Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รวมประโยคเด็ด โดนใจ ! ตามรอย 6 หนังรางวัลออสการ์ 2016

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

(ดนตรีออสการ์จงมา ! )

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ เด็กดี กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ 2 ของเราแล้ว และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เราเชื่อได้เลยว่า เหล่าชุมชนคนรักการดูหนัง ต้องไม่พลาดการประกาศรางวัลนี้เป็นแน่ นั่นก็คือ การประกาศรางวัล Oscar ประจำปี 2016 ตอนเราดูเนี๊ยลุ้นตัวเกร็งไปหมด (เราอยู่ทีม เฮียลีโอกับเจ๊เคธนะจะบอกให้ :P)

แต่วันนี้ เราไม่ได้จะมาบอกว่าหนังเรื่องใดหรือใครได้รางวัลหรอกนะคะ เรามีอะไรที่เด็ดกว่านั้นมานำเสนอ  นั่นก็คือ !! ประโยคเด็ด (Quote) คม ๆ และโดนใจ (สำหรับเรา) จากหนังที่ได้รางวัลหรือเข้าชิงรางวัล Oscar 2016 ในสาขาต่างๆ เราคิดว่า ทุกประโยคหรือบริบทที่พูดนั้น มันนำไปเป็นแรงบันดาลใจในชีวิตประจำวันได้นะเอ่ออออ


เริ่มกันเลย !



1. The Revenant (ในที่สุดเฮียลีโอก็ได้กับเขาสักทีน้ำตาจะไหล)

รางวัลที่ได้รับคือ :  กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม / นักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม และ กำกับภาพยอดเยี่ยม

(Source: http://www.joblo.com/newsimages1/the-revenant-review-1.jpg ) and edited by me


The Revenant ถูกสร้างมาจากเรื่องจริงในปี 1823  ของ ฮิวจ์ นักเดินป่าผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญและอดทน (ถึงขั้นถึกเลยทีเดียว) เขาเข้าร่วมสมัครการเดินสำรวจแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ พร้อมกับลูกชาย แต่ในขณะการเดินทางอยู่นั้น ฮิวจ์ ดันโดนเจ้าหมียักษ์ในป่าใหญ่โจมตี ปางตาย และด้วยความเจ็บแสนสาหัสนี้ ฮิวจ์เลยเหมือนตัวถ่วงของทีม แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จอห์น ฟิตช์เจอรัลด์ (เพื่อนของฮัวจ์ ที่เคยเป็นอาชญากรหลบหนีมาก่อน) คิดว่าฮิวจ์และลูกชายเป็นเหมือนตัวถ่วงของทีม จอห์นเลยตัดสินใจฆ่าลูกชายของฮิวจ์ทิ้งและฝังฮิวจ์ทั้งเป็น แต่หารู้ไม่ ฮิวจ์ไม่ได้ตายนะจ๊ะ เขาฟื้นขึ้นมาพร้อมกับประจุความแค้นที่พร้อมระเบิดทุกเมื่อ และนี้คือจุดเริ่มต้นของการออกตามล่าชำระแค้น และที่สำคัญฮิวจ์พระเอกของเรายังซ่อนเบื้องหลังบางอย่างเอาไว้ซะด้วย


เอาละมาถึงประโยคเด็ดโดนใจกันบ้าง 

“As Long as you can still grab a breath, you fight. You breathe … keep breathing.

“ตราบใดที่คุณยังมีลมหายใจอยู่ คุณต้องสู้! คุณยังหายใจ จงหายใจต่อไป."

ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเจออุปสรรคหรือเรื่องที่ทำให้เราเศร้า ทุกข์ใจ ขอให้จำไว้ ต้องสู้ ! เท่านั้น (อีกไม่กี่วันสอบ ตราบใดที่ยังมีกองหนังสืออยู่ตรงหน้า โปรดจำไว้ต้องสู้เท่านั้น! )



2. Room 

รางวัลที่ได้รับ : นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม 


(Source: https://thedullwoodexperiment.files.wordpress.com/2016/02/room-scene2.jpg ) and edited by me


