Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แนะนำ 5 หนัง Comedy ภาคต่อ ขำน้ำตาเล็ด

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาวเด็กดีทุกคน


หลังจากที่เริ่มเปิดเทอมกันไป บางคนเริ่มมีงาน การบ้าน รายงาน กันบ้างแล้วใช่ไหมละ 

พองานมา เรื่องต่างๆ รุมเร้า ความเครียดก็มาด้วย อีกทั้งกระทู้ที่แล้วที่เราตั้ง ยังเป็นกระทู้ ดราม่า กระชากน้ำตาอีก 

โถววววว งั้นวันนี้เราขอเสนอ หนัง Comedy โปก ฮา ออกแนว Dirty Joke หน่อยๆ พอขบขัน แอบแฝงด้วยข้อคิด

 และ บอกก่อน หนังที่เรานำเสนอนั้น เป็นหนังภาคต่อทั้งสิ้น 

ดูกันให้ตาแฉะไปข้างนึงเลย 

งั้นอย่ารอช้า เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า 

ปล. กระทู้นี้ เป็นกระทู้เพื่อแสดงความคิดเห็น หากผิดพลาดประการใด หรือ ไม่ถูกใจใคร ขออภัยมาใน ทีนี้ด้วยค่ะ

ปล. 2 เวลาดูหนัง Comedy แบบนี้ เราแนะนำให้ดูพากย์ไทย นะคะ ไม่ใช่อะไร เพื่ออรรถรส มันส์จริงๆ 



1. Ted (1-2)





ไม่ว่าจะเป็นใคร เพศอะไร หรือเกิดมาเป็นอะไร สุดท้ายแล้ว เราก็สามารถเป็นครอบครัวเดียวกันได้ ขอแค่มีความเข้าใจ และความรู้สึกที่ตรงกันก็พอ



(Source: http://www.screendaily.com/pictures/636xAny/2/6/8/1221268_Ted-2-Wallpapers.jpg )


ใครมันจะไปรู้ว่าคำอธิษฐานของเด็กชายตัวน้อย ที่อยากให้แค่ตุ๊กตาหมีของเขาพูดได้เหมือนมีชีวิต มันจะกลายเป็นจริง (ชั่วนิรันทร์) จอห์น’ (Mark Wahlberg)  ชายหนุ่มไม่เอาไหนคนหนึ่งที่ตอนเด็ก ดันขอพรให้ตุ๊กตาหมีของเขาพูดได้ และมันก็ดันพูดได้จริงๆ จนเขาโตเป็นหนุ่ม ตุ๊กตาหมีของเขา Ted ก็โตขึ้นไปพร้อมกับเขาเช่นกัน เรื่องราวของตุ๊กตาหมีพูดได้ เดินได้ เหมือนมีชีวิตนั้น กระฉ่อนออกไปทั่วเมือง ทำให้ Ted เริ่มมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก อีกทั้งยังเป็นที่หมายปองของคนที่คิดไม่ดีอีกด้วย 




(Source: https://themoviemylife.files.wordpress.com/2015/07/screen-shot-2015-07-20-at-15-34-15.png )


เวลาที่ดู ted ทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นภาค 1 หรือ 2 บอกตามตรง เราหัวเราะค้างตลอด ยิ่งเป็นเวลายิงมุก Dirty แบบ Drug หน่อย  (ยิ่งขำเข้าไปใหญ่) จริง แล้วเรื่องนี้สอนเรื่องมิตรภาพและครอบครัวได้ดีเลยนะ ตอนภาคแรก สอนเรื่องมิตรภาพ เพราะมีอยู่ฉากหนึ่งที่เหมือน เท็ดและจอห์นจะทะเลาะกัน แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เขารู้สึกได้ว่า หากขาดใคร คนใดคนหนึ่งไป ก็ไม่สามารถมีใครที่จะเข้ามาแทนที่เพื่อนซี้กันตลอดไปของเขาได้ ในภาคที่ 2 สอนเรื่องความเป็นมนุษย์ และ ครอบครัวได้เป็นอย่างดี เราไม่อยากบอกว่ามันมี Moment หรือ ฉากอะไรที่จะมาสอนในเรื่องนี้ แต่เราอยากให้ดูกันเอาเอง บอกได้เลยว่า สนุกและขำจริง  



2. Neighbors (1-2) 





แม้ว่าเราจะมาจากคนละที่ มาจากคนละครอบครัว แต่หากเรามีจุดมุ่งหมายที่เหมือนกัน ความชอบเหมือนกัน เราก็สามารถเป็นปึกแผ่นเดียวกันได้


