให้ทุกคนพึงพอใจ
การเป็นหมอนั้นคุณจะไม่สามารถทำให้คนรอบๆตัวคุณพึงพอใจได้อย่างแน่นอน เพราะหลายๆครั้งคุณก็มีความจำเป็นเช่น ต้องเลื่อนนัดกับแฟนเพราะว่ากำลังติดผ่าตัดผู้ป่วยอยู่ ต้องแจ้งข่าวร้ายกับผู้ป่วยว่าเขาอาจจะอยู่ได้แค่ 3 เดือน ดังนั้นจะเห็นว่าหลายๆครั้งคุณจะต้องทำให้คนรอบๆตัวคุณไม่พึงพอใจอย่างแน่นอน
8. ความคิดสร้างสรรค์
การทำงานเป็นแพทย์รักษาผู้ป่วยนั้นจำเป็นต้องทำตาม guide-line อะไรต่างๆมากมาย ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วจากงานวิจัยต่างๆ ว่าเป็นประโยชน์ ไม่ทำให้เกิดโทษ ดังนั้นทุกขั้นตอนจะมีระเบียบแบบแผน การที่จะใส่ความคิดสร้างสรรค์นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
9. การที่จะได้อยู่กับเพื่อนและครอบครัว
การทำงานเป็นหมอนั้นจำเป็นต้องมีการโยกย้ายอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นคงเป็นการยากมากที่จะได้อยู่ที่ที่เดียว กับเพื่อนๆหรือครอบครัว
10. การมีสุขภาพดี
การเป็นหมอนั้นคุณจะมีโอกาสที่จะป่วยทางกายและจิตใจอย่างมาก อันเนื่องมาจากภาระการทำงานที่หนักหน่วง นอกจากนี้หมอหลายๆคนยังมีความใส่ใจกับอาการป่วยของตนเองน้อยกว่าอาชีพอื่นๆอีกด้วย ทำให้การมีสุขภาพดีนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากสำหรับการทำอาชีพแพทย์
หวังว่าบทความที่พี่ๆ นำมาฝากน้องๆที่อยากเป็นหมอในวันนี้จะช่วยทำให้น้องๆได้เห็นมุมมองของการทำงานเป็นหมอมากขึ้นกว่าการมองว่าอาชีพหมอนั้นสบาย และร่ำรวยเท่านั้นนะครับ เพื่อจะได้นำไปประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกเรียนหมอกัน
ที่มา : www.Top-Atutor.com
ขอบคุณภาพประกอบจาก
www.haamor.com
men.mthai.com
39 ความคิดเห็น
ขอบคุณค่ะ
No matter, I want to be a doctor. Fighting!!!
ก็แล้วแต่จะคิดกันไป คนที่สอบหมอไม่ติด ก็น่าจะคิดแบบนั้น เพราะยังไงก็เป็นหมอไม่ได้ ส่วนคนที่สอบติดหมอ เขาก็ภูมิใจในตัวเขาเองที่สอบเข้าได้ สนามสอบหมอ คนเก่งน้อยกว่ายังสอบไม่ได้เลย บางทีเงินก็ไม่ใช่ทั้งหมด บางคนเขาก็ว่าได้ช่วยเหลือรักษาคนเจ็บป่วย มีความสุขกับตรงนี้ด้วย แล้วคนที่เรียนหมอ ก็ไม่จำเป็นต้องรวย เพียงแต่เป็นอาชีพที่มั่นคง มีเกียรติแก่วงศ์ตระกูล
