ชอบสาขาที่เรียนอยู่ แต่ไม่ชอบมหาลัย และไม่ชอบสังคมในมหาลัยนั้น ทำไงดี
ตั้งกระทู้ใหม่
คิดจะซิ่วอยู่เหมือนกัน เราอยากจะไปเจอที่ที่ดีกว่านี้ สังคมที่ดีกว่านี้
ไม่รู้จะซิ่วดีไหม ช่วยแนะนำหน่อยคะ เราพึ่งขึ้นปี1 ค่ะ มาเรียนที่มหาลัยนี้ก็มาคนเดียว
27 ความคิดเห็น
สมัครสอบ GAT PAT ก่อน ยื่นแอดมิดชั่นเลย ถ้าได้ที่ที่ดีกว่าแล้วเอาไปให้พ่อแม่ดู
เชียร์คนที่ดิ้นรนไปให้ได้ที่ที่ดีกว่า แต่ถ้าอยากซิ่วเพราะมีปัญหาอื่นๆอยากให้ดูที่ต้นเหตุก่อน
ถ้าไม่โอเค ก็เอาแค่เทอมนี้ ทำเกรดให้ดีไว้ หรือถ้าไหวเอา1ปีเลย
ปีหน้าไปเรียนที่อื่น สอบเข้าให้ได้
ลืมบอก ตอนลาออก ขอใบเกรดกับใบคำอธิบายรายวิชามาด้วย เมื่อได้ม.อื่นแล้ว เปิดเทอมไปเขียนคำร้องขอเทียบโอนหน่วยกิต จะได้ไม่ต้องเรียนซ้ำ ( โอนได้ตามเกณฑ์ )
ไม่รู้นะ เดานะ
เรื่องรับโอนนะ
ถ้า มหาลัย เดียวกัน อาจจะรับโอน
ถ้าต่าง มหาลัย ไม่แน่ใจ ว่ารับโอน ?
ใครมีความรู้เรื่องนี้ แนะนำ ให้น้องๆ เขานะ
มีความสุขไหม ถ้าไม่มีซิ่วตอนนี้ยังทันนะ เรียนไปอึดอัดไปไม่มีหรอกอาจจะทำให้เราไม่อยากมาเรียนก็ได้
สู้ๆนะคะ เราก็เป็นเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่เรามีเพื่อน1คน คือไปด้วยกันสองคน ปกติมัธยมเพื่อนเราจะเยอะมาก แต่พอมามหาลัยไปด้วยกันสองคนเลยเหงาๆอ่ะ คิดซิ่วเหมือนกันค่ะ แต่เราก็พยายามปรับตัวนะ จขกท ลองปรับตัวดูนะคะ ถ้าไม่โอเค เราแนะนำให้ซิ่วเลย แล้วไปหาเพื่อนใหม่เอาค่ะ สู้ๆ
เราว่าซิ่วค่ะ ถ้ามันอึดอัดใจมากนะ ที่พยายามเข้าหาเพื่อนแล้ว แต่เพื่อนแบบไม่ค่อยอยากสนิทด้วย ลองซิ่วมหาลัยใหม่ อาจจะเจอสังคมใหม่ บรรยากาศใหม่ที่ดีกว่านี้ก็ได้ค่ะ
สังคมเด็กนักเรียนไทย บอกตรงๆนะว่าห่วยแตกเรื่องการอยู่ด้วยตัวของตัวเอง
ขอพูดในฐานะที่คลุกคลีมาห้าประเทศ(ไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อังกฤษ) แบบคลุกคลีจริงๆ ยังไม่นับเพื่อนต่างประเทศที่เราพอจะรู้คร่าวๆ
แต่ละที่ก็มีจุดดีจุดห่วยแตกต่างกันไป แต่เด็กไทยห่วยเรื่องนี้จริงๆ
เดินไปซื้อกับข้าวคนเดียวไม่ได้ กลัวว่าเจอคนรู้จักเห็นเราซื้อข้าวคนเดียวแล้วจะดูเหมือนไม่มีคนคบ
เดินไปห้องน้ำคนเดียวไม่ได้ ต้องลากพากันไปเป็นขโยง
กินข้าวในโรงอาหารคนเดียวแล้วจะรู้สึกอาย
ไปเรียนพิเศษไปเรียนคนเดียวกันไม่ได้(บางคน แต่เยอะอยู่)
อันดับแรก จขกท.ต้องรู้จักอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียวก่อน
อย่างที่สองคือ จขกท.อย่าเอะอะจะซิ่วเรียนที่ใหม่ สังคมในมหาลัยมันอยู่กับเราไม่กี่ปี แต่ใบปริญญาจะอยู่กับเราไปทั้งชีวิต จะให้เพื่อนร่วมมหาลัยมากำหนดชีวิตเราทั้งชีวิตเลยเหรอ ถ้ายังไม่ปรับตัว ไม่คิดเหรอว่าสังคมที่จะซิ่วเข้าไปใหม่ก็วนลูปเดิมอีก