บอกก่อนเลยว่า เรื่อง Room นี้ คนที่ดู Trailer อาจจะมองแค่ว่า เอ่อ เป็นเรื่องราวของเด็กคนหนึ่งที่ถูกขังไว้กับแม่ในห้องหรือบ้านหลังเล็ก ๆ แค่นั้นใช่ไหม ?? แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ มันมีมากกว่านั้น เพราะ Room เป็นเรื่องราวของ จอย เด็กสาวแสนดีที่วันหนึ่งเธอตั้งใจจะเข้าไปช่วยเหลือหมาน้อยที่บาดเจ็บของชายคนหนึ่งนามว่า นิค แต่ จอย หารู้ไม่ว่า เพราะความใจดีของเธอเป็นเหมือนเข็มทิศที่ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล นิค ขัง จอย ไว้ห้องเก็บของหลังบ้านเพื่อเป็นเครื่องมือบำบัดความใคร่ ยาวนานกว่า 7 ปี เพราะจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมนี้ทำให้ จอย ได้กำเนิด  แจ็ค เด็กชายผู้เป็นเหมือนเข็มทิศแห่งชีวิตเธออีกครั้ง เธอเลี้ยงดูลูกชายของเธอในห้องเก็บของเล็ก ๆ สี่เหลี่ยม และในวันหนึ่ง แจ็คก็นำพาอิสรภาพมาให้เธอ แต่ก็อย่างว่า การปรับตัวที่ฉับพลัน บวกกับสภาพจิตใจที่ถูกตอกย้ำ ทำให้หนังเรื่องนี้ นำเสนอแง่มุมทางจิตวิทยาออกมาได้เป็นอย่างดี

และประโยคที่เราคิดว่ากินใจเราสำหรับหนังเรื่องนี้ คงนี้ไม่พ้นประโยคนี้ ที่ แจ็ค พูดปลอบประโลมใจแม่ของเขาเพื่อให้มีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป

“There are so many things out there. And sometimes it’s scary. But that’s ok. Because it’s still just you and me”

“รู้อะไรไหม? โลกภายนอกล้วนเต็มไปด้วยสิ่งที่เราไม่เคยพบเจอ ซึ่งในบางครั้งมันก็ดูน่ากลัว แต่มันจะผ่านไปได้ด้วยดีนะ เพราะว่า ณ ตอนนี้ ที่นี่ มีแค่เธอกับฉันอยู่ด้วยกัน“

ตราบใดที่ยังมีคนที่เรารักและคนที่รักเราอยู่ข้างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงแค่ไหน เราว่าเราจะผ่านมันไปได้สบายๆ เลย





ไปอ่านต่อที่ Comment กันดีกว่าค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

Chutamas T 2 มี.ค. 59 เวลา 12:19 น. 1
มาต่อกันเลยค่า :) 

3. Inside Out 

รางวัลที่ได้รับ: แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม




(Source: http://f.ptcdn.info/829/034/000/1440594345-insideoutd-o.jpg ) and edited by me


เรามั่นใจเลยว่าไม่มีใครไม่รู้จักภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้ Inside Out  เรื่องราวของเหล่าความรู้สึกต่าง ๆ อย่าง ความสุข / ความเศร้า / ความโกรธ / ความกลัว และ ความน่ารังเกียจ เหล่าความรู้สึกเหล่านี้อยู่ในหัวของเด็กสาววัย 11 ปี (วัยฮอร์โมนกำลังเปลี่ยนแปลงเลยทีเดียว) ที่มีชื่อว่า ‘ไรลี่ย์’ เธออาศัยอยู่ที่เมืองหนึ่งในสหรัฐอเมริกา แต่บังเอิญวันหนึ่งคุณพ่อของไรลี่ย์จำเป็นต้องย้ายไปทำงานที่ซานฟรานซิสโก และเพราะเรื่องนี้ ทำให้เกิดความอลหม่านในหัวไรลี่ย์  พูดได้เลยว่า แอนิเมชั่นเรื่องนี้เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ซึ้งน้ำตาแตกตามๆ กัน



เอาละ ประโยคที่เราคิดว่าโดนใจ และจำได้เลย ว่าตอนไปดู เป็นตอนที่ Sadness พูดประโยคนี้เพื่อบอกกับบิ๊งบ่อง เพื่อนในจินตนาการของไรลีย์ที่กำลังเศร้าเพราะตนเองกำลังจะหาย กลายเป็นเพียงแค่ความทรงจำ   ทำให้เราร้องไห้ตามเลย



“Crying helps me slow down and obsess over the weight of life’s problems.”