ไม่ว่าจะเรียนหมอ หรือไม่มีทางเรียนได้เลย เริ่มแรก ก็รวยยาก นอกจากเกิดมาจากกองเงินกองทอง พวกนี้ไม่ต้องเรียน ยังได้เลย เขาผลาญเงินพ่อแม่ได้ น่าจะ1ใน100 เพราะคนรวยมีไม่มากนัก ส่วนมากก็ต้องไปหาเอาเองภายหน้าเกือบทั้งนั้น แล้วคนที่เป็นหมอ บางคนเป็นดาราละคร เป็นนักร้อง เล่นดนตรีเก่ง ก็มีรายได้เพิ่มสบายอีก ส่วนคนที่ไม่ได้เรียนหมอ จะมาเป็นหมอไม่ได้เลย เอาแค่เงินเดือน คิดง่ายๆออกสตาร์ท 50000 กับ15000ก็ผิดกันนะ คนที่คิดว่าตัวเองเก่ง ก็อดทนหน่อยพยายามสอบเข้าเรียนให้ได้ เมืองไทย ยังขาดแคลนหมออีกมาก ถ้าคนเก่งไม่เรียนหมอ แล้วใครจะเรียนได้
แล้วถ้าคนเก่งไปเรียนหมอหมด แล้วอาชีพอื่นล่ะ ไม่ใช่แค่อาชีพหมอนะที่มีความสำคัญแต่เป็นทุกอาชีพก็มีความสำคัญหมด
ต้องทำข้อสอบเก่ง ไม่ใข่เรียนเก่ง และเรียนเก่งหรือสอบเก่งในระดับมัธยมไม่ได้แปลว่าเป็นคนเก่งเสมอไป เพราะสิ่งที่เรียนหรือสอบไม่ใกล้เคียงกับชีวิตจริง เอาไปใช้ประโยชน์จริงน้อยมาก ดังนั้นการหวังพึ่งเอาอาชีพแพทย์มายืนว่าตนเองเก่ง เป็นแค่การหลอกตัวเอง และตอนนี้แพทย์ไม่ได้ขาดแคลนแล้ว(ไปค้นคว้าดูได้)
ไปค้นดูที่ไหนคะรู้แต่ว่าเวลานี้ ประเทศไทย ขาดแคลนหมอ อย่างหนัก เขาเฉลี่ยมาหมอ1คนต้องรักษาเป็นพันคนเลย ภาระมากเกินไปทำให้ขาดคุณภาพได้ ทั้งหมอทั้งคนไข้ เครียดกันไปหมด สาเหตุเพราะรัฐเขาไม่มีงบประมาณในการผลิตต้นทุนต่อหัวต้องใช้งบผูกพันในการเรียน6ปี เป็นล้านบาททันตะใช้งบมากกว่าอีก ในแต่ละปีทั้งสธ.ศธ.หรือสถาบันที่ร่วมผลิตแพทย์อื่นหรือม.เอกชน
ผลิตได้ปีละประมาณ 3พันนิดๆเอง ถ้าจะให้เพียงพอในระบบสาธารณสุขไทย ต้องผลิตเกือบหมื่นคนต่อปีเลยนะ หมอปัจจุบัน จึงขาดแคลนอย่างมาก
อีก20ปี ถ้าเป็นอย่างนี้ ถ้าไม่รีบผลิตให้เพียงพอกับจำนวนประชากร60กว่าล้านคน อ้อแล้วหมอจบใหม่ของรัฐในแต่ละปีมีลาออก ไม่ยอมรับราชการใช้ทุนอีกด้วยอย่างปี57ก็ลาออกถึง600คนหรือ40เปอร์เซนต์ เดี๋ยวปี58ที่จะจับสลากไปรับราชการใช้ทุนวันที่15พค.นี้ก็คงมี ลาออกอีก แล้วจะไม่ขาดแคลนได้ไง
หลังจากได้อ่านเม้นท์นี้แล้วรู้สึกตะหงิดๆ ไม่ตั้งใจจะว่านะ แต่ ถ้าคนเก่งไม่เรียนหมอ แล้วใครจะเรียน.....คนขยันครับ เพราะแค่เก่งอยากเดียวมันไปไม่รอด ต้องขยันด้วย อีกอย่างคือ ถ้าไม่ได้เรียนก็จะไม่ได้เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลเหรอ?แปลว่าอาชีพอื่นที่ไม่ใช้หมอไม่สามารถทำให้วงศ์ตระกูลภาพภูมิใจในตัวเราได้งั้นเหรอ?แล้วรู้ได้อย่างไรว่าคนที่สอบไม่ติดหมอแล้วเค้าคิดแบบนี้กันหมด?เห้ย นี่นายกำลังดูถูกคนที่ไม่ได้เรียนหมอทุกคนอยู่นะเฮ้ย!!!
