Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[แชร์] ข้อมูล/รีวิวประสบการณ์การสอบ New SAT รอบแรกวันที่ 7 May 2016

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

**แจกข้อสอบ SAT 7 may 2016 ครัช ใครอยากเห็นของจริงตามลิ๊งค์มาเลย เขาแจกฟรีรอบจขกท.ไปแล้ว 5555+

https://cdn.kastatic.org/KA-share/sat/5MSA05_FV.pdf ตัวข้อสอบจ้าา

https://cdn.kastatic.org/KA-share/sat/5MSA05%20Practice%20Essay.pdf ส่วน Essay

http://cdn.kastatic.org/KA-share/sat/SAT%20Practice%20Test%20Number%206%20Scoring.pdf เฉลยครัช


**ตอนนี้พี่ติด BBA จุฬาแล้วล่ะ กำลังรวมทีมกับเพื่อนทำเพจแชร์ข้อมูลสอบอินเตอร์ทั้งหมดครับ มาติดตามในเฟสได้เลยจ้า ^^

https://www.facebook.com/LearningCafebydom9914 <<ตามโลดดด

_________________________________________________________


สวัสดีขอรับบบเพื่อนๆผู้สนใจคณะอินเตอร์ทุกๆคน เชื่อว่าทุกๆคนในตอนนี้คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าเจ้า SAT แบบดั้งเดิมได้ล้มหายตายไปจากโลกเสียแล้วและก็ได้ถูกแทนที่ด้วยข้อสอบใหม่เอี่ยมอ่องอย่าง New SAT แทน T_T ต้องขอบอกว่าจขกท.เองช๊อคอยู่เหมือนกันตอนรู้ว่าเจ้า SAT นี่มันจะเปลี่ยนหน้าตาไปเสียจนแทบจำไม่ได้ขนาดนี้ แถมจขกท.เองก็ดันผ่าไปลง New SAT รอบแรกของไทยไปแล้วด้วยสิ อร่อกส์ -*-

(ก็ว่าทำไมศูนย์สอบว่างมันดูเยอะแบบแปลกๆฟระ....)
 

เอาเถอะเมื่อเราลงไปแล้วมันก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ล่ะนะ 5555+ และแล้วข้าน้อยเองก็เลยเลือกที่จะสละเวลา 1 เดือนเต็มในช่วงเรียนซัมเมอร์ในการติวมันอย่างเดียว และไปสอบมันแบบมึนๆอึนๆอย่างนั้นนี่แหละ ดังนั้นวันนี้ก็จะขอนำประสบการณ์ตรงพร้อมเทคนิคและข้อแนะนำของจขกท.มาแชร์และหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่จะดำเนินรอยตามในรอบต่อๆไปได้บ้างไม่มากก็น้อยน่อว์~ 
 

ก่อนอื่นขออนุญาตเข้าสู่รายละเอียดเบื้องต้นของวันสอบจริงก่อนเลยแล้วกันนะครัช อิอิ
 

1. อุปกรณ์การสอบที่ต้องพกไปในวันสอบได้แก่
- ดินสอ 2B ประมาณ 3-4 แท่ง (ในบางศูนย์สอบเขาอาจมีให้ และจะไม่ให้เราเอาของตัวเองเข้าไป แต่ยังไงก็ต้องพกไปก่อนครับผม)
- กบเหลาดินสอและยางลบดีๆสักแท่ง (บางศูนย์สอบจะมีให้ แต่ยังไงก็ให้เอาไปดีกว่าครับ)
- เครื่องคิดเลข (อันที่จริงแค่แบบที่ใช้ในคาบเรียนฟิสิกส์ เคมีที่หา sin cos tan แล้วก็แปลงเศษส่วนเป็นทศนิยมไหวก็ใช้ได้แล้วล่ะ แต่ใครที่ถนัดจะใช้ Graphing calculator ก็ได้น่อว์)
- บัตรประจำตัวประชาชน(หรือพาสปอร์ต) พร้อมด้วยบัตรสอบที่ปริ๊นท์มาจากในเว็บ College Board โดยทั้ง 2 อย่างนี้ ห้ามลืมเอามาเด็ดขาดดดด!!!
- กระเป๋าสะพายขนาดกลาง ที่สามารถใส่น้ำและขนม(ถ้าคิดว่าจำเป็นสำหรับตัวเองอ่ะนะ...)ได้ โดยศูนย์สอบส่วนใหญ่จะให้นำกระเป่าไปวางไว้ริมห้อง/หน้าห้อง/ห้องฝาก(มีหลายแบบมากกกกตามแต่ที่ๆไปสอบ)

2. ควรมาถึงสนามสอบตั้งแต่ 7.00 - 7.20 โดยประมาณครับ (มาเช้ากว่านี้บางศูนย์ยังไม่เปิดประตูรร.เลย ถ้ามาช้ากว่านี้ก็อาจจะฉุกละหุกไปนิด) ส่วนใหญ่จะเริ่มลงทะเบียนเวลา 7.40 โดยประมาณ แนะนำว่าศึกษาเส้นทางไปแต่ละสนามสอบดีๆครับผม

3. ชุดที่จะแต่งมาแนะนำให้เป็นไปรเวทครับ ไม่ค่อยมีใครแตต่งชุดนร. เท่าไหร่หรอก และอาจจะมาพร้อมเสื้อคลุมกันหนาวที่ไม่หนามากเสียหน่อยก็ได้

