รีวิว การเตรียมตัวสอบเข้าทันตแพทย์ ฉบับเด็กห้องคิง เตรียมอุดมฯ (อัปเดต 2563)
สวัสดีครับ!!! น้อง ๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยกันอยู่ พี่ชื่อ ปอล (ทันตะ จุฬาฯ รุ่น 77) ปัจจุบันกำลังขึ้นชั้นปีที่ 6 คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ จบจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษารุ่นที่ 75 สายวิทย์-บริหาร ม.6 อยู่ห้องคิง 126 จะมาเล่าประสบการณ์และวิธีเตรียมตัวสอบเข้าคณะทันตแพทย์ (รอบ กสพท.) ให้น้อง ๆ ฟังนะครับ ;3
Q: เตรียมตัวตอนไหนดี?ก่อนอื่นเลยก็ต้องบอกว่าพี่เริ่มเตรียมตัวเอนทรานซ์จริง ๆ ตอน ม.5 เทอม 2 ซึ่งเนื้อหาที่ใช้สอบทั้งหมดน้อง ๆ ควรจะต้องเก็บให้หมดภายใน ม.6 เทอม 1 เพราะเราจะเริ่มลุยสนามสอบตั้งแต่ช่วง ม.6 เทอม 2 เป็นต้นไป ซึ่งพี่คิดว่าถ้าจะให้ดีที่สุดน้อง ๆ ควรจะเริ่มเก็บคอร์สเอนท์กันตั้งแต่ช่วง ม.5 เทอม 1 โดยใช้ช่วงปิดเทอม ม.4 ขึ้น ม.5 เก็บเนื้อหา ม.5 ทั้งหมดและ ม.6 ครึ่งเทอมแรกให้จบ และพอเปิดเทอม ม.5 เทอม 1 น้อง ๆ ก็เริ่มเก็บคอร์สเอนท์กันเลย เพราะถ้าน้องเริ่มต้นเร็วกว่าก็จะมีโอกาสฝึกทำโจทย์มากกว่าทำให้น้องมีโอกาสทำติดมากขึ้นครับ ^ ^
Q: แบ่งเวลาอ่านยังไง?
พี่เป็นคนที่ว่างก็อ่าน อ่านเกือบตลอดเวลา ถ้าไม่ติดงานของโรงเรียนหรือทำการบ้านเสร็จก็อ่าน จำได้ว่าช่วงนั้นนี่อ่านเกือบทั้งวันทั้งคืน พอเริ่มล้าก็จะพักฟุ๊บหรือนอนก็ได้ แต่ต้องตั้งนาฬิกาปลุกไว้ด้วยว่าจะงีบนานเท่าไหร่ ตื่นมาก็อ่านต่อ ตารางเวลามีมั้ยคำตอบคือ ไม่มีครับ (อันนี้คือ ตอนเอนทรานซ์ ตอนมหาลัยยิ่งกว่านี้ one night mircle ก็มีบ่อย)
Q: เรียนพิเศษที่ไหนดี?
ตอนที่เตรียมเอนทรานซ์พี่คิดว่าน้อง ๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วจะลงเรียนที่ไหนดี แต่ก่อนที่จะมาเข้าประเด็นนี้อ่านที่พี่จะบอกก่อนนะ เรียนในโรงเรียนเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกที่ต้องทำ พี่ไม่ได้ทิ้งการเรียนที่โรงเรียนเลยนะ น้องหลายคนมุ่งแต่ลงเรียนพิเศษจนไม่สนใจโรงเรียน แล้วน้องจะพลาดอะไรสำคัญหลาย ๆ อย่างที่อาจจะหาไม่ได้ในกวดวิชา...โอเคนะ