อินเทอน เมืองไทย ตรวจวันละ 100-200 เคส
อินเทอน อเมริกา ตรวจวันละ 15-20 เคส
เค้าไม่ให้ตรวจมากกว่านี้ เค้าบอกว่าประสิทธิภาพของหมอจะลดลง เพราะเครียด
คุณคิดว่า เมืองไทยยังขาดหมอไหม
โลกสวยหรือครับ รุ่นพี่ที่รร.ผมคนที่ขยันอ่านหนังสือตลอด เพิ่งสอบกสพท.มาหยกๆ
ไม่เห็นมีใครสอบได้แม้คนเดียว คนที่สอบได้คือเด็กเก่งของรร.ผมนะครับ และพวกที่เก่งจริง เขาขยันทุกคนอยูแล้ว ที่รร.อื่นผมไม่รู้ แต่ที่รร.ผมเป็นงี้จริงๆ ขยันอย่างเดียวแต่ไม่เก่งจริง วิศวะจุฬายังไม่ติดรับตรงเลย
"ถ้าคนเก่งไม่เรียนหมอ แล้วใครจะเรียนได้"
เอ่อ... ถ้าพูดแบบนี้ก็ให้ทุกคนไปเรียนหมอให้หมดเลยไหม?
แล้วดูสิ ว่าใครจะหาข้าวมาให้ทาน?
ใครจะสอนหนังสือในโรงเรียน?
ใครจะคนเก็บขยะให้?
ใครจะค้าขายให้ซิ้ของ?
ใครจะแสดงละครให้ดู ร้องเพลงให้ฟัง?
ใครจะเป็นนักคิดวิเคราะห์การตลาด?
ใครจะดูแลบ้านเมือง ปกครองคนส่วนมาก?
ใครจะคนพัฒนาประเทศ?
เวลาท่อน้ำแตกใครจะซ่อม รถพังทำยังไง ไฟดับ หม้อแปลงระเบิดหมอทำเป็น?
เวลาจับผู้ร้ายเคยเห็นหมอถือปืนแล้ววิ่งไล่ไหม?
ใครจะปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ให้นำมาทำอาหาร?
ใครจะเป็นฑูตสันติภาพระหว่างประเทศ?
ถามว่าถ้าทุกอย่างที่กล่าวมานั้นเกิดขึ้น หมอจะทำได้ไหม? ก็ไม่...
แล้วคุณมีสิทธิอะไรไปตัดสินว่าคนเรียนเก่งต้องเรียนหมอ?
ทุกอาชีพมีความยากง่ายต่างกัน แต่ทุกคนก็มีความภาคภูมิใจในอาชีพ
มันไม่ถูกต้องเลยที่คุณเจ้าของ คห. พูดแบบนี้
ปล. คหสตน่ะ โกรธและเกลียดการใช้คำพูดของเจ้าของ คห. นี้มาก เหยียบย่ำคนอื่นสุดๆ ป่ะ!!!! คนโง่ไปเลี้ยงควายกัน!!!!!!!!
น่าเห็นใจเขานะครับ อุตส่าห์เหนื่อยกับการสอบเพื่อจะมาเป็นหมอ คงไม่อยากเหนื่อยที่จะต้องทนรับความจริงอีก
แล้วคนที่เก่งสู้คนที่ขยันไม่ได้ครับ
แล้วคนขยันก็สู้ต้องมีศีลธรรมและจรรยาบรรณด้วย
ไม่ใช่ขยันเห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบ
.
.
หวังว่าคุณคงจะเป็นหมอที่ดีนะครับ
คนเก่งเรียนหมอ ก็ถูกนะคะ มันเกี่ยวกับชีวิตคน จะมามโนไม่ได้ ส่วนคนโง่ก็ไม่ต้องไปเลี้ยงควาย ก็หาเรียน สาขาอาชีพ ที่สมองมีปัญญาเรียนก็ได้แล้ว
แล้วเอาเข้าจริง ถ้าไม่เก่ง สอบเข้าไม่ได้หรอก เพื่อนฉัน อยากเรียนหมอมาก แต่เรียนธรรมด่ ไม่ได้เก่งอะไร พ่อแม่รวย สอบหมอรังสิต 3ครั้งแล้วไม่ติด เดือนหน้าก็จะไปสอบครั้งที่4อีก
เจ็บปวดกับ ข้อ 6 และก็ ข้อ 9 มากค่ะ
6. การให้ความสำคัญกับเพื่อนหรือครอบครัวเป็นอันดับแรก
9. การที่จะได้อยู่กับเพื่อนและครอบครัว
มากๆเลยค่ะ