(Source: http://images.mic.com/yd8rbbkzqroskikh0mrkyazn75a3erlonpw8tqsvmku3gj9w8bv7rgj3yjkvv50f.jpg )



The Neighbors เพื่อนบ้านมหาประลัย เป็นหนังภาคต่อ ที่ตอนนี้ภาค 2 เพิ่งเข้าฉายไปเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมานี้เอง เมื่อความเดิมตอนที่แล้ว บ้าน เดลต้าไซด์ หอพักนักศึกษาชาย ที่ว่าเด็ด แสบ และแซ่บที่สุด ได้ย้ายมาอยู่ข้างบ้านครอบครัว แลดเนอร์ ที่เพิ่งปักหลักวางรากฐานที่หมู่บ้านชานเมืองอันสงบสุขแห่งนี้ แถมเพิ่งมีลูกน้อยตัวเล็กอยู่ด้วย และอย่างที่คิดไว้ หอพักชายแหล่งปาร์ตี้ และ อบายมุข ของวัยเรียน ทุกๆ วันเขาจะจัดปาร์ตี้และเสียงดัง จนทำให้ครอบครัวแลดเนอร์เริ่มทนไม่ไหว ใช้ไม้อ่อนก็แล้วไม่ได้ผล จึงเริ่มเปิดศึกเพื่อนบ้านขึ้น และ มันก็สืบทอดมาจนถึงภาค 2 ซึ่งเปลี่ยนจากนักศึกษาชายเป็นนักศึกษาหญิงแทนเท่านั้นเอง โดยตัวเด่นของภาค 2 คือ แม่สาวโคลอี้ คนดีของเราเอง ><  



(Source: http://exclaim.ca/images/neighbors2.jpg )


หนังเรื่องนี้แต่ละภาคจะมีการข้อคิดของเรื่องแตกต่างกันไป ดูผิวเผินแล้วอาจจะนึงว่าเป็นหนังที่ Dirty Joke แนว Prank กันซะส่วนใหญ่ แต่ในการเป็น Comedy แบบนี้ก็จะมีแก่นของมันอยู่ เช่นภาคแรกจะเน้นไปที่ ความเข้าใจ การปรับตัว และมิตรภาพ เริ่มจากครอบครัวแลดเนอร์พยายามทำให้บ้านเดลต้าไซท์เข้าใจถึงเรื่องมารยาทและความใจเขาใจเรื่องการอยู่อาศัย เรื่องที่สองคือ การปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ และสุดท้ายคือเมื่อเกิดปัญหาขึ้น ไม่ว่าจะคนอื่น หรือจากความคิด และ การกระทำของเราเอง เราควรที่จะรับมือกับมันให้ได้ และ คิดเสมอว่าสิ่งที่ยึดเหนี่ยวเราไว้เป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน คือความเข้าใจ และความรัก ส่วนภาค 2 จะเน้นไปที่ การเหยียดเพศ และ ความเท่าเทียมกัน ทางการความคิดของเพศ ชาย และหญิง รวมถึงเรื่อง Coming of Age ด้วย เมื่อเราก้าวผ่านช่วงวัยเด็กมาเป็นเรียนรู้ความเป็นผู้ใหญ่เบื้องต้นนั้น เราควรที่จะมีความคิดอย่างไร แต่หนังก็ยังไม่ละในเรื่องของมิตรภาพเหมือนกัน






3. American Pie (1-5)




"หากจะวัดว่าอะไรคือสิ่งที่บ่งบอกว่าเรากำลังจะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ พร้อมที่จะเผชิญโลกกว้างแล้วนะ เราจะเอาอะไรเป็นตัววัด การศึกษาหรอ? ประสบการณ์การใช้ชีวิตหรอ? Noooo!! ไม่ใช่ละ สำหรับเรื่องนี้ Sex คือสิ่งที่บ่งบอกว่า เรานี่แหละ พร้อมที่จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว



(Source: http://www.asset1.net/tv/pictures/movie/american-pie-1999/american-pie-DI-3.jpg )




ย้อนนนนกลับไปสมัยก่อน ตัวชี้วัดว่า เราเป็นผู้ใหญ่แล้ว คงจะเป็นอายุ ไม่ก็เป็นการจบการศึกษาชั้น .6 พร้อมเข้ามหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้ว อะไรประมาณนั้นล่ะ แต่สำหรับชายหนุ่มในหนังเรื่อง American Pie หนัง American Comedy Style Teenage นั้น พูดถึงเรื่องราวของเด็กชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่ต้องการเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ในแบบของเขาเอง นั่นก็คือเปิดเผยความเป็นชายยยยยออกมา โดยสัญญากันว่าทุกคนในกลุ่มจะต้องยิงประตูสาวให้ได้ก่อนจบ แต่ละคนจึงตระเวนหาสาวที่ตัวเองสนใจเพื่อจะได้เตรียมทำประตูกัน แต่ในเหตุการณ์เหล่านั้นทำให้เกิดเรื่องมากมายขึ้น บางคนเจอรักที่ตัวเองตามหา บางคนได้ครูดีคราวแม่ และบางคนเป็นเหมือนกับการจากลา