4. น้ำและขนมพกใส่กระเป๋ามาได้ครับ แต่ว่าจะได้กินไหมนั่นแล้วแต่การจัดการของแต่ละศูนย์สอบเลยล่ะ (บางทีเขาให้แยกกระเป๋าไปที่อื่นแต่แรกก็อาจไม่ได้ทาน 5555  อันนี้ประสบการณ์ตรง ถถถถถ) แต่น้ำแนะนำให้พกมาน่อว์ เพราะได้ข่าวว่าบางทีไม่มีน้ำตู้ให้กดระหว่างพัก ส่วนขนมยอมรับว่าจขกท.ไม่มีอารมณ์หยิบขึ้นมาแม้แต่น้อย 55555

5. จะมีช่วงเวลาพักทั้งหมด 2 ซึ่งได้แก่รอบแรกหลังจากสอบพาร์ทแรกคือ Reading จบ และหนึ่งคือหลังจากจบพาร์ท 3 คือพาร์ท Math no calculator จบ

6. จะสอบเสร็จเวลาประมาณ  12.00 ครับหากว่าไม้ได้ลง Essay แต่หากว่าลงสอบ Essay ด้วยก็จะเกือบๆบ่าย (เวลาขึ้นอยู่กับความช้าเร็วในการกรอกข้อมูลส่วนตัว และความรีบของกรรมการคุมสอบ แต่เท่าที่สอบถามเพื่อนหลายๆคนมาจะไม่มีช้ากว่า 13.30 นะ)

7. อุปกรณ์นอกเหนือจากนี้ไม่ควรพกเข้าห้องสอบครับ ส่วนมือถือขอบอกให้ Play safe โดยการปิดไปเลยจะดีกว่าครับและห้ามหยิบขึ้นมาระหว่างสอบโดยเด็ดขาดครับผม อันนี้สำคัญมากๆๆๆ!!! ส่วนนาฬิกานี่แล้วแต่ศูนย์สอบเลยครับผม บางศูนย์แม้แต่นาฬิกาจับเวลา(ไม่ใช่ดิจิตอลจ๋านะ)ก็นำเข้าไปได้ แต่บางศูนย์นี่แค่แบบต้องเขย่าก็ยังบังคับเก็บใส่กระเป่าตั้งแต่ก่อนสอบกันเลย 5555


__________________________________________________________________

เอาล่ะต่อไปขอนำท่านสู่ช่วงรีวิวประสบการณ์ New SAT แบบรายพาร์ทล่ะ

- Reading หลังจากฝนข้อมูลบ้าบอคอแตกที่หน้าปกของข่อสอบเสร็จ เราจะต้องเจอกับพาร์ทที่เชื่อว่าน่าจะถือว่าหินที่สุดของ New SAT ข้อแนะนำคือข้ามเรื่องที่เราไม่ถนัดไปก่อนเลยครับ อย่างเช่นถ้าเราไม่ถนัดพวก Fiction ก็ให้ข้ามบทความแรกไปเลยค่อยกลับมาทีหลัง เน้นอ่านเรื่องที่เราอ่านย่อหน้าแรกๆเข้าใจแล้วเก็บคะแนนจากเรื่องนั้นๆไปก่อนเลย ที่สำคัญคือหากว่าเราแข็งอังกฤษพอควรอยู่แล้วแนะนำให้อ่านให้หมดก่อนแล้วค่อยเริ่มทำคำถามครับผม เวลาทำช๊อยส์จะรู้สึกเลยว่าทำไหลลื่นกว่าอ่านคำถามแล้วไปอ่าน Passage พร้อมกันน่ะ

ส่วนสำหรับคนที่อ่านพอเข้าใจแต่ไม่ทั้งหมดแนะนำว่าพยายามจับใจความให้ได้ว่าแต่ละย่อหน้านั้นพูดความหมายเป็นเชิงอะไร(อธิบาย ขัดแย้ง สร้างจุดยืน นำเสนอข้อมูลใหม่ บลาๆๆ) แล้วพยายามยำมันกับย่อหน้าต่อไปเข้าด้วยกันไปทีละคู่เรื่อยๆ เราจะจับโทนของ Passage ได้ดีขึ้นครับเอง(บางทีอ่านย่อหน้าแรกไม่รู้เรื่องเลยแต่พอเราเริ่มอ่านถึงย่อหน้าสองและสามเราจะพอวาดเค้าลางๆได้เองแหละ) ส่วนข้อไหนที่ไม่มั่นใจเลยแนะนำว่าให้ข้ามไปก่อนแล้วค่อยกลับมาทำหลังจากทำทั้งหมดเสร็จทีเดียว

ด้วยจำนวนข้อสอบ 52 ข้อ เวลา 65 นาทีและประกอบไปด้วย 5 Passage ทำให้เวลาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 13 นาที่ต่อเรื่อง เวลาฝึกทำควรให้เวลาตัวเองอ่านเนื้อเรื่องจนเข้าใจประมาณ 6-8 นาทีครับ ส่วนเวลาที่เหลือก็ให้ทำคำถามทั้ง 10-11 โดยตอบเฉพาะข้อที่มั่นใจพอสมควรครับ ข้อไหนทำไม่ได้ข้อไหนกเว้นไว้ก่อนแล้วรอจนทำถึงข้อ 52 แล้วค่อยย้อนกลับมาทำทีเดียวครับ ขอบอกว่ามันทำได้น่อว์ ไม่ต้องห่วง บางทีการทำอย่างนี้มันจะทำให้เรามองจุดที่เรามองข้ามไปก่อนหน้านี้ออกด้วยล่ะ