ผมว่าเว่อร์ไปนะ ถ้าคนแบ่งเวลาเป็น ก็ไม่เห็นมีปัญหา
พ่อเราเป็นหมอ ถ้าหยุดเกิน 2 วันราชการนี่ เป็นไปไม่ได้เลยค่ะ
เราเลยต้องอยู่บ้านไม่ก็ไปที่ใกล้ๆแถวบ้านตลอดค่ะ
แต่ก็ดีนะคะที่ เวลาพ่อเราว่างๆจะพยายามมาอยู่กับเราตลอด
มันก็แล้วแต่สาขาที่เรียนต่อนะครับ เช่นถ้าเป็นแพทย์เฉพาะทางห้องฉุกเฉิน นี่ขึ้นเวร 8 ชม.เหมือนพยาบาลเลย พอลงเวรก็จบเลยไม่มีตามอีก คนใข้ในก็ไม่มี ทำงานเป็นเวลาแน่นอน ได้อยู่กับครอบครัวได้
ผมก็พัก 16 ชมแล้วก็ไปทำงานเหมือนคนทั่วไปที่เหลือก็มีหมอคนอื่นมาต่อเวรครับเสาร์อาทิตย์ก็ทำบางอาทิตย์ที่เหลือก็อยู่กับครอบครัวเหมือนคนทั่วไปครับ
ก็ไม่เสมอไป หมอรัฐบาลอาจจะไม่รวยเท่าหมอเอกชน แต่ที่เห็นๆ ก็ไม่เห็นว่าจะได้ตัดอะไรทิ้งเลยจริงๆ ผมกระจกตาอักเสบ ไปหาหมอในวันขึ้นปีใหม่ 3 โรงพยาบาลของรัฐบาล ทุกโรงบาลบอกว่าไม่มีหมออยู่หมอกับวันที่ 5 ต้องไปโรงบาลเอกชน นอน 10h เสียไป 35000 แค่นี้บอกบอกยังมีต่ออีก
พ่อเราเปนหมอ จริงเกือบทุกข้อนะ ข้อ4นี่ประจำเลยหลับยุก้ต้องตื่นออกไป เวลาโดนตามตัว
จริงงง
กลัวเลือด เกลัวการผ่าศพ เลยไม่กล้าเรียน
อย่างนี้แหละจ่ะ เหนื่อยสุด ๆ ตั้งแต่เรียนยันทำงาน
อีกอย่าง คือพูดถึงสัตวแพทย์ที่ทำงานตามคลินิกแล้ว
ค่าตอบแทนนี่ต่างจากหมอคนลิบลับ T-T
แต่ที่ดีก็คือเป็นอาชีพมั่นคง ไม่มีทางตกงานแน่นอนถ้าไม่เลือกมาก
ถ้าใครมีใจอยากรักษาสัตว์จริง ๆ นี่ก็เป็นทางเลือกนะ
แน่ใจนะว่าที่เขียนๆหมอเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมขออธิบายในสิ่งที่เห็นๆหน่อยนะครับ มันตรงกันข้ามมากสำหรับบางคน บางคนนะ
ข้อ 1. แน่ใจนะว่าเป็นหมอแล้วไม่รํ่ารวย เท่าที่เห็นๆหมอทุกคนมีรถป้ายแดงขับทุกคน มีเงินซื้อบ้านเดี่ยวเกือบสิบล้าน มีเงินในบัญชีเกือบร้อยล้าน คิดว่าไม่รวยเหรอ นักศึกษาแพทย์ 99% ของคนเก่งๆไม่อยากรับราชการหรอก เรื่องอะไรจะรับเหละ เรียนกว่าจะจบเป็นล้านจะมารับเงินเดือนเป็นหมื่นไม่ถึงแสนต่อเดือนทำไมเหละ แต่ถ้าเทียบกับเรียนครูร้อยทั้งร้อยก็อยากเรียนเพื่อมารับราชการมากกว่าอยากเป็นครูจริงๆเพียงเพราะคำว่า "มั่นคง" ถ้าไม่มั่นคงจริงก็คงไม่มีพวกจบ 4 ปีไม่จบสายตรงมายุ่งด้วยหรอก ไม่เชื่อลองไปดูสถิติการสอบสมัครครูผู้ช่วยกับหมอดูแล้วจะรู้ว่ามันต่างกันมากยังไง
