Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ประสบการณ์ขอทุนป.โทบริหาร Solbidge เกาหลี

ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีชาวเด็กดีค่ะ ตอนนี้กำลังจะเดินทางไปเรียนต่อป.โทที่เกาหลีเร็วๆนี้ค่ะ

หลังจากที่ซุ่มอ่านมาเป็นสิบปี คราวนี้ก็ได้ฤกษ์ดีเขียนกระทู้ของตัวเองซะที

วันนี้ว่างเลยอยากมาแบ่งบันประสบการณ์ในการขอทุนไปเรียนต่อโท บริหาร ที่เกาหลี

ซึ่งคิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับน้องๆที่กำลังสนใจเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยทั้งป.ตรีและป.โท

เข้าเรื่องกันเลย ตัวเราเองจบตรีจากคณะวิจิตรศิลป์ มช. เรียนจบตรก็ทำงานกิจการที่บ้านและมีกิจการเล็กๆของตัวเองเกี่ยวกับของแต่บ้าน เอาจริงๆคือทำงานตรงสายมากๆเพิ่มเติมคือมีส่วนของการทำธุรกิจเข้ามา ตอนจบใหม่ๆเราไม่มีความอยากในการเรียนต่อเลยเพราะเหนื่อย ป.ตรีเรียนหนักซึ่งใครเรียนสายศิลปะก็น่าจะพอรู้ว่างานสั่งเยอะมากขนาดไหน เลยล้าๆกับการเรียนแล้วก็ไม่มีความอยากเรียนต่อเลย พอทำงานมาซักพักเราด็เริ่มรู้สึกว่า เออ..นี่เราขาดทักษะอะไรไปรึเปล่า ความความรู้ตรงนี้นี่นา.. ก็เลยตัดสินใจหาหลักสูตรเรียนที่ตรงความต้องการมากที่สุด หลังจากทำงานมาถึง 4 ปี (มาถึงตรงนี้น้องๆที่อ่านน่าจะพอเดาอายุกันได้แล้ว งื้อออ)

หลังจากใช้เวลาหาข้อมูลซักพักใหญ่ๆก็เจอหลักสูตรนึงที่มีเปิดให้สมัครทุนคือ BBA/MBA เรียนเกี่ยวกับบริหารธุรกิจ หลักสูตรอินเตอร์ของ Solbridge International School of Business Woosung University ประเทศเกาหลี พอเห็นก็ตาโตเลยจ้า เอาอันนี้แหละๆ รีบหาข้อมูลก็ไปเจอเอเจนซี่หนึ่ง เลยขอข้อมูลไป ประกอบกับช่วงนั้นจะมี Education fair ที่พารากอนแล้วจะมีเจ้าหน้าที่จากมหาลัย เลยตัดสินใจติดต่อและขอนัด pre-interview พอไปวันงานก็มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่และได้นามบัตรเค้ามา

นอกจากสนใจหลักสูตรและประเทศที่จะไปเรียนแล้ว พี่อยากแนะนำให้น้องๆดูวิชาที่เราจะได้เรียนด้วยค่ะ ว่าอยากเรียนจริงมั๊ย วิชาที่เปิดสอนในแต่ละเทอมตรงกับความต้องการของเรามาน้อยแค่ไหน ถ้าตอบโจทก์เราก็ลุยขั้นตอนต่อไปเลยค่ะ

หลังจากวันนั้นก็เริ่มเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองค่ะ ในส่วนภาษาเกาหลีตัดทิ้งไปเพราะอยู่ในระดับแย่ เป็นติ่งเกาหลีมีแต่ใจก็คงจะไม่ได้ ต้องเตรียมตัวอย่างดี เพราะต้องแย่งชิงทุนมาให้ได้ ในเมื่อเลือกเรียนหลักสูตรอินเตอร์ก็ต้องเตรียมตัวในส่วนภาษาอังกฤษให้แน่นเปรี๊ยะค่ะ แนะนำให้น้องๆสอบเก็บคะแนน IELTS / TOEFL ไว้แต่เนิ่นๆนะคะ ซึ่งคะแนนจะมีอายุ 2 ปี ถ้าคะแนนหมดอายุก็ต้องไปสอบใหม่ เหมือนพี่ ฮืออ

