Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

(รกหรือเปล่า) ชวนชาวบอร์ดนักเขียนมาเปรียบเทียบ การแต่งนิยายก็เหมือนกับ...

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีทุกๆ ท่านที่กำลังอ่านอยู่นะคะ วันนี้ที่บ้านของเราอากาศเย็นสบายมาก ฟ้าครึ้มๆ น่านอน (อวดๆ ฮ่าๆ) และความเบื่อหน่ายก็บังเกิด เราก็เลยอยากหาอะไรสนุกๆ ทำ จึงตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาค่ะ! (ชักแม่น้ำทั้งห้าก่อน)

 

เราอยากชวนชาวบอร์ดมาเปรียบเทียบการแต่งนิยายของท่านว่าเหมือนกับการทำอะไร ขออนุญาตเริ่มก่อนนะคะ

 

การแต่งนิยายก็เหมือนกับ...การปลูกดอกไม้ ต้องคอยหมั่นดูแลอย่างสม่ำเสมอ รอคอยวันที่ดอกไม้เติบโตออกดอกให้ชม ความสวยงามของดอกไม้ที่ปลูกนั้นเท่ากับความเอาใจใส่ของคนปลูก

 

 

เรารออ่านความคิดเห็นของท่านอยู่นะคะ 



แสดงความคิดเห็น

>

34 ความคิดเห็น

Lucia. 23 เม.ย. 58 เวลา 11:28 น. 1
การแต่งนิยายก็เหมือนกับ...การเดินทาง

บางคนเดินช้า บางคนเดินเร็ว บางคนมุ่งแต่เป้าหมาย บางคนแวะชมรายทาง บางคนเดินตรง บางคนเดินอ้อม จะช้าเร็ว สุดท้ายแล้วปลายทางก็ไม่ต่างกัน ขึ้นกับว่าเราจะเดินทางอย่างไร






//เหตุผลของคนเดินช้าครับ อิอิ
1
PostMeridiem 23 เม.ย. 58 เวลา 11:34 น. 2

เหมือนการทำของหมักดองค่ะ //โดนโบก

เราคิดว่ามันเหมือนการสร้างบ้าน นักเขียนเป็นผู้รับเหมา/สถาปนิก พล็อตก็คือเสาเข็ม ภายนอกมองไม่เห็นแต่ต้องแข็งแรง นิยายคือตัวบ้านซึ่งต้องทำออกมาให้ดีเพื่อตอบสนองความต้องการผู้อาศัยแต่ไม่เดือดร้อนผู้รับเหมาค่ะ

6
Lucia. 23 เม.ย. 58 เวลา 11:39 น. 2-1

ได้ยินว่า ผู้รับเหมาชอบทิ้งงาน

พูดไม่ออก

0
PostMeridiem 23 เม.ย. 58 เวลา 11:42 น. 2-2

ปกติเราไม่ค่อยเห็นทิ้งนะคะ มีแค่ขยายสัญญาจ้าง (ดอง) //ถ้าทิ้งนี่อาจโดนฟ้องค่ะ ถถถ

0
Lucia. 23 เม.ย. 58 เวลา 12:03 น. 2-3

อ่า แถวบ้านผมทิ้งเลยครับ งานรัฐเสียด้วย ทิ้งไปสองราย กำลังดูว่ารายที่ 3 จะทิ้งอีกรึเปล่า



0
PostMeridiem 23 เม.ย. 58 เวลา 12:09 น. 2-4

ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงเหมือนนักเขียนที่ดองสองปีขึ้นไป หรือพูดง่ายๆ คือมันไม่แต่งต่อแล้วโว้ย! ส่วนนักอ่านก็เตรียมกดอันแฟบสินะคะ...