2. เปลี่ยนได้สิถ้าหมอเก่งชะอย่าง สามารถรักษาได้เกือบทุกโรคไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลงโลกนะยังสามารถเปลี่ยนแปลงให้ตัวเองดูดีกว่าใครๆกว่ารุ่นเพื่อนสมัย ม.ปลายที่จบกว่าอีก ที่เพื่อนบางคนมียังผ่อนบ้านเกือบล้าน ผ่อนรถเป็นแสน เป็นหนี้เป็นสินอยู่ ในขณะหมอมีเงินเก็บหลายล้าน มีบ้านเป็นล้าน ขับรถเป็นล้าน แต่หนี้สินเท่ากับเพื่อนคิดว่าไม่เปลี่ยนแปลงเลยสินะชีวิตของหมอ จบมามีคนเคารพยกย่องเหมือนกะพระเจ้าหรือศาลเจ้าที่เลยว่าได้ ต่างกับคนจบอย่างอื่นถ้าไม่มีเงินเมื่อไหร่ดูมองว่าเป็นหมาดูถูกว่าไม่มีปัญญา คิดว่าต่างกันไหมเหละ
3.วันหยุดสุดสัปดาห์ แน่ใจนะว่าไม่มีวันหยุดเลย เท่าที่เห็นมาส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นหมอไปเที่ยวก็เพราะหมอไปเที่ยวเมืองนอกเลยไม่เห็นไงว่าไปเที่ยว ทำงาน 8 ชั่วโมง หยุดเท่ากับคนทั่วไป แต่เงินเดือนเยอะกว่าทำงานทั่วไป ทำตัวเหมือนกับนักธุรกิจ แถมตอนหยุดหมอมีบอกกับคนไข้ว่าไว้ "นัดวันอื่นก่อนผมไม่ว่าง" ใครมาก่อนก็ได้คิวก่อนใครมาหลังก็รอคิวข้ามปีกว่าจะได้ไม่ต่างอะไรกับราชการเลย
4.แน่ใจนะว่าหมอนอนไม่เต็มที่ มันก็นอนครบ 8 ชั่วโมงเหมือนกับเรานี่เหละ แต่ให้พยาบาลดูแลแทน จะเป็นจะตายเมื่อไหร่ก็ค่อยโทรมาหาที่บ้านแล้วกัน ส่วนคนไข้ใครจะเจ็บจะตายก็รอไป
5.แน่ใจนะว่าไม่โง่ แล้วที่หมอต่อรถเมล์ไม่เป็น หรือ ไม่กินเนื้อย่างเพียงเพราะกลัวมะเร็ง ก็ไม่โง่เหละสิใช่ป่ะ
6. แน่ใจนะว่าไม่มีเวลาให้ครอบครัวหรือเพื่อนและแฟน แล้วที่เห็นๆควงแฟน ไปเที่ยวกับครอบครัว ไปฉลองกับเพื่อนทึ้งนัดคนไข้มันเรียกว่าไม่มีเวลาเหรอ เรียกว่าไม่มีเวลาดูแลคนไข้มากกว่า
7. จริงอยู่ที่ไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะบริการแบบเท่าเทียมกันนิแล้วที่คนจนๆไม่มีเงินมายกมือไหว้ขอให้ช่วยบอกคิวนานขอให้รอหน่อยนะ คนไข้จนๆก็รอไปรอจนกว่าจะตายไปข้างหนึ่งไปเลยอย่างที่เป็นข่าว แล้วทำไมคนรวยมาใช้บริการหมอถึงรีบให้บริการเลยเหละ หรือว่า คนรวยเงินถึงมือหมอกว่ากันแน่
8.ใช่ไม่มีเวลาคิดแต่ทำไมรูปถ่ายแต่ละรูปมันดูสร้างสรรค์เหละ
9.แน่ใจนะว่าโยกย้ายอยู่ตลอดเวลา ไม่มีหรอกน้อยมากที่จะเกิดแบบนั้นส่วนใหญ่ก็ไปโรงบาลไปบ้านเท่านั้นเอง ใครจบมีบ้านอยู่กรุงเทพก็อยู่กรุงเทพ ถามถ้ามีคำสั่งลักษณะให้ไปนอกพื้นที่ขู่จะลาออกอีกนะร้ายไหมเหละ
10.แน่ใจนะว่าเป็นหมอมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ ไม่ใช่ลองไปดูตามโรงบาลแล้วจะรู้ว่าหมอทุกคนมีสุขภาพดี มีความสุข ทุกเช้าก่อนไปทำงาน ก็มีเวลามากไปออกกำลังกายกว่าคนอื่นเสียอีกที่ทำงานอื่นเสียอีก
