Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ใครอ่านหนังสือแล้วชอบท้อฟังทางนี้! แชร์5เทคนิคจัดการความท้อให้อยู่หมัด ^^

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อ่านหนังสือแล้วท้อมากกกทำไงดี ?
5เทคนิคจัดการความท้อให้อยู่หมัด (ver.จัดหนักแบบทะลวงไส้ !)

.
พี่เชื่อว่าน้องๆที่กำลังวิ่งล่าความฝันอยู่
ไม่มีใครไม่เคยท้อ 
เพราะอะไรรู้ป่าวว ? 
ก็เพราะขนาดพี่เอง บางครั้งก็มีท้อเหมือนกัน ! 555
.
แต่ความจริงก็คือ 
คนที่สอบติดไม่ใช่คนที่ไม่ท้อ
แต่คือคนที่ท้อแต่ไม่ถอยต่างหาก !

คือท้อแต่ยังเล่นไม่เลิก
ไม่เสียเวลาให้ความท้อนาน 
ลุกขึ้นมาลุยต่ออย่างรวดเร็ว 
.
และวันนี้พี่จะมาให้เทคนิคเจ๋งๆ
ที่จะทำให้น้องลุกขึ้นมาซัดกับความท้อได้สบายๆ
เอาให้มันล้มไปนอนอยู่แทบเท้าเราบ้าง 555 
.
แต่ก่อนอื่นต้องมารู้จักกับเจ้า "ความท้อ" กันก่อน
ความท้อมันก็คือความรู้สึกที่ว่า 
"โหห ยากแฮะ เราคงไม่ไหวว่ะ " 
หรือพูดในภาษาคณิตศาสตร์ก็คงจะประมาณว่า 

ความท้อ = เป้าหมาย - ความสามารถน้องในปัจจุบัน 

ถ้าเป้าหมายสูง และความสามารถน้องต่ำ
ความท้อมันก็ต้องเยอะเป็นธรรมดาจริงมั้ย ? 
(ลองคิดตามสมการดูนะ 555)
.
ดังนั้น สิ่งที่น้องต้องทำก็คือ 
เพิ่มความสามารถตัวเองให้สูงขึ้น 
อย่าไปลดความท้อด้วยการตั้งเป้าหมายให้ต่ำลงล่ะ 
เพราะแบบนั้นน่ะ เรียก "ท้อแล้วถอย" !
.
แต่ระหว่างการฝึกวิชาให้พลังแก่กล้า
มันก็ไม่ได้ใช้เวลาแค่วัน2วันจริงมั้ย 555
ดังนั้นน้องเลยต้องมีเทคนิคเทพ5ข้อนี้
พกติดตัวไว้เพื่อเอาไปใช้ทะลวงฝ่าความท้อกัน 
เอาละ มาลุยกันเลย !
.
1-เข้าใจธรรมชาติของความสำเร็จ 
สาเหตุที่ฮิตที่สุดที่ทำให้คนท้อคืออะไรรู้ป่ะ ? 
มันคือ "ความยาก" 
พอจะอ่านหนังสือ ทำโจทย์ใหม่ๆ
เจอความยาก ความเยอะ ความงงเข้าไป 
ท้อกันทุกรายครับ 5555 
.
ดังนั้นสิ่งแรกที่น้องต้องทำก็คือ
ทำความเข้าใจธรรมชาติของความสำเร็จก่อน 
เพราะทุกความสำเร็จนั้น 
จุดที่ยากที่สุดคือจุดเริ่มต้นเสมอ 
เพราะเรายังทำมันไม่เป็นไง ! 
.
จะว่ายน้ำ ยากสุดก็ลงน้ำครั้งแรก 
จะเล่นกีต้าร์ ยากสุดก็ตอนดีดครั้งแรก 
เพราะทุกการเริ่มต้น มันต้องห่วยมาก่อนเสมอ 
การเรียนก็เช่นกัน ! 
.
อย่าให้ความยากมาทำให้เราท้อ 
เพราะเราจะไปไหนต่อไม่ได้เลย 
ทำใจไว้เลยว่าการเริ่มต้นมันยากเสมอ
แต่ถ้าเราอดทนผ่านไปได้
หลังจากนั้นยิ่งทำมันจะยิ่งง่ายแล้วครับ  
.
(ต่อในคอมเม้นนะครับ)

