Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

@Hokkaido ท่องธรรมชาติรอบเกาะฮอกไกโด (วันที่ 4)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ไปอ่านต่ออื่นๆ ต่อได้ที่

รายการวันที่ 4
  • เข้าเมืองซัปโปโร
  • ตึกที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด
  • ร้านปูยักษ์ Sapporo Kani Honke
  • โรงงานช๊อกโกแลตอิชิยะ Shiroi Koibito Park
  • คลองเก่าเมืองโอตารุ
  • ย่านซึซึกิโนะ

หลัง จากลุยชนบทมา 3 วันเต็ม วันนี้ก็เข้าเมืองซะที ซัปโปโรคือเมืองหลวงของฮอกไกโด เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 (ประมาณ 4-6) ของญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นเมืองใหม่ที่เพิ่มสร้างมาประมาณ 100 ปีทำให้ตึกเก่าๆ ที่เป็นแลนมาร์คของเมืองจะออกไปทางสถาปัตยกรรมแบบยุโรปซะทั้งหมด แต่ตึกใหญ่ๆ ที่สร้างที่หลังก็เป็นตึกธรรมดาแบบเมืองใหญ่ทั่วโลกนั่นแหละ แต่ความพิเศษของเมืองนี้คือถึงแม้จะเป็นเมืองหลวงใหญ่ แต่ก็มีภูเขาอยู่ทางใต้ของเมือง คือภูเขาโมอิวะ (Moiwa) ถ้าถ่ายรูปจากทางเหนือของเมืองจะได้ฉากเมืองเป็นโฟกราวและภูเขาเป็นแบ๊คกราว

#ตึกที่ทำการรัฐบาลเก่า

จุด แรกที่แวะไปคือตึกแดงซึ่งเป็นตึกที่ทำการรัฐบาลที่เลิกใช้ไปแล้ว (ตอนนี้ไปใช้ตึกใหม่ข้างหลังแทน) สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1888 ด้วยก้อนอิฐมากกว่า 2.5 ล้านก้อน ในสมัยนั้นนับเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุด ภายในมีการตกแต่ง (ตามสไตล์ตะวันตก) อย่างสวยงาม แต่เอาจริงๆ คือข้างนอกน่าจะสวยกว่า แนะนำให้เข้าไปดูข้างใน แต่ถ้าอยากถ่ายรูปให้เวลากับข้างนอกมากๆ ดีกว่า

สังเกต จะมีสัญลักษณ์เป็นรูปดาวสีแดงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฮอกไกโดยุดแรกๆ แต่ต่อมาได้เปลี่ยนสัญลักษณ์เป็นดาว 7 แฉกบนพื้นหลังสีน้ำเงิน (ลายบนธงนั่นแหละ) โดยสีแดงแทนพลัง สีขาวแทนแสงสว่างและหิมะ ส่วนสีน้ำเงินแทนท้องฟ้าและท้องทะเลของฮอกไกโดนั่นเอง

#ร้านปูยักษ์ Sapporo Kani Honke

หนึ่ง ในร้านขาปูยักษ์ขึ้นชื่อในซัปโปโร หน้าร้านจะมีปูยักษ์ติดอยู่ (แต่มีอีก 2-3 ร้านในเมืองนี้นะ ที่มีปูแบบนี้ประดับอยู่หน้าร้าน) วันนี้กินปูอีกแล้ว แล้วเพราะว่าร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องปู อาหารเลยมีตั้งแต่ ปูสด ปูต้ม ข้าวต้มปู และที่ไม่คิดว่าจะมีแต่อร่อยสุดเลยคือ ปูอบชีส (อร่อยมากจนเมื่อรู้ตัวว่ายังไม่ได้ถ่ายรูปเลยก็กินหมดไปซะแล้ว)

#Shiroi Koibito Park

หรือ โรงงานช๊อกโกแลตอิชิยะ อยู่ชานเมือง ขึ้นชื่อว่า “โรงงาน” หลายๆ คนอาจจะนึกถึงโรงงานแบบสมัยใหม่ แต่โรงงานช๊อกโกแลตที่นี่สร้างขึ้นมาโดยเน้นธีมแฟนตาซียุโรปๆ หน่อยๆ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ น่ารักๆ เยอะมาก ส่วนภายในจะเป็นทางเดินชมตึกและของสะสมต่างๆ รวมไปถึงห้องที่ใช้ผลิตช๊อกโกแลตขึ้นชื่อ ชิโรอิ โคอิบิโตะ (ชิโรอิ = สีขาว, โคอิ + ฮิโตะ = โคอิบิโตะ = คนรัก/ความรัก)

ไก ด์ เล่าว่าเจ้าของโรงงานนี้รวยมาตั้งแต่เด็กๆ พิพิธภัณฑ์ของเล่นที่มีจัดแสดงอยู่ในโรงงานก็เป็นของของเขาตอนเด็กๆ แถมในปัจจุบันนอกจากจะเป็นเจ้าของโรงงานอิชิยะแล้วก็ยังเป็นเจ้าของ (หรือสปอนเซอร์นี่แหละ) ของทีมเบสบอลอีกด้วย (โอ้)