ที่ผมกล่าวมาเป็นเฉพาะหมอบางคน บางคนเท่านั้น ไม่ต้องมาเขียนให้เห็นใจหมอหรอกสำหรับบางคนเพราะเขาบางคนเหล่านั้น ไม่ได้มาทุกข์ร้อนอะไรกับความสูญเสียอะไรหรอก มันเป็นอาชีพมันหมดยุคหมอมีอุดมการณ์แล้ว ที่ต้องช่วยทุกคน หมอที่ดีคือหมอที่ตายไปแล้วหรืออยู่ในอากาศที่มองไม่เห็นมากกว่าในยุคนี้ ความจริงไม่เสมอไปหรอกครับ
ส่วนน้อยมากเลยนะคะ ที่จะได้นอนครบแปดชั่วโมงทุกวัน
ส่วนน้อยมากเลยนะคะ ที่มีวันหยุดเท่ากับคนอื่น
คุณรู้หรอคะ ว่ากว่าที่จะได้หยุดยาวๆ ไปเที่ยวได้ ก่อนหน้านั้นต้องทำงานโดยไม่ได้หยุดมากี่วัน กี่เดือน
แล้วหมอบางคนที่คุณบอกว่าเห็นมา แล้วนำมาเขียน มันซักกี่เปอร์เซ็นต์ของหมอทั้งหมดหรอคะ
ก้คิดกันซะแบบนี้คนไข้เลยไม่ให้ความเคารพในอาชีพนี้แล้วไงครับ หาเงินมาเป็นสิบๆปี โดนฟ้องเคสเดียว สัก 10-20ล้าน ก็จนแล้วครับ ปล.หมอดีๆยังมีอยู่ครับ อย่าดูถูกอาชีพนี้ขนาดนั้น หรือถ้าคุณจะเป็นหมออย่างนี้ก็เรียกว่าหมอไร้คุณภาพละกันครับ
มีอคติอะไรกับหมอรึเปล่าคะ?
เราไม่ได้อวยหมอนะ ไม่ได้อยากเป็นหมอด้วย
แต่เราว่าคุณมีอคติแล้วละ
พวกที่เกียจหมอ ทำปากดี เป็นโรค เจ็บป่วยขึ้นมา อย่าไปหาพวกเขาแล้วกัน ขอให้หายได้เอง เป็นเบาหวานถึงต้องตัดขา ก็ตัดเองเลยนะไม่ต้องใช้มีดหมอใช้อีโต้ฟันเองเลย เกิดเป็นแผลติดเชื้อขึ้นมา ญาติๆจะไปฟ้อง 10-20ล้าน เอากับใครดี เคสแบบนี้ ศาลไคฟง ยังไม่รับฟ้องเลย
บางความเห็นมีด่า มีชม พูดเองเออเอง เลยไม่รู้อยู่ข้างไหนแน่
มันอยู่ที่ว่าเขาเจอมาแบบนั้น... 555 รพ.เราก็มี-แบบที่เขาเขียนน่ะอย่างน้อยแผนกละ 1 คนอ่ะ ต้องยอมรับว่ามันอยู่ที่คน ไม่ได้เกลียดหมอนะ เพราะหมอเป็นแค่ชื่ออาชีพ เกลียดคนบางคนมากกว่า เข้าไปทำงานจริงๆแล้วจะรู้ค่ะ คนทำงานรู้กันหมดตั้งแต่ น้องชุดขาว น้องชุดเหลือง และธุรการ แต่ที่ดีมากๆๆเลยก็มีค่ะ มันอยู่ที่คนค่ะ แต่หมอโรงเราก็ขับเบ๊นนะ หรือไม่ก็รถราคาแพง แต่แบบบางทีเขารวยกันมาตั้งแต่ก่อนเรียนแพทย์แล้วก็มีค่ะ คือ สรุป -เรื่องรวยอ่ะ รวยกว่าอาชีพอื่นใน รพ. หมายถึงมีเงินใช้มากที่สุด เพราะเงินเวรเยอะมาก พสต.ก็มากกว่าอาชีอื่น เราว่าส่วนใหญ่คนก็รู้เรื่องแบบนี้อยู่แล้ว รพ.อื่นไม่รู้ เป็นงัยนะ แต่ไม่ได้ถีงขนาดเศรษฐี เช่น ถ้า เศรษฐี ต้องไปทำธุรกิจ แบบ cp มั๊ง
ส่วนเรื่อง เวลาหยุด หมอที่เป็นเพื่อนเรา เขาก็สบายๆอ่ะ คือ เขา จ้างหมอข้างนอกมาอยู่เวร คือ หมายถึง หมอที่อื่นที่ไม่ไปไหน เธอก็ไปเที่ยวเวลางานก็กลับมาทำเหมือนเดิมไม่มีปัญหา แต่ที่อื่นไม่รู้ว่ายังงัย คือ ระบบแต่ละที่มันไม่เหมือนกันค่ะ