0
Death With Love 23 เม.ย. 58 เวลา 12:41 น. 2-5

ยืนยันอีกเสียงว่าผู้รับเหมาชอบทิ้งงาน
ซึ่งทิ้งจริงๆ ไม่ว่าจะงานเล็กหรือใหญ่ มีสัญญาก็ไม่มีประโยชน์ ทิ้งอยู่ดีเพราะหลายที่ รู้ว่าคนไม่ฟ้องเพราะไม่คุ้ม หรือถึงฟ้องก็มีอีกหลายวิธีที่หลบเลี่ยงได้
อย่างเลว ก็กลับมาทำงานให้แบบห่วยๆ เรียกว่ากลับมากวนประสาท

0
PostMeridiem 23 เม.ย. 58 เวลา 13:13 น. 2-6

ขอบคุณค่ะสำหรับความรู้ใหม่
เท่าที่เราเคยเห็นไม่ค่อยทิ้งค่ะ //รู้สึกโลกแคบ คงเพราะทำให้งานหน่วยงานของรัฐ (ศาลค่ะ คิดดูถ้าทิ้งจะเกิดอะไร - -) แต่ถ้าเอกชนหรือองค์กรอื่นๆ นี่ไม่แน่ น่าจะทิ้งกันยังกับระเบิดในสมัยสงครามโลก

0
Tosowner 23 เม.ย. 58 เวลา 11:42 น. 3
การแต่งนิยายเหมือนกับ...การสร้างสะพาน
สะพานที่จะพาเราไปสู่ความสำเร็จ ต้องค่อยๆสร้างให้แข็งแรง มั่นคง เพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ
0
no one know 23 เม.ย. 58 เวลา 11:53 น. 4
การแต่งนิยายนั้น... ราวกับขุมนรก!

1. เขียนช้า เขียนไม่ดี - คนอ่านด่า  ยอดวิวไม่กระเตื้อง
2. เขียนจนนิยายติดท็อป - คนอื่นอิจฉา  เจอมือดีโหวตต่ำ 
3. ตัน ดอง - คนถอนแอด  คนอ่านด่า
4. ขุดไหดองออกมา - คนอ่านเก่า ๆ ไม่เหลือแล้ว
5. นิยายได้ตีพิมพ์ ลบตอน - ลบทำไม ยังอ่านไม่จบเลย!


To be Continue...

2
princess crown[มงกุฏเดียวดาย] 23 เม.ย. 58 เวลา 12:12 น. 5

การแต่งนิยายก็เหมือนกับ การปรุงอาหาร

เรื่องราวจะสนุกหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะแต่งเติมสิ่งใดลงไปให้เขา

เหมือนกับอาหารที่จะอร่อยหรือไม่อร่อย ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพเครื่องปรุงและความสามารถ(รสมือ) ของผู้ปรุงค่ะ

เคยได้ยินมาว่าบางคนทำอาหารเท่าไหร่ก็ไม่อร่อยเพราะขาดรสมือ 

ก็เหมือนคนที่แต่งเท่าไหร่ก็ไม่สนุกเพราะขาดพรสวรรค์

เคยได้ยินมาว่าบางคนใส่เครื่องปรุงมั่วๆแต่กลับออกมาอร่อย 

เหมือนคนที่มีพรสวรรค์ในด้านนี้โดยตรง แม้จะไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดอะไรมากก็ออกมาสนุก

แต่ไม่แน่นะคะ หากพวกขาดรสมือตั้งใจจริงและรู้จักปรับปรุง พัฒนาคุณภาพเครื่องปรุง ไขว่คว้าหาความรู้สม่ำเสมอ อาหารก็จะออกมาอร่อยเหมือนกับนิยายที่จะออกมาสนุกก็ได้ค่ะ