ในการเตรียมเอกสารหลักๆทักป.ตรีและโท คล้ายๆกันค่ะ จะมีเอกสารหลักๆที่ต้องเตรียมตามนี้

1.Scholarship Application ฟอร์มขอทุนสามารถกโหลดได้จากเว็บมหาลัยหรือ e-mail ไปขอได้ค่ะ

2.Proof of English Proficiency (either an IELTS score / TOEFL iBT score) เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง

3.Extracurricular Activities ส่วนรี้จะเป็นกิจกรรมพิเศษเช่น งานประกวดแข่งขันต่างๆ ถ้าไม่มีไม่ต้องใส่ก็ได้

4.Personal Essay included hand written 1000 wordsตัวนี้สำคัญมากซ้อมเขียนไว้เลยจ้าได้ใช้แน่นอน

5.Scholarship Essay included hand written 1000 words ตัวนี้จะมีหัวข้อกำหนดให้แต่ละปีไม่เหมือนกัน

6.Proof of Finance เอกสารทางการเงิน Statement และ Bank Letter จากธนาคาร

7.Original Transcripts

8.Original Degrees Certificate หรือใบคาดว่าจะจบการศึกษาค่ะ

9.Letter of Recommendation – two letter จดหมายรับรองจากอาจารย์หรือเจ้านายในกรณีที่ทำงานแล้วค่ะ สำหรับจดหมายรับรองที่ออกจากอาจารย์แนะนำให้เลือกอาจารย์ที่มีตำแหน่ง เช่น หัวหน้าภาควิชา คณบดี เป็นต้น

10. Resume / CV ตัวนี้ไม่มีฟอร์มตายตัว สร้างสรรค์เต็มที่ แต่ข้อมูลควรจะครบถ้วนและอ่านง่ายค่ะ

หลักจากที่ใช้เวลาเตรียมเอกสารครบถ้วนแล้ว ก็ติดต่อไปยังอีเมล์ที่อยู่ในนามบัตรที่ได้มาตอน Education fair ค่ะ แจ้งไปว่าเราเตรียมเอกสารครบแล้ว สามารถส่งไปที่มหาลัยหือที่อยู่ไหนได้บ้าง ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ให้ scan ส่งมาทางอีเมล์ได้เลย เรางงมากแต่ก็รีบ scan และรวมไฟล์เป็น PDF ส่งไปในวันนั้นเลย ผ่านไปประมาณอาทิตย์หนึงก็มีอีเมลมาจากมหาลัยว่าจะขอนัดSkype interview อีก 2 วัน ซึ่งตอนนั้นเรากรี๊ดลั่นร้านกาแฟที่บ้านเลย ลูกค้าตกใจกันหมด เราไม่อายเลยเพราะวันนั้นเป็นวันที่ 12 เมษายน ขอนัดสัมภาษณ์ 14 เมษายน เพราะวันที่ 13 ที่เกาหลีมีการเลือกตั้งและเป็นวันหยุดค่ะ พอรู้ว่าได้สัมภาษณ์ก็รีบตอบกลับอีเมลและเตรียมตัวเองค่ะ พยายามหาข้อมูลว่าเวลาเค้าสัมภาษณ์จะถามอะไรบ้าง ซ้อมพูด ซ้อมตอบให้เป็นธรรมชาติ ซึ่งเราคิดว่าเจ้าหน้าที่เค้ามีข้อมูลเราในมือแล้วค่ะ ต้องรู้จักเราผ่าน essay ที่ส่งไปทั้ง 2 อันประมาณหนึ่งแล้ว ที่เหลือก็ตอบไปตามธรรมชาติแล้วกัน พอถึงตอนสัมภาษณฺจริง ไม่มีความเครียดเลยค่ะ เราตื่นเต้นไปเองทั้งนั้น คนที่สัมภาษณ์ก็คุยด้วยเหมือนชวนคุยเรื่องทั่วไป มีคำถามให้แสดงความคิดเห็น 2-3 คำถามค่ะ ซึ่งเราว่าช่วงตอบและแสดงความคิดเห็นนี่แหละจะเป็นตัววัดตัวเราระหว่างการสัมภาษณ์ว่ามหาลัยเค้าจะรับเราเข้าเรียนและให้ทุนมั๊ย พอช่วงท้ายเค้าก็ถามเราว่า “ก่อนจบการสัมภาษณ์มีอะไรจะถามมั๊ย” เราก็ถามไปตรงๆเพราะเราอยากรู้ว่า “แล้วเราจะรู้ผลสัมภาษณ์เมื่อไหร่” คนที่สัมภาษณ์เค้าก็หัวเราะแล้วตอบมาว่า “so soon or around 1 week” ซึ่งเราว่ามันก็เร็วดี ก็เป็นอันจบการสัมภาษณ์เพียงแค่นี้ใช้เวลารวมๆแค่ 10 กว่านาที แป๊บเดียวเอง ทำนอนไม่หลับทั้งคืนเลย ตกบ่ายของอีกวัน (15 เมษายน) เราก็ได้อีเมล Acceptance Letter จากมหาลัยค่ะ เร็วมากไม่ถึง24 ชั่วโมงก็ทราบผลแล้วค่ะ ว่าเราได้ทุนและตอบรับเข้าเรียนที่ Solbridge และหลังจากนั้นทางมหาลัยก็จะส่ง Invoice ที่เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆให้เราไปจ่ายเลินและหลังจากทางมหาลัยได้ยอดชำระแล้ว เค้าจะส่งเอกสาร Certificate of Admissionและเอกสารอื่นๆสำหรับทำวีซ่านักเรียนมาที่บ้านค่ะ หลังจากนั้นก็ไปทำวีซ่าที่สถานทูตได้เลย รอ 3-4 วันก็เรียบร้อยค่ะ