ส่วนเรื่องญาติ อันนี้ หมอที่ ทำงานเราเขาเอาญาติเข้ามาแอดมิดที่ รพ. ส่วนใหญ่ก็ได้ห้องพิเศษอ่ะ การดูแลก็ไม่มีปัญหาอีก กลางคืนกลางวันพยาบาลก็ดูแลกันไป โรคอะไรปรึกษาเขาก็โทรคุยกะเพื่อนเขากันเอง เรื่องย้ายไม่มีแน่ที่นี่ ส่วนใหญ่ถ้าจะไปลาออกเลยค่ะ ไปทำเอกชน -ที่ว่าจะโยกย้ายไม่เคยเห็นนะทำงานมาตั้งเป็นสิบสิบปีและ เหมือนสามีเพื่อนเราก็ลาออกไปอยู่เอกชน เพราะแต่งงานแล้วเงินไม่พอใช้ หมอก็เลยต้องลาออก
เรื่องสุขภาพ คือ ว่ากันตามจริงหมอเป็นเวรนอนค่ะ ก็จะยังได้นอนบ้างถ้าไม่มีอาการหนักเขาก็ออเดอร์ทางโทรศัพท์ ยกเว้นว่าอาการไม่ดีจริง อาจต้องใส่ท่อเขาก็จะลงมาดู บางทีไม่มีตามหมอก็นอนทั้งคืน หมอเวรใน ไม่ใช่เวรเฝ้า ยกเว้นเวรห้องฉุกเฉิน ที่เล่ามา รพ.ที่เราทำอยู่นะคะ
ส่วนเรื่องการป้องกันการติดเชื้อ หลักๆมีเครื่องป้องกันอยู่แล้ว แต่บางทีเออเร่อที่เราเองแหละค่ะ คือ พอเห็นฉุกเฉินวิญญาณวิชชีพค่ะ ไม่ได้ใส่ผ้าปิดปาก แต่เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ใส่หมดเพราะจริงยังว่า โอกาสป่วยจากการตืดเชื้อจากคนไข้มากขึ้นค่ะ ที่สำคัญ ถ้าไม่ไปรับเวร รพ.เอกชน ด้วยยังพอมีเวลาพักผ่อนค่ะ แต่อย่าเทียบกับอาชีพอื่นนะคะ เช่น นายธนาคาร เอ่อ เทียบกันไม่ได้ค่ะ เพราะอาชีพนั้นไม่ทำ 24 ชม.
เรื่องการฟ้องร้องถ้าอยู่รัฐบาล เขาจะต้องฟ้องหน่วยงานนะ อันนี้เรื่องกฏหมายไม่ค่อยรู่ แต่ไม่เคยมีหมอที่ รพ. โดนฟ้องแบบจ่าย เป็นล้านนะ ตั้งแต่ทำงานมาอีกเช่นเคย แต่ไม่ใช่ไม่มีประเด็นนะ เยอะค่ะ ทุกอาชีพมันมีประเด็นกันทั้งนั้นแหละ ทำงานกับชีวิตคนอ่ะ
ที่เล่าๆให้ฟัง เอาที่เราเห็นๆเนอะ คนอื่นที่ทำงาน รพ. อื่น อาจมีระบบอย่างอื่นที่ไม่เหมือนกัน
อย่าไปขู่น้องๆเยอะเดี๋ยวไม่มีหมอเก่งๆดีๆมาเรียนกันหมด 555""" ไม่หรอกพี่รู้ว่ามีเด็กเก่งเกืน60 เปอร์เซนต์ แน่ๆที่อยากเรียนหมอ แต่อย่าไปค้นหาเหตุผลให้เมื่อยว่าอยากเป็นเพราะอะไร มันเรื่องของเขาทุกคนมันต้องมีจุดประสงค์ของตนเองแหละ แต่เข้ามาแล้วทำงานอย่างตั้งใจโดยเฉพาะงาน full time สุดท้ายขอให้น้องสอบติดตามเป้าหมายทุกคนค่ะ
แต่กว่าหมอจะรวยแบบที่คุณว่านี่เค้าผ่านอะไรมาเยอะมากนะคะ ถ้าไม่รู้เรื่องวงในจริงๆอย่าพึ่งตัดสินค่ะ
มาเรียนเภสัชดิ เน้นยา ยา และยา
แม่เราเป็นพยาบาลนะแม่บอกว่าพยาบาลหนักกว่าหมออีก แต่ถ้าอยากเป็นหมอแต่อยากอยู่ใกล้ๆครอบครัวก็สอบทุนเลยค่าาาา|\^0^/
Ghjfyj hihgutiiijGjkjjhfjghghgdyfjhfidhhjgjgjyfghdfjhfhgdhguyjfkuuiyujl k
unmjhmyfyifydugjyfhgjfjhgmhgjht bn
ขอบคุณค่ะ ^^ แต่ถึงยังไงก็อยากเป็นหมอไม่เปลี่ยนแปลง ขออุทิศตนเพื่อคนมากมาย.