3
ไกลเวลา 23 เม.ย. 58 เวลา 14:32 น. 5-3

การเขียนนิยายเหมือนการทำอาหารจริง ๆ ครับ
ตอนนี้ยังทอดไข่ไหม้เลยเยี่ยม

0
Levi_san 23 เม.ย. 58 เวลา 12:18 น. 6

การแต่งนิยาย เหมือนกับปรุงอาหารค่ะ
ถ้าเราเลือกใส่วัตถุดิบผิดพลาดนิดเดียว รสชาติมันก็จะผิดเพี้ยนไปเลยค่ะ แต่ถ้าเราพิถิพิถันค่อย ๆ ปรุงไม่รีบร้อน เอาใจใส่กับมัน ไม่ข้ามหลักสูตรข้ามขั้นตอน คนทาน (ผู้อ่าน) ก็จะมีความสุขกับอาหารของเราค่ะ ^^
แต่ถ้าปรุงช้าไปมันก็จะแปลงร่างเป็นไหดองได้เหมือนกันนะคะ ...... ==;;;;

0
B_MILK♔ 23 เม.ย. 58 เวลา 12:20 น. 7

การแต่งนิยายเหมือนการทำการบ้าน ทำผิดก็แก้ ไม่ดองงาน พยายามหาข้อมูลมาทำการบ้านนั้น ฝึกฝนจนพัฒนา เป็นสิ่งสร้างสรรค์ 

0
ดอ ชฎา 23 เม.ย. 58 เวลา 12:24 น. 8

การแต่งนิยายก็เหมือนกับ การเปิดประตูสู่โลกใบใหม่!!!

        ราวกับว่าตัวเราได้เข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่ง โลกที่เราสามรถรังสรรค์ทุกอย่างได้ด้วยความคิดที่ส่งทอดผ่านปลายปากกาลงสู่กระดาษ แถมยังสามารถแต่งเติมเสริมแต่งทุกอย่างได้ตามสบาย ใครจะตายใครจะอยู่ในโลกของเราก็ได้ 55555+ นอกจากนี้ การแต่งนิยายก็ยังเป็นเหมือนการระบายความรักหรือความรู้สึกต่างๆที่เรามีต่ออะไรสักอย่างลงไป มันก็เลยทำให้เรากลายเป็นน้องฎาผู้แสนฟรุ้งฟริ้งอยู่นี่ไงละ!!



ขอฝากบทเพลงไว้หน่อยนะ =w=


จนวันที่มีเธอจับมือฉันไว้ เปิดประตูสู่โลกใบใหม่
ไปดินแดนที่ห่างไกล ที่ฉันไม่เคยพบเจอ

เธอทำให้ฉันรู้ ว่ารักจริงๆ มันคืออะไร
เพิ่งรู้ว่าเพราะอะไรที่ใจต้องสั่นแบบนี้
สั่นแบบนี้ ทุกครั้งที่เราใกล้กัน
เธอทำให้ฉันรู้ ว่าความอบอุ่นมันเป็นอย่างไร
ต่อให้ดวงอาทิตย์จะมืดมิดลับลาไป
แค่มีเธอใกล้ กอดฉันไว้ แค่นี้ฉันก็อุ่นใจมากมาย

ฉันกำลังหลงทางอยู่ท่ามกลางความอ้างว้าง
มองไม่เห็นแม้แต่แสงดาว
จนวันที่มีเธอจับมือฉันไว้ เปิดประตูสู่โลกใบใหม่
ไปดินแดนที่ห่างไกล ที่ฉันไม่เคยพบเจอ

เธอทำให้ฉันรู้ ว่ารักจริงๆ มันคืออะไร
เพิ่งรู้ว่าเพราะอะไรที่ใจต้องสั่นแบบนี้
สั่นแบบนี้ ทุกครั้งที่เราใกล้กัน
เธอทำให้ฉันรู้ ว่าความอบอุ่นมันเป็นอย่างไร
ต่อให้ดวงอาทิตย์จะมืดมิดลับลาไป
แค่มีเธอใกล้ กอดฉันไว้ แค่นี้ฉันก็อุ่นใจมากมาย