ตอนนี้เอกสารของเราครบแล้วค่ะ และกำลังจะเดินทางไปเรียนเทอมแรก 29 สิงหาคมนี้ค่ะ เราหวังว่าน้องๆที่สนใจไปเรียนต่อที่เกาหลีหลักสูตรภาษาอังกฤษ น่าจะได้ประโยชน์จากเรื่องของเรานะคะ

มีคำถามสงสัยสามารถ เข้ามาคุยที่ https://www.facebook.com/koreahereiam/

หรือลองเข้าไปที่เว็บไซต์ของมหาลัยค่ะ http://www.solbridge.ac.kr/story/main/index.jsp

ตัวนี้จะเป็นเพจของนักเรียนไทย https://www.facebook.com/solbridgethailand/?fref=ts

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

ป่วนจัง 12 ส.ค. 59 เวลา 16:54 น. 1

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นยินดีด้วยนะคะที่ได้รับทุน :D 
หนูกำลังเรียนปริญญาตรีอยู่ด้วยค่ะ วางแผนไว้ว่าจบตรีแล้วจะขอทุนจากเกาหลีเหมือนกัน
อยากทราบว่าทุนที่พี่ได้รับเป็นทุนกี่เปอร์เซ็นต์คะ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านไหนบ้าง

ขอบคุณที่ตั้งกระทู้นะคะ ขอให้ใช้ชีวิตการเรียนอย่างสนุกค่าา :D

1
noonatheten 14 ส.ค. 59 เวลา 21:33 น. 1-1

หวัดดีค่า ทุน 45% ค่ะ แต่ต้องขอเทอมต่อเทอมค่ะ
ทุนครอบคลุมเฉพาะค่าเทอมนะคะ ส่วนค้าใช้จ่ายส่วนตัวต้องจ่ายเองจ้า ^^

ถ้าสมัครทุน Solbridge หวังว่าจะได้เจอกันน๊าา

0
noonatheten 17 ส.ค. 59 เวลา 00:16 น. 2-1

ขึ้นอยู๋กับว่าน้องได้ทุนกี่ % ค่ะ ค่าใช้จ่ายทางมหาลับเค้าจะแจ้งกลับหลังจาได้ทุนจ้า

0