วิกฤติการ์ตูนแปลญี่ปุ่น เกิดอะไรขึ้นในช่วงที่ผ่านมา #การ์ตูนเล่ม
ตั้งกระทู้ใหม่
แต่พอผู้คนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากขึ้น แค่มีโทรศัพท์มือถือก็อ่านการ์ตูนแบบ e-book หรือการ์ตูนเถื่อนตามเว็บต่างๆ ได้สะดวกโยธิน ทำให้ธุรกิจการพิมพ์การ์ตูนเล่มเริ่มสั่นคลอน
สัญญาณแรกเริ่มจาก BOOM ของสำนักพิมพ์ NED นิตยสารการ์ตูนที่เคยโด่งดังในสมัยก่อนประกาศหยุดพิมพ์ตั้งแต่เดือน มีนาคม 2557 โดยลงการ์ตูนเรื่อง ไซคิฯ, Bleach, อภัยมณี ฯลฯ ทิ้งท้ายก่อนจากกัน
ล่าสุดนิตยสาร Viva Friday ก็เพิ่งวางขายฉบับสุดท้ายไปเมื่อ 27 ก.ค. และจะหยุดการพิมพ์นิตยสารรายสัปดาห์ รวมทั้งการ์ตูนในเล่มที่เป็นของเครืออาคิตะ โชเต็น (โอตาคุน่องเหล็ก, เซ็นต์เซย่า) จะไม่ได้นำมารวมเล่มต่อ จะมีแค่ Basara, Crows, และ Drop คนดิบที่ยังรวมเล่มต่อเท่านั้น
ดูเหมือนในบรรดาสำนักพิมพ์ทั้งหมด วิบูลย์กิจดูจะย่ำแย่มากที่สุด ไม่ใช่แค่เพราะคนซื้อหนังสือเล่มน้อยลงหรอก อู๊ดว่าส่วนหนึ่งเพราะสนพ.นี้ไม่ค่อยปรับตัวตามสถานการณ์รอบๆ เท่าไร แถมยังเป็นธุรกิจพิมพ์การ์ตูนอย่างเดียว ไม่เหมือน SIC ที่มีเงินจากส่วนอื่นเข้ามาช่วย และปรับปรุงคุณภาพอยู่ตลอด
วิบูลย์กิจมีการ์ตูนที่ถูกลอยแพเยอะมาก และแม้แอดมินเพจจะออกมาตอบคำถามคาใจ แต่ยิ่งตอบยิ่งค้างคา อารมณ์ว่าแล้วตกลงมันโดนดองเพราะอะไรวะ????
https://www.facebook.com/vibulkij.fanclub
ตอนนี้บก.ของวิบูลย์กิจก็ให้สัมภาษณ์กับ Spokedark แล้วว่าได้แก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนมาขายการ์ตูนออนไลน์แทน ถึงอู๊ดจะงอนๆ เรื่องดองการ์ตูนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อยากเห็นสนพ.ไหนปิดตัวทั้งนั้น (โคนันยังไม่จบเลยนะครัช!)
เป็นกำลังใจให้ผู้ผลิตการ์ตูนแปลญี่ปุ่นทุกคนแล้วกันคับ และก็มาช่วยกันสนับสนุนการ์ตูนเล่มคนละไม้คนละมือ หรือถ้าใครถนัดอ่าน e-book ตอนนี้การ์ตูนลิขสิทธิ์ก็มาลงออนไลน์แล้ว ซื้อกันหน่อยนะคับ
https://www.facebook.com/Siamintercomics
ปล. C-Kids ยังอยู่อ่ะ สู้ๆ นะ
chibiotaku
29 ก.ค. 58 เวลา 14:59 น.