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่สำคัญของ New SAT ในพาร์ทนี้คือคำถามจำพวก Words in context หรือคำถาม "ความหมายของศัพย์จากบทความ" ซึ่งค่อนข้างแตกต่างจาก SAT แบบเก่าแบบหน้ามือเป็นหลังมือแถมมีตั้ง 10 หรือ 11 คำถามจาก 52 เลย โดยในขณะที่ SAT เดิมเราต้องจำศัพย์พร้อมความหมายเป๊ะๆ แต่ของใหม่นี้ให้ใช้ "ฟิลลิ่ง" ทำแทนครัช -*- เฮ้ย คือจริงๆเลยนะ บางทีต่อให้รู้ความหมายของคำๆนั้นแต่คำๆนั้นในบริบทนั้นๆมันไม่เคยแปลตรงตัวกับความหมายตรงๆของมันเลยน่ะ ดังนั้นหากเจอความหมายที่เป็น Synonym แท้ๆของคำๆนั้นในช๊อยส์เมื่อไหร่ให้ตัดทิ้งได้เลยครับ ในส่วนนี้จำเป็นที่จะต้องมีพื้นฐานศัพย์อังกฤษแน่นพอตัวเพราะจะต้องรู้จักศัพย์อีกอย่างน้อย 2-3 ตัวในช๊อยส์ให้ได้ ไม่อย่างนั้นก้ต้องมั่วกันล่ะ(ศัพย์ของ SAT ใหม่ง่ายขึ้นเยอะจริงๆครับผม แต่ถึงอย่างนั้นทั้งๆที่จขกท.รู้ศัพย์ทุกตัวในนั้นแล้วนะ แต่มันก็มักมี 2 ตัวเลือกให้เราต้องตัดสินใจอยู่ดี ซึ่งตรงนี้แล้วแต่เซนส์ของแต่ละคนเลยน่อว์ว่าใครแม่นไม่แม่น ถถถถถ)

**ถ้าอันไหนอ่านไม่ทัน/ไม่เข้าใจเลย ก็ให้ข้ามไปทำพวกข้อที่ถามข้อมูลจากตารางหรือกราฟที่ Passage มันให้มาครับ ส่วนใหญ่ข้อพวกนี้จะถามไม่ยากมาก บางทีถ้าเราทำแค่เจ้านี่ได้ก็อาจได้คะแนนมาฟรีๆโดยไม่ต้องอ่านซัก 1-2 แต้มแบบงงๆล่ะ

** สำหรับผู้ที่ไม่แน่นอังกฤษเป็นทุนเดิมแนะนำว่าตอนทำพาร์ทนี้อย่าเพิ่งไปเครียดครับผม อย่าลืมว่ามันแบ่งคะแนน 400/400 กับ Writing ที่มีจำนวนข้อน้อยกว่าแถมคะแนนต่อการตอบถูกมากกว่า ดังนั้นแนะนำว่าถ้าคิดว่าตรงนี้เอาไม่อยู่แน่ๆก็ติวหนักๆเพื่อเก็บ Writing ในพาร์ทต่อไปโดยไม่ต้องมานั่งเครียดกับพาร์ทนี้มากนักก็ได้ครับผม เพราะขืนเปิดข้อสอบมาแล้วเตรียดมันตั้งแต่พาร์ทแรกก็ไม่ดีเท่าไหร่หรอก

** Word in context เป็นส่วนที่จขกท.มองว่ายากที่สุดนะ วิเคราะห์ยากจริงจัง sub-score ออกมาแล้วได้แค่ 10/15 ทั้งๆที่รู้จักศัพย์แทบทุกตัวแท้ๆน่ะ T_T

- Writing สุดยอดพาร์ทที่เวลากระชั้นมาก มี 44 ข้อรวม 4 Passage แต่ว่าให้เวลา 35 นาทีเท่านั้น เอาล่ะ...แต่ถึงแม้ว่ามันจะขึ้นชื่อว่าพาร์ท writing แต่ขอบอกว่าการอ่านก็สำคัญพอตัวนะครับ คือไม่ต้องไปสนเนื้อเรื่องมันเท่าไหร่(ยกเว้นข้อที่ถามเรื่องแทรกประโยคหรือเปลี่ยนประโยคทั้งหลาย อันนั้นให้อ่านขึ้น-ลงจากตรงนั้นประมาณ 5 บรรทัดน่อว์ แต่ข้อนอกเหนือจากนั้นแทบไม่ต้องอ่าน)แต่เน้นจับให้ได้ว่ากริยาประโยคนั้นๆเป็นพหูพจน์หรือเอกพจน์ ประโยคด้านหน้ากับด้านหลังมีใจความเป็นยังไง(สมบูรณ์-ไม่สมบูรณ์) 

