เมื่อแม่ไม่เข้าใจไลฟ์สไตล์การเลี้ยงดูของพ่อกับฉัน #หัวโบราณ? (ระบาย+ยาว+เปิดใจ)

[ไม่เปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม]

เกริ่นก่อนว่าพ่อกับแม่หย่ากันมาได้เกือบสิบกว่าปีละ พ่อชนะการฟ้องหย่าและได้เลี้ยงดูเรา ส่วนแม่เรากับพ่อก็ไปเยี่ยมบ้างตอนปิดเทอม หรือมีโอกาส เราอยู่กับพ่อมีความสุขดี พ่อเลี้ยงเราแบบเพื่อน มีอะไรปรึกษากันไม่เคยว่า หรือตีเลยและเราก็ไม่เคยเกเร แต่มีเรื่องเดียวที่เราทำและสังคมคงคิดว่ามันไม่โอเคแต่พ่อเราก็ไม่ได้ว่าอะไร คือเรื่องเซ็ก

พ่อบอกเราเสมอว่ามีแฟน มีอะไรกันได้แต่ต้องดูแล ป้องกันตัวเอง พ่อสอนวิธีใช้ถุงยาง วิธีกินยา รวมทั้งสอนเรื่องเซ็กให้เรา แต่พ่อไม่ได้สอนให้เราไปมั่วหรือร้านนอนกับใครก็ได้ มันไร้ค่าเกินไป ถ้าเรามีแฟนและเราอยากมีอะไรกับแฟนก็สามารถทำได้ มันไม่ใช่เรื่องผิด จะมีบ้างที่เราเคยเกริ่นๆพูดกันว่าถ้าสักวันเราเจอคนที่พร้อมจะแต่งงาน แล้วเขาจะรับได้เหรอที่เราเคยมีอะไรกับใครมาก่อน แต่พ่อเราบอกกลับเราว่า

"ดูอย่างพ่อซิ แม่หนูเป็นคนแรกของพ่อ และพ่อก็คือคนแรกของแม่ แต่สุดท้ายเราก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ เราเข้ากันไม่ได้ ถึงแม้จะเป็นคนแรกของกันและกัน และพ่อมั่นใจว่าถ้าผู้ชายที่คิดจะแต่งงานกับลูกเขาแคร์เรื่องนี้ พ่อก็ว่าเขาไม่แมนพอที่จะอยู่กับลูกพ่อได้ "

เราก็ไม่รู้ว่าสังคมจะมองพ่อเราเลวร้ายไหม? แต่สำหรับเรา เรามองว่าครอบครัวเราโอเคแล้ว เราไม่เคยทะเลาะกับพ่อ ไม่เคยโกรธกัน ไม่เคยมีเรื่องอะไรปิดกัน ทุกวันนี้พ่อสามารถเป็นได้หมด ทั้งแม่ เพื่อน พี่ชาย ในขณะที่แม่ไม่สามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้เลย แม่มีครอบครัวใหม่ และเริ่มเข้ามาก้าวก่ายกับเราก็ตอนที่มีญาติบอกเรื่องที่เราไปเที่ยวค้างคืนกับแฟน

แม่บอกว่าพ่อเลี้ยงดูเราไม่ดี ปล่อยให้เราไปกับผู้ชายสองต่อสองได้ยังไง สังคมจะมองเราแบบไหน เรายังเด็กอยู่ ควรโฟกัสที่เรื่องเรียนมากกว่า อันนี้เรายอมรับว่าเรายังเด็กเพราะเรายังเรียนอยู่ อีกปีเดียวก็เข้ามหาลัยแล้ว แต่การเรียนเราก็ไม่เคยตก หรือแย่ เรามีตารางของเราเองว่าจะอ่านหนังสือวันไหน วันไหนเที่ยวได้ พักสมอง พ่อเข้าใจในส่วนนี้และเราก็มั่นใจว่าเราสามารถสอบเข้าคณะที่เราและพ่ออยากให้ได้ ได้! ไม่ใช่มั่นใจในตัวเองเกินไปแต่เพราะเราก็ตั้งใจเหมือนกัน การมีแฟน หรือเที่ยวไม่ได้การันตีว่าเด็กคนนั้นจะล้มเหลว หรือแย่เสมอไป