(Source: http://images1.fanpop.com/images/photos/2000000/American-Pie-american-pie-2009243-720-406.jpg )



ถ้าถามเราถึงเรื่องนี้แล้วละก็ ต้องขอบอกเลยว่า สนุกและตลกมาก (หากดูครั้งแรก) โดยเรื่องนี้นำเสนอมุมมองของเด็กวัยรุ่นที่พร้อมจะก้าวเป็นผู้ใหญ่ได้ดีเลยนะ เพราะเรื่อง Sex เป็นเหมือนตัวชี้วัดหนึ่งที่ทำให้เราเข้าใจว่า เฮ้ย ! ฉันเนี้ยแหละเจ๋งละ ฉันนี่แหละผ่านโลก ผ่านมุมที่เด็กน้อยเบ๊บี๋ หลายคนไม่เคยเจอ แต่ถ้าจะให้พูดในเรื่องสาระของเรื่องนี้แล้วล่ะก็ มีอยู่เต็มไปหมด เริ่มตั้งแต่พ่อแม่ที่พยายามอธิบายให้ลูกที่เริ่มเป็นวัยรุ่นเข้าใจว่า Sex คืออะไร เราจะต้องทำหรือเตรียมตัวยังไง ต่อมาคงหนีไม่พ้นมุมมองการมี Sex ของผู้ชายและผู้หญิง ถ้าให้เราพูดมุมมองของผู้หญิง การที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะมี อะไรกับใครได้ จะต้องมาจากความรู้สึกดีก่อน เกิดเป็นความรักและจะต้องมั่นใจกับอีกฝ่ายพอสมควรว่าเขาคิดกับเราเหมือนกัน ในส่วนของผู้ชายเราว่าก็คงไม่ต่างกัน (แต่ถ้าเปรียบเทียบกับสมัยนี้ เราว่าการมี Sex กันเป็นเรื่องที่แบบ โคตรจะธรรมดา เพราะเดี๋ยวนี้ One Night Stand เยอะแยะไป) และสุดท้ายคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับการป้องกัน จะเห็นได้ชัดเลยว่าทุกครั้งที่ ชายหนุ่มคิดว่าวันนี้จะได้ประตู เขาจะพกถุงยางอนามัยกันทุกคน (นั้นเป็นสิ่งที่ดีเลยทีเดียว) ส่วนในภาคอื่นๆ ของ American Pie ก็จะเป็นเรื่องราวคล้ายๆ กันแต่จะแทรก คัมภีร์ ในตำนานหรือกฎต่างๆ ของชมรมสมาคมเข้ามาเป็นกิมมิคที่ทำให้เรื่องราวมีความสนุกมากขึ้น


ต่ออีก 2 เรื่องสุดท้ายได้ที่  Comment ด้านล่างค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

Chutamas T 10 พ.ค. 59 เวลา 00:15 น. 1
4. Herrible Bosses (1-2)








"หากเจรจาด้วยคำพูดดีดีด้วยกันไม่ได้ งั้นเราก็ควรตายกันไปข้างนึง"




(Source: http://www.warnerbros.com/sites/default/files/horrible_bosses_hero1.jpg )



หนังที่ว่าด้วย เพื่อนรักมนุษย์เงินเดือน 3 คน คนละอาชีพ ที่ต่างคิดเหมือนกันว่า เบื่อและหน่ายเจ้านายของตน แต่ก็เลิกทำงานกับเหล่าบอสตัวแสบไม่ได้ ทั้ง 3 คนจึงวางแผนที่จะฆ่าเจ้านายของตัวเองทิ้งเสีย แต่! มนุษย์งั่ง 3 คนมาเจอกัน แล้วไหนละแผนลอบสังหารที่แนบเนียน ฝันไปเถอะ ไม่มีหรอก จากแผนลอบสังหาร มันเลยกลายเป็นแผนปนมุกตลกแทน 



(Source: http://thepopfix.com/wp-content/uploads/2014/07/horrible-bosses.jpg )