5,285
views
23 ความคิดเห็น
มีตั้งหลายเรื่องที่ตามเก็บอยู่ ถ้าหยุดพิมพ์นี่ร้องไห้แปป
ถ้าในฐานะผู้บริโภคอย่างเราๆ เราชอบสะสมเป็นเล่มมากเพราจะหยิบมาอ่านเมื่อไหร่ก็ได้และการเปิดหน้าอ่านง่ายกว่าอย่างอ่านออนไลน์ อยู่ดีๆอยากเปิดย้อนหลังแค่กรีดนิ้วปุ๊บๆก็ได้แล้วในขณะที่แบบออนไลน์ต้องเลื่อนขึ้นลง (โดยส่วนตัวชอบแบบรูปเล่มมาก แต่ถ้ามีออนไลน์ขายเราก็คงต้องขอผ่านเพราะมันมีตัวเลือกว่าของฟรีกับเสียเงิน ทำให้คุณค่าทางใจของสองอย่างไม่ค่อยต่างกันเลย)
ส่วนสำนักพิมพ์ vbk นี่ปัญหาส่วนใหญ่ที่เรามองในฐานะผู้บริโภคคือบริหารจัดการกันแบบไม่ยืดหยุ่น แค่เปลี่ยนไปเปิดแบบญี่ปุ่นเล่มสุดท้ายก็ยังทำไม่ได้ (อนึ่งชอบตัดสินใจแทนลูกค้าว่าลูกค้าต้องการแบบนู้นแบบนี้ แต่สิ่งที่ลูกค้าต้องการที่สุดคือการออกให้จบเนี่ยแหละ)
แต่ก่อนเราไม่รู้เรื่องอะไรของสำนักพิมพ์นี้หรอกจนกระทั่งได้ไปกดติดตามเพจเลยรู้ว่าเป็นยังไง [ราคาสูงขึ้นอย่างเอาเปรียบผู้บริโภคเกินควรโดยที่คุณภาพทุกอย่างเท่าเดิม, ปัญหาหมักดอง] คือแค่รู้สองอย่างนี้ทำให้ความคิดของคนรุ่นหลังที่อยากจะซื้อหนังสือของสำนักพิมพ์นี้ต้องกลับมาคิดใหม่อีกทีและตัดสินใจว่าไม่ซื้อเพราะเกิดความไม่เชื่อถือในสำนักพิมพ์
สรุปคือสำนักพิมพ์นี้ถ้ารักษาฐานลูกค้ารายเก่าๆไว้ไม่ได้ก็อย่าหวังเลยว่าจะสามารถเรียกลูกค้ารายใหม่ๆเข้ามาได้ (เราถือว่าโชคดีมากที่ซื้อหนังสือของสำนักพิมพ์นี้ไปสองเรื่องคือ เรื่องโอตาคุน่องเหล็ก//สำนักพิมพ์ประกาศหยุดทำต่อ กับเรื่องไททัน)
ส่วนพวกหนังสือรายสัปดาห์ต่างๆสำหรับเราเราไม่ซื้อนะเพราะคิดว่ามันสิ้นเปลืองเกินไป แต่ชอบเก็บแบบรวมเล่มเลยมากกว่า (เพราะแค่เก็บแบบรวมเล่มบ้านก็แทบจะไม่มีที่ซุกหนังสือการ์ตูนอยู่แล้ว แถมตู้หนังสือก็ทำท่าว่าจะถล่มแหล่มิถล่มแหล่)
แต่ก็เข้าใจสำนักพิมพ์นิดนึงว่าเดี๋ยวนี้ของฟรีมันหาง่ายตามอินเทอร์เน็ต ทั้งร้านเช่าก็ด้วย อีกอย่างวงการการ์ตูนบ้านเรามันก็ไม่ได้บูมเหมือนประเทศญี่ปุ่น แต่ก็ขอให้สำนักพิมพ์พยายามพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขในส่วนบกพร่องไปเรื่อยๆอย่าหัวแข็งหรือหยุดอยู่กับที่เหมือนบางสำนักพิมพ์ เพราะอย่าลืมว่ายังมีลูกค้ารุ่นใหม่อยู่เรื่อยๆนั่นแหละ
ปล.จะอุดหนุนการ์ตูนฉบับรวมเล่มในเรื่องที่ชอบต่อไปค่ะ
โอตาคคุ น่องเหล็ก โอ้ยอยากจะร้องไห้ ถึงไม่ค่อยเุก็บการ์ตูนจากวิบูลย์กิจแต่ก็ไม่อยากให้จากเลย
การเก็บหนังสือมันเป็นใจรักจริงๆ ฟิลลิ่งมันต่างจากการอ่านจากเว็บ หนังสือเปิดแล้วสะดวกกว่า ถึงต้องรอมันก็ยังดีกว่าอ่านในเว็บ
เราเป็นคนชอบอ่านมังงะรูปแบบเล่มมากกว่าอ่านในรูปแบบอินเทอร์เน็ต (คือจะหยิบไปอ่านที่ไหนก็ได้แต่อย่าซุ่มซ่ามทำน้ำหกใส่เชียวนะ บรรลัยถึงไหนถึงกัน!)
