Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

​จะโกหกกันไปถึงไหน ? มาดูวิธีจับโกหกทางจิตวิทยากัน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
โกหกกันไปถึงไหน แค่พูดว่าเธอรักใครก็ง่ายกว่า หมดใจก็พูดเถอะ ว่าเธอจะเลิกรา กล้ารักเขานี่หน่า ทำไมไม่กล้ารับความจริง” cryingbroken heart

ขึ้นเนื้อเพลงมาแบบนี้มีใครเกิดทันบ้าง มือยกขึ้น นี่ก็คือเพลงจะโกหกกันไปถึงไหน สมัยวง D2B ใครที่ทันก็เดาอายุกันได้เลยนะ ฮ่าๆ laugh
 เพลงก็เปิดมาด้วยเรื่องของการโกหก วันนี้ก็เดาได้ไม่ยากว่ากระทู้จะเป็นเรื่องแนวไหน ก็คือเรื่องการโกหกนั่นเอง
 
(Creditภาพ: www.pixabay.com)

 ตั้งแต่เด็กๆเราทุกคนถูกสอนให้พูดความจริง ไม่ให้โกหก แต่พอเราโตขึ้นเรากลับเจอเรื่องโกหกอยู่มากมายรอบๆตัวเรา เช่น เราโกหกครูเวลาไม่ส่งการบ้าน โกหกเพื่อนเวลาทำผิด โกหกแฟนเวลานอกใจ โกหกพ่อแม่เวลาจะไปเที่ยวนอกบ้าน บางครั้งเราถูกคนอื่นโกหก หรือบางครั้งเราก็เป็นฝ่ายโกหกคนอื่นซะเอง การโกหกในชีวิตประจำวันบางเรื่องเราก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะโกหก แต่เป็นการโกหกเพื่อเอาตัวรอดหรือรักษาความรู้สึกของคนอื่น

    มีงานวิจัยทางจิตวิทยาบอกเอาไว้ว่า ผู้ชายและผู้หญิงที่สนทนากันเกิน 10 นาทีมักจะห้ามใจในกันโกหกกันไม่ได้ และในกรณีของลูกกับพ่อแม่ การโกหกนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ยังไงก็ต้องเกิดขึ้นแน่นอน มันยิ่งทำให้ได้คิดว่าจริงๆแล้วคนเราทุกคนย่อมเกลียดการโกหก แต่เราก็กลับเป็นฝ่ายที่หลีกเลี่ยงในการโกหกไม่ได้ซะด้วย 

    การโกหกนั้นมีหลายประเภท จะเป็นอะไรบ้างมาดูกันเลย

1.    โกหกเพื่อประโยชน์ของตนเอง (Self-gain)
คือการโกหกคนอื่นๆเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของตัวเอง เช่น นักเรียนประจบครูบอกว่าตัวเองทำงานกลุ่มเยอะกว่าเพื่อนๆเลย เพื่อให้ครูสงสารและให้คะแนนดี หรือประจบหัวหน้าเพื่อที่จะทำให้เราได้เลื่อนตำแหน่งเร็วๆ

2.    โกหกเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง (Conflict  Avoidance)
บางครั้งเราต้องโกหกให้คนอื่นมองว่าตัวเราเป็นคนดี หรือทำให้ความรู้สึกของคนอื่นๆที่มีต่อตัวเองนั้นดี ไม่ไปทำร้ายความรู้สึกคนอื่น และทำให้ขัดแย้งกัน เช่น โกหกแฟนว่าไม่ได้เล่นเกมส์ โกหกพ่อแม่ว่าไม่ได้โดดเรียน โกหกครูว่าไม่ได้ลอกการบ้านเพื่อน แต่การโกหกแบบนี้ถ้าเราทำบ่อยๆจะทำให้เราติดนิสัยโกหกและเป็นกลายคนไม่ซื่อสัตย์นะ
 
(Creditภาพ:http://www.thaihealth.or.th)

3.    โกหกเพื่อให้สังคมยอมรับ (Social Acceptance)
เป็นการโกหกเพื่อให้คนอื่นยอมรับในตัวเราเอง มีหลายแบบมากเลย เช่น ถ้าอยู่ในสังคมเพื่อนไฮโซ บางคนก็จะมีการโกหกแบบว่า บ้านเรารวย มีของใช้ มีอะไรต่างๆเหมือนเพื่อน ทั้งๆที่เราไม่มีเพราะคิดว่าเพื่อนจะยอมรับเราที่ฐานะ หรือบางครั้งใน Facebook ก็จะมีคนโกหกอัพรูปไปเที่ยวที่ต่างๆ ซึ่งบางครั้งก็ไม่ได้ไปจริงๆ ไปก๊อปปี้รูปคนอื่นมา เพราะเห็นเพื่อนๆไปเที่ยวกัน เราจึงอยากไปบ้าง จะได้มีเรื่องคุยกับเพื่อนๆไรงี้ 