สิ่งที่ดีงามของเรื่องนี้คือ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน (ไม่ใช่ !! ) หลอกเล่นจ้า สิ่งที่ดีงามเลยคือ การจับคนงี่เง่า 3 คนมาวางแผนทำอะไรที่เป็นการใหญ่แบบนี้ ซึ่งในภาคแรก วางแผนฆ่าเจ้านาย ในภาคที่ 2 วางแผนลักพาตัวลูกเศรษฐีเพื่อมาชำระหนี้สิน ซึ่งทั้ง  2 ภาคนั้น ไม่เคยทำตามแผนที่วางเอาไว้ไม่ได้เลยซักอย่าง ฮ่าๆ เพราะด้วยแต่ละคนจะมีความคิดและนิสัยที่ต่างกันไป เลยทำให้ แผนไม่เป็นแผน คุณเคยเป็นไหมละว่า ในกลุ่มเพื่อนเรามันจะมีสักคนที่คุยไม่รู้เรื่อง รู้เรื่องช้าที่สุด เข้าใจอะไรยาก (ทั้งหมดนี้เราเป็นหมดเลย) และเพราะแบบนี้เลยทำให้แผนการทั้งหมดไม่ค่อยจะสำเร็จเลย แต่แก่นของหนังเรื่องนี้คงเป็น มิตรภาพของเพื่อนรักทั้ง 3 คนนี้แหละที่ถึงแม้ เขาจะเจอปัญหา หรือสร้าง วีรกรรมอะไรก็แล้วแต่ เขาก็จะไม่ทิ้งกันเด็ดขาด 




ต่อไปเชิญพบกับเรื่องสุดท้ายได้แล้วค่ะ




5. Kickass (1-2)







คุณจงทำให้ใครก็แล้วแต่ที่ดูถูกคุณ ข่มเหงคุณ ให้คนกลุ่มนั้นได้รู้ว่า คุณหน่ะเจ๋งแค่ไหน




(Source: http://www.thephuketnews.com/photo/listing/1379297852_1.jpg )



The Kickass เป็นหนัง Superhero black comedy ถามว่าทำไมชื่อ Category หนังยาวจัง ก็เพราะว่ามันเป็นหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ที่ค่อยข้าง ดาร์ค เถื่อน เลือดสาด สักหน่อย (ไม่เหมือนซุปเปอร์ฮีโร่ทั่วไป)

ว่าด้วยเรื่องของ เดฟ เด็กชายที่ธรรมด๊าาา ธรรมดาสุดๆ แทบจะไม่มีคนรู้จัก แถมโดนเพื่อนแกล้งบ่อยๆ เขามีความคิดว่า ทำไมโลกของเราจริงๆ ไม่มีซุปเปอร์ฮีโร่แบบในการ์ตูนที่เขาอ่านเลยนะ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ซะเองเลย โดยใช้ชื่อว่าโคตรเกรียนเมื่อนับวันเข้า เขาเริ่มมีชื่อเสียงและเป็นซุปเปอร์ฮี่โร่ในโลกแห่งความจริง เพราะแบบนี้ทำให้เหล่าอธรรมเริ่มอยากแผลงฤทธิ์ แต่ใครจะต่อกรกับพวกนั้นได้ ดังนั้น โคตรเกรียนจึงรวบรวมพรรคพวก มากมายเพื่อนกำหราบเหล่าร้าย หนึ่งในนั้นมีเด็กผู้หญิงวัยใสตัวเล็กอยู่ด้วย (แสดงโดยโคลอี้) เธอใช้ชื่อว่าจิ๋วจี๊ดเห็นเธอตัวเล็กน่ารักแบบนี้ บอกได้เลยว่าโหดที่หนึ่ง



(Source: http://images-cdn.moviepilot.com/image/upload/c_fill,h_1065,w_1600/t_mp_quality/hit-girl-punching-kick-ass-3-and-a-hit-girl-prequel-on-the-way-jpeg-261597.jpg  )




บอกเลยเรื่องดูหากคุณดูเอามันส์ มันก็มันส์จริงๆ นั้นแหละ แต่ถ้าคุณดูขึ้นไปมากกว่านั้น บอกได้คำเดียวว่า มันมีอะไรแฝงอยู่ในหนังเรื่องนี้เยอะแยะเลย ไม่ว่าเรื่องการทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง โดยไม่เดือดร้อนใคร ไม่ต้องแคร์สายตาใครว่าเราจะเป็นยังไง หากเราเชื่อมั่นและรู้ว่าตัวเราทำอะไรอยู่ก็เพียงพอ และสิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือ ธรรมะ ย่อมชนะ อธรรม เป็นจริงที่สุด 




หากเพื่อนคนไหนมีหนังแนวนี้อยากแชร์ว่ามาเลยค่า

สุดท้ายและท้ายสุด 



ขอบคุณที่อ่านและติดตามกันค่ะ


0