Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

วัยรุ่นยุคใหม่ ต้องเก่งให้ได้ทุกอย่าง จริงหรือ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่


เป็นอีกเทรนด์การทำงานที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นอย่างน้องๆ นักเรียน นักศึกษา สำหรับการทำงานแบบ Multitasking คือคน 1 คนสามารถทำงานได้มากกว่า 1 ทักษะในเวลาเดียวกัน เช่น หาข้อมูล + เขียนรายงาน + ออกแบบ Presentation บลาๆๆ ภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลา กำลังคนที่มีจำกัด ฯลฯ ซึ่งการทำงานแบบนี้ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มาดูกันเลยว่าจะเป็นยังไงบ้าง
 
ข้อดี
เป็นเรื่องน่าท้าทายสำหรับคนที่อยากเจริญก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดและไม่ชอบทำงานแบบจำเจ เพราะจะได้เรียนรู้ทักษะต่างๆ ที่หลากหลายขึ้น เช่น หาข้อมูลควบคู่ไปกับการออกแบบศิลป์ เป็นต้น ทำให้สามารถใช้คนที่ถนัดการทำงานแบบ Multitasking ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ โดยเฉพาะการทำงานกลุ่มที่มีคนน้อยๆ
 
ข้อเสีย
ดูข้อดีแล้วเหมือนจะราบรื่น แต่ความเป็นจริงจะไม่เป็นเช่นนั้นเลย ถ้าน้องไม่สตรองพอที่จะจดจ่อกับทุกอย่างไปพร้อมๆ กันได้ ย่อมเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดในทุกๆ งานที่คุณทำ โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งจะทำให้มีผลต่อการจัดสรรงานที่ทำอยู่ให้เป็นไปตามเวลาที่กำหนดไว้ได้
 
ไม่เพียงแต่เท่านี้ เพราะยังมีผลวิจัยจากมหาวิทยาลัย Harvard พบว่า ในขณะที่คนเหล่านี้ทำงานหลายๆ อย่างไปพร้อมกัน สมองภายในของพวกเขากำลังมีปัญหาเกี่ยวกับสมาธิที่ต้องถูกแบ่งไปสนใจกับอีกสิ่งหนึ่งในเวลาเดียวกัน ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ทั้งการคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาถูกลดทอนลงตามไปด้วย แถมยังทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าอย่างที่ไม่ควรเป็น ซึ่งอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดความผิดพลาดดังที่ได้กล่าวไป
 
ดังนั้น ก่อนที่น้องๆ จะมั่นใจว่า เราเก่งทุกอย่าง เราสามารถทำงานพร้อมกันหลายๆ อย่างได้ดีแค่ไหน ลองสำรวจสิ่งที่ตัวเองถนัดเป็นอันดับหนึ่งเสียก่อนว่า เราโฟกัสกับสิ่งนั้นๆ ได้เต็มที่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแล้วหรือยัง และถ้าอยากจะพิสูจน์ตัวเองว่าทำได้ เริ่มต้นง่ายๆ แค่รู้จักเรียงลำดับความสำคัญของงาน อันไหนเร่งด่วนที่สุดต้องมาก่อน จะช่วยทำให้ Multitasking ของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
 
ขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสาร SME Thailand

แสดงความคิดเห็น

>