เราสายตาสั้นนะ คือสั้น 200 เราก็รู้สึกว่าไม่ควรเล่นคอมมากเกินไป (ตอนป.5 เราเล่นคอมโดยไม่ได้ปรับแสง มันถึงได้เป็นอย่างนี้ไง #ร้องไห้หนักมาก) เราก็หาวิธีที่จะทำให้สายตาสั้นเป็นสายตาปกติ แต่บางอย่างก็เชื่อได้ เชื่อไม่ได้บ้าง เราเลยหาวิธีที่ชะลอให้มันสายตาสั้นช้าลงมากที่สุด
มังงะเรื่องแรกที่เราอ่าน เราอ่านในเน็ตแต่นึกไปนึกมา ถ้าซื้อมาเก็บไว้ในบ้านก็คงดี และเราก็พยายามเก็บเงินซื้อมา 1 เล่ม/เดือน จนมีประมาณ 70 เล่ม (รวมทั้งไทยและญี่ปุ่น)
นอกจากนั้นเราก็ดูลายเส้นที่เขาวาดด้วย ถึงจะเสียเงินแต่ก็คุ้ม
ส่วนในเน็ตมันก็มีข้อดีนะคะ เราไม่ได้ตัดสินให้ยกเลิกว่า ไม่ให้มีการ์ตูนใน e-book หรืออะไรนะคะ
..
.
..
สรุป อยากให้ซื้อมาไว้ดีกว่าค่ะ ให้ลูกหลานอ่านเล่น ของบางอย่างก็หาในเน็ตไม่ได้หรอก ขนาดหนังที่อยู่ในรุ่นพ่อรุ่นแม่ที่กำลังจีบกัน แทบไม่มีให้เห็นเลย แต่ถ้าเรามีของเราไว้มันยังจะดีกว่ามั้ย?
อ้อ ลืมเลย
นายจะยังซื้อ...
หนังสือการ์ตูน...
ต่อไปใช่ไหม ???
- เรายังซื้อหนังสือการ์ตูนต่อไปนะ
เสียใจมากนะ เราเป็นสายซื้ออ่านนะ
แต่ช่วงหลังก็ไม่ค่อยได้ไปร้านการ์ตูนบ่อยๆหรอก ไปทีไรเรื่องที่อ่านก็ไม่ออกสักที
เป็นไปได้ก็ไม่อยากเห้นค่ายไหนปิดอีก เพราะยังไงเราก็อยากซื้อเก็บ แถมบางเรื่องไม่มีแปลในเน็ตด้วย
ปล.เด็กสมัยนี้เค้าไม่ค่อยซื้อเก็บกันแล้วหรอ
จะซื้อการ์ตูนเล่มต่อไป...
บางเรื่องในอินเตอร์เน็ก็โดนลบไปนะแต่มีวางขายในร้านหนังสือการ์ตูนอะ
ซื้อมาอ่านดีกว่าอ่านในเน็ตตั้งเยอะ
แต่ถ้าช็อตจริมๆก็จะเข้าไปอ่านพอหายช็อตก็ซื้อมาเก็บไว้เหมือนเดิมจร๊าาาา
อย่าหยุดตีพิมพ์เถอะ ขอร้องแรงมาก TT
อย่าหยุดพิมพ์นะคะ ชอบซื้ออ่านมากกว่า (โคนันยังไม่จบเลยฮือออ) และจะซื้อการ์ตูนอ่านต่อไปค่ะ
อ่า เราเป็นประเภทชอบสะสมน่ะค่ะ ถ้าเป็นเรื่องที่ชอบจริงๆล่ะก็เราก็พยายามซื้อให้ครบ แถมยังสบายใจกว่าถ้าซื้อของลิขสิทธิ์ด้วย อีกอย่างอ่านในเล่มมันสะดวกสบายกว่านั่งเปิดเน็ตอ่านเยอะ ไหนจะรอรูปโหลด เลื่อนขึ้นลงซ้ายขวา ยิ่งถ้าเน็ตหลุดก็จบกัน
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางเรื่องเราก็อ่านแต่ในเน็ตเหมือนกัน เพราะจะให้ตามเก็บทุกเรื่องนี่ไม่ไหวจริงๆค่ะ...ขนาดปัจจุบันเงินยังไม่พอจะซื้อเรื่องที่อยากเก็บให้ครบเลย...