หลักการทำคืออ่านคำถามก่อนแล้วจึงค่อยไปอ่าน Passage ซึ่งตรงข้ามกับ Reading ที่จขกท.มองว่าควรอ่านก่อนแล้วค่อยดูคำถามอ่ะนะ ส่วนใหญ่ถ้าอังกฤษพอไหวจะพอรู้เรื่องอยู่แล้วเพราะมันไม่ยากแบบพาร์ท Reading แต่ที่เราต้องจับสำคัญเลยก็คือหาประธานและส่วนขยายแต่ละประโยคให้เจอ แล้วก็วิเคราะห์โครงสร้างประโยคต่อประโยคตามคำถามนั้นๆตรงๆไปเลย คำถามแกรมม่าปกติอ่านแค่ประโยคนั้นประโยคเดียวก็พอครับ และแนะนำว่าหมั่นดูเวลาด้วยน่อว์ หนึ่งข้อข้อไม่ควรเกิน 40 วินาทีครับ นานกว่านั้นข้ามไปก่อนเลย

** พาร์ทนี้ส่วนตัวของจขกท.เองไม่แนะนำให้ทำข้ามข้อเท่าไหร่นะ เพราะบางทีมันจะทำให้เราลืมอ่านเนื้อเรื่องแล้วมีผลกับข้อต่อๆไปได แถมเวลาก็น้อยมากดังนั้นถ้าเป็นไปได้ก็ทำแบบฝนข้อต่อข้อไปเลยครับ ให้เว้นข้อที่ "ทำได้แต่ยังลังเล" ก็พอน่ะ ส่วนข้อไหนถ้าไม่ได้แน่ๆก็มั่วมันเลย 5555

** ข้อที่เป็นการจัดรูปประโยค แนะนำว่าฝึกทำพวกนี้ทำให้คล่องๆหน่อยครับผม ไม่งั้นถึงเวลาจริงๆจะเสียเวลามากหากมานั่งเทียบแกรมม่าเพราะประโยคมักยาวเฟื้อยเลย เวลาทำแบบฝึกหัดก่อนสอบของคำถามแนวนี้แนะว่าทำให้คล่องมากๆจนใช้เซนส์ได้ไปเลย มิเช่นนั้นมันจะกินเวลาจนทำเกือบไม่ทันเอาง่ายๆ(เหมือนจขกท.)ล่ะครับ

** คำเตือน!! ใครคิดจะเก็บพาร์ทนี้เยอะๆ เวลาฝึกต้องจับเวลาตัวเองด้วยนาฬิกาธรรมดาตลอดนะครับ บางศููนย์สอบไม่อนุญาตให้นำนาฬิกาจับเวลาเข้าไปได้ แถมเวลาในการตอบต่อข้อสั้นมากๆ(ย้้ำ เวลาสอบจริงรู้สึกสั้นสุดๆๆ) ดังนั้นปัญหามักมาจากการดูนาฬิกาประจำห้องอีกทีเหลือ 20 กว่าข้อแต่ดันมีเวลาอีก 10 นาทีเศษๆซะงั้นอ่ะ...

** พวก Punctuation ค่อนข้างแจกคะแนนครับ ขอแค่เราแม่นๆว่าตัวไหนใช้กับประโยคสมบูรณ์ทั้ง 2 ได้ ตัวไหนใช้กับประโยคหนึ่งสมบูรณ์กับอีกประโยคไม่สมบูรณ์ได้ ตัวไหนใช้กับการขยายลักษณะได้ หรือตัวไหนใช้กับการร่ายรายชื่อได้ พวกหลักพวกนี้ถ้าแม่นๆยังไงก็จะทำได้แบบไม่ยากเย็นนักและจะทำได้เร็วมากด้วยครับผม

- Math - no calculator สุดยอดพาร์ทแจกคะแนนแห่ง New SAT ขอบอกเลยว่าจขกท.ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะค่อนข้างแจกคะแนนขนาดนี้ คือส่วนใหญ่ถ้าแม่นเนื้อหาอยู่แล้วแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยvjtot บางข้อแทนเลขใส่ตัวแปลก็ออกแบบงงๆ หรือบางข้อแค่ใช้สูตรสมการเส้นตรงคำตอบมันก็ออกมาเลยแบบมึนๆ พาร์ทนี้ขอเพียงตั้งใจทำแบบฝึกหัดซักเดือนเดียวเก็บเต็มได้ไม่ยากเลยล่ะ ^o^

ด้วยเวลา 25 นาทีกับข้อสอบ 20 ข้อ ขอบอกเลยว่าหากติวมาแม่นๆนี่เวลาเหลือสบายๆ(แต่นั่นไม่ใช่จขกท.หรอกนะ ตองขอยอมรับล่ะ -*-) อาจจะมีข้อที่ต้องใช้หลักการตรีโกณมิติเบื้องต้น/เทียบอัตราส่วนและอาจมีโจทย์ยาว 7-8 บรรทัดหลุดมาหลอกเราบ้างเช่นกัน แต่ถ้าไม่รวนเกินไปนักก็ทำทันและเก็บเต็มสบายๆครับผม ^^

** ข้อไหนคิดว่าเสียเวลาข้ามไปก่อนเลยครับ รอบที่จขกทไปสอบข้อ grid-in ง่ายกว่าข้อกามาก แถมจขกทเชื่อว่าน่าจะเก็บเต็ม grid-in ของมันได้ด้วยแหละ 5555