4.    โกหกเพื่อประโยชน์ของคนอื่น (Altruistic)
แบบนี้เป็นการโกหกเพื่อคนอื่น แต่บางครั้งการโกหกแบบนี้ก็ทำให้เราซวยไปด้วยก็มีนะ เช่น น้องมาขอให้โกหกพ่อแม่ให้ว่าไม่ได้หนีเที่ยว เราเลยโกหกให้ แต่พ่อแม่มาจับได้ทีหลังเลยถูกลงโทษทั้งคู่ หรือแบบ โกหกครูแทนเพื่อนว่าเพื่อนไม่ส่งงานเพราะไม่สบาย 


เป็นไงเพื่อนๆ ใครเคยโกหกแบบไหนบ้าง แล้วเคยทำกับใครบ่อยๆ สารภาพมาได้เลยนะ วันนี้เราก็มีวิธีการจับโกหกมาฝากเพื่อนๆกัน ซึ่งดัดแปลงมาจากงานวิจัยทางจิตวิทยาของ DePaulo และ Kirkendol (1989) จะเป็นอะไรบ้างมาดูกันเลย

1.    พูดเสียงสูง 
ตอนนี้กระแสเสียงสูงกำลังมา ก็ระวังไว้นะ เวลาพูดเสียงสู๊งนะ เป็นสัญญาณนะว่ากำลังโกหก จริงหรือไม่จิ๊งง ก็อย่าลืมไปพิสูจน์กันนะ 
 
(Creditภาพ: www.pixabay.com)

2.    พูดใช้คำแบบลังเล 
ก็เวลาใช้คำพูดพวกแบบ “เออ อา อืมมมม”  ต้องระวังไว้ให้ดีนะ

3.    หยุดพูดบ่อยหรือช้าลง
สังเกตจากเวลาเราถาม เค้าจะมีการหยุดพูดบ่อย หรือพูดช้าลงจากที่เคยพูดและมีการหยุดคิดระหว่างประโยค

4.    แขน ขา มือขยับลดลง
บางคนก็อาจบอกว่าเวลาโกหกจะขยับร่างกายมากเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะงานวิจัยบอกว่าส่วนใหญ่ 65% จะขยับลดลง แต่ 35% จะขยับเพิ่มขึ้น เราก็ลองสังเกตุง่ายๆว่าเค้าขยับมากขึ้นหรือน้อยลงจนผิดปกติหรือไม่ ถ้าสังเกตได้ว่าผิดปกติ ก็แสดงว่ามีแนมโน้มว่าจะโกหกนะ

5.    ตอบไม่ตรงคำถาม
ก็คือแบบถามว่า เมื่อคืนไปไหนมา ก็ตอบว่า เมื่อคืนเจอเพื่อนเก่าด้วยคุยกันนานมาก หรือแบบ ทำการบ้านเสร็จหรือยัง ก็จะตอบว่า การบ้านข้อ 5 ทำไงอ่ะ ยากจัง มาสอนหน่อยแทน

6.    ใช้ข้อความหรืออารมณ์ทางลบ
ก็คือปฎิเสธว่าไม่ได้ทำ และก็มีอารมณ์หงุดหงิดด้วย บางครั้งก็อาจมีการพูดดูถูกตัวเองประมาณว่า แค่นี้ก็ไม่เชื่อ เรามันคนไม่ดีน่ะสิ หรือเธอมันแย่ คอยจับผิดอยู่นั่นล่ะ อะไรประมาณนี้

7.    ขยับหัวไปมาไม่สบตาและกระพริบตาถี่
สังเกตได้เลยถ้าเจอคนที่คุยด้วยแล้วทำแบบนี้แสดงว่ามีแนวโน้มโกหกแน่นอน
 
(Creditภาพ: www.pixabay.com)

8.    การกระดิกเท้า
การกระดิกเท้านั้นเป็นท่าทีของคนที่กำลังตื่นเต้น และเริ่มเสียการควบคุมตัวเองไปและเป็นสัญญาณของคนโกหก