“บางครั้งการร้องไห้ก็ช่วยให้ฉันเย็นลงและมันช่วยผ่อนคลายเรื่องแย่ๆ ในชีวิตฉันได้”



ก็จริงนะ เราว่าบางครั้งเวลาที่เรารู้สึกท้อก็ไม่จำเป็นต้องฝืนทำเข้มแข็งตลอดเวลาหรอก ร้องไห้ระบายมันออกมาบ้างก็ได้




4. The Danish Girl 

รางวัลที่ได้รับ: นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม


(Source: http://media3.s-nbcnews.com/i/newscms/2015_36/757501/the-danish-girl-tdy-pc-tease-ae_9feb44192d5a1d032e31c8f03c130f4f.jpg  ) and edited by me


The Danish Girl เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงของผู้หญิงข้ามเพศคนหนึ่ง ชื่อว่า ‘ลิลี่’  แต่เดิมแล้ว ลิลี่ มีชื่อว่า ไอน่า เป็นจิตรกรอยู่ที่เดนมาร์ก อาศัยอยู่กับภรรยาของเขาชื่อ เกอร์ดาร์ ที่เป็นจิตกรเหมือนกัน เรื่องราวทั้งหมดมันเกิดขึ้นเมื่อ       เกอร์ดาร์ ต้องการหาคนมาเป็นแบบวาดให้กับตัวเอง และไม่รู้จะไปหาใคร จึงเลือกสามีของตัวเองมาเป็นแบบ และประสบการณ์ในครั้งนี้เหมือนประกายไฟเล็ก ๆ ที่ไปปลุกจิตใจของ ลิลี่ ให้เข้ามาแทนที่จิตใจของ ไอน่า ไปตลอดกาล แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เกอร์ดาร์ ก็ยังไม่หมดรัก ลิลี่ หรือ ไอน่า ซึ่งคนเดียวที่เธอรัก และ รักไปทั้งหัวใจ



ประโยคนี้ได้พรากน้ำตาของเราอีก (แล้ว) เช่นเคย เป็นบทพูดของไอน่าที่พูดอธิบายให้เกอร์ดาร์เข้าใจว่าเพราะอะไรเขาถึงเป็นแบบนี้ และเป็นเหมือนการบอกและย้ำว่า ลึก ๆ แล้วเขาก็ยังรักเธอไม่เปลี่ยนแปลง



“I love you, because you are the only person who made sense of me. And made me, possible.”

“ฉันรักเธอ เพราะว่า เธอเป็นเพียงคนเดียวที่เข้าถึงจิตใจฉัน และทำให้ฉันเป็นจริงขึ้นมาได้”


ถ้าเราเจอใครสักคนที่เป็นเหมือนแรงบันดาลใจ เราจะเอาประโยคนี้ไปพูดกับเขา >///<




5. Spotlight 

รางวัลที่ได้รับ:   ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม


(Source: https://i.ytimg.com/vi/KTfhHXcCM8Q/maxresdefault.jpg   ) and edited by me


Spotlight เป็นภาพยนตร์สร้างมาจากเรื่องจริง ที่คนข่าว นักนิเทศศาสตร์ ควรดูเป็นอย่างยิ่ง แต่ใช่ว่า วัยรุ่นใสๆ อย่างเราจะดูไม่ได้นะจ๊ะ ว่าด้วยเรื่องราวของทีมข่าวพิเศษในสำนักงานหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า Spotlight ซึ่งทีมนี้มีการทำงานที่ค่อนข้างเฉพาะกิจ เป็นเหมือนทีมสืบข่าวที่ค่อนข้างเจาะลึก ล้วงลับและเด็ด วันหนึ่งทีม Spotlight ได้รับโจทย์ให้รื้อข่าวที่เกี่ยวข้องกับความเสื่อมเสียทางศาสนา (การล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของเหล่าบาทหลวงมากกว่า 20 คน) และค้นหาความจริง พร้อมทั้งตีแผ่ความสีเทาของเรื่องนี้แก่สังคมที่มีเหล่าศาสนาและบาทหลวงเป็นเหมือนเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ 



บทพูดต่อไปนี้เป็นบทพูดที่ ไมค์ สมาชิกคนหนึ่งในทีม Spotlight ระเบิดอารมณ์ของตัวเองออกมาเพื่อให้หัวหน้า บก. ของเขาตีแผ่ความจริงที่เน่าเฟะเหล่านี้เสียที




“They knew and they let it happen! It could've been you, it could've been me, it could've been any of us.”

“พวกเขารู้แต่พวกเขาก็ยังปล่อยให้มันเกิดขึ้น ! มันอาจจะเกิดขึ้นกับคุณ มันอาจจะเกิดขึ้นกับฉัน หรือมันอาจจะเกิดขึ้นกับพวกเราคนใดคนหนึ่งก็เป็นได้ ! “


เราว่านะประโยคนี้ ตีแผ่สังคมบ้านเมืองเราในปัจจุบันได้ดีเลยทีเดียว


มีของแถมอีก Comment นะแจ๊ะ 
0
Chutamas T 2 มี.ค. 59 เวลา 12:39 น. 2

และเรื่องสุดท้ายนี้เป็นเรื่องแถมแล้วกัน

เป็นเรื่องที่เราเชียร์ว่าหน้าจะได้นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมแต่ได้แค่เข้าชิงเท่านั้น ! )



