อ่านกันสักนิด เพื่อให้เข้าใจความรู้สึกของเด็ก…ไม่มีแม่..!!
มีเจตนาจะเขียนให้ครูและผู้บริหารทุกโรงเรียนอ่าน…เผื่อพวกท่านจะได้ทบทวนว่าที่ทำๆกันมาหลายปีนั้นถูกต้องดีแล้วหรือ.?
สายตาเด็กเหล่านั้นเป็นอย่างไร.?
บางคนนั่งแอบเสาอาคารร้องไห้ บางคนสะอื้นไห้กลางวงเพื่อนนักเรียนด้วยกัน ที่เขาร้องไห้เพราะเขาเห็นเพื่อนๆมีแม่มาอวด ขณะที่ตัวเองนึกไม่ออกว่าแม่อยู่ที่ไหน บางคน-ตั้งแต่อายุไม่ถึง 1 ขวบ บางคนแม่ไปทำงานกรุงเทพฯกลับบ้านพร้อมกับเด็กน้อยเอามาเป็นภาระให้ย่าหรือยายเลี้ยงแล้วก็หายหน้าไปเลย
เขาและเธอไม่เคยเห็นหน้าแม่จริงๆเลย
เด็กเหล่านี้แม้มีไม่กี่คนแต่ความสุขที่มันกำลังหลั่งล้นของคนที่มีแม่มันแอบทำร้ายจิตใจเด็กๆเหล่านี้ เรามั่นใจว่ากิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัดทำให้เด็กๆเหล่านี้สะเทือนใจมาก
วิธีแก้ไม่ให้เด็กไร้แม่ปวดใจคือให้เด็กๆไปกราบแม่ของแต่ละคนที่บ้าน จะเป็นแม่จริงๆหรือคนที่เลี้ยงแทนแม่จริงก็เป็นเรื่องของทางบ้าน โดยก่อนถึงวันนั้นจะต้องโน้มน้าวให้เด็กซึ้งในพระคุณของคนที่เลี้ยงดู และของแม่ที่ให้กำเนิดโดยแยกแยะอธิบายว่าใครมีบทบาทอย่างไรที่ทำให้เขาเติบโตเป็นมนุษย์และอย่าพูดคำว่ากำพร้าแม่ เด็ดขาด
วันสำคัญดังกล่าวโรงเรียนควรจัดกิจกรรมเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของแม่ของชาติเท่านั้น คือกิจกรรมเพื่อ“สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ”“แม่ของแผ่นดิน”เป็นหลัก ไม่ต้องลากเอาแม่ของลูกๆมาโรงเรียนอย่างที่ทำกัน
ก่อนจะเริ่มพิธีที่โรงเรียนครูจะต้องพูดว่าวันนี้เป็นวันแม่และทุกคนต่างนึกถึงพระคุณของแม่ผู้ให้กำเนิด แต่เราต้องนึกถึงพระคุณของผู้ที่เลี้ยงดูเราทุกคนด้วยเพื่อตอบแทนพระคุณของคุณแม่ และของคุณพ่อ คุณปู่ คุณย่า คุณตาย คุณยาย รวมทั้งคุณป้า คุณอา ที่ช่วยเลี้ยงดูเราจนเติบใหญ่หลังจากเสร็จพิธีในวันสำคัญที่โรงเรียนแล้ว พวกเธอกลับบ้านต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์ให้พวกท่านเหล่านั้นชื่นชมเช่น-
– ช่วยกวาดบ้าน ถูบ้าน
– ชักเสื้อผ้าเอง ซักถุงเท้า ซักรองเท้าเอง
– ช่วยเป็นลูกมือขณะผู้ใหญ่ทำกับข้าวเช่นช่วยล้างผัก เก็บจาน แกะเปลือกกระเทียมฯลฯ
– ช่วยล้างถ้วย ล้างจาน
– ทำอย่างนี้เป็นกิจวัตรประจำวันนอกเหนือจากทำการบ้านที่ครูสั่ง
– และ…มีอะไรที่เด็กทำได้ท่านผู้เป็นครูก็เสริมเขาไป
ขออย่าให้เด็กมีความรู้สึกอ้างว้างและหดหู่อีกเลย ไม่ควรให้เด็กที่รู้สึกขาดแม่ไม่เสียใจ จริงอยู่ที่ทุกคนจะมีน้ำตาเหมือนกัน มีการร้องไห้เหมือนกันแต่คุณอาจจะมีน้ำตาเพราะคุณมีความสุขปลื้มปีติ ได้หน้าได้ตาได้รับการชื่นชมจากหน่วยเหนือ
หากโรงเรียนไม่เอาแม่ของเด็กมานั่งบนเก้าอี้ แล้วให้เด็กนำดอกมะลิมามอบและกราบแม่บนเวทีห้องประชุมมีความผิดอุกฉกรรจ์ไหม