** จะมีข้อที่ให้สถานการณ์มาแล้วให้เราหาอสมการที่ใช้คิดคำตอบข้อนั้นซึ่งโจทย์ปาไป 7-8 บรรรทัด เจ้าพวกนี้ค่อนข้างน่ากลัวครับผมถ้ารีบทำแต่แรกจะผิดเอาง่ายๆ แนะนำว่าข้ามไปในรอบแรกก่อนแล้วค่อยกลับมาทำทีหลังสุดหลังจากทำ Grid-in หมดน่อว์ เพราะข้อพวกนี้ถ้าเอาให้ชัวร์จะกินเวลาสุดในพาร์ทแล้วน่ะ

**สูตรลัดไม่ค่อยได้ใช้หรอกครัช แต่การแทนเลขลงในสูตรที่ให้มาแล้วเทียบกับช๊อยส์มีประโยชน์มาก อาจได้ฟรี 2-3 ข้อแบบไม่ต้องแก้สมการอะไรเลย ถถถถถ สูตรที่จะเจอก็พวกสูตรหลักๆของ Arithmatic sequence กับ Linear equation ครับผม (อย่ากลัวว่าใช้สูตร -b ในตำนานแล้วเสียเวลาครับ ข้อนั้นมันอาจเสียเวลาจริงๆก็ได้ -*-)

** ถึงจะบอกว่าง่ายแต่ขอบอกว่าจขกทผิดเพราะทำไม่ทันไปข้อนึงเหมือนกันนะ 5555

** Complex number ง่ายม๊ากกกกกกกก

- Math - calculator พาร์ทเลขที่ให้ใช้เครื่องคิดเลขแต่กลับรู้สึกว่าจะตายกับความยาวโจทย์และการสับขาหลอกของโจทย์พี่แกมากกว่า 5555 จขกท.สารภาพเลยว่าใน 38 ข้อของพี่แกคือข้าน้อยได้เปิดคุณเครื่องคิดเลขมาทำไม่ถึง 10 ข้อซะงั้น -*- โจทย์ส่วนใหญ่สำคัญที่สุดเลยคือ "แปลให้ออก"  และ "อ่านกราฟเป็น" เพราะเอาจริงๆโจทย์ไม่ได้ซักซ้อนอย่างที่คิดครับผม เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการงงกับโจทย์ว่า "มรุงต้องการอัลลัย??" เป็นส่วนมากล่ะนะ (โจทย์ความยาว 6-8 บรรทัดพบได้ทั่วไปพอๆกับโจทย์ตีความกราฟ)

เรื่องเวลาถือว่าเหลือเฟือครับ 38 ข้อ 55 นาที แต่ขอเตือนว่าพาร์ทนี้สิ่งที่ต้องทำคือ "ฝึกเยอะๆ" ครับผม จะแปลโจทย์ออกได้โดยไม่โดนหลอกต้องอาศัยประสบการณ์พอสมควรโดยเฉพาะในส่วนของ Data analysis (จขกท.น่าจะผิดไป 5-6 ข้อจากเรื่องนี้เลยแหละ 5555) ที่สำคัญคือถ้าเห็นว่าข้อไหนเสียเวลาก็ให้ ข้ามทันที ครับ ไม่รู้ว่าเป็นแค่รอบ 7 พฤษภาหรือเปล่านะ แต่ว่าโจทย์ Grid-in แทบจะไม่ได้ใช้เครื่องคิดเลขสักข้อด้วยซ้ำ -*- แถมง่ายกว่าของท้ายๆของข้อกาซึ่งเน้นวิเคราะห์สถานการณ์เยอะมาก(ตอนจขกท.สอบนี่เว้นระเนระนาดเลยพวกข้อกา แหะๆ แต่พอพลิกมาด้านหลังดันทำได้แทนซะอย่างนั้นนะ 5555)

พาร์ทนี้พวกสูตรลัดจะมีผลเยอะครับผม บางข้อได้สูตรลัดเข้าไปนี่จบภายใน 10 วินาที 5555 แล้วก็การอ่านกราฟได้ดีจะมีประโยชน์ทำให้ทำข้อสอบได้เร็วขึ้นมาก ตรงนี้แนะนำว่าฝึกบ่อยๆเลยเพื่อที่จะได้เอาเวลาไปทุ่มให้กับ data analysis และ Problem solving ที่บางข้องงแดร๊กจนต้องอ่านกลับไปกลับมา 2-3 เอาง่ายๆล่ะ(Problem solving บางข้อนั่นแลตัวดีเลย) ถถถถ

**สูตรลัดที่จะได้ใช้ก็พวกสูตรสั้นๆของสมการพาราโบลาทั้งหลายแหล่ที่บางทีรู้แค่จุดเดียวตอบได้เลย ควรอย่างยิ่งที่จะศึกษาสมการพาราโบลามาแม่นๆน่อว์อาจเก็บได้ 2-3 ข้อเลย 

** อย่ากลัวแยกตัวประกอบของสมการ(เช่นสมการวงกลม หรือ quadratic)แล้วเลขออกมาไม่ลงตัวครับผม จขกท.และเพื่อน(ที่คะแนนมันสูงพอยื่น Early BBA CU ไปแบ้วว..)ผิดข้อนี้เหมือนๆกันเพราะไม่เชื่อว่ามันจะแยกแล้วถูกได้ในห้องสอบนี่แหละ แต่ปรากฎพอออกมาคิดข้างนอกแล้แยกแบบเลขไม่สวยดันได้คำตอบสวยๆซะอย่างนั้น เสียดายมากกกกจนวันนี้ ToT