อีกเรื่องนึงคือ พี่อยากให้เราปรับความเข้าใจเรื่องการเรียนพิเศษใหม่ การเรียนพิเศษคือ การออกไปเติมในส่วนที่เราขาดหรือหาเทคนิคและวิธีคิดใหม่ ๆ ซึ่งเราอาจจะไม่รู้มาก่อนเลยก็ได้ แต่ติวเตอร์หรืออาจารย์ในสาขานั้น ๆ รู้ เพราะสอนมานานแล้ว สิ่งที่ได้จากการเรียนพิเศษคือ เราจะเกิดวิธีคิดหลายแบบ และขยายกรอบความคิดของเรา ให้รู้ ให้เห็นในมุมมองบางอย่างที่เราไม่เคยคิดว่ามันมีแบบนี้ด้วยเหรอ (อารมณ์แบบ มันคิดแบบนี้ได้ด้วยเหรอวะ คิดเร็วมาก) แต่อย่างไรก็ตาม เทคนิคที่ติวเตอร์สอนไม่ได้แปลว่าครูที่โรงเรียนจะไม่รู้นะ บางทีรู้ดีมากด้วย แค่ไม่บอก เพราะอยากให้เด็กเข้าใจที่มาที่ไป เนื่องจากบางครั้งเด็กทำวิธีลัดจนชิน และลืมว่าที่มาว่ามาจากไหน กลายเป็นทำได้นะ แต่ฐานหลวม -..- รวมทั้งสาเหตุที่อาจจะไม่ได้สอนเทคนิคลัดที่โรงเรียน ก็เพราะเวลามันไม่พอ เนื้อหาเท่าบ้าน ถูกบีบให้อยู่ในคาบเดียว คิดว่าจะสอนทันมะ ก็ไม่ป้ะ นั่นแหละทุกอย่างมีเหตุผลเสมอ แค่เราอาจจะไม่รู้เฉย ๆ
เรื่องสุดท้ายที่อยากฝากบอกคือ มารยาทในการเรียนและสัมมาคารวะเป็นสิ่งที่ทุกคนควรมี จะเรียนพิเศษก็ได้ จะอ่านหนังสืออ่านชีทเรียนพิเศษก็ได้ แต่!!! ไม่ใช่ในคาบที่อาจารย์กำลังสอนอยู่ คิดง่าย ๆ นะ น้องเป็นครูเตรียมการสอนมาบางทีทั้งคืน พอมาสอนเด็กไม่สนใจนั่งอ่านชีทเรียนพิเศษ เมื่อคืนเตรียมสอนนอนแค่ 4 ชั่วโมง น้องเป็นครูน้องจะรู้สึกยังไง โอ๊ยดีมากเด็ก ๆ ขอบคุณที่เรียนมาก่อน ครูจะได้ไม่ต้องสอนเยอะ เหรอ? ไม่มีทาง ใจเขาใจเราเนาะ การให้เกียรติครูผู้สอนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้นอยากเรียน อยากอ่าน ทำได้แต่ไม่ใช่ตอนที่ครูสอนอยู่โอเคนะ (แต่ถ้าแบบยกคลาสหรือครูสอนจบแล้วอนุญาตให้ว่าง เอออันนี้อ่านได้ ไม่มีใครว่า จัดไปเต็มที่ :3)
เข้าเรื่องเลยละกันว่าแต่ละวิชาเรียนที่ไหนยังไง ส่วนตัวตามที่พี่ลองมาเยอะแล้วนะ ขอแนะนำแยกตามวิชาเลยละกัน
ชีวะ - พี่ลงคอร์ส PAT 2 ของพี่วิเวียน OnDemand เพราะคนสอนสวยมาก (ไม่เชื่อไปหยิบ brochure มาดู 55555) ตอนนี้เปลี่ยนชื่อคอร์สเป็น TCAS ละมั้ง จากนั้นลงตะลุยโจทย์พวก Upskill ต่อ จะบอกว่าชีวะที่นี่โหดมาก เนื้อหาก็ครอบคลุม บางอันนี่เอาไว้ใช้ตอนเรียนมหาลัยต่อได้เลยอ่ะ ส่วนเรื่องการเตรียมสอบวิชานี้ วิชานี้เนื้อหาความจำเยอะซึ่งพอน้องเรียนเสร็จ พี่แนะนำให้น้องทวนแล้วก็ทำโจทย์บ่อย ๆ ไม่แม่นพาร์ทไหนก็กลับไปอ่านพาร์ทนั้นเพิ่มครับ
เคมี - พี่ลงคอร์สเอนท์ อ.อุ๊ คือพี่ไม่ได้เรียนเนื้อหา ม.5 (ข้ามมา เรียนที่โรงเรียนเอา แล้วจะบอกว่าครูที่โรงเรียนเก่งมาก ยอม อันนี้คือสุด ๆ เคมีอินทรีย์ พี่จำได้แม่น รู้ลึก รู้จริง) แต่ก็นะพอพี่จะไปเรียนกับ อ.อุ๊ พี่ก็ต้องปรับตัวกับการสอนอีกแบบ ก็เลยไปลงปรับพื้นฐานแล้วลงคอร์สเอนท์ต่อเลย จะบอกว่าคอร์สเอนท์นี่เรียนกันจนจุกอ่ะ โจทย์ทุกข้อที่อยู่ในเล่มพี่แนะนำให้น้องทำเพื่อประโยชน์ของเราเองนะ ถึงมันจะเยอะจนน้องจะขี้เกียจทำก็เถอะ (พี่เองก็ขี้เกียจ 55555) หลังจากเก็บคอร์สเอนท์เสร็จจะเก็บตะลุยโจทย์ต่อก็ได้ (แต่พี่ไม่ได้ลงอ่ะ)
ฟิสิกส์ - วิชานี้แนะนำให้เก็บดี ๆ เลยเพราะจำนวนข้อน้อยแต่คะแนนเยอะ พลาดข้อหนึ่งนี่คะแนนลดฮวบเลย พี่ลงคอร์สเอนท์ของพี่เซ้ง A Senk Center อ่ะ หลังจากนั้นก็มาลง Upskill ของ OnDemand
เลข - คอร์สเอ็นท์วิชานี้พี่ลงคอร์สทุนคิง 1-3 ของพี่ตุ้ย the tutor จะบอกว่าเป็นเลขที่สอนโหดที่สุดตั้งแต่เคยเรียนมา (อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัว พี่รู้ว่าเราแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน สไตล์น้องอาจจะไม่เหมือนพี่ก็ได้ ไม่ได้ผิด ขอแค่ให้หาที่เรียนแล้วรู้สึกว่าที่นี่เหมาะกับตัวเรามากที่สุดก็เอาที่นั่นแหละ) แต่คือตอนนั้นเด็กเตรียมฯ เรียนที่นี่เยอะมาก โจทย์ก็เยอะมากเช่นกัน ขยัน ๆ ทำกันนะน้อง ๆ ;3
อังกฤษ - พี่ลง Grammar ม. ปลายของ Enconcept + Vocab ม.ปลาย ต่อคอร์ส Admission ของ Enconcept เลย ปิดด้วยตะลุยโจทย์วิชาสามัญอ่ะ สิ่งที่พี่อยากแนะนำสำหรับวิชานี้ก็คือวิชานี้ใช้ความจำค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นน้องต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ จะไปทุ่มวิชาวิทย์หมดแล้วมาอัดเอาตอนท้าย ๆ ไม่ได้ อีกอย่างวิชานี้เปอร์เซ็นต์ถ่วงเยอะด้วย สู้ ๆ อีกที่พี่เคยเรียนตอน ม.ต้น คือครูสมศรี สอนสนุกมาก เป็นครูอังกฤษในดวงใจอีกคนเลย ยอมรับว่าถ้าไม่ได้ทั้งสองที่พี่ตายละอังกฤษ แต่ย้ำนะ แล้วแต่สไตล์เราว่าชอบแบบไหน แต่ละที่มีดีต่างกัน ทุกที่มีจุดเด่นของตัวเอง เพราะฉะนั้นอย่าเปรียบเทียบกัน ของแบบนี้มันรู้ได้ด้วยตัวเอง ส่วนที่พี่เปลี่ยนที่เรียนเพราะตอนนั้นมันต้องข้ามทางม้าลายพี่เลยขอเดินวนอยู่ในตึกเดียวเลยละกัน ใครทันสมัยนั้นจะรู้ว่าตึกแยกกัน 55555
ไทย - พี่ลงคอร์สตะลุยโจทย์วิชาสามัญของพี่หมุย SociThai (เรียนเนื้อหาเรียนที่โรงเรียนเอา เห็นมั้ยว่าพี่ไม่ได้ทิ้งของที่โรงเรียนเลยนะ คุณครูเก่งมาก แล้วก็สอนดีมาก ตอนสอบไทยหลาย ๆ ข้อที่ทำได้ก็เพราะเรียนจากในโรงเรียนนี่แหละ)
สังคม - พี่ลงคอร์สตะลุยโจทย์วิชาสามัญของพี่หมุย SociThai แล้วก็ X-hacker กับ Exam-detox ของครูป๊อป ชั้น 10 วรรณสรณ์ (อีกอย่างนึงที่ทำให้พี่มีทุกวันนี้ได้ คือ ตำราเรียนของหมวดสังคมที่โรงเรียน สุด ๆ บอกเลย รวมแทบทุกอย่าง อาจารย์เก่งมาก ยอมใจ)
ความถนัดทางการแพทย์ - ความถนัดพี่ลงของ OnDemand จะบอกว่าทำความถนัดดี ๆ นะน้อง ถ่วงเยอะมาก 55555 มันมีทั้งหมด 3 พาร์ท เชาวน์ จริยธรรม และเชื่อมโยง พาร์ทที่ควรจะได้เต็มคือ เชื่อมโยง ส่วนอีกสองพาร์ทก็ฝึก ๆ เอา แต่มีพาร์ทนึงคือ จริยธรรมพี่ไม่อยากให้หวังกับพาร์ทนี้มาก ข้อสอบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อคัดหมอ เพราะฉะนั้นต่อให้จะฝืนพยายามตอบให้ได้คะแนนดี ถ้ามันไม่ใช่ตัวน้องยังไงมันก็ไม่ใช่จริง ๆ เป็นพาร์ทที่ฝึกไปคะแนนก็ไม่ขึ้นมากหรอก เพราะน้องยังไม่เคยเจอคนไข้จริง ๆ ไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์จริง ๆ แล้วข้อสอบไม่ได้ออกธรรมดาแบบหมอ-คนไข้นะ เขาออกเรื่องรอบตัวนี่แหละ แต่เป็นเรื่องรอบตัวที่อ่านละอยากจะร้องว่า No, it won't happen. Dilemma เยอะมาก บางทีก็งง ๆ อ่านโจทย์เสร็จ ห๊ะ!!! อะไรนะ กลับไปอ่านอีกรอบดิ๊...ตายละไม่รู้เรื่อง 55555 มันมีจริง ๆ ในพาร์ทนี้ แต่ โดยเฉลี่ยควรจะได้คะแนนรวมประมาณ 20.XX คะแนนสำหรับพี่นะ :3
Q: O-NET เตรียมตัวยังไง? ในการสอบเข้าแล้วนอกจากจะต้องใช้ในส่วนของวิชาสามัญแล้วยังต้องใช้คะแนน O-NET ด้วย ซึ่งเนื้อหาของ O-NET ค่อนข้างกันง่ายกว่าวิชาสามัญเยอะสิ่งที่พี่ทำก็คือ หลังจากสอบวิชาสามัญเสร็จพี่ก็มาเก็บเนื้อหาพวกดาราศาสตร์ เพราะเป็นส่วนที่ไม่มีในวิชาสามัญแต่ว่ามีออกสอบใน O-NET แนะนำให้น้องทำข้อสอบเก่าเยอะ ๆ ส่วนนี้ไม่น่ากังวลเท่ามาก น้องส่วนใหญ่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำกันทุกคน
น่ารักมะ แมวที่ร้านคาเฟ่แมว พี่ถ่ายมาเอง 555555
Q: เครียดมากทำไงดี?
พี่อยากบอกว่าไม่ใช่น้องคนเดียวที่เครียดครับ คนอื่นก็เครียด จะเอนทรานซ์แล้วยังชิล ๆ นี่ดิแปลก แต่ขึ้นอยู่กับน้องจะจัดการความเครียดยังไงมากกว่า ไม่ใช่เครียดแล้วยอมแพ้ ช่วงเอนทรานซ์มันเป็นแค่ช่วงสั้น ๆ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเองครับ เครียดไปก็ไม่ได้ทำให้คะแนนสอบเพิ่มขึ้น รีบอ่านหนังสือกันต่อดีกว่าครับน้อง ๆ :)
หมายเหตุ แต่ละคนทนความเครียดได้ไม่เท่ากันนะ สังเกตตัวเองดี ๆ ว่านี่คือเครียดปกติ หรือเครียดจนเริ่มกระทบชีวิตประจำวัน วิตกกังวลเกิน เศร้า ร้องไห้ ไม่อยากทำอะไรเลย อันนี้โรควิตกกังวล หรือโรคซึมเศร้าอาจจะมาเคาะประตูเรียกละ ถ้าเป็นแบบนี้ จิตแพทย์ช่วยน้องได้นะ ถ้าจะต้องกินยาซึมเศร้าหรือยาคลายเครียดก็กินไปเถอะ ไม่แปลกและไม่ผิด ตราบใดที่มันมีประโยชน์กับเรา แต่บอกหมอว่าขอตัวที่ไม่ง่วงมากนะจะอ่านหนังสือ 5555 และไม่ใช่จิตแพทย์ทุกคนจะเข้ากับ lifestyle เรา แต่วิธีเลือกคือ เลือกหมอรักษาเราแล้วเข้ากับ lifestyle เรามากที่สุด เช่น หนูต้องอ่านหนังสือกลางคืนแต่หมอจ่ายยาให้หลับ ๆ ไป จะได้ไม่ต้องคิดมาก หรือหนูอยากจะเล่าที่มาที่ไปมากว่าเกิดอะไรขึ้น เช่น หนูจะเข้าคณะนึงแต่โดนบังคับเข้าให้อีกคณะ ถ้าหมอจ่ายยาอย่างเดียว อารมณ์แบบยาหมดเจอกันใหม่นะ อ่าว? คือน้องอยากเล่า ๆ แต่หมอไม่ฟัง 55555 อันนี้ก็ไม่ใช่นึกออกมะ :3 นั่นแหละ
Q: ตอนท้อทำยังไงดี?
พี่คิดว่าทุกคนน่าจะมีช่วงที่รู้สึกท้อและเหนื่อย แต่ถ้าเราลองมองกลับไปดูว่าตอนนี้เรามาไกลแค่ไหนแล้ว ตลอดเวลาเรียนในโรงเรียนตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.6 รวม 12 ปี อยู่ ๆ จะยอมแพ้ดื้อ ๆ ได้ไง เหนื่อยมาตั้งหลายปีเหนื่อยอีกนิดก็จะถึงเส้นชัยแล้ว พ่อแม่ยอมเหนื่อยเพื่อเราได้ ทำไมแค่นี้เราจะยอมเหนื่อยบ้างไม่ได้ จริงมั้ยครับ
สิ่งที่อยากเสริม
1. พี่อยากให้น้อง ๆ ทุกคนฝึกอ่านหนังสือในที่ที่มีเสียงดังได้ เพราะว่าไม่ใช่ทุกที่ที่จะเงียบและอีกอย่างหนึ่งคือวันสอบเราไม่มีทางรู้ได้ว่าห้องสอบที่เราได้จะมีเสียงรบกวนหรือเปล่า นอกจากนี้การที่เราฝึกอ่านในที่ที่มีเสียงดังได้จะช่วยเพิ่มเวลาในการอ่านได้เยอะมาก
2. อ่านเกณฑ์การรับสมัครในแต่ละปีดี ๆ เพราะเปลี่ยนแปลงได้ตลอด
3. วันสอบเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย และไปดูห้องสอบก่อนวันจริง โดยเฉพาะถ้าห้องสอบที่ได้ไม่ใช่โรงเรียนที่น้องเรียนอยู่ยิ่งควรไปดู และดูตำแหน่งห้องน้ำไว้ด้วยนะ
4. เตรียมดินสอ 2B ดี ๆ และยางลบที่เวลาลบแล้วไม่กินเนื้อกระดาษไม่ใช่ว่ากำลังลบอยู่แล้วกระดาษขาดกลางห้องสอบขึ้นมาจะซวยเอา (ส่วนตัวพี่ใช้ Pentel สีเขียว)
5. เวลาเข้าไปในห้องสอบอ่านคำสั่งดี ๆ เพราะในแต่ละปีอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งได้ รวมทั้งฝนรหัสประจำตัวให้ถูกและเขียนชื่อก่อนเสมออย่าทำข้อสอบเสร็จแล้วมาเขียนทีหลัง เพราะอาจจะไม่ทัน
6. เมื่อหมดเวลาทำข้อสอบให้วางปากกาและดินสอทันทีอย่าทำต่อ
7. เช็คบัตรเข้าห้องสอบดี ๆ อย่าให้มีอะไรติดเข้าไปกับบัตรเข้าห้องสอบ เดี๋ยวโดนหาว่าทุจริต
8. ขีด / หน้าข้อที่ไม่ได้ฝน กันรันพลาด เดี๋ยวฝนแล้วเลื่อนทุกข้อ ระวังดี ๆ นะเหอะ ๆ หลังจากทำเสร็จค่อยลบออกทีหลัง
9. ก่อนสอบจริงให้ลองทำข้อสอบเก่าแล้วจับเวลาเท่าเวลาจริงในการสอบ
10. อย่าคิดจะทิ้งเนื้อหาเพราะคิดว่าใครจะไปจำได้ พี่จะบอกว่าเยอะแยะคนที่เขาจำได้อ่ะ ถ้าเราจำไม่ได้คนอื่นก็นำหน้าไปแล้ว เฉือนกันเป็นจุดทศนิยมก็มีนะ
Q: ชีวิตมหาลัยเป็นไงบ้าง?
ชีวิตดีมากเลยน้อง ปี 1 นี่น่าจะสนุกสุดละมั้ง เวลาว่างมีเยอะมากกว่าตอน ม.ปลาย มาก ส่วนเรื่องเนื้อหาที่เรียนก็ถามจากพี่รหัสหรือรุ่นพี่ในคณะได้ แต่สิ่งที่ต้องมีมากขึ้นก็คือความรับผิดชอบ เพราะมหาลัยเขาไม่ค่อยเช็คชื่อกันแล้ว น้องจะเข้าหรือไม่เข้าเรียนบางทีเขาก็ไม่ตาม แต่น้องต้องรู้จักบังคับตัวเอง จะขี้เกียจก็เอาแค่พอประมาณเนอะ
ปล. ปีอื่นไม่ขอบอกละกันว่าเป็นยังไง แต่ขอแสดงด้วยรูป 555555
สุดท้ายนี้พี่ก็ขอให้น้อง ๆ สอบเข้าได้ตามที่หวัง นึกถึงพ่อแม่เยอะ ๆ ทำให้เต็มที่จะได้ไม่เสียใจ โชคดีครับน้อง ๆ ทุกคน ^ ^
12 ความคิดเห็น
ขอบคุณมากๆค่า
เราก็มองๆ หาที่เรียนอยู่ ที่โรงเรียนสอนชีวะไม่รู้เรื่องเลย แต่เห็นเพื่อนที่ได้ทอปสายชั้นเรียนกับออนดีมานด์ ว่าจะไปสมัครอยู่ ไม่รู้ว่าพี่เขาสอนเป็นไงมั่งเราก็หัวกลางๆ จะเรียนไหวป่าว
จากประสบการณ์ตังเองนะคะ ชีวะ พี่วิเวียน ที่ออนดีมานด์ เทพสุดในสามโลกแล้วค่ะ ยิ่งพวกเรื่องยากๆ พี่วิเวียนสอนให้เข้าใจง่าย ด้วยความที่เป็นหมอด้วยละมั้ง แล้วก็มีอะไรในคอร์สให้แปลกใจตลอด ลงคอร์ส pat คอนเฟิมเลยค่ะดีจริง
ส่วนเคมีลงเรียนพี่เคน ก็ดีนะคะสนุกไม่เบื่อเลยค่ะ
แนะนำชีวะ พี่ วิเวึยนอีกเสียงค่ะ พี่เขาสอนสนุก เข้าใจง่าย และก็ละเอียดด้วย เราก็หัวกลางๆเหมือนกัน แต่เรียนแล้วเข้าใจเพิ่มเยอะเลย ต้องขอบคุณพี่เขาที่สามารถสอนเรื่องยากๆให้เป็นเรื่องเข้าใจง่าย
คำแนะนำดีมากค่ะพี่ ตอนนี้ก็กำลังเก็บให้ครบทุกวิชา ที่หนักใจหน่อยก็ อังกฤษ กับชีวะ เพราะอ่อนสองวิชานี้ ตอนนี้เลยไปลงเรียน enconcept กับชีวะพี่วิเวียน เพื่อนหลายคนก็แนะนำว่าดี
พี่คะขอถามนิดนึงค่ะ ความถนัดแพทย์จำเป็นต้องเรียนไหมคะ
ส่วนตัวพี่คิดว่าการลงเรียนความถนัดทางการแพทย์มีความจำเป็น เพราะเป็นการทำให้เราได้เปิดมุมมองในวิธีการคิดแก้ปัญหาว่าโจทย์แนวนี้ควรจะทำยังไง ซึ่งหากเราคิดคนเดียวเราก็อาจจะได้คำตอบในแง่มุมเดียว ยิ่งไปกว่านั้นคือ นอกจากจะมีติวเตอร์กระตุ้นและบอกแนวทางการแก้โจทย์แล้ว บางทีก็จะมีวิธีคิดของเพื่อนในคลาสที่คิดต่างออกไปด้วย ทำให้เรารู้จักวิธีคิดที่หลากหลายมากขึ้นครับ ^ ^
ปล.แต่ถ้าไม่สะดวกจริงๆ ก็สามารถหาซื้อหนังสือโจทย์มาทำเองได้ครัชช ;3
ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำแนะนำดีๆ หนูอยากเข้าทันตะมากค่ะแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง555 อ่านของพี่แล้วรู้สึกมีแนวทางเลย ขอบคุณอีกครั้งค่ะพี่><
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ที่มาแนะนำ หนูเป็นคนเกือบโง่เลยทีเดียว 555 แต่อยากรักษาคนค่ะ เห็นพวกพี่ๆที่มาแนะนำพยายามและเก่งกันมากๆ แถมอยู่รร.ท๊อปๆกันทั้งนั้นน หนูมีไม่ได้เท่าพวกพี่เลย หนูต้องพยายามมากๆกว่าพวกพี่สินะคะ ขอบคุณจริงๆค่ะ
สู้ๆครับ น้องทำได้อยู่แล้ว ^^ ขอให้น้องทำเต็มที่ ผลลัพธ์ที่ได้จะดีเอง ;3
ดีจริงๆ
พี่คะ ควรตะลุยโจทย์ตอนกี่เดือนสุดท้ายดีคะ คือมีโจทย์อยู่สิบกว่าเล่ม กลัวไม่ทันอ่ะค่ะ ปล.หนูตอ.77 อยู่วิทย์บอ อิอิ
สำหรับน้อง ม.6 พี่แนะนำให้เริ่มตะลุยโจทย์ตั้งแต่ตอนนี้เลยครับ ไม่ได้ส่วนไหนค่อยกลับมาดู ส่วนโจทย์มีอยู่หลายเล่มพี่แนะนำให้เลือกเล่มที่น้องคิดว่าดีที่สุดมาทำก่อน แต่ไม่แนะนำให้เลือกเล่มที่โจทย์ง่ายเกินไป เพราะเราจะไม่ได้พัฒนาความสามารถตัวเองเท่าที่ควรครับ ^^ สู้ๆครับ
สังคมยากไหมคะ เเล้วพี่ได้คะเเนนสังคมเท่าไหร่หรอคะ เรียนครูป๊อปพี่เค้ามีทริคยังไงบ้างหรอคะ
ถามถึงเรื่องคะแนนคิดว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นะคะ เรื่องนี้เค้าไม่บอกกันหรอกค่ะ
อยากรู้เหมือนกันค่ะว่าข้อสอบสังคมยากไหม
ส่วนเรื่องคะแนนเราว่ามันค่อข้างเป็นเรื่องส่วนตัวอ่ะ พี่เค้าอาจจะไม่สะดวกตอบ แต่ก็คิดว่าน่าจะได้เยอะแน่ๆ เลย
พี่ปอลเวลาอ่านหนังสือดึกๆ นอนน้อยๆ มีวิธีจัดการตัวเองยังไงคะ ทำยังไงไม่ให้รู้สึกเพลีย หนูนอน4-5ชม ตื่นไปเรียน มันเพลียมากเลยค่ะ ได้กินอะไรบำรุงเป็นพิเศษมั๊ยคะ
เวลาพี่นอนไม่พอพี่จะกิน Coenzyme Q10 (รูป Ubiquinone หรือ Ubiquinol ก็ได้ครับ แต่ Ubiquinol จะดีกว่า แพงกว่าด้วย) กับวิตามิน B-complex ก็ช่วยให้สมองแล่นขึ้นได้ในระดับนึงครับ แต่ถ้าเป็นไปได้อยากให้นอนให้พอมากกว่า ประสิทธิภาพการอ่านจะได้มากขึ้นด้วยครับ อยากจำแม่นแนะนำให้พักผ่อนให้พอครับ ^^
ขอบคุณคะ>_<
คะแนนกสพทพี่ได้เท่าไหร่ บอกได้มั้ยคะ
หมอหล่อมีกำลังใจค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?