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

MinkBH 4 มิ.ย. 59 เวลา 17:11 น. 1
2-เหตุผลที่จะยอมแพ้ไม่ได้ 
น้องจำเป็นต้องรู้ว่า
"ตอนนี้เราสู้อยู่เพื่ออะไร?"
และ"ถ้าเราแพ้ เราจะเสียอะไร?" 
.
คนยกของเพราะจะย้ายบ้าน 
ถ้าเจอของหนักๆ 
แล้วเค้าจะเหนื่อยจะพักมันก็ไม่แปลก 
เพราะบ้านมันก็ไม่หนีไปไหน 555
.
แต่ถ้าคนยกของเพราะบ้านไฟไหม้
ต่อให้หนักแทบตาย 
ก็ไม่มีวันวางของลง 
เพราะเดิมพันของเค้าคือสมบัติทั้งหมดในนั้น 
.
ถ้าน้องรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยง่ายท้อง่าย 
พี่บอกได้เลยว่า 
เพราะเดิมพันของน้องมันกระจอกไป
น้องเลยไม่ได้ทุกข์ร้อนที่จะเสียมันไป"จริงๆ" 
.
สำหรับพี่ อนาคตครอบครัวพี่แบกอยู่บนหลัง 
จะให้ยอมแพ้เพราะบทเรียนแม่งยาก คู่แข่งแม่งเยอะ ? 
ตลกป้ะ! ท้อแค่3นาทีก็นานเกินไปแล้ว 5555 
.
.
3-ตั้งคำถามตัวเองให้ถูก
คนที่ท้อง่ายมักจะมีคำถามสุดฮิตในหัวว่า 
"เราจะทำได้มั้ยนะ ?" 
หรือไม่ก็ "แล้วถ้าเราทำไม่ได้ล่ะ ?"
ซึ่งพี่บอกเลยว่าคำถามพวกนี้
มันเป็นคำถามที่ห่วย !! 
.
เพราะอะไรน่ะหรอ ?
ก็เพราะเรามักจะไม่ค่อยได้คำตอบดีๆ
จากคำถามพวกนี้หรอก
มีแต่คำตอบที่ทำให้เราเ-่ยวทั้งนั้น 555
.
เลิกตั้งคำถามราคาถูกพวกนั้น
แล้วหันมาตั้งคำถามว่า 
"ต้องทำยังไงเราถึงจะสอบติดได้ ?" กันดีกว่า 
คำถามนี้มีมูลค่าหลักล้านแน่นอน 
เพราะมันจะเป็นประตูไปสู่หนทางการสอบติดอีกนับไม่ถ้วน ! 
0
MinkBH 4 มิ.ย. 59 เวลา 17:12 น. 2
4นับทุกความสำเร็จเล็กๆ
อย่างที่บอกครับว่าช่วงแรกเริ่มเนี่ยยากสุด
เพราะงั้นเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อ 
และเป็นขวัญกำลังใจให้กับตัวเอง 
จงนับทุกๆความสำเร็จ (แม้จะเล็กน้อย) 
ของเราให้หมด 
.
เช่น ถ้ากำลังจะเริ่มอ่านเลข แต่แบบไม่เก่งเลย 
เอาแค่อ่านครึ่งบท แล้วทำความเข้าใจกับมันได้ 
เราก็ต้อง " เยส ! ก้าวแรกทำได้แล้ว "
หรือแค่คิดตามตัวอย่างง่ายๆแล้วเก๊ท 
เราก็ "สุดยอด! พอเข้าใจวิธีใช้แล้วนี่ไง " 
.
ทำแบบนี้ไม่ใช่คนบ้านะครับ 555 
แต่มันคือการนับทุกย้างก้าวของความสำเร็จ 
ที่จะทำให้น้องอดทนเดินฝ่าความท้อไปได้ 
แค่นับไปนับมาเรื่อยๆ ไม่หยุดก้าว
พอรู้ต้วอีกที ก็เดินมาถึงเส้นชัยแล้วซะงั้น ! 555