**ระวังโจทย์ Exponential ทั้งหลายทั้งสมการและฟังค์ชั่นโดยเฉพาะที่เว้นตัวแปรไว้ด้วยน่อว์ บางทีเขาให้ตัวประกอบมาแล้วให้เราหาตัวประกอบอีกตัวที่เป็นไปได้ที่หายไปมาเพิ่มน่ะ เรื่อง Exponential ออกหลายข้ออยู่ครับ ไม่ได้มีแค่แบบที่บอก จขกท.ว่าเป็นอีกหนึ่ง area ที่ควรฟิตแม่นๆเลยล่ะมีออก 2-3 ข้อแบบไม่ซ้ำรูปแบบแน่นอน

**พาร์ทนี้ส่วนมากพอมองโจทย์ปุ๊ปจะแยกออกทันทีเลยว่าทำได้หรือไม่ได้ ถ้าไม่ได้ข้ามโลดครับ บางทีข้อหลังๆตอบได้ตั้งแต่เห็นตาราง/กราฟของมันด้วยซ้ำ ตอนจขกท.ทำถึงข้อ 38 แต่พอหันมาดูอีกเว้ว่างไว้ 15-16 ข้อเลยทีเดียว (แต่คะแนนสุดท้ายก็พอจะรับได้นะ...,มั้ง)

** จากเหตุผลด้านบนทำให้จขกท.มีเวลาเหลือในพาร์ทนี้ 15 นาทีเต็มแบบงงๆอ่ะนะ การนอนหลับในห้องสอบนี่สบายจริงๆ..... -*-

______________________________________________________________

อ้อ ชื่อว่าหลายคนคงได้ข่าวเรื่องหัวข้อใหม่ๆอย่าง Exponential / Trigonometry / LOG / Complex number อันเป็นเนื้อหาที่ของเก่าไม่มีนั้นบอกได้เลยว่า.....
.

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

ขอบอกตามตรงว่า 4 หัวข้อพวกนี้ ง่ายม๊ากกกก!!!

Exponential รอบจขกท.เจอถามแค่ว่ากราฟนั้นเป็น Linear หรือ Exponent ซึ่งถ้าเรารู้ความแตกต่างก็ตอบได้ล่ะ หรือบางทีต่อให้ต้องคำนวณก็แค่เอาเลขคูณไปเรื่อยๆ 2-3 ครั้งก็ออกแล้ว กดเครื่องได้สบายมาก -*- ข้อยากๆหน่อยก้พวกแยกตัวประกอบฟงัค์ชั่นนั่นแหละครัชแต่ที่เหลือไม่มีปัญหาเท่าไหร่

- Trigonometry ถ้ามีเครื่องคิดเลขที่หา sin cos tan ได้ก็ไม่มีปัญหาเลยครับ หาเสร็จเอาไปเทียบอัตราส่วน จบแบบง่ายๆงงๆเช่นนี้แล ถถถถถ อ้อ และที่รู้สึกว่าสำคัญมากคือทฤษฎีสามเหลี่ยมคล้ายน่อว์ เจอทั้งในแบบฝึกหัดและของจริงเลยล่ะ เชื่อว่ารอบต่อๆไปก็ต้องเจอแน่ๆ

- Logarithm สารภาพตามตรงว่าไม่เจอเลยสักข้อ 5555

- Complex number ขอแค่บวกลบเป็นกับคูณให้ตัวส่วนเลิกติด i ได้ก็น่าจะพอครับ ขั้นสูงกว่านั้นเชื่อว่ารอบหน้าก็คงไม่มีหรอกเพราะไม่งั้น College board คงลำเอียงไปนิด 5555


______________________________________________________________

เอาล่ะครับก็รีวิวกันไปพอหอมปากหอมคอ(มันใช่เรอะ???)ไปพอแล้วมั้ง 5555 ยังไงถ้าจขกท.ว่างพอจะแวะมารีวิวหนังสือสำหรับ New SAT ของข้าพเจ้าให้ได้รับชมกันอีกทีล่ะ หรือใครมีข้อสงสัยอะไรก็ถามหรือมีเทคนิคดีๆจะแชร์ต่อก็บอกกันในคอมเมนต์ได้เลยน่อว์ ส่วนใครที่คิดว่ากระทู้นี้มีประโยชน์บ้างก็ฝากแชร์หรือนำไปให้เหล่าผู้จะพิชิต New SAT ครั้งต่อๆไปได้อ่านด้วยกันด้วยนะครัชช ^^

สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่กำลังจะเดินตบเท้าเข้าสู่สนามสอบ New SAT รอบปลายปีและรอบต่อๆไปด้วยครับผม แล้วเราจะสู้กับ New SAT ไปด้วยกัน เย้!!!

ปล.ฝากล้างแค้นให้พวกหนูทดลองรอบแรกอย่างจขกท.ด้วยยย อะเฮื้อกกกก // นอนจมกองคะแนนตัวเองอย่างสงบ...
 

แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

dom9914 19 มิ.ย. 59 เวลา 17:04 น. 2-1

ขออนุญาตตอบ 2 คำถามในเมนต์เลยน่อว์ SAT

1. สถานที่สอบมีเยอะมากครับ มีโรงเรียนนานาชาติหลายแห่งในไทยทั้งกทม.และตจว.ที่เปิดเป็นศูนย์สอบ ดูรายละเอียดในลิ๊งค์นี้ได้เลยครับ https://collegereadiness.collegeboard.org/sat/register/find-test-centers ปล.แต่รอบปลายปีจะเต็มไวมาก ตอนนี้รอบตุลากับพฤศจิปีนี้ในกทม.เต็มหมดแล้วน่อว์

2. ไม่ได้ติวกับใครที่ไหนเลยครับ ความขี้เกียจเดินทาง+อยากประหยัดเงินทำให้ใช้วิธีซื้อหนังสือมาติวเอง 4 เล่ม ถถถถถ(แต่จริงๆที่แย่งเพื่อนมาอ่านบ้าง หรือไปยืนอ่านบ้างนี่ก็แทบจะครบที่มีของ New SAT ณ ตอนนี้แล้วล่ะ 5555)แล้วก็ทำในเว็บ https://www.khanacademy.org/mission/sat/practice นี้เอาน่ะครับ ในเว็บนี้ทั้งตรงแล้วก็เยอะมากครับผม ^^

0
dom9914 24 มิ.ย. 59 เวลา 18:24 น. 3-1

ข้าน้อยว่าน่าจะยื่นได้คณะอยู่นะถ้าเทียบจาก BBA CU ที่เกณฑ์ประกาศออกมาแค่คณะเดียวน่ะ #เกณฑ์ยังไม่ค่อยออกกันเลยน่ะสิ ถถถถ
Reading and writing 640
math 720 ครับผม ^^

ยอมรับว่าเลขไม่ค่อยฟิต(เชื่อว่าผิดจาก Data ไปอย่างน้อย 4-5 ข้อ -*- + Problem solving อีก 1 และ HOA อีก 1 น่ะ)และอังกฤษพาร์ท Reading นี่ก็งงเป็นไก่ตาแตกซะ 2 Passage เต็มๆ 5555

0
Gmyoun 24 มิ.ย. 59 เวลา 18:42 น. 3-2

คะแนนสูงมากกครับ เรายื่นBALAC แต่เราสอบรอบjuneไป ทไม่ได้เลยย

0
dom9914 24 มิ.ย. 59 เวลา 19:07 น. 3-3

งืมมม BALAC เช่นนั้นรึ ผมเองเชื่อว่าเกณฑ์คงไม่หนีไปเกินอังกฤษ 500 หรอกขอรับ ไม่ยากมากหรอก ยังไงก็สู้ๆน่อว์ ที่จริงตอนแรกผมก็สนใจอยู่นะ BALAC น่ะ เสียดายว่าไม่มีสาขาเอกปวศ.โลก/ตะวันตกแบบตรงๆมิเช่นนั้นก็คงจะยื่นที่นี่เช่นกัน 5555

ปล. เห็นคะแนน SAT แบบนี้ เอาจริงๆอาจได้เห็นจขกท.หนีไปสอบศิลปากรภาคปกติด้วยนะ ถถถถ อะไรก็เกิดขึ้นได้หากปลายปีข้าพเจ้าเกิดติสแตกขึ้นมาและกลับไปวกหาปวศ.กะทันหันน่ะ 5555

ปล.2 แอบได้ยินแว่วๆว่ารอบ June นี่เลขง่ายขึ้นแต่อังกฤษยากกว่าเก่าหน่อยนะ ไม่รู้เท็จจริงเช่นไรล่ะ -*-

0
Gmyoun 24 มิ.ย. 59 เวลา 19:39 น. 3-4

อังกฤษมาเต็มจริงครับ พาสเสจ2โหดมากเขียนแบบอ่านยากทั้ง พารากราฟ แล้วพ้อยมันอยู่ใน พารากราฟนั้น...เราขอเกิน500ก็โอละeng จขกทอย่ามาBaLacเลย 55โหดเกินนน ถ้ามาจะผลักตกบรรได55

0
Sane 13 ก.ค. 59 เวลา 08:36 น. 4

พอดีพื้นฐานเลขไม่แน่นเลยครับอยากแน่นเหมือนเจ้าของกระทู้บ้างอะครับฮรือเยี่ยม

1
dom9914 13 ก.ค. 59 เวลา 20:27 น. 4-1

จริงๆจขกท.ไม่แน่นเลขเลยนะ ดีกรีตกมันซ้ำซากทุกเทอมมา 4 เทอมติดแล้วน่ะ.... #กลางภาคอาทิตย์หน้าเองก็คงไม่รอดเช่นกัน ถถถถ แต่ทางนี้อาศัยลูกฮึดตอนโค้งสุดท้ายทำมันรัวๆชนิดที่ว่าไม่เข้าใจก็ต้องเข้าใจแหละ และดูแล้วท่าทางลูกบ้าแบบนี้นี่ก็ได้ผลดีเสียด้วยสิ 5555