อยากรู้ มานานแสนนาน ค้นหาคำตอบอย่างไรไม่เคยเจอ
ยิ่งค้นหาเท่าไร ยิ่งไกลออกไปเท่านั้น
ฉันเฝ้าเดินทางไปด้วยใจหวาดหวั่น
ไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางใดๆ
จะมีความรักอยู่ที่ปลายทางไหม จะมีไหม
ใครสักคนที่เป็นแบบฉัน ที่ยังคอยค้นหาว่ารักคืออะไร
ฉันกำลังหลงทางอยู่ท่ามกลางความอ้างว้าง
มองไม่เห็นแม้แต่แสงดาว


ขอบคุณสำหรับพื้นที่ค่ะ 55555+
(อุ๊ย ไฝ)

0
twin's joker [st.] 23 เม.ย. 58 เวลา 12:30 น. 9

การแต่งนิยายก็เหมือนกับการประกาศสงคราม

เพราะต้องอาศัยใจรักมาทำสงครามจิตวิทยากับความขี้เกียจ แถมกว่าจะแต่งได้แต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ฮ่า ๆ

สรุปง่าย ๆ เลย นี่คือสงคราม~!!

0
Death With Love 23 เม.ย. 58 เวลา 13:04 น. 10

นักเขียนนิยาย เปรียบเสมือนนักผจญภัยชื่อก้องโลก

ต้องค้นหา บุกเบิกเส้นทางจากข้อมูลเล็กๆ หรือไม่มีเลย
ต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอเพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการเดินทาง
ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะขับรถ เรือหรือเครื่องบินเพื่อการไปให้ถึงขุมทรัพย์
เป็นทั้งนักทฤษฎีและนักปฏิบัติ คิดและลงมือทำ อะไรที่ทำได้ก็รีบทำ ทำไม่ได้ก็หาตัวช่วย
ต้องควบคุมสติและอารมณ์ให้คงที่ แม้จะตัวเปล่า ต่อหน้าสิงสาราสัตว์ดุร้าย
ต้องเจราจาและต่อรองเป็น บางครั้งยังต้องสื่อสารกับเอเลี่ยนต่างโลก

สุดท้าย แม้จะพิชิตขุมทรัพย์แห่งหนึ่งได้ ก็ต้องออกล่าขุมทรัพย์แห่งใหม่ต่อไป

ทั้งหมดทั้งมวล กรุณาไปรับชมเพิ่มเติมได้ใน อินเดียน่า โจนส์ (ฮา)

1
no one know 23 เม.ย. 58 เวลา 13:36 น. 10-1

ทุกวันนี้ไม่ได้ผจญภัยไปไหนไกลเกินกว่า 7/11 กับร้านเกมเลยครับ! (ฮา)

0
e-ram 23 เม.ย. 58 เวลา 13:10 น. 11

การแต่งนิยายเปรียบเหมือนการติดอยู่ในห้องส้วมที่ไม่มีประตู

วันๆได้แต่นั่งจมอยู่บนโถส้วม นั่งคิดนั่งเพ้ออะไรไปเรื่อยเพื่อไม่ให้ตัวเองสติแตก และต้อองคอยคิดหาคำปลอบใจให้ตัวเองในสถานการณ์ไร้ซึ่งทางออกในห้องส้วมปิดตายที่น่าสะพรึง

เรื่องสำคัญอีกอย่างก็คือ เราต้องคอยเบ่งบรรณาการใส่ลงในชักโครกอยู่เสมอ ไม่งั้นปีศาจโถส้วมอาจไม่พอใจได้ และถ้ามันไม่พอใจเมื่อไหร่เจ้าปีศาจโถส้วมนี่อาจก่อเรื่องอะไรก็ไม่รู้กับเราได้ตลอดเวลา