หันมารณรงค์ให้เด็กๆสนใจที่จะมอบความรักทดแทนพระคุณแม่ในทุกๆที่ทุกๆโอกาส ให้หันมาทำดีกับแม่ทุกวันทุกเวลาดีกว่าทำต่อหน้าสาธารณชน
อย่าทิ้งให้เด็กเหล่านี้นั่งพิงเสาร้องไห้ หรือแอบมองภาพแม่กอดเพื่อนอย่างเจ็บปวด ปลูกฝังให้เข้มแข็งบอกกล่าวในสิ่งดีว่าแม้เด็กๆจะไม่มีแม่แต่คนที่เลี้ยงดูมา ก็สามารถทำหน้าที่แม่ได้แม้จะไม่เท่าแม่จริงๆก็ตามให้เค้ามีความเข้มแข็ง เพิ่มกำลังใจเข้าไป
1.โรงเรียนควรจัดวันแม่แห่งชาติเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชนีฯเท่านั้น
2.โรงเรียนไม่ต้องเอาแม่ของเด็กๆมานั่งบนเวทีแล้วให้เด็กนำเข็มกลัดดอกมะลิหรือพวงมาลัยดอกมะลิมามอบบูชาแม่ในวันนั้นเพราะ (อ่านข้อ 3 ต่อนะ)
3.เราสงสารเด็กที่ไม่มีแม่มาร่วมกิจกรรม และไม่มีแม่ขึ้นไปบนเวทีเหมือนคนอื่นเพราะ - หรือ แม่เลิกกับพ่อแล้วหายหัวไปเลย รวมทั้งเด็กที่แม่ยังไม่ตายแต่มีภารกิจต่างจังหวัดหรือลางานไม่ได้
4.บางท่านอาจจะแย้งว่าเอาย่า เอายาย เอาป้า อา หรือเอาครูทำหน้าที่รับมะลิแทนแม่ก็ได้นั้น…ขอยืนยันว่า “ผิด”(อ่านข้อ 5 ต่อนะ)
5.เพราะแม่มีใครคนอื่นมาทดแทนแม่จริงๆที่คลอดตัวเองออกมาได้แน่ ต่อให้นางฟ้าเหาะจากเมฆมาขอเป็นแม่เด็กก็ไม่เอาหรอก
6.ขอยืนยันว่าทุกตัวอักษรนี้นำมาจากการรู้เห็นเอง และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนอื่นที่เคยพบเห็นเด็กร้องไห้
7.เมื่อวันที่ 8 ส.ค.57 ท่านหนึ่งทางอำเภอลอง จังหวัดแพร่ ยังโพสต์รูปเด็กชายไม่มีแม่และนั่งร้องไห้ในเฟซบุ๊คด้วย แต่เราไม่ได้นำมาโพสต์ประกอบข้อเขียนนี้
8.บทความนี้ มีข้อเสนอว่าเราควรให้เด็กตอบแทนพระคุณของ คุณพ่อ คุณแม่ วิธีไหนแล้ว (ควรอ่านอีกซักรอบ)
เด็กๆที่ขาดแม่คงน่าจะรู้สึกน้อยใจไม่มาก เท่าที่ผ่านมาเด็กอาจจะรู้สึกไม่เหมือนกันแต่เราก็ไม่ควรมองข้าม ปีหน้าพวกท่านกรุณาทบทวนกิจกรรมกันใหม่เถอะค่ะ
ที่มา : pantip
ขอบคุณบทความดีดีของ คุณศิริศักดิ์ ศิริทิชากร
ข่าวเด่น , ข่าววันนี้ , คลิปข่าว
1 ความคิดเห็น
มีแม่ที่ทดแทนแม้แท้ๆได้ มีพ่อที่ทดแทนพ่อแท้ๆได้
นั่นคือ คนที่เลี้ยงดูเราดีที่สุดเท่าที่ทำได้ มอบความรัก ความอบอุ่นให้กัลเราได้มากกว่าคนที่ชื่อว่า แม่แท้ๆ และยังส่งเสียให้เราเรียนหนังสือ อย่างเต็มที่ แม้จะต้องกู้เรียนบ้าง ทำงานบ้างก็ธรรมดา คนไม่รวย
สองคนนี้ล่ะค่ะ ที่ทำให้เรามีวันนี้ อย่าคิดแทนคนอื่นเยอะเลย
ไม่ใช่เราคนเดียวก็เป็นแบบนี้ รู้สึกแบบนี้ เพื่อนเราทั้งตอนม.ต้น ตอนปวช. ตอนป.ตรี ก็มีคนที่มีชีวิตแบบเรา แม้บางคนจะรวยก็ตาม แต่เพื่อนตอนม.ต้นน่ะ เหมือนเราทุกอย่าง
เราเรียกได้เต็มปาก ว่าพวกเขาคือ พ่อและแม่ ที่ดีที่สุด
ขอบคุณนะค่ะที่อ่าน ใกล้วันแม่แล้ว รักคุณพ่อ คุณแม่ หรือ คนที่เลี้ยงดูเรา มากๆๆ นะคร้าาาาาาาา
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?