กลายเป็นว่าเราสามคนทะเลาะกัน เรื่องใหญ่ มีผู้ใหญ่หลายคนเข้ามาช่วยคุย จนเราทนไม่ได้เราเลยโต้กลับไป มันแรงสำหรับผู้ใหญ่แต่ถ้าไม่พูดในสิ่งที่คิด ผู้ใหญ่ก็ชอบคิดว่าตัวเองถูกอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งที่จริงโลกนี้มันไปถึงไหนแล้ว การที่เราเถียงก็ไม่ได้หมายความว่า "ก้าวร้าว" มันคือการแสดงความคิดเห็น เด็กสมัยนี้พอเถียงผู้ใหญ่ก็มองว่าก้าวร้าว ทั้งที่ผู้ใหญ่เองต่างหากไม่เคยรับฟัง มันถึงมีเรื่องมีราวกันอย่างทุกวันนี้ ที่เด็กคนอื่นทำตัวแย่บางทีอาจเพราะมีครอบครัวที่ีไม่เข้าใจ หัวโบราณนี่แหละ (บางเรื่องมันก็ดี แต่บางเรื่องผู้ใหญ่ก็ต้่องฟังกันบ้าง)

แม่เงียบไปพักใหญ่ จนมาเมื่อไม่กี่วันแกก็มาหาเรากับพ่อ บอกว่าแกรับไม่ได้หรอกกับไลฟ์สไตล์การเลี้ยงดูของพ่อ แกบอกให้เราย้ายไปอยู่กับแก แต่เรายืนยันไม่ไป แกโกรธมากและบอกกับเรากับพ่อว่า งั้นก็เชิญใช้ชีวิตกันไปเองเลย เรากับพ่อก็ไม่ได้คิดกันมาก เพราะยังไงเดี๋ยวถ้าแม่หายโกรธก็คงกลับมาเอง ไม่ใช่เรากับพ่อใจร้ายนะ แต่เรากับพ่อเห็นกันว่าสิ่งที่เราสองคนทำกันอยู่มันไม่ได้เสียหายอะไร และก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนหรือภาระให้สังคม กลับกันในความคิดเราถ้ามีพ่อแม่เข้าใจเราอย่างที่พ่อเราเป็น เราว่าก็ดีนะ

เราจะทำให้ดูว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงมาแบบนี้จะสามารถประสบความสำเร็จได้ ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ผู้ใหญ่บางคนกล่าวหา และเราเชื่อว่ามีคนอีกหลายคนที่เป็นเหมือนเรา และเราอยากเป็นกำลังใจให้(หรือมีเราเป็นคนเดียว 555)

Comments

[สบายสบาย]

ดีมากๆ เราเป็นกำลังใจให้นะ ต้องทำให้เห็นว่าเราประสบความสำเร็จให้ได้

[ArisaSmile]

คือเค้าเป็นพ่อดีมาก คือบอกแม่ไปเลยว่า แม่ห้ามให้หนูมีแฟนไม่ได้หรอก เพราะยังไงเราก็ต้องมีแฟนอยู่ดีในซักวันใช่มั๊ยล่ะการมีความรักมันเป็นเรื่องปกติธรรมดา ถ้าจะเรียนอย่างเดียวคงไม่ไหวมันทำให้ชีวิตไม่มีรสชาติ พ่อของเธอคงเป็นคนที่เข้าใจชีวิตวัยรุ่นสมัยนี้ว่าเราต้องการอะไร และอะไรควรไม่ควรทำ อะไรควรป้องกัน ไม่ใช่ว่าต้องปิดกั้นวัยรุ่นไม่ให้เผชิญกับสังคมวัยรุ่นในปัจจุบัน แต่หากมองในอีกมุมหนึ่งคือ แม่ของเธอคงเป็นห่วงเธอ หากเธอพลาดพลั้งแล้วถูกแฟนทิ้งไปแล้วท่านคงรู้สึกเสียมาก แล้วคงจะโทษพ่อว่าเลี้ยงลูกไม่ดีเอง ทำให้ทะเลาะกันใหญ่โต ดังนั้นขึ้นอยู่กับเธอแล้วล่ะนะ ว่าเธอจะลองใช้ชีวิตแบบไหน แบบมีสีสัน หรือแบบโบราณ  เราคงช่วยเธอได้แค่นี้แหละ(อันที่จริงคิดไม่ออก555+)

สู้ๆนะ......

ปล. ตอนที่เธอบอกว่ารวมทั้งสอนเรื่องเซกส์นี่คืออะไรหรอ เรานี่งง(คิดตื้นๆนะ แต่มันดันลื่นไปเอง555+) อุ๊ยขอโทษๆๆๆ