วันดีคืนดีก็ไม่รู้วัตถุปริศนาจะระเบิดขึ้นมาเมื่อไหร่ เหมือนระเบิดเวลาที่ไม่มีความแน่นอน เท่าที่เราทำต้องคอยหมั่นกดชักโครกก่อนที่จะสายเกินไป ทำให้เราต้องคอยหมั่นสังเกตุโถส้วมและต้องคอยเอาใจมันอยู่เนืองๆเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปะทุขึ้นมา

บางครั้งบางคราวเราก็ต้องใช้กระดาษทิชชู่ที่มีอยู่เพียงน้อยนิดเพื่อเขียนข้อความขอความช่วยเหลือส่งไปที่ช่องระบายอากาศที่เอื้อมไม่ถึง เพื่อขอความช่วยเหลือจากโลกภายนอก แถมยังส่งได้ทีละครั้งและต้องรออีกถึง 3 เดือนกว่าความช่วยเหลือจะตอบกลับมา ไม่ว่าจะยอมช่วยหรือไม่ก็ตาม เราก็ต้องพยายามส่งข้อความไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีคนยอมช่วย

ปล. ข้อความด้านบนไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่หรือสิ่งของที่มีอยู่จริง เป็นแต่เพียงจินตนาการล้วนๆ

1
White Frangipani 23 เม.ย. 58 เวลา 13:34 น. 12

สวัสดีค่ะ


(รกหรือเปล่า) ชวนชาวบอร์ดนักเขียนมาเปรียบเทียบ การแต่งนิยายก็เหมือนกับ...


เหมือนกับ..."การฝึดหัดขี่จักรยาน"ค่ะ  จำได้ว่ามีเพื่อนนักเขียน(มืออาชีพด้วยมั้ง) เขียนเปรียบเปรยไว้ รู้สึกว่าเห็นด้วยค่ะ คืออะไรๆที่เราไม่มีความสามารถนะยากทั้งหมดล่ะ และการที่นำเอาการฝึกหัดขี่รถจักรยานมาเปรียบนั้นเห็นความเป็นจริงในการฝึกหัดเขียนค่ะ คือการที่จะเขียนได้นั้นมีอะไรๆที่ต้องฝึกมากมาย งานเขียนแท้จริงไม่ไช่เรื่องง่ายๆเลย มีอะไรมากมายเป็นส่วนประกอบ

(1)เช่นการใช้ภาษาให้ถูกต้อง ไหลลื่น เทคนิคต่างๆต้องมี การสร้างพล็อตให้ตื่นเต้นร้าวใจ สลับซับซ้อน การที่จะหักมุมหรือไม่ตอนไหนเมื่อไร ข้อมูลต่างๆ ความสมจริงหรือไม่อย่างไร นิยายชนิดไหนที่ควรจะใส่อะไรลงไป เช่นแฟนตาซีควรมีขอบเขตที่ตรงไหน ออนไลน์ปัจจุปันไปไกลแค่ไหนแล้วสามารถใส่อะไรลงไปได้บ้าง สท้อนสังคม(เหตุการณ์ปัจจุบัน)ต้องหรือควรไม่ควรใส่อะไรไปบ้าง (หากต้องการใช้หนังสือเพื่อการบุกเบิกหรือเปลี่ยนแปลงต้องใส่อะไรไปบ้างหรือไม่ ผลสท้อนจะกลับมาในรูปแบบไหน ไม่ไช่เรื่องง่าย) ทั้งหมดนี้เห็นว่าไม่ไช่เรื่องง่ายค่ะ และแน่นอนมีอีกมากมายหลายอย่างที่เป็นส่วนประกอบ

เพราะฉนั้นการ(หัด)เขียนหากจะเปรียบเห็นว่าคงไม่แตกต่างจากการหัดขี่รถจักรยานจริงๆค่ะ ที่สำคัญของการนี้คือการหัดทรงตัว การหัดทรงตัวในที่นี้คือหัดรู้ถึงศิลปะของความยากง่ายทั้งหมดที่ต้องรู้ถึงคือความตื้นลึกหนาบางของ...(1) ข้างบน