แต่ถ้าคิดว่าคณะที่ตัวเองเรียนอยู่มันไม่โอเคในตัวเนื้อหา ในส่วนของนักศึกษาที่จบไปว่าประสบความสำเร็จมั้ย ถ้าลองดูตรงนี้แล้วไม่โอเค อันนี้แหละ ค่อยซิ่ว
อย่างที่สาม คือรู้จักปรับตัว การที่เราเข้ากับเพื่อนไม่ได้ เป็นไปได้สองแบบหลักๆคือ 1. จขกท.เด๋อ ควรหาสไตล์เก๋ๆเป็นของตัวเองได้แล้ว 2.กลุ่มพวกนั้นอาจจะมีไลฟ์สไตล์ไม่เข้ากับจขกท.เอง มหาลัยสังคมกว้างกว่ามัธยมเยอะ ลองดูสไตล์ดู กลุ่มไหนที่ดูจขกท.จะเข้าด้วยได้ก็ไปทำความรู้จัก พูดคุย บอกไปตรงๆว่าไม่มีเพื่อนเลย อยู่ด้วยได้มั้ย (บอกไปตรงๆ ไม่มีเพื่อนไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย ก็คนมันเพิ่งเข้ามาปะ?) ถ้าเขาไม่ต้อนรับ ก็อาจจะมีเหตุผลของเขา
ไม่มีใครรู้จักตัวจขกท.ดีเท่ากับตัวเอง อย่าซิ่วเพราะไม่มีเพื่อน อยู่ตัวคนเดียวให้เป็น ขึ้นมหาลัยแล้ว โตแล้ว
เด็กไทยบางส่วนแปลกจริงๆนะคะ
คือเราก็โตมาแบบทำอะไรเองได้
อยู่คนเดียวได้ ไปไหนมาไหนคนเดียวได้
คือมีเพื่อนไปด้วยกันก็ดีค่ะ เพลิน
แต่เพื่อนไม่ไปก็ไม่mindอะไร
ติดออกจะชอบไปไหนมาไหนคนเดียวด้วยซ้ำ ไม่ต้องมารอใคร
แต่พอกลับมาอยู่ไทย มันก็จะมีบางคนหาว่าเราไม่มีเพื่อนคบมั่ง. แปลกที่ชอบอยู่คนเดียวมั่ง เอิ่มมม
อยากบอกจขกท.ว่าสนับสนุนให้ลองไปไหนมาไหนคนเดียวค่ะ ไม่ต้องมาคอยใครด้วย ไม่เสียเวลา
อยากทำอะไรไปไหน ก็ตัดสินใจได้เลย
อยู่ไปซักพัก. จขกท.จะมีเพื่อนที่เข้ากันได้เองค่ะ
เค้าอาจจะโคจรมาช้าหน่อย แต่จขกท.ไม่เหงาไปตลอด4ปีแน่นอนค่ะ :)
สู้ๆ นะ ครับ
ถ้าจะซิ่ว แล้วมีเหตุผล แค่เพื่อน ผมว่ามันยัง ไม่พอนะ คือ ผม อยุ่ ปี 1 จะซิ่วเหมือนกันแต่ไม่ใช่ เพราะ ไม่มีเพื่อนแต่ สาขาไม่โอเค คือลงแอดผิด ไม่งั้นได้เอกอังกิด ละ+ ต้องการ พิสุทธิ์พ่อแม่ว่าผม สามารถติดมหาลัยรัฐได้ แต่สุดท้ายก้ซิ่ว รุ้ใหมว่าจขกทได้เรียน สาขาที่ชอบ โชคดีขนาดไหน
สู้ ๆ ครับ เน้นเรื่องเรียนที่เราชอบดีกว่า ส่วนเพื่อนเอาที่ดี ๆ เป็นเพื่อนแท้จริงใจ 2 - 3 คนก็พอครับ
ส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยกับการคิดจะซิ่วเพราะเหตุผลไม่มีเพื่อน ตัวเราเองเรียนมหาลัยจนมาอยู่ปีสุดท้ายแล้ว เรามาจากบ้านนอก มาเรียนต่อกรุงเทพ ตัวคนเดียว ไม่มีเพื่อน ไม่มีรุ่นพี่ ไม่รู้จักใครเลย ทุกอย่างใหม่หมด ถามว่าสมัยม.ปลายเราอยู่ตัวคนเดียวหรอ ตอบเลยว่าไม่ เราเพื่อนเยอะมาก แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ มีเพื่อนก็เหมือนจะไม่ต่างกับตอนไม่มีเท่าไหร่ ตอนแรกๆก็แปลกๆที่ต้องไปกินข้าวคนเดียว เดินไปเรียนคนเดียว ไปเที่ยวคนเดียว แต่การอยู่คนเดียวในบางช่วงเวลามันก็ไม่ได้เลวร้ายหรือน่ากลัวอะไร บางครั้งเรากลับรู้สึกว่าการมีสเปซส่วนตัวมากขึ้น อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปไหนก็ไป โดนที่ไม่ต้องมานั่งสนใจว่าจะมีเพื่อนไปตัวไหม มันทำให้เราได้เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองทำอะไรมากขึ้นมากกว่าที่ต้องมานั่งรอใครสักคนที่พร้อมจะไปกับเรา ทำให้เรากล้าจะทำอะไรมากขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น และเข้มแข็งขึ้น
