Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ระบาย และขอให้คิดถึงลูกของตัวเอง เมื่อพ่อแม่ห้ามเรา(อายุ17โตพอที่จะรู้อะไรควรอะไรไม่ควร)มีความรัก #ถ้ามีความรักจะโดน........

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะทุกคนที่อ่าน  ที่เราตั่งกระทู้นี้ไม่มีอะไรมากเราแค่อยากเล่าเรื่องปัญหาความรักและครอบครัวให้ทุกคนฟังและเอาไปคิดตามค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่าเรากับแฟนคบกันมาได้เกือบสองปีแล้วค่ะ เราเป็นเพื่อนสนิทกันจนกลายมาเป็นรักกันเขาให้เกียรติเรามาตลอดเขาทำให้เราเห็นว่าเขารักเราโดยการเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีเรารักกันมากค่ะ พวกเราไม่เคยทำอะไรเสื่อมเสียซักครั้ง เราบอกแฟนเราว่าแม่เราไม่ให้คุยโทรศัพท์ตอนกลางคืนแฟนเราก็บอกว่าไม่เป็นไร เวลาเพื่อนกับแฟนชวนไปเที่ยวไหนด้วยกันแม่เราก็ไม่ให้ไปแฟนเราก็บอกว่าไม่เป็นไร เรารู้ค่ะว่าแฟนน้อยใจมากแต่เขาไม่เคยบ่น และเขาไม่เคยบอกเลิกเราเลยค่ะ ตอนนี้เราอายุ17 แล้วค่ะ จนมาถึงวันนึงวันที่แม่เรารู้ว่าเราคบกับเขา แม่โกรธมากค่ะแม่บอกเราบอกว่าให้เราเลิกกับแฟน แม่สั่งเด็ดขาดมากค่ะ แม่บอกว่าอย่าให้รู้นะว่าคุยกันอยู่ไม่งั้นโดนแน่ เรายอมรับค่ะว่าเราเสียใจมากแต่เราเลิกไม่ได้ค่ะเรารักเขามาก เราไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับแฟนหรอกค่ะเรากลัวแฟนเราเสียใจที่ทำให้เรากับแม่ทะเลาะกัน และสรุปเราก็ไม่เลิกค่ะ เรารู้เราผิดแต่ทำไงได้คะเรารักเขาแล้วเขาก็รักเรา จนแม่รู้เข้าอีกรอบว่าเรายังไม่เลิกกับแฟน วันนั้นเราทะเลาะกับแม่หนักมากเราะไม่ได้เถียงแม่หรอกค่ะ ถึงเราจะรักแฟนมากแต่เราก็รักแม่มากเหมือนกัน แม่เราเป็นไมเกรนก็ไม่อยากให้แม่เครียดเราเลยไม่ตอบโต้
แม่บอกว่าให้เราเลือกเอาว่าระหว่าง #ผู้ชาย กับ #เรียน จะเลือกอะไร คำถามนี้ทำใจยากนะคะถ้าเราเลือกแฟนเราก็ไม่ได้เรียน แต่ถ้าเราเลิกกับแฟนเราก็คิดภาพไม่ออกเหมือนกันค่ะว่าแฟนเราจะเป็นยังไง แต่สุดท้ายเราก็ต้องเลือกเรียนค่ะ เราต้องเลือกอนาคตเลือกที่จะทำให้แม่มีความสุขและสบาย แต่เราแค่อยากบอกและระบายมันออกมาว่ามันเจ็บมากค่ะที่ต้องบอกเลิกกับแฟน คือเราร้องไม่ออกเลยค่ะ เราไม่รู้ว่าแม่จะสนใจความรู้สึกของเรารึเปล่าเราแค่อยากให้เขารู้ว่าเรารู้สึงยังไง รู้รึเปล่าค่ะว่าหลังจากที่เราบอกเลิกกับแฟนแล้วเป็นยังไง คือจากคนที่รักกันมากกลายมาเป็นคนที่เกรียดเรามากจนขนาดหน้าก็ไม่มอง คิดดูค่ะว่าเจ็บแค่ไหนจากคนที่ไม่ดื่มเหล่าแต่กลับดื่มจนหมดสภาพและถึงตอนนี้เขาก็ไม่คุยไม่มองหน้าเราเลยค่ะ
เจ็บนะค่ะแบบนี้น่ะ ที่เล่ามาทั้งหมดก็เพื่ออยากเตือนสติคุนพ่อคุณแม่ว่าพวกคุณทำแบบนี้กับลูกของคุณรึเปล่าบางข้อห้ามมันห้ามได้แต่ว่าข้อห้ามที่พวกคุณตั่งไว้พวกคุณช่วยคิดถึงความรู้สึกของลูกคุณด้วยนะคะ ถ้าพวกคุณคิดว่าลูกของคุณยังไม่มีความรักหรือไม่มีแฟน หนูอยากให้พวกคุณคิดใหม่ค่ะ เพราะบางทีลูกของคุณอาจมีคนที่ชอบมากๆก็ได้ และถ้าโชคดีเขาเป็นคนดีและรักลูกคุณจริง เขาอาจเป็นแรงบรรดาใจให้ลูกคุณพัฒนาตัวเองก็ได้ใครจะรู้ แต่ถ้าคุณห้ามเขาคุณอาจทำลายเขาอย่างไม่รู้ตัว ถ้าพวกคุณห้ามตอนเขายังเด็กไม่รู้อะไรหนูว่ามันก็ไม่ผิดค่ะ แต่ถ้าลูกคุณโตพอที่จะรับรู้โลคภายนอกแล้วข้อห้ามข้อนี้ถือว่ามันอาจทำให้เขา #ตายทั้งเป็น เหมือนกับหนูที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้ค่ะของขวัญ
#ถ้าพวกคุณเห็นด้วยกับกระทู้นี้ก็กรุณาช่วยแชร์มันให้เหล่าคุณพ่อคุณแม่ที่อาจทำแบบนี้กับลูกของเขาอยู่ได้อ่านเผื่อว่าเขาจะคิดได้แล้วนึกถึงจิตใจของลูกเขามากกว่านี้
#ขอบคุณที่สละเวลาอ่านกระทู้ไร้สาระของเราค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