และแน่นอนการหัดขี่จักยานไม่ไช่ง่ายนะแม้ว่าจะดูง่ายก็ตามที ในการหัด มีล้มมีเจ็บมีหัวเข่าแตกขาเคล็ดมือที่ล้มไปปะทะกับผิวถนนเลือดซิบๆเหตุการณ์รวมๆคือไม่ง่ายค่ะ หัดเขียนต้องประสบการณ์ล้มลุกคลุกคลาน และเมื่อหนังสือออกมาก็ต้องตั้งใจคอยอะไรๆที่มากกว่าผลประโชยน์เช่น การวิจารที่อาจจะแรงมากๆหรือเบามากๆ นั้นก็เป็นอีกส่วนประกอบที่หลบเลี่ยงไม่ได่เช่น เป็นนักเขียนคงไม่ไช่เรื่องง่าย แต่ก็อยากหัดเขียนค่ะ


แต่เมื่อไรก็ตามหากทำได้คงเป็นอะไรที่ง่าย สนุกสนานและวิเศษมากค่ะ นั่งบนอานทรงตัวปล่อยลงมอ 60-70 กิโลเตรต่อชั่วโมงสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปลอดสดชื่น อิสระราวกับบินได้ (คงแบบนั้นมั้งนะ)

แต่หากอยากจะเขียนได้ต้องอดทนที่จะฝึกค่ะ เช่นแบบนี้...


เขาน่ารักมากและเก่งน่าดูเลยดูมีความอดทนสูงมากคุณแม่ก็เก่งด้วยมีความเชื่อมั่นในตัวเขาให้กำลังใจตลอดทาง การเขียนกำลังใจนั้นก็คงจะสำคัญไม่น้อยเลยนะ (คลิปนี้ค้นมาเพื่อประกอบการเปรียบเทียบค่ะ หากจะเป็นนักเขียนให้ได้คงต้องอดทนเช่นนี้คนเล็กคนนี้ค่ะ อึดน่าดูเลยดูเล่นๆนะคะน่ารักมาก ลูกใครไม่รู้)



และหากเขียนได้เขียนเป็นเมื่อไรคงจะเป็นเช่นนี้ค่ะ...



คงจะเป็นเรื่องที่ง่ายและสนุกสนานเท่านั้นมั้ง อะไรๆที่เราๆทำได้นั้นรู้สึกว่าง่ายเนอะ (งานเขียนศิลปะที่ไร้ซึ่งขอบเขต)


เม้นท์นี้(สิ)รกแน่ๆค่ะยาวๆเป็นปรกติด้วย(นะ) อีกมุมมองและความรู้สึกที่มีต่อเรื่องของการเขียนของนักหัดเขียนอีกคนค่ะ


0
นาลันดา 23 เม.ย. 58 เวลา 14:00 น. 13

     การแต่งนิยายเหมือน ปล้นธนาคาร ถ้าพลาดก็โดนยิงสมองไหล ถ้าปล้นได้เป้าหมายแห่งความสำเร็จก็หอมหวลน่าเชยชม  





1
mbth96 (จะออกไปแตะขอบฟ้า) 23 เม.ย. 58 เวลา 15:06 น. 14

การเขียนนิยายเหมือนทำรายงานล่ะมั้งคะ ข้อมูลมาเต็ม แน่น ถูกต้อง และต้องทำให้สนุกและน่าสนใจก่อนจะนำเสนอมันออกไป 

0
eco_ranta 23 เม.ย. 58 เวลา 15:36 น. 15

ผมว่าเหมือนการซักผ้าเองมั้งครับ โดยเฉพาะใช้มือไม่ได้เครื่อง เหอๆ

ซักไปก็ขี้เกียจไป หยุดพักแอบอู้ไปดูทีวีบ้างแล้วค่อยกลับมาซักใหม่(ดอง)
ใช้เวลาครับกว่าจะซักเสร็จ
บางทีซักแล้วยังไม่สะอาดก็ยังต้องซักใหม่(รีไรท์นิยาย)
บางคนขยันๆซักผ้าแปปๆก็เสร็จ ได้ใส่ไปอวดคนอื่นๆแล้ว