6. Carol 

รางวัลที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง: นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม / นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม และ อีกมากมาย 



(Source: http://vertigomedia.hu/wp-content/uploads/carol_02.jpg ) and edited by me


Carol เป็นเรื่องราวของความรักต้องห้ามระหว่างหญิง-หญิงในสมัย ค.ศ. 1950 ที่อยู่ในสังคมชั้นสูง แครอล แม่หม่ายสาวแสนสวยที่เผลอใจไปรักพนักงานสาวที่ขายของในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งประหนึ่งรักแรกพบ แต่ใครว่าความรักครั้งนี้จะราบรื่น ด้วยความแตกต่างทางสังคม และ ปัญหาส่วนตัว เรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นเหมือนบททดสอบชี้ค่าวัดความรักของทั้งสอง


คำพูดต่อไปนี้เป็นคำพูดของแครอล ที่พูดกับ เธอร์เลส ผู้หญิงที่แครอลตกหลุมรักอย่างสุดใจ ก่อนที่เธอจากหล่อนไป


 “Please believe that I would like do anything to see you happy and so I do the only thing I can – I release you.”


“ได้โปรดเชื่อฉันเถอะที่รัก ฉันจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เธอมีความสุข และ ทำทุกอย่างที่ฉันจะทำได้คือ นั้นก็คือ การปล่อยเธอไป”

ขอแถมอีกประโยคน่ะ  เป็นประโยค Classic ที่ใคร ๆ ก็พูดได้ในชีวิตประจำวัน เป็นประโยคที่ แครอลพูดต่อจากประโยคด้านบนเนี๊ยแหละค่ะ

 (Source: http://www.nybooks.com/wp-content/uploads/2015/12/carol.jpg  ) and edited by me


" I love you - ฉันรักเธอ"

อย่างไรก็ตามยังมีหลากหลายประโยค และ หลากหลายเรื่องราวที่เราอยากจะเอามานำเสนอแต่เราเลือกเรื่องที่เราอินและเข้าใจมากที่สุดมา หากแปลผิดแปลกไปจากพากษ์ไทย ยังไงก็ขออภัยด้วยค่ะ แต่เรามั่นใจว่า ความหมายไม่ผิดเพี้ยนไปจากเดิมแน่นอน



สุดท้ายนี้ขอบคุณที่อ่านและ Support นะคะ

ขอฝากกระทู้นี้ไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ

(http://www.dek-d.com/board/view/3610726/
แนะนำ 4 Series US. ต้อนรับปิดเทอมยาวว !! )

ถ้าหากอยากพูดคุยเรื่องหนัง อัพเดตรางวัลอื่น ๆ หรืออยากได้ Quote โดนใจเรื่องไหนอีก มาคอมเม้นท์กันได้เลยค่า



บ๊ายบายยยยย :P

0
Chutamas T 3 มี.ค. 59 เวลา 10:32 น. 5-1

หนูขอโทษ เรื่องนี้หนูไม่ได้ดู แต่เดี๋ยวแปล Quote ให้นะจ๊ะ ><

0
capricorno 3 มี.ค. 59 เวลา 15:01 น. 6

“As Long as you can still grab a breath, you fight. You breathe … keep breathing.

“ตราบใดที่คุณยังมีลมหายใจอยู่ คุณต้องสู้! คุณยังหายใจ จงเก็บรักษาลมหายใจนั้นไว้."

keep คำนี้ ไม่น่าจะแปลว่า เก็บรักษา
น่าจะแปลได้ประมาณว่า
จงหายใจต่อไป แบบนี้มากกว่า 
ตัวอย่าง

keep in touch , keep smiling , keep on , keep away 

1
Chutamas T 3 มี.ค. 59 เวลา 15:08 น. 6-1

ขอบคุณมาก ๆ เลยค่า จะเอาไปแก้ไขเพิ่มเติมนะคะ

0
maimaiwhan 3 มี.ค. 59 เวลา 19:54 น. 7

Room คือหักมุมมากกกก ทีแรกตอนที่ดูตัวอย่างไม่คิดว่าที่มาจะเป็นแบบนี้ เรื่องที่เพื่อนไปดูแล้วมาแนะนำก็ Room กับ Carol นี่แหละ

แต่inside out นี่คือที่สุดจริงๆ

 

1
Chutamas T 7 มี.ค. 59 เวลา 11:55 น. 7-1

แนะนำ Carol / Room เลยค่า ปล. เว็บไซต์ออนไลน์บางเว็บมีแล้วนะคะ :) รักเลย

0