White Frangipani 27 เม.ย. 58 เวลา 00:10 น. 1

สวัสดีค่ะ


อ่านแล้วก็อยากให้กำลังใจค่ะ  เข้าใจเจ้าของกระทู้นะคะ และก็อยากจะบอกว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้นะคะ การที่จะเลือกคนที่มาเป็นพ่อแม่เรานั้นหรือเราจะเลือกเป็นลูกของใครคนไหนนั้นก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยนะ


คุณแม่คุณนั้นแน่นอนที่ท่านกระทำเช่่นนี้ดิฉันเชื่อว่ามีพื้นฐานมาจากความรักความห่วงใยที่ท่านมีต่อคุณค่ะ เพียงวิธีส่งผ่านนั้นท่านเป็นคนที่ตัวท่านเองนั้นมีความกลัวเกรงความผิดพลาดในตัวท่านเองเป็นกระจกสท้อนกลับมาหาคุณ ในที่นี้ท่านอาจจะเกรงว่าคุณเรียนไม่จบ กลัวจะเกิดมีอะไรกับแฟนแล้วการเรียนจะเสียหาย ท่านจึงใช้นโยบายแบบเด็ดขาดในวิธีของท่าน (ดิฉันเข้าใจแบบนี้นะคะ พ่อแม่หลายๆคนก็ทำแบบนั้นนะ)


และที่ว่าเด็ดขาดนี้ก็เกิดเป็นความรู้สึกโหดร้ายทารุณขึ้นที่จิตใจของคุณที่คุณรู้สึกได้ดังคำที่คุณเล่าๆมานี้ค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วนี้คือการจูนกันไม่ติดระหว่างคุณแม่กับคุณ หรือหากจะเปรียบอีกรูปแบบคือคุณและคุณแม่คิดเห็นต่างกันนะคะ


เจ้าของเม้นต์นี้อยากแนะนำคุณว่า ทำใจร่มๆค่ะ เชื่อฟังท่านบ้างพยายามทำความเข้าใจในความหวังดีที่ท่านให้ พยายามคิดๆให้ได้ว่านั้นแท้จริงคือความรักคือความหวังดีนะคะ เรื่องแฟนนะคะหากเขาเป็นคนดีจริงเขาจะไม่ทิ้งคุณไปไหนๆทั้งนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด เขาจะใส่ใจรับทุกข์และสุขกับคุณค่ะ มากกว่านั้นหากเขาดีจริงเขาต้องใส่ใจด้วยว่าเขาต้องรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณและจะช่วยใส่ใจความรู้สึกของคุณแม่คุณด้วยค่ะ นั้นเป็นธรรมชาตินะหากเขามีเหตุผลและเป็นคนที่มีความเชื่อมั่น


เรียนจบแล้วก็แสดงให้เห็นว่าคุณสามารถรักษาความสัมพันธ์ฉันคนรักไว้ได้ วันนั้นวันที่คุณเรียนจบมีงานทำคุณสามารถบอกคุณแม่คุณได้นั้นจะเป็นอะไรที่คุณแม่คุณภูมิใจด้วยค่ะ ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนหรือแฟนที่สามารถห่างๆกันในช่วงวัยนี้นั้นก็เป็นอะไรที่ดีนะคะ


ตอนนี้คุณอายุเพียง 17 ปีนะคะ คุณต้องใช้เวลาในการเรียนอีกหลายปีหากคุณต้องการจบอย่างน้อยที่ปริญญาโท  ดิฉันเข้าใจว่าท่านเป็นห่วงนะ คุณพยายามทำตามที่ท่านขอในช่วงนี้นะคะ ทำเพื่อคุณแม่ก่อนเถอะค่ะ เพราะจากที่คุณเล่ามาคุณแม่คุณเข้มงวดเพราะรักคุณนะคะ