เป็นไงกันบ้างเพื่อนๆ ได้เรียนรู้วิธีจับโกหกไปเยอะเลย surprise

วันหลังถ้ามีใครมาโกหกจะได้รู้และตั้งรับมือกันทันนะ ส่วนใครที่เป็นฝ่ายที่โกหก เราก็เข้าใจนะว่า การโกหกเพื่อบางอย่างมันอาจจะเป็นเรื่องจำเป็น แต่ถ้าเป็นไปได้เราก็พยายามลดมันลง บางครั้งที่เราคิดว่าพูดความจริงไปอาจไปทำร้ายจิตใจเค้า แต่ถ้าเค้ามารู้ทีหลังว่าเราโกหก อาจทำให้แย่ลงกว่าเดิมก็ได้นะ แต่การตั้งใจโกหกปกปิด และก็ทำเป็นประจำ มันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้นะ เพราะมันสร้างปัญหาให้กับตัวเราเอง ยังไงก็ถือคติซะว่า ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายก็แล้วกันนะ laugh
 

(Creditภาพ: www.pixabay.com)

แสดงความคิดเห็น

>

6 ความคิดเห็น

Shalnark T Diabolus 1 ส.ค. 59 เวลา 15:41 น. 1

เอาจิงๆนะครับ เพราะกท.แบบนี้แหละการจับโกหกเลยยากขึ้น เพราะมันเป็นการชี้เป้าให้คนที่จะจับโกหกว่าต้องสังเกตอะไร ซึ่งในทางกลับกัน เมื่อคนที่จะโกหกรู้ว่าอีกฝ่ายจะจับเท็จจากอะไร ก็แค่ไม่แสดงพฤติกรรมนั้นๆ หรือ...ถ้าการหยุดพฤติกรรมมันยาก ก็แค่แสดงพฤติกรรมนั้นบ่อยๆให้ดูเหมือนกับเป็นนิสัยหรือความเคยชินส่วนตัว ทีนี้ฝ่ายตรงข้ามก็จะแยกไม่ออกไปเองว่าพฤติกรรมที่เห็นคือติดเป็นนิสัยหรือกำลังโกหก

4
La1000cell 1 ส.ค. 59 เวลา 16:47 น. 1-1

ค่ะ ขอบคุณมากเลยสำหรับคำแนะนำนะคะ อันนี้มาบอกกล่าวกันที่มาจากงานวิจัยทางจิตวิทยานะ
เผื่อใครจะเอาไปใช้ค่า เยี่ยม

0
Shalnark T Diabolus 1 ส.ค. 59 เวลา 16:51 น. 1-2

จากประสบการณ์ตรงครับ ผมเป็นพวกสไตล์หลัง แล้วก็มีพรรคพวกเป็นสไตล์แรก บอกเลยว่าเป็นอะไรที่น่ากลัวโคตรๆ คือมันคุมความคิดอีกฝ่ายอยู่หมัดเลย อยากให้เรื่องจริงกลายเป็นโกหกหรือเรื่องโกหกกลายเป็นเรื่องจริงก็ได้

0
จีจี้ 1 ส.ค. 59 เวลา 23:34 น. 2

เราว่ามันใช้ดูได้แค่บางคนนะ อาจจะใช้ไม่ได้กับทุกคน เวลาเราพูดปรกติก็มีตามข้างต้น กระดิกเท้า ตากลิ้ง อืมอา
อีกอย่างวิธีจับโกหกมันมีละเอียดกว่านี้ การดูตา ปาก ลักษณะใบหน้า ท่าทางร่วม ฯลฯ
บางคนโกหก แบบจ้องตาจนจะท้องยังมีเลย
ถ้าอยากจับได้จริง ๆ คงต้องจับการเต้นของหัวใจแล้วล่ะ

เราเป็นคนนึงทีเวลาโกหกแล้วเชื่อกันว่าเป็นจริง มันต้อง มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้คนอื่นเชื่อ นิสัยเราก่อน การพูดน้ำเสียง หลาย ๆ อย่างรวมกัน

1
La1000cell 3 ส.ค. 59 เวลา 23:33 น. 2-1

ขอบคุณนะ ที่แชร์ประสบการณ์ อันนี้ก็เป็นเบื้องต้นน้า ถ้าระดับลึกๆไปก็ต้องดูกันอีกเยอะเลยเนอะ เหมือนที่บอกมา