ยังซื้อป๋าอัจฉริยะ กับจีซัส อยู่นะ
แต่ถ้าไม่ได้ไปร้าน และไม่เห็นหนังสือว่าออกแล้ว ก็ไม่ได้ตามซื้อนะคะ 55555
ขอนะอย่าปิดเลยยังมีหลายเรื่องเลยที่ยังอยากอ่านอยู่
ก็เข้าใจนะ ว่าสมัยนี้อะไร ๆ ก็แพงขึ้น ราคาจะปรับขึ้นมาบ้างจาก 45 บาท เป็น 50 บาท
(หรือถ้าบางเล่มหนาจริง ๆ จะเป็น 55 - 60 บาท ก็ได้) แต่บางค่ายนี่ก็
ต่อให้อ้างว่าคุณภาพกระดาษดี เป็นแบบถนอมสายตา แต่เท่าที่เห็นคือปรับราคาได้ทุกปี
ทั้งที่กระดาษก็ไม่ได้ต่างจากตอนแรกเท่าไหร่ (เอาจริง ๆ คือไม่ต่างเลย)
จากที่ซื้อตลอด ซื้อทุกเล่ม มาตอนนี้ ถ้าเล่มไหน เนื้อเรื่องไม่น่าสนใจ
หรือเป็นแนวการตลาดก็ขอบายล่ะ
มังงะก็ดี ดองตลอดปี อ้างอย่างเดียวคือ มีเยอะ แปลไม่ทัน แล้วพอนานปีไปเข้า สรุป
ดร็อป ซะงั้น คนซื้อมันเสียทั้งเงิน ทั้งเวลาอ่าน ทั้งเวลาติดตาม และที่สำคัญที่สุดคือ
เสียความรู้สึกสุด ๆ เพราะงั้นเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้ซื้อมังงะเหมือนก่อนแล้ว แล้วถ้าอนาคต
ราคามันขึ้นมาจนถึง 100 บาท เมื่อไหร่ ก็บ๊ายบายการ์ตูนไทย
เคยซื้อตั้งแต่สมัย เล่มละ 30 จนตอนนี้ ครึ่งร้อย บางเล่มเกินอีก
ถามว่า ซื้่อน้อยลงไปเมื่อไร
ก็ตั้งแต่ ต้องทนกับ กระดาษที่ขาดง่ายมาก
เข้าเล่ม กาวหลุดบ่อยๆ แล้วการตัดกระดาษ ที่บางหน้าดันไม่ขาดจากกัน
ข้างบนหน้านี้ติดไปแผ่น สองแผ่น ก็ทนซื้อเพราะไม่รู้จะอ่านที่ไหน
พอเจอเถื่อนตามเว็บเท่านั้นแหละ หลายๆเรื่องนี้ หยุดซื้อเลยทีเดียว
เพราะ ถ้าเป็นหนังสือ หยิบมาอ่านบ่อยๆ ก็กลัวจะหนังสือพังเอา
แต่หน้าเว็บนี้ไม่ต้องกลัว ภาพจะพังเพราะอ่านบ่อยๆ
กลัวแค่จะเสีย เท่านั้น
ที่จริงเราควรสนับสนุนการอ่านหนังสือน่ะคะเพราะการอ่านการอ่านการ์ตูนในอินเตอร์เน็ตน่ะถึงจะสะดวกแต่มันก็เป็นการทำร้ายสายตาของเราโดยไม่รู้ตัวด้วยแล้วที่แย่หนักคือการที่เราได้ยินกันว่าคนเอาแต่เล่นมือถืออ่านหนังสือน้อยมันยิ่งเหมือนเป็นการให้ประเทศเราโดนมองในเชิงดูถูกด้วยเหมือนกัน
อย่าหยุดพิมพ์เลย เพราะว่าเรายังชอบซื้อแบบเล่มอยู่ เป็นคนไม่ชอบอ่านในเว็บเน็ต แต่ชอบเก็บตังซื้อไว้ในชั้นหนังสือมากกว่า