ลูกฮึดหากใช้คู่กับการทำแบบฝึกหัด Official ของ College board ในเน็ต(ซึ่งสมัย Old SAT มันไม่มีให้เราหรอกนะ)จะได้ผลอย่างแรงครับ และถ้าเป็นไปได้เวลาทำอย่าพยายามให้ใครช่วยจะดีมาก ให้พยายามแปลเอง ถอดความเฉลย(แบบมั่วๆมึนๆ)เอง แล้วก็ทำไปเองเรื่อยๆน่ะ คือทำแรกๆจขกท.เองก็ผิดรัวๆเหมือนกันครับ( เลขว่าหนักแล้ว แต่ยิ่งพาร์ท Reading กับ Writing นี่จขกท.ทำมันแบบสกิลแทบไม่อัพเสียเกือบอาทิตย์เต็มล่ะ 5555) แต่ถ้าทำมันรัวๆแบบไม่เลิกสัก 3-4 อาทิตย์ได้ขอรับประกันว่าสกิลมี Level อัพแน่นอนน่อว์ และจขกท.เชื่อว่าเห็นผลจริงและสกิลขึ้นไวกว่าไปนั่งเรียนอีกครับผม ^^

0
dom9914 16 ก.ค. 59 เวลา 00:56 น. 5-1

ทั้งหมดเลยครัช นาทีสุดท้ายนี่ถ้ายังเว้นว่างข้อไหนอยู่ก็ฝนมั่วมันรัวๆได้ตามสบายเลยครับ 5555

0
Bible Purin 3 ต.ค. 60 เวลา 16:42 น. 5-2

โทดทีนะคับ ขอถามว่า สอบเสร็จเเล้ว อีกกี่วันคะเเนะถึงจะออกหรอคับ เราสามารถรู้จากไหนหลังจากคะเเนะออกคับ

0
dom9914 3 ต.ค. 60 เวลา 21:02 น. 5-3

คะแนนจะมาในไอดีที่เราใช้สมัครในเว็บ Collegeboard เลยเน้อ ส่วนวันที่ให้ดูจากลิ๊งค์นี้ล่ะ https://collegereadiness.collegeboard.org/sat/scores/getting-scores ปีนี้วันแน่นอนไม่มี แต่มีช่วงๆให้(เขาเร่งเวลาให้ออกเร็วขึ้น)ดังนัน้ในช่วงนั้นก็รีเฟรชหน้าเว็บกันทุกวันแล้วกัน 5555

0
Bible Purin 4 ต.ค. 60 เวลา 21:36 น. 5-4

เเต่ในใบ tricket admisson มันบอกว่าผลจะคะออกวันที่16 เดือนตุลานี่ สำหรับคนสอบรอบตุลา คะเเนะจะออกตามใบหรือป่าวคับ

0
dom9914 6 ต.ค. 60 เวลา 20:28 น. 5-5

https://collegereadiness.collegeboard.org/sat/scores/getting-scores 16 ไวไปม้าง สอบวันที่ 7 ออกตั้งแต่ 16 เป้ฯไปไม่ได้แน่นอนน่ะ แนะนำว่ายึดเจ้าเว็บของ collegeboard ตัวนี้ดีกว่าล่ะ (คือไวขนาดนั้นคะแนนยังไม่น่าบินไปถึงเมกาหมดเลยด้วยซ้ำล่ะ และไม่เคยมีคะแนน SAT ที่ออกไวกว่า Cu-tep แบบนั้นด้วย 5555)

0
sai_piyarak 19 มิ.ย. 62 เวลา 18:26 น. 7

จขกท. เรียนพวกนานาชาติหรือหลักสูตรEng รึป่าวคะ ดูไม่ค่อยเครียดกับเรื่องภาษาเท่าไหร่เลย

1
dom9914 19 มิ.ย. 62 เวลา 20:19 น. 7-1

จขกท.นี่คือไทยแท้แถมวิทย์-คณิตด้วยนะ 5555 (แถมตกวิทย์คณิตทุกตัวที่เรียน 3 ปี ติดด้วย บ้าบอมาก -*-) ส่วนเรื่องภาษาแกรมม่าอ่อนถึงอ่อนมาก ณ ตอนนั้นน่ะ ระดับที่ยัน ม.6 ยังแยกไม่ถูกว่า had มันต่างจาก has/have ยังไง ตอนนั้นคือยังแยก Adj ออกจาก adv ก็ไม่ได้ ห่วยถึงขั้นห่วยมาก 5555


ที่แตกต่างจากปกติจะคือ reading น่ะ เนื่องจากจขกท.เป็นเด็กติดเกมขั้นหนักตั้งแต่ประถมแล้ว และเผอิญเกมที่ติด ณ 2 - 3 ปีนั้นต้องอาศัยสกิล reading สูงมาก พอมันผ่านร้อยชั่วโมงแรกที่อ่านไม่รู้เรื่องงมโข่ล้วนๆไปได้จากนั้นเลยกลายเป็นอัพสกิล "อ่านแบบเน้นเซนส์" รัวๆ 55555 ยิ่งพอ ณ ตอนม. 6 ชม.บินเกมนั้นล่อไป 2000 กว่าชั่วโมงเลยทำให้สกิลรีดดิ้ง (ที่อ่านได้ไวมากแปลคำศัพท์มาเป็นไทยแบบคนอื่นที่ท่องศัพท์ทำกันไม่ได้เลย) อัพสูงมากๆทำให้อ่านรู้เรื่องโดยพึ่งการท่องศัพท์น้อยกว่าชาวบ้านเฉยๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้อังกฤษรวมๆดีมากอยู่ดี เกรดอิ้งรร.จะมี 2.0 -ือ 2.5 โผล่มาไม่พื้นฐานก็เพิ่มเติมเสมอน่ะ


โดยสรุปก็อารมณ์ Above average แต่ไม่ถึงกับ high อะไรแถวๆนั้นนั่นแล 5555

0