0
นักบาส 4 ส.ค. 59 เวลา 21:25 น. 3

เราเคยจับโกหกเพื่อนได้นะ มีครั้งหนึ่งที่เราถามเพื่อนว่า เคยเล่นเกมคุโรโกะป่าว ( cross color อะไรสักอย่างนี่แหละ เพิ่งออกดาวน์โหลดได้เมื่อวานในวันนั้น) เรามันบอกว่าเคยเล่น เราเลยถามว่า มันเป็นยังไง. มันเลยบอกว่า ก็ปกติอ่ะ(นางพูดน้อยมากถ้านางเคยเล่นจริง นางจะบรรยายซะเราตรัสรู้อ่ะ) แล้วคราวนี้เราเลยถามว่า เล่นเกมได้ไงในเมื่อโทรศัพท์แกตกน้ำ มันเลยบอกว่าเล่นมาหลายเดือนแล้ว(อีสัส แปบนะ) เราเลยบอกว่า มันเพิ่งออกให้ดาวน์โหลดเมื่อวานเองนะ มันเลยบอกว่า เราเล่นในคอม(นางยังคงสตอเบอแหลต่อไป) เราเลยปิดท้ายบทสนทนาว่า "อีสัส มันเล่นได้เฉพาะในโทรศัพท์ ควาย!" (ณ จุดนั้นนางเหวอค่ะแล้วแบบว่าเอ๋อ-ค่ะ)
Story 2 นางเคยสะตอ เพื่อนทั้งห้องว่านางเล่นบาส (ในห้องเป็นติ่งคุโรบาส) แล้วเราถามว่า ดั๊งได้ป่าว นางบอกได้ค่ะ ทั้งที่ส่วนสูงนาง 152ซม. แล้วเราถามเพื่อความแน่ใจว่านางสะตอ เราเลยถามว่า แป้นบาสที่ใช้ NBA ใช่ไหม.(NBA แป้นบาสสูง 3 ม.) มันเลยบอกว่า ใช่ (-สูงไม่ถึง200ซม. แล้ว-ดั๊งได้ -ก็เก่งเกินมนุดแล้ว) หลังจากนั้นประมาณสัปดาห์กว่า เราเลยถามว่า ฝึกที่ไหน นางบอก โรงยิม.เราเลยบอกว่า.เราขอไปดูหน่อย นางบอก เออ...คือว่า เรากลับรถเมล์นะ เราสวนกลับ ไม่เหนเปนไร เออ...แต่ว่า เดี๋ยวห้อง 4 แกลังแกนะ ถ้ารู้ว่าเป็นเพื่อนเรา(นางอริกับห้อง 4หลายตัว) ก็นั่งห่างกันสิ มันก็บอก อือ.. .อ๋อเพิ่งจำได้ว่าวันนี้ไม่ได้ฝึก โรงยิมปิดน่ะ เราเลยมองหน้านางก็จะเลิกคุยกัน แต่ข้อมูลที่ได้จากการถาม ก็รู้ว่าโกหกแน่นอน

2
Shalnark T Diabolus 4 ส.ค. 59 เวลา 21:36 น. 3-1

อันนี้โกหกเบสิค โกหกไปเรื่อยไม่เตรียมข้อมูล เจอสไตล์นี้เจออัดข้อมูลไปเรื่อยๆอย่างที่คุณทำยังไงก็หลุด อยู่ที่เราว่าจะบอกตอนไหนว่า "จับได้แล้วนะ" หรือถ้าอยากสนุกก็ซักต่อไปเรื่อยๆจะได้ดูว่าจะแถไปทางไหน 55555+

0
อุอิ 4 ส.ค. 59 เวลา 21:53 น. 4

คนเวลาโกหกนะ
1.พูดน้อย อย่างเวลาคุยกันกลุ่มใหญ่ก็จะไม่พูดขึ้นมา
2.พยายามทำหน้านิ่งๆ ถ้าปกติไม่ใช่คนหน้านิ่งก็จะไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่
3.พูดเสียงเรียบๆเบาๆ
4.เวลาเราพูดอะไร ถามอะไรก็จะเออออตามหมด ไม่ค่อยออกความเห็น
5.ถ้าถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่เค้าพูดอยู่ จะคิดนานหรือไม่ก็ตอบใส่อารมณ์มากกว่าปกติ
6.ไม่ชวนคุย หรือถ้าชวนจะคุยเรื่องธรรมดาๆ เช่น วันนี้กินอะไรดี

1
สวัสเด้ 6 ส.ค. 59 เวลา 07:48 น. 5

บางทีพูดจริงไม่ได้โกหกก็โดนหาว่าโกหกนี่หงุดดหงิดจริงๆนะข้อ6ไม่ผ่านๆ
แล้วพอเราโกหกจริงๆก็เชื่อจนเราบอกว่าโกหกก็ไม่มีใครเชื่อเราเลย เป็นพวกพูดความจริงแล้วเหมือนโกหก พอเพื่อนว่าโกหก อินี่ก็ เออโกหกก็ได้
งงป่ะ เออ งงเหมือนกัน

1
La1000cell 7 ส.ค. 59 เวลา 10:58 น. 5-1

เข้าใจเลย บางครั้งไม่ได้โกหก คนก็คิดว่าโกหกใช่ไหมคะ

0