เราชอบการ์ตูนที่เป็นเล่มๆแตะต้องได้เป็นชิ้นเป็นอัน มากกว่าe-bookที่ต้องมาเปิดเลื่อนๆนะ ยอมรับว่ายังอ่านสปอยด์อิ้งตามเว็บอยู่ แต่เรื่องไหนชอบถ้าออกมาเป็นเล่มก็ซื้อเก็บทุกเรื่องนะ
คุณภาพแย่พิมพ์ผิดพิมพ์ถูก หมึกเลอะ หน้าสลับ หน้าขาวฯลฯ เราไม่เคยบ่น คิดแค่ว่าอย่างน้อยก็มีให้อ่าน มีให้สะสม คิดว่าเป็นแรร์ไอเทมด้วยซ้ำไป แต่ว่า...ระยะหลัง(โดยเฉพาะวิบูลย์กิจ) ราคาหนังสือการ์ตูนแพงขึ้นมาก แต่คุณภาพเหมือนเดิม เผลอๆแย่ลง ไม่สมน้ำสมเนื้อกับราคาที่จ่ายเลย (บางสนพ.ปรับคุณภาพขึ้นตามราคา ดีแล้ว สมน้ำสมเนื้อกันดี)
ถึงอย่างนั้น เราก็ยังซื้อของคุณต่อไป คุณถือลิขสิทธิ์การ์ตูนที่เราชอบไว้หลายเรื่องมาก บางเรื่องก็ไม่มีให้อ่านในเน็ต เราก็ได้แต่รอไปเรื่อยๆ แต่ทำไมถึงทำแบบนี้? คุณออกช้าแค่ไหนเราไม่ว่า ปีละเล่มก็ไม่เป็นไร แต่ทำไมมาประกาศดองอย่างเป็นทางการแบบนี้ล่ะ? เราเสียใจมากนะ เหมือนโดนตัดความหวังเลย
สุดท้ายนี้ คำถามที่ว่า
"นายจะยังซื้อ...หนังสือการ์ตูน...ต่อไปใช่ไหม ???"
เราขอตอบนะ
- ซื้อจนกว่าจะซื้อไม่ได้อีกต่อไป.... นายล่ะ? จะยังพิมพ์การ์ตูนมาขายให้เราอยู่มั้ย?
ส่วนตัวนะ อยากอ่านเป็นเล่มมากกว่า....
และยังคงซื้อต่อ แม้จะเริ่มหายากแล้วก็ตาม
เพราะร้านหนังสือการ์ตูนส่วนใหญ่เริ่มปิดตัวลงไปค่อนข้างเยอะ
ปูลู.ฝากติดตาม แนะนำมังงะลายเส้นสวย(2)!!!
อ่านเป็นเล่มมันส์กว่าเยอะเพราะปกติอ่านแนวโซเน็นแนวต่อสู้ แข่งขันไรงี้ ไม่ปวดตาเหมือนอ่านออนไลน์อ่านแบบโหลดมาในมือถือในคอมงี้ เพราะงั้นปลื้มแบบเป็นเล่มมากกว่า
ส่วนตัวชอบอ่านเป็นเล่มมากกว่า แต่ว่าของสนพ.นี้ เรารู้สึกว่ามันแพงงงงงงง(แต่ก็ซื้อ) ดองหายไป3ปีขึ้นราคาอีก20บาท คุณภาพกระดาษก็เหมือนเดิมไม่เห็นจะดีขึ้นตรงไหนเลย ไอ่เราก็ร๊อรอว่าเมื่อไรจะออกสักที สุดท้ายก็ทำกันอย่างนี้อ้างโน่นอ้างนี่สารพัด
Ans..ชื้อต่อไม่เลิกเเน่..ถ้าเลิกจะไปหาชื้อต่อที่ไหน...
นายยังจะชื้อหนังสือการ์ตูนต่อไปใช่ไหม?
ตอบ ซื้อต่อไป อ่านเป็นเล่มมันให้ความรู้สึกแบบว่าให้คนอื่นยืมไปอ่านต่อได้ ได้แลกเปลี่ยนการ์ตูนกันอ่านทำให้จากคนไม่รู้จักกันกลายมาเป็นสนิทกันเพราะคุยเรื่องหนังสือการ์ตูน เพราะฉะนั้นอย่าปิด อย่าดอง
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?