เราคิดว่าวัยมหาลัยแล้ว เรียกได้ว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กๆแล้วที่ทำอะไรเองคนเดียวไม่ได้ คนเราต้องค่อยๆเติบโตขึ้นและรู้จักพึ่งพาตัวเอง ยืนด้วยลำแข็งตัวเอง เพื่อนไม่จำเป็นต้องมีเยอะ แค่มีคนเดียวแล้วเขาก็ดีกับจริงๆมันก็พอแล้ว และที่สำคัญ จขกท. ได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบมันถือว่าดีกว่าคนอีกหลายๆคนที่อยากจะทำให้สิ่งที่ตัวเองรัก แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ
สู้ๆนะคะ เราเป็นกำลังใจให้
"เราไม่สามารถทำให้คนทั้งโลกพอใจในตัวเราได้ แค่มีใครสักคนที่เข้าใจก็พอแล้ว แม้คนๆนั้นอาจจะเป็นตัวเราเองก็ตาม"
แนะนำว่าทำตามที่ใจตัวเองอยากค่ะ
ไม่มีใครรู้ใจเราเท่ากับที่เรารู้ใจตัวเอง
สบายใจที่จะอยู่แบบนั้น ของให้จขกททำแบบนั้นค่ะ
เราเป็นคนนึงที่ซิ่วมาเพราะสังคมมหาลัยไม่โอเค
แต่เชื่อมั้ยคะ พอซิ่วมา สังคมใหม่โอเคกว่าที่เก่าเยอะมาก
ตอนแรกเราก็ลังเลแบบจขกทนี่แหละ เพราะแค่เหตุผลเรื่องสังคมดูไม่เพียงพอที่จะซิ่วหรือเสียเวลาไป 1 ปี
แต่เราเลือกที่จะทำในสิ่งที่เราคิดว่าเราสบายใจที่สุด
และผลของมันก็ดีอย่างที่คาดไว้เลยค่ะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จขกทต้องพิจารณาตัวเองด้วยนะคะ ว่าเราไม่เปิดใจกับสังคมที่เราไม่โอเคหรือเปล่า ลองเปิดใจ ปรับตัว
แต่ถ้าไม่ไหวรู้สึกว่าตัวเองทำดีแล้ว และรู้สึกว่าการซิ่วจะทำให้เราสบายใจและเป้นทางออกที่ดีที่สุด แนะนำว่าซิ่วเถอะค่ะ อย่างน้อยมันก็คงไม่แย่เท่าเดิม
ทั้งนี้คณะและสาขาที่ตัวเองชอบ ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญนะคะ
ถ้าซิ่วแล้วขอให้เลือกในสิ่งที่ตัวเองชอบด้วย
สุดท้ายแล้ว ไม่อยากให้น้องคาดหวังกับสังคมมหาลัยมันเพราะไม่ได้เพอเฟคเหมือนตอนมัธยมนะคะ ทำใจได้เลย เราแค่ต้องอยู่กับมันให้ได้ แม้มันจะไม่สุขเท่ามัธยมแต่ก็ขอแค่ไม่ทุกข์ใจไม่สบายใจจนจิตใจย่ำแย่ก็โอเคแล้วค่ะ
ขอให้เลือกทางที่เราสบายใจที่สุดและมีความสุขกับสิ่งที่เลือกนะคะ สู้ๆน้า
แนะนำนะคะ ถ้าแค่เรื่องเพื่อนอย่าซิ่วเลยคะ เราต้องรู้จักอยู่ตัวคนเดียวไปไหนคนเดียวกินข้าวคนเดียวบ้างเพราะในสังคมมหาลัยมันจะสอนให้เราเป็นแบบนั้นเป็นคนเอาตัวรอดได้งานกลุ่มก็ค่อยเกาะกลุ่มกันเอาถ้าไม่ได้จริงๆก็ไปขออาจารย์ทำคนเดียวก็ได้อาจารย์ก็น่าจะเข้าใจอยู่หรอกในเอกที่พี่เรียนก็มีหลายคนนะที่เป็นแบบนี้ เพราะพี่เองก็เคยเป็นตอนนี้พี่เรียนอยู่ปี3แล้วความคิดที่อยากจะซิ่วนะก็มีเป็