0
MinkBH 4 มิ.ย. 59 เวลา 17:12 น. 3
5ทำให้หนักพอ
อย่างที่บอกไปว่าสมการความท้อคือ
ความท้อ = เป้าหมาย - ความสามารถในปัจจุบัน 
ถ้าเราท้อนั่นแปลได้ง่ายๆว่า
ระดับความสามารถของเรา 
ยังไม่สามารถทำให้เป้าหมายเป็นจริงได้ ! 
.
ดังนั้นอย่ารอให้เป้าหมายเราต้องพังครืนลงมากับตา 
รีบอัพความสามารถเราขึ้นไปให้เร็ว 
และลุยให้หนัก"แบบสุดๆ" !
.
เรื่องแปลกเรื่องนึงก็คือว่า 
ต่อให้ความสามารถของเรายังเท่าเดิม 
แต่ถ้าเราลงแรงเยอะ ความท้อมันจะน้อย 
ถ้าเราลงแรงน้อย ความท้อมันจะเยอะเป็นอัตโนมัติ !
.
นั่นก็เพราะสมองของเรารู้ครับว่าเป้าหมายมันอยู่ไกล
แต่ถ้าเราวิ่งไป เค้ารู้ว่ายังไงก็ไปถึง 
กลับกัน ถ้าเราคลานไป 
ให้ตายก็คงได้แต่นอนเป็นปุ๋ยอยู่กลางทาง 555
.
ถ้าเป้าหมายเราอยู่ที่เส้นชัย
ก็อย่ามัวมาไถลอยู่กลางทาง จัดหนักเลย !
.
.
อ่านจบแล้ว ถ้าใครยังเ-่ยวๆเฉาๆอยู่
นี่คือเวลาที่ต้องลุกขึ้นมาลุยใหม่ได้แล้ว 
เพราะเวลาเรามีน้อย ห้ามใช้ไปกับความท้อเด็ดขาด !
เอาเทคนิค5ข้อที่พี่ให้ไปอ่านย้ำๆ ทำซ้ำๆ 
รับรองว่าความท้อจะไม่ใช่ปัญหาของน้องอีกต่อไป 
.
คนแท้ไม่เคยท้อ คนท้อไม่เคยแท้ 
อย่ายอมแพ้สิครับ ลุยต่อ !! 
.
พี่มิ้ง brain hacking 
-เรียนสไตล์พี่ สอบกี่ที่ก็ติดได้- 
.
ปล.1ช่วงนี้พี่เรียนยุ่งมาก เลยไม่ค่อยมีเวลาเอาบทความในเพจ
มาแชร์ลงให้น้องๆในเด็กดีอ่านเท่าไหร่ ใครอยากอ่านอันใหม่ๆตามไปดูในเพจได้นะครับ
ปล.2มีข้อไหนเด็ดๆโดนๆกันมั่งง ชอบข้อไหนบอกกันได้น้าา

และถ้าโพสต์นี้ทำให้น้องมีพลัง 
อย่าลืมแชร์มันไปให้ใครที่อาจจะกำลังหมดพลังอยู่ล่ะ 
.

>>ติดตาม live Facebook หัวข้อ "เรียนพิเศษยังไงให้โดน เรียนน้อยแต่ได้มากทำยังไง!?"
หรือดูย้อนหลังคลิปวีดีโอเทคนิคการเรียนต่างๆ 

ได้ที่เพจBRAIN HACKING by P'Mink เวลา19.30น.
https://www.facebook.com/MinkBrainHacking/
ถ้าใครlikeเพจแต่ไม่ตั้ง *see first* บอกเลยว่าพลาดมาก! 
เพราะมีโอกาสไม่เห็นcontentที่พี่เขียนถึง90% 
(และความรู้คืออาวุธ ยิ่งรู้น้อยยิ่งเสียเปรียบ!)
.
>>ใครยังไม่รู้จักพี่ อ่านประวัติได้ที่นี่เลย 
[linkลัด] https://goo.gl/wY0fnD<<
.
>>กลับไปอ่านบทความย้อนหลังของพี่ทั้งหมดได้ที่นี่
[linkลัด] https://goo.gl/bkCVVQ <<
0