แล้วถ้าอยากเป็นเมียหมอ
มีอะไรต้องทิ้งบ้างเหรอค่ะ แอร๊ยยย ( - /// - )
#ล้อเล่นนะอย่าซีเรียส
เราว่าหลาย ๆ อาชีพมันก็มีสิ่งที่ต้องแลก
เพียงแต่จะมาก หรือ น้อย แล้วไปในทางใดก็เท่านั้น
แต่ถ้ามันใช่เราจริง ๆ ก็ลุยต่อไปเถอะค่ะ
ใครจะไปรู้ สิ่งเราแลกไป อาจจะสร้างความสุขให้เราได้ยาวนานมากก็ได้
สู้ ๆ นะคะ v(*^ - ^*)v
แต่ถ้ารักอาชีพนี้จริง ยังไงก็ไม่ใช่ปัญหาค่ะ
อาชีพที่ต้องทิ้งสิ่งที่ตัวเองรักไม่ใช่อาชีพหมอเพียงอย่างเดียว อาชีพอื่นก็อาจต้องทิ้งเช่นกัน บางคนเมื่ออ่านบทความนี้เสร็จอาจบอกว่า "เป็นหมอไม่เห็นมีอะไรดีเลย แค่ทำตัวตามผู้ใหญ่ไปเปล่าๆ" แต่เชื่อเถอะว่าคนที่เค้าอยากเป็นหมอจริงๆเค้าทำใจเอาไว้แล้วหล่ะค่ะว่าต้องทิ้งสิ่งเหล่านี้ และบางทีเขาก็อาจจะไม่ได้ทำตามคำพูดของผู้ใหญ่ก็ได้ แค่ได้ช่วยเหลือคนอื่นก็มีความสุขแล้วละค่ะ ^^
อาชีพหมอไม่ได้ทำให้รวย แต่อาเราเป็นหมอทำจนออกเบนซ์ได้อะ 555 เค้าอาจจะเก็บๆ ของเค้าเองมากกว่าเลยซื้อได้
พ่อค้าแม่ขาย มีถมเถไปครับ ทุกอาชีพ อยากได้อะไรก็ต้องเก็บออมครับ
พ่อค้าแม่ขาย ที่ขี่เบนซ์หรูได้กิจการเขาต้องดีนะครับ ประเภท2-3สามหมื่นต่อเดือนผมว่าเอาแค่วีออส ก็หรูแล้ว (ยกเว้นส่งรหัสไปชิงโชค คุณตันเขาจัดเบนซ์ให้มาก็อีกเรื่อง)
แล้วทันตแพทย์เป็นแบบนี้ด้วยไหมคะ คือจะเรียนคณะทันตะ พอเรียนจบเป็นแบบนี้ทุกอย่างหรือป่าวคะ
ทันตะไม่หนักเท่าหมอนะคะ ไม่รู้สิ
อ่อค่ะ ขอบคุณค่ะ
หมอนิไม่ได้กระดิกเลย เห็นบางคนหิ้วแต่กระติก
หมอเคยเป็นคนไข้ แต่คนไข้ไม่เคยเป็นหมอ
เห็นเขามา ดูเขามา ฟังเขาเล่ามา
อยากรู้ว่าเป็นยังไงก็พยามเป็นหมอให้ได้ครับ
ความพยายามไม่ได้มีใน google
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?