ว่ามั้ย 55+

1
shinigami 23 เม.ย. 58 เวลา 15:54 น. 16

เป็นกระทู้ช่วยทำให้ตื่นดีนะคะ
วันนี้อากาศเย็นสบาย อยากจะนอนทั้งวันเลย (ผิดประเด็นแล้ว)

เอาล่ะมาตอบคำถามกันดีกว่า ^^;
 สำหรับเราแล้วการเขียนนิยายก็เหมือนกับการวาดรูปนั่นแหละค่ะ
ค่อยแต่งเติมสีสันลงไป ให้มันค่อยเป็นรูปร่างขึ้นแล้ว
โดยพยายามเอาภาพที่เห็นอยู่ในหัวของเรา หรือสิ่งที่เราคิดอยู่
มาสื่อให้เหล่าผู้คนเห็นเหมือนกับเราให้ได้ค่ะ ^^

0
color-blue-bell[เด็กน้อยหมวกฟ้า] 23 เม.ย. 58 เวลา 15:55 น. 17
การแต่งนิยายก็เหมือนกับ..การสร้างบ้านหลังหนึ่ง (คิดเหมือน คห.2 ค่ะ) 
การจะสร้างบ้านหลังหนึ่งให้ดี เสาเข็มและโครงร่างต้องแน่น ถ้าเกิดของพวกนี้อ่อนยวบขึ้นมาเมื่อไหร่บ้านทั้งหลังจะพังทันที เมื่อวางเสาเข็มและโครงร่างบ้านเสร็จแล้ว ก็ต้องมาใส่รายละเอียดอีก ว่าต้องสร้างห้องอื่นๆ ในบ้านอย่างไร วางเฟอนิเจอร์อย่างไรให้ดูดีและไม่ขัดกับเฟอนิเจอร์ชิ้นอื่น รวมถึงสร้างให้เข้ากับสมาชิกในบ้านที่จะอยู่อาศัย รวมถึงต้องทำยังไงบ้านของเราถึงจะน่าสนใจ ทำยังไงคนอื่นถึงชอบจะมาบ้านเรา กว่าจะเป็นบ้านทั้งหลังมันก็ไม่ง่ายเลยค่ะ (เผลอๆ ทิ้งงานก่อสรา้งกลางคัน 55555) 



0
MiniO_Guardian 23 เม.ย. 58 เวลา 17:39 น. 18

การแต่งนิยายก็เหมือนกับ... การหมักของดอง
หมักน้อยไปก็ไม่ได้ มากไปก็ไม่ดี 
ต้องดองพอประมาณ #โดนถีบ

โอเค.. เอาใหม่

การแต่งนิยาย ก็เหมือนกับการเป็นพระเจ้า
เราจะเติมนู่นนี่นั่นได้ตามใจในนิยายเรา

แต่ถ้าหากยังเติมแต่งไม่ดีพอ เราอาจโดนท่านอาจารย์ซึ่งเปรียบเหมือนนักอ่านนั้น รุมประชาทัณฑ์เอาได้

สุดท้ายขอฝาก...
เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือนักเขียนยังมีนักอ่าน


0
sleeping fox 23 เม.ย. 58 เวลา 21:34 น. 20

การเขียนนิยายเหมือนการระบาย

ระบายอารมณ์ที่อยากแต่งเป็นตัวอักษรเรียงร้อยกันเป็นตอน

ระบายความสนุกที่อยากให้คนลอง

รู้สึกเหมือนได้ระบายตามใจอยากตอนเขียนนิยาย

0