Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ม.6 ปีที่แล้ว

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ช่วงนี้ก็เดือนกรกฎาคมแล้ว ซึ่งสิ่งที่ใกล้เข้ามาคือการเปิดเทอมของมหาวิทยาลัย และการสมัครโควต้าของเด็ก ม.6 ทั่วทั้งภาคเหนือ นึกไปถึงบรรยากาศตอนที่ยังอยู่ ม.6 ตอนที่ยังตัดสินใจเลือกคณะที่สองไม่ได้ และเชื่อว่าตอนนี้ก็มีน้องอีกหลายคนที่ยังเลือกไม่ได้เหมือนกัน วันนี้เลยจะมาพูดถึงชีวิตตอน ม.6 ของตัวเอง เพื่อว่ามันจะช่วยอะไรใครได้บ้าง 


จขกท. ขอแทนตัวเองว่าพี่นะ สมัย ม.6 เนี่ย พี่จำได้ว่าเป็นปีที่ใช้ชีวิตได้สุดเหวี่ยงมาก ทั้งเรื่องเรียน เรื่องเพื่อนและเรื่องที่บ้าน เราเรียนหนักในขณะที่เราก็ต้องเตรียมตัวสอบด้วย จนบางทีเครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับไปหลายวันเลยทีเดียว อาจารย์ก็พยายามสรรหาลูกเล่นต่างๆนาๆ ทั้งสอบป๊อบอัพ สอบเก็บคะแนน บลาๆๆ และโดยเฉพาะกับเพื่อน บางทีนางก็เครียดจนดราม่าข้ามวันข้ามคืน กลัวลืมสมัครนั้นลืมสมัครนี่ วิ่งวุ่นเรียนพิเศษกันใหญ่ จะไปเที่ยวกันแต่ละทีนี่ล่มไม่เป็นท่า ที่เรียนพิเศษปานประหนึ่งบ้านหลังที่สอง เห็นหน้าอาจารย์ที่สอนบ่อยกว่าหน้าแม่ =_=



แต่เรื่องที่จะพูดวันนี้คือเรื่องที่เกิดขึ้นตอนที่เขาประกาศรับสมัครโควต้า พี่เป็นคนที่เรียนสายวิทย์และมีคณะอยู่ในใจแล้ว เป็นคณะของสายวิทย์ด้วย แต่ปัญหาคือคณะที่สอง เพราะตัวพี่ไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษ คือเรียนอะไรก็ได้แค่ไม่เอาคณิต... ก็เลยไปปรึกษาอาจารย์แนะแนวที่ รร. เข้าห้องแนะแนวแม่งแทบทุกวันจากที่ไม่เคยเข้า จนสุดท้ายก็ได้คณะที่ตัวเองคิดว่ามันน่าจะเวิร์ค แต่ประเด็นมันอยู่ที่คณะนี้เป็นคณะของสายศิลป์ อ่ะ แน่นอนว่าที่บ้านนี่เกือบลุกเป็นไฟ คือไม่ใช่ว่าพ่อแม่ไม่ยอมเพราะมันเป็นสายศิลป์นะ แต่ต้องบอกเลยว่าสายงานนี้มันหางานค่อนข้างยาก พ่อแม่พี่เลยค่อนข้างจะเป็นห่วง อยากให้ลองเลือกอันอื่น แต่พี่ไม่ได้สนใจอะไร พอเป็นงี้นะ เครียดไปสองสามวัน กลัวพ่อแม่จะผิดหวัง กลัวพ่อแม่จะไม่สบายใจ แต่สุดท้ายพ่อแม่พี่ก็ยอม เพราะเขาบอกว่าเรียนอะไรก็ได้ที่ชอบ เพราะเราเป็นคนไปเรียน แต่เรียนแล้วต้องเอาตัวให้รอด อ่ะ พี่ก็เลือกคณะนั้นไป ครบละสองอันดับ


ขอข้ามยาวๆมาตอนประกาศผลเลยละกัน วันนั้นพี่ตื่นตั้งแต่ตีห้า ทำบุญไหว้พระละตอนบ่ายๆก็มารอลุ้นกันที่โรงเรียนกับเพื่อนทั้งรุ่น จำได้ว่าเขาประกาศบ่ายสาม พี่เข้าดูโดยใช้โทรศัพท์ คือตอนนั้นใจพี่เต้นจนแทบทะลุออกมาเลยอ่ะ แต่พอเห็นผลเท่านั้นแหละ ใจพี่หยุดเต้นแทนเลย... ไม่ใช่ว่าพี่ไม่ติดนะ มันติด... แต่ติดคณะอันดับสอง ทีนี้ละความพีคมาเยือน พี่ร้องห่มร้องไห้จนเพื่อนนึกว่าไม่ติดต้องมานั่งปลอบกัน พี่นี่เสียสติไปสองสามวันเลยนะ แต่พอลองมองย้อนดูมันก็ทำให้พี่เห็นอะไรหลายๆอย่าง ความพยายามของพี่ที่พี่เคยคิดว่ามันที่สุดแล้วในตอนนั้น มันเทียบกับของคนอื่นไม่ได้เลยน้อง ความพยายามที่พี่เคยคิดว่ามันดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว...ความจริงมันยังทำได้มากกว่านี้ แต่พี่มาคิดได้หลังประกาศผล =_= ยังดีที่อย่างน้อยมันก็เป็นคณะที่พี่เลือกเอง


และแล้วปัญหามันก็มาอีก พี่ว่าทุกคนคงรู้แหละว่าบนโลกใบนี้มีคนอยู่หลายประเภท และหนึ่งในคนประเภทนั้นที่พี่เจอคือมนุษย์ป้า แน่นอนว่าพอหลายคนถามว่าพี่ติดที่ไหนคณะอะไร พอพี่ตอบออกไปก็จะทำหน้าแปลกใจ บางคนก็แอบหัวเราะเบาๆ บางคนก็ถามว่าคณะนี้น่ะเหรอ จบไปจะทำงานอะไร ทำไมไม่ลองแอดดู อ่ะ เครียดอีก กลัวใครมาถามกับพ่อแม่แบบนี้ ทำกะพ่อแม่แบบนี้ละพ่อแม่จะอายจะเสียใจ เข้าห้องแนะแนวรอบที่ 100 และคำพูดหนึ่งของอาจารย์ที่พี่จำได้เลยคือ 'คนเก่งอยู่ที่ไหนก็คือคนเก่ง ยิ่งถ้าเราได้ทำในสิ่งที่เรารัก เราก็จะทำมันออกมาได้ดี แล้วทีนี้โอกาสมันจะเข้ามาหาเราเอง' โอ้โห ประโยคนี้พี่จำจนตายอ่ะน้อง


ทีนี้พอพี่กลับมาบ้านก็ลองคุยกะพ่อแม่ดูว่า เออเนี่ย ผิดหวังไหม อยากให้แอดรึเปล่า แต่ประโยคที่แม่พี่ตอบกลับมาคือ 'ไม่นะ อยากให้เรียนที่ชอบ แม่แค่เป็นห่วงเฉยๆ ไม่อยากให้ทำลำบากเวลาหางาน ถ้าไม่อยากให้เรียนจริงๆไม่ให้เลือกหรอก' จบประโยคนี้เท่านั้นแหละ พี่ตัดสินใจเลยว่า...พ่อแม่กูเข้าใจก็พอละ คนอื่นจะไปไหนก็ไป คนที่เขาส่งเรียนยังไม่เห็นเดือดร้อนเลย... จนถึงตอนนี้พี่ก็ยังไม่ได้ไปไหน ยังอยู่ที่เดิม ไม่ได้แอด ไม่ได้รับตรง เพราะคณะนี้พี่ถือว่าพี่ตั้งใจเลือก พี่สนใจ พี่อยากลองเรียนดูสักตั้ง


เพราะงั้นวันนี้เรื่องที่พี่จะฝากไว้ไม่มีอะไรมาก แค่สองสามข้อ


1.พี่อยากให้น้องทุกคนมองหาสิ่งที่อยากเป็นจริงๆ ไม่ใช่ว่าเลือกไปส่งๆ เพราะถ้าได้เรียน-ที่เลือกไปส่งๆขึ้นมาจะหัวเราะไม่ออก ร้องไห้ก็ไม่ได้ เราเลือกของเราเอง อย่าอายที่จะบอกคนอื่นว่าเราได้เลือกในสิ่งที่ตัวเองชอบ


**** 2.ข้อนี้สำคัญมาก พี่อยากให้น้องๆทุกคนตั้งใจเรียนให้มากๆ ขยันประหนึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะได้อ่านหนังสือสอบ อย่าคิดว่าแค่นี้ก็พอแล้ว เราพยายามสุดๆแล้ว น้องอย่าลืมว่าคนเก่งมีอีกมากมาย และมีคนอีกหลายคนที่ขยันกว่าน้องหลายเท่า โดยที่พวกเขาเหล่านั้นมีเป้าหมายเดียวกับน้อง และคนพวกนี้นี่แหละที่น้องต้องฟาดฟันเพื่อความฝันของน้อง


3.มั่นใจในตัวเองว่าทำได้ อย่าไปฟังคนอื่นให้มาก เคารพในการตัดสินใจของตัวเอง ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวเราเอง และพี่เป็นคนหนึ่งที่พี่มั่นใจว่าพี่จะทำได้ดีในสิ่งที่พี่เลือก เปลี่ยนคำดูถูกเหล่านั้นมาเป็นพลังให้น้อง เอาผลสอบไปฟาดหน้ามัน!!

4.อย่าดูถูกตัวเองว่าเรียนไม่เก่ง สู้ใครเขาไม่ได้หรอก จำไว้ว่าคนเก่ง(บางคน)แพ้คนขยัน และคนเรียนเก่งไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องสอบเก่ง



สุดท้ายพี่อยากให้น้องทุกคนโชคดีในการสอบ โชคดีในทางเดินของตัวเอง และพี่ขออวยพรล่วงหน้าให้ทุกคนทำข้อสอบได้ ทำไม่ได้ก็ขอให้มั่วถูกละกัน ฝากไว้เท่านี้ครัช




#Finally-The-End

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

White Frangipani 15 ก.ค. 59 เวลา 20:44 น. 1

สวัสดีค่ะ

กระทู้นี้อ่านแล้วรู้สึกเกิดเป็นแรงบันดาลใจได้เป็นอย่างดีค่ะ

รู้สึกได้ว่าเจ้าของกระทู้มีพลังเป็นพลังบวก พลังแห่งความหวัง หรือแม้ในการที่จะเลือกหรือจะเรียนด้วย

ดูคุณมีพลังและอารมณ์มากๆผ่านการบอกเล่านี้ค่ะ...เกิดเป็นคำบางคำนั้นจึงดูทำให้คุณปล่อยๆคำที่ไม่ได้กรองออกมาด้วย  ถึงกระนั้นก็ยังคงมีความรู้สึกยินดีด้วยกับพลังติดบวกๆที่เกิดขึ้นได้นี้ค่ะ

เป็นกระทู้ที่ดีมากๆสำหรับเด็ก ม.4 ม.5 หรือม.6 ได้เป็นอย่างดีอย่างแน่นอนค่ะ

แต่...จะให้ดีจริงๆ กระทู้นี้น่าจะไปอยู่ที่มีเด็กๆรุ่นๆนี้เข้าบ่อยๆ เช่น บอร์ด เช่นบอร์ด"ปัญหาที่โรงเรียน" เป็นต้นค่ะ เด็กๆได้มีโอกาสเห็นได้ชัดเจน เขาทั้งหลายได้อ่านๆเพื่อเกิดเป็นกำลังใจ

หากคุณกลับเข้ามาเห็นนะคะ การที่จะย้ายกระทู้ไปที่บอร์ดดังกล่าวนั้นจะทำให้บทความของคุณได้ผลสุทธิและเกิดเประโยชน์มากมายเลยทีเดียว  คือที่นี่คือบอร์ด นักเขียน/สัพเพเหระค่ะ ดูคุณจะลงบอร์ดผิดนะคะ

ขอบคุณเรื่องราวที่คุณแบ่งปันมานี้ และยินดีด้วยพร้อมให้กำลังใจคุณเพื่อการเดินหน้าต่อไปเกี่ยวกับการเรียนการศึกษาของคุณด้วยค่ะ


สู้สู้ต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจค่ะ

5
Finally-The-End 15 ก.ค. 59 เวลา 20:48 น. 1-1

ขอบคุณค่ะ พอดีเจ้าของกระทู้เพิ่งเคยเขียนครั้งแรก ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
เพราะส่วนตัวคิดว่ามันเป็นเรื่องเล่าธรรมดาๆเลยกลายเป็นลงในบอร์ดนักเขียนแทน 555

0
White Frangipani 15 ก.ค. 59 เวลา 21:12 น. 1-2

สวัสดีค่ะเจ้าของกระทู้

เห็นเม้นต์ตอบกลับของคุณที่ใช้คำว่า..ค่ะ...ลงท้ายนะคะ เกิดอาการเย็น...และชาไปทั้งตัวเลย (แปลกมากๆ) สาเหตุเพราะรู้สึกได้จากการอ่านบทความของคุณนั้น...รู้สึกได้ราวกับว่าคุณเป็นผู้ชายค่ะ ดิฉันคงคิดไปเอง (นอกประเด็นหล่ะตรงนี้5555)


เป็นการเล่าที่เป็นเรื่องราวที่ทำให้เกิดเป็นพลังที่รู้สึกได้ในด้านบวกค่ะ (แม้ว่าจะดูคุณมีอารมณ์รุนแรงพอสมควรในการใช้คำ) จึงอยากให้เรื่องราวของคุณนี้เกิดผลให้มากที่สุด นั้นคือคงต้องลงให้ตรงบอร์ดค่ะ

ที่นี่เว็บมาสเต่อร์ได้สร้างให้มีบอร์ดต่างๆให้ลงตรงประเด็น และถูกต้องตามจุดประสงค์ด้วยค่ะ

"เพราะส่วนตัวคิดว่ามันเป็นเรื่องเล่าธรรมดาๆเลยกลายเป็นลงในบอร์ดนักเขียนแทน 555 "...โอเคค่ะ หากคุณรู้สึกเช่นนั้นค่ะ




0
Finally-The-End 15 ก.ค. 59 เวลา 21:18 น. 1-3

ต้องขอโทษสำหรับเรื่องคำพูดด้วยนะคะ จะพยายามแก้ไขค่ะ
แต่ว่าตอนนี้เจ้าของกระทู้ประสบปัญหานิดหน่อย คือไม่ทราบว่ากระทู้สามารถแก้ไขบอร์ดที่ลงได้ไหมคะ พอดีเจ้าของกระทู้ลองแก้แล้วแต่แก้ไม่ได้ค่ะ ถ้ายังไงขอคำแนะนำด้วยนะคะ

0
White Frangipani 15 ก.ค. 59 เวลา 21:28 น. 1-4

คุณก็เพียงไปเปิด...ตั้งกระทู้ในบอร์ดที่ต้องการ...และก็ก็อปบทความนี้ไปวางลงและกดโพสต์ตั้งกระทู้ที่นั้นค่ะ (แบบนั้นหรือเปล่านะ ไม่เคยเช่นกันค่ะ555)

หรือว่าคุณจะไปแจ้งไว้ที่บอร์ดแจ้งปัญา ฝากข้อความให้เว็บมาสเต่อร์ย้ายให้ก็คงจะโอเคค่ะ

เคยเห็นๆกระทู้ถูกย้ายบ่อยๆค่ะ

0
Finally-The-End 15 ก.ค. 59 เวลา 23:27 น. 2-1

ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าเพื่อนร่วมห้องคนไหนหรืออาจารย์ท่านใดคะ โปรดแสดงตัวค่ะ 555

0
Blossumcherry 16 ก.ค. 59 เวลา 12:13 น. 3

ใช่ค่ะ ตอนม.6 เครียดมากจริงๆ เวลานอนยังแทบไม่มี เวลาเที่ยวรึ อย่าหวัง แล้วแบบตอนเราเรียนเทอมแรกนะ อจ.สั่งงานโหดมาก แต่ละชิ้นคือแบบชิ้นใหญ่ๆทั้งนั้นเลยอ่ะ รำงี้ แสดงละครงี้ โครงงานเราเจอไปสามสี่เล่มอ่ะ บอกเลยว่าเหนื่อยลากเลือดสุดๆ หนังสงหนังสือไม่มีเวลาอ่านเลยทำแต่งาน กลับบ้านเย็นแทบทุกวัน เรื่องสอบก็เครียด กลัวสอบไม่ได้ กลัวไม่ติด คือคิดอะไรเยอะแยะวุ่นวายไปหมดอ่ะตอนนั้น

แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่สนุกอ่ะ เพราะเราได้อยู่กับเพื่อน เครียดด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน เป็นปีสุดท้ายในชีวิต.มัธยมที่รวมทุกอารมณ์จริงๆ ชีวิตแบบนี้ในมหาลัยคงไม่มีแล้ว 

เราโชคดีมากที่ติดรับตรงคณะอันดับหนึ่งในมหาลัยที่อยากเรียน เราลงที่เดียวไม่ได้เผื่อที่ไหนไว้เลยด้วย555 เรียกว่าฟลุ๊กสุดๆ

1
Finally-The-End 16 ก.ค. 59 เวลา 20:12 น. 3-1

เรื่องจริง 1000% อ่ะ ปีนี้เป็นปีที่สุดยอดมาก โดยเฉพาะเรื่องเพื่อน คือเครียดแล้วเครียดอีก ร้องไห้แล้วร้องไห้อีก แต่พอลองมองย้อนไปดูจากตอนนี้มันก็อดหัวเราะไม่ได้ว่าอะไรจะร้องไห้บ่อยขนาดน้านนน 555
อ้อ แล้วก็ยินดีด้วยนะคะที่ได้เรียนในคณะอันดับ 1 >_0

0