คุณอยู่ในช่วงวัยที่สับสนด้วยนะคะ นั้นเป็นธรรมชาติด้วยค่ะ



ดิฉันมีคุณแม่ที่เข้มงวด(และตามใจในขณะเดียวกันนะ งง ไหมคะ)ที่สุดในโลก(ในโลกของดิฉันเช่นกันค่ะ555) เข้าใจคุณนะคะ แต่ที่แตกต่างตรงที่คุณแม่ขยายความให้ดิฉันเข้าใจละเอียดละออเพื่อสื่อถึงความรักที่มีต่อดิฉันอย่างมีเหตุผลตลอดมาค่ะ เช่น บอกว่า "จะคบผู้ชายดูๆให้ดีๆนะนำเขามาบ้านด้วยแม่อยากเห็น" (หลอกเราสิ ควบคุมล่ะไม่ว่าสิ เรื่องส่วนตัวยุ้งจังเลยคุณแม่นี่อายนะ555 แต่เพียงคิดๆค่ะ ไม่กล้าพูดหรอก ยิ้มๆตอบว่าค่ะ ค่ะๆเฉยๆ)



พอโตมาหน่อย 19-20 อยากทดสอบคุณแม่ค่ะ (ซนน่าดูค่ะ เป็นคนที่ซนมาก ชอบพิสูจน์)หลังจากที่ท่านเฝ้าใช้กลอุบายเพื่อควบคุมเราบ่อยๆ(รู้นะ)เพราะความรักด้วยวิธีต่างๆนาๆนี้นะ อยากรู้จริงว่าแท้จริงท่านคิดอย่างไรหรือแบบไหนกับ "เขา" คนที่เราจะรักในวันหนึ่ง จึงบอกไปว่า "คุณแม่คะ หากวันหนึ่งหนูได้เกิดไปหลงรัก ผู้ชายที่เขาติดยาเสพติดไม่มีญาติ ไม่มีอนาคต นั่งข้างถนนเข้าให้ คุณแม่จะทำเช่นไรคะ เพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของกรรมเวรนะคะ และสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยนะ"  (ถามแล้วอมยิ้มด้วย อยากได้คำตอบเพราะแม่ตามใจเรามากๆในทุกเรื่องตลอดมา)


คุณแม่สงบเป็นปรกติยิ้มรับเต็มใบหน้าด้วย พ้อมบอกว่า "เขาจะเป็นอย่างไรก็พาเขาคนนั้นมาบ้านนะลูก แม่จะช่วยลูกรักษาเยียวยาเขาเอง เพราะเขาเป็นคนที่ลูกรักไง แม่จะทำอะไรไปได้มากกว่านี้ แต่แม่เชื่อว่าลูกคงไม่โชคร้ายแบบนั้นนะ แม่หวังเสมอว่าลูกจะได้พบกับคนดี เพราะนั้นทำให้ลูกมีความสุข นั้นเพื่อลูกเองนะไม่ไช่เพื่อใครเลย" ท่านพูดจบพร้อมพนมมือขึ้น ปล่อยรอยยิ้มด้วยความรัก เห็นได้จากแววตาและสีหน้า


ถึงตอนนั้นะ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นดิฉันเจ็บปวดไปทั้งตัวต้องขบกราม กำมือแน่นพยายามกลั้นนํ้าตาที่จะไหลให้ได้ แต่ก็รู้ว่านี้คือความรักเคารพที่มีต่อการพิสูจน์ที่ดิฉันได้จากแม่ รู้ว่าแม่รักเรานะ โผเข้าไปกอดท่าน ปล่อยตัวเองร้องไห้โฮๆ คล้ายผีเข้าเลยร้องคล้ายเด็กๆสะอึกสะอื้นแทบขาดใจ สัมผัสได้ว่าความรักความหวังดีที่แม่ให้นั้นบริสุทธิ์อย่างแท้จริง

ก็นะพ่อแม่ของแต่ละคนก็เป็นคนค่ะ เขาทั้งหลายแสดงออกแตกต่างกันได้ แต่ขอให้คุณเชื่อว่า ท่านรักคุณนะคะ อย่าได้คิดอะไรมากไปเลยค่ะ ใจเย็นๆตั้งใจเรียนนะคะ


ยาวๆมากๆ อ่านเล่นๆ แลกเปลี่ยนกันนะคะ


ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ


ปล.และก็ดีใจที่คุณตั้งกระทู้ขึ้นมานั้นแน่นอนคนที่เป็นพ่อแม่ได้รู้เห็นเหตุการณ์และมองหาจุดเปลี่ยนไปด้วยหากทุกคนนั้นเข้มงวดเกินไปจนขาดเหตุผลในขณะนี้ค่ะ


0