ตอน ไปเที่ยวตึกทำการรัฐบาลน่ะอากาศกำลังดี แต่พอมาถึงโรงงานช๊อกโกแลตก็ฝนตก (อีกแล้ว) ซะงั้น แต่อยู่ข้างในตึกเลยไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่

ภาย ในโรงงาน (จริงๆ สวยขนาดนี้อย่าเรียกว่าโรงงานเลย) จะเป็นทางเดิน โดยที่พื้นจะมีรูปอุ้งเท้าแมวอยู่ ดูตรงนี้เสร็จแล้วต้องไปทางไหนให้เดินตามรอยเท้าแมวไป จัดว่าเป็นลูกศรบอกทางที่โมเอะมาก

ห้องผลิตช๊อกโกแลตจริงๆ เข้าไปไม่ได้นะ แต่มีชั้นที่ชะเง้อหน้าลงไปดูได้

ที่ชั้นบนมีโรงเรียนสอนทำขนมและพิพิธภัณฑ์ของเล่นเด็กด้วย

#คลองเก่าเมืองโอตารุ

อัน นี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่มีในแผนการทัวร์ จริงๆ กะจะไปเที่ยวเองในวันที่ 5 ซึ่งเป็นวันฟรีเดย์ แต่ไกด์ใจดีอีกแล้ว ^__^ โดยไปขอให้คนขับรถพาไปเที่ยวเมืองโอตารุ (ห่างจากเมืองซัปโปโรไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 30 ก.ม. นั่งรถแค่ 40 นาที)

แต่ว่า…

“ฝนตกอีกแล้วววว (โว้ย)!!”

สม กับเป็นเมืองเกาะจริงๆ ฝนตกตั้งแต่บ่ายจนถึงตอนเย็นเลย ทำให้ท้องฟ้าหม่น สีไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ไกด์ถามว่ามีใครอยากไปเที่ยวคลองโอตารุบ้าง ตอนแรกก็จะไปกันเยอะนะ แต่พอฝนตกหนักเท่านั้นแหละ เป้าหมายก็เลยเปลี่ยนไปย่านร้านค้ากันแทน (มีแค่ 4 คนที่ยอมฝ่าฝนไปถ่ายรูปคลองโอตารุท่ามกลางสายลมอันหนาวเหน็บ)

เดิมที คลองโอตารุสร้างขึ้นเมื่อปี 1923 เพื่อใช้ในการขนของจากเรือใหญ่มาลงที่ท่า (เรือใหญ่เข้ามาในเขตน้ำตื้นไม่ได้ ไม่เหมือนที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ เลยต้องใช้เรือเล็กลำเลียงสินค้าเข้ามาเทียบท่าที่คลองนี้) แต่เมื่อประมาณปี 1970 ก็เลิกใช้คลองนี้เป็นจุดเทียบเรือ รัฐบาลคิดจะถมที่ทิ้งแต่ชาวเมืองไม่ยอม สรุปก็ถมไปครึ่งเดียวเหลืออีกครึ่งหนึ่งพร้อมโกดังสินค้าเก่าไว้เป็นจุดท่อง เที่ยว

เอาเป็นว่านี่คือมุมประจำ ใครมาคลองโอตารุ ไม่ว่าจะใช้กล้องใหญ่หรือกล้องมือถือ คุณจะได้ภาพมุมนี่ทุกคน (ฮา)

แล้วหลังจากเราฝ่าฝนไปถ่ายรูปคลองโอตารุจนพอใจแล้ว เราก็แวะกลับมาเดินเล่นที่ย่านการค้า (แค่ข้ามถนนกลับมา)

เดิมทีโอตารุเป็นหมู่บ้านชาวประมง แต่ภายหลังมีการทำเครื่องแก้วขึ้น ซึ่งมีคุณภาพสูงระดับสู้กับเครื่องแก้วจากยุโรปได้เลย

ภาพ ด้านบนคือจัตุรัส Marchen ซึ่งเป็นที่ตั้งของโคมไฟประภาคารและร้านพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ของขึ้นชื่อเมืองโอตารุอีกหนึ่งอย่างที่ใครๆ มาถึงก็ต้องมาถ่ายรูปมุมมหาชนที่นี่

ของขึ้นชื่ออีกอย่างในโซนนี้คือร้านขนมหวานซึ่งมีร้านขึ้นชื่อหลายร้านเช่น LeTAO และ Kitakaro

#ย่านซึซึกิโนะ

หรือ ซูซูกิโนะ (Susukino) กลับมาที่เมืองซัปโปโรเป็นย่าน ใจกลางเมืองจะมีย่านหนึ่งซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนนอนดึก จัดเป็นย่านกิน-ดื่มแหล่งเที่ยวกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ร้านค้าและร้านอาหารจะอยู่รวมกันในตึกมากกว่า 4,000 ร้าน แต่พวกคลับบาร์ต่างๆ จะอยู่ชั้นบนๆ ต้องเดินขึ้นไป วิธีสังเกตง่ายๆ ว่ามาถึงย่านนี้แล้วคือทุกตึกจะเปิดไปสว่างกันหมดแม้จะเวลา 4-5 ทุ่มไปแล้วก็ตาม

บางโซนจะมืดและเปลี่ยวไปสักหน่อย แต่ก็ยังดูปลอดภัย (มั้ง)

แสดงความคิดเห็น

>