Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ไม่ซื้อเสื้อผ้าใหม่เป็นเวลาหนึ่งปี .. คุณทำได้ไหม?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
Blogpost โดย Chiara Milford

ครั้งสุดท้ายที่ฉันซื้อชุดใหม่คือเมื่อเดือนกรกฎาคม 2557 มันเป็นชุดเดรสน่ารักๆสีฟ้าสำหรับวันสำเร็จการศึกษาของฉันเอง ตั้งแต่นั้นเสื้อผ้าทุกชิ้นในตู้เสื้อผ้ามาจากการซื้อมือสอง รับช่วงต่อมา หรือยืมมา

การสาบานว่าจะเลิกช้อปปิ้งอาจฟังดูน่าชื่นชม และเป็นการทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ที่จริงแล้วนั่นไม่ใช่เหตุผล เหตุผลหลักที่ฉันหยุดซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆคือด้วยความขี้เกียจของฉันเอง ไม่ใช่แค่เพราะว่าเพื่อสิ่งแวดล้อม (ถึงแม้ว่ามันจะรู้สึกดีมากก็ตาม) คุณอาจคิดว่าคุณคงทำแบบนั้นไม่ได้ แต่เมื่อลงมือทำจริงไม่ใช่เรื่องยากเลย

การซื้อทุกครั้งมีผลกระทบมากกว่าการเพิ่มเสื้อผ้าชิ้นใหม่ในตู้เสื้อผ้า เมื่อคุณตระหนักได้เช่นนี้จะทำให้การตัดสินใจเลิกซื้อเสื้อผ้าใหม่ไม่ใช่เรื่องยาก แน่นอนว่าการเลิกบริโภคนิยมไปเลยนั้นเป็นการก้าวกระโดดที่สำคัญ ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะทำเช่นนั้นได้

แฟชั่นที่ออกแบบมาให้ใช้แล้วทิ้ง ทำให้เกิดความสะดวกอย่างไม่น่าเชื่อ และยังชวนให้เสพติดด้วย แต่การบริโภคเกินตัวนั้นเป็นเชื้อเพลิงที่นำไปสู่การใช้สารพิษในห่วงโซ่อุปทาน และเปลี่ยนผืนดินให้กลายเป็นพื้นที่ฝังกลบขยะจากการซื้อฟุ่มเฟือย เราจำเป็นต้องลดแรงอุปทานจากผู้ค้า ไม่ใช่เพิ่มมากขึ้น

ตอนนี้ในตู้เสื้อผ้าของฉันมีเสื้อผ้า 31 ชิ้นไม่รวมชุดชั้นใน ฉันแน่ใจว่ามันไม่น้อย แต่ฉันสามารถระบุเสื้อผ้าทุกชิ้นที่ฉันเป็นเจ้าของได้ บางชิ้นฉันใส่มาเป็นปี และยังคงสวมใส่ได้ เช่นเดียวกับเสื้อผ้าฤดูร้อนที่ฉันซื้อสำหรับปิกนิกเมื่อปี 2552 หรือกางเกงขาสั้นดิสโก้ระยิบระยับที่เคยใส่นับครั้งไม่ถ้วน

แฟชั่นเปลี่ยนแต่สไตล์ไม่เปลี่ยน ฉันกล้าให้คุณหาเสื้อผ้าเก่าของคุณสักชิ้นที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสไตล์หรือรูปแบบ แต่ยังคงดูดีอยู่ แม้จะขัดแย้งกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกแฟชั่น ก็ไม่สำคัญ เสื้อผ้าเก่าของฉันเหมาะกับฉัน ฉันสวมใส่มานานเหมือนเป็นส่วนหนี่งของความเป็นตัวฉัน

ซ่อมแซมให้ดูทันสมัย

บางทีคุณไม่ควรรับคำแนะนำเกี่ยวกับแฟชั่นจากฉัน เพราะว่าฉันใส่ยีนส์ตัวเดิมมาตั้งแต่อายุ 18

ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีขนาดตัวเท่าเดิมเหมือนปีที่ผ่านๆมา การปรับขนาดกางเกงยีนส์มีราคาพอๆ กับการซื้อยีนส์ตัวใหม่ แต่เราก็สามารถวัดให้พอดีตัวเราได้ ดีกว่าสุ่มเลือกซื้อจากการช้อปปิ้ง

เสื้อผ้าของฉันเก่า และมีร่องรอยของเรื่องราวที่พวกมันเคยผ่านมากับฉัน มีกระดุมหายไปและมีรอยเปื้อนที่ซักไม่ออกและมีรูอยู่ทุกที่ ถ้าหากว่า Kanye West สามารถออกไปข้างนอกด้วยการใส่เสื้อยืดที่มีรูได้ ดังนั้นฉันก็สามารถทำได้ หรือฉันจะพยายามซ่อมแซมมัน Upcycling เป็นวลีที่นิยมมากใน slow-fashion และมันช่วยปรับปรุงอุตสาหกรรมให้ดีขึ้น

ร้านขายของมือสอง

ขอบคุณการบูมของแฟชั่นแบบฮิปสเตอร์ แฟชั่นแบบวินเทจก็เติบโตขึ้นด้วย โดยแหล่งที่รวบรวมสินค้ายุคเก่าอย่างร้านขายของมือสอง ตลาดนัด และร้านค้าราคาประหยัดต่างก็เต็มไปด้วยเหล่าแฟชั่นนิสต้าที่ช้อปหาของคูลๆ

มันช่วยให้การแต่งกายยุค 80 นั้นหวนกลับมาอีกครั้ง เมื่อวันก่อนเพื่อนของฉันให้ความเห็นว่าฉันดูเหมือนคุณยายของเฮอร์ไมโอนี ซึ่งก็ไม่แย่เท่าไหร่ที่คุณสวมใส่เสื้อคลุมอูฐตัวโคร่ง (ประมาณ 300 กว่าบาทจากตลาดนัด Amsterdam’s Ij-Hallen) และหมวกที่คุณเจอมันตกอยู่บนพื้นรถบัส สไตล์คือสิ่งที่จะทำให้คุณรู้สึกดี ดูแปลก คุณไม่จำเป็นต้องกลมกลืนไปกับคนอื่นหรอก

ฉันโชคดีที่อยู่ที่เบอร์ลิน สถานที่ที่มีตลาดนัดวันเว้นวัน และหาซื้อเสื้อผ้ามือสองได้ง่าย แต่สำหรับใครที่ไม่ได้อยู่ใกล้ร้านค้าราคาประหยัด ก็มีร้านค้าออนไลน์จำนวนมากที่มีคนจำหน่ายเสื้อผ้าวินเทจ

ข้อดี

 - ราคาถูก
 - คุณจะทันสมัยโดยอัตโนมัติ
 - เมื่อใครสักคนชมคุณ คุณตอบได้เต็มปากว่า  “ขอบคุณ มันคือสไตล์วินเทจ” 

ข้อด้อย

 - คุณไม่สามารถได้ในสิ่งที่คุณต้องการเสมอ (แต่คุณเคยเมื่อไหร่? แฟชั่นที่ออกแบบมาให้ใช้แล้วทิ้ง เป็นกระแสสังคม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันทันสมัย)
 - เป็นเรื่องยากที่คุณจะเจอสิ่งที่คุณกำลังมองหาดังนั้นอย่าไปตามวิสัยทัศน์ภายในใจ เปิดใจมองหาสิ่งที่แตกต่าง

ทีม SWAP

แฟชั่นรีไซเคิล ไม่กี่ปีที่ผ่านมาคือยุค 60s แต่ตอนนี้ยุค 70s กำลังจะกลับมา แนวโน้มแฟชั่นในปัจจุบันมีการสวมใส่เฉพาะตัว เสื้อผ้าแบบเก่า และดูคล้ายกับที่พ่อแม่ของคุณทำเมื่อพวกเขายังเป็นหนุ่มสาว วิธีที่ดีที่จะได้ลักษณะนี้คืออยู่กับเสื้อผ้าเก่าๆและอยู่ในที่ที่จะได้รับมันมากกว่าได้มาจากใครสักคนที่เคยใช้มาแล้ว

หากทุกคนแบ่งปันเสื้อผ้าของพวกเขาแก่คนอื่นๆ เราจะลดการผลิตเสื้อผ้าใหม่ลงได้ครึ่งหนึ่ง

ฉันบังเอิญยืมเสื้อผ้ามาประมาณหนึ่งในห้าซึ่งในตอนนี้กลายเป็นของฉันไปแล้ว ฉันได้เสื้อถักไหมพรมมาจากแฟนเก่าของแฟนฉัน เสื้อสีดำจากน้องสาวเขา เสื้อเชิ้ตบางตัวของเขา ผ้าพันคอและหมวก 2 ใบจากแม่ของฉันอีกด้วย

ฉันไม่จำเป็นต้องชี้แนะวิธีเหล่านั้น แต่มีกลุ่มต่างๆ บนโซเชียลมีเดียและบางเว็บไซต์ที่เป็นพื้นที่แบ่งปันเสื้อผ้า  และแลกเปลี่ยนสิ่งของเก่าๆของคุณกับคนอื่นๆ

บางรายการเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาจากของมือสอง  เช่น ชุดชั้นใน แต่ยังมีตัวเลือกที่ไม่เกี่ยวกับแฟชั่นที่ใช้แล้วทิ้ง เพียงแค่กำหนดเป้าหมายของตัวเอง หาสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเอง แฟชั่นไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครสวมใส่อะไร มันเป็นเรื่องของความรู้สึกที่น่าตื่นตาตื่นใจในเสื้อผ้าของคุณ เรื่องราวที่มาของรอยขาดต่างๆ ความเก่าแก่ และการค้นหาจากร้านค้ามือสอง

บางทีคุณอาจจะลดปริมาณของเสื้อผ้าใหม่ที่คุณซื้อได้ หรือบางทีคุณจะอดทนและให้คำมั่นว่าคุณจะทำทุกอย่างด้วยตัวคุณเอง เริ่มต้นง่ายๆ ในสุดสัปดาห์นี้ ด้วยการไม่ซื้ออะไรยังไงล่ะ

Chiara Milford นักเขียนอิสระ อาศัยอยู่ในกรุงเบอร์ลิน เธอพยายามดำรงชีวิตด้วยการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


เรียบเรียงโดย ภาวิณี สีสวาสดิ์ อาสาสมัครกรีนพีซ

ที่มาwww.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/blog/55483

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

Personalopinions 5 ก.พ. 59 เวลา 19:19 น. 1

ถ้าเสื้อผ้าเก่ายังใส่ได้ เราเองก็ไม่ซื้อใหม่หรอก เราพวกงก เสียดายเงิน เราจนมาก่อน

เราซื้อเสื้อใหม่เพิ่ม1ตัว เมื่อปี56 เพราะตัวเก่าขาดจนใส่ไม่ได้! และ เสื้อทำงาน เรายังมีแค่2ชุดเลย เราซักเอา  

และจนตอนนี้ยังไม่ได้ซื้อเลย ไม่ว่าจะเสื้อผ้า ถุวเท้า รองเท้า จนเพื่อนทักนะ ไปเดินห้างเป็นเพื่อนเขา เขาก็ถาม เมื่อไหร่จะเปลี่ยน แต่เรามีตัวเก่ง เราก็อยากใส่จนใส่ไม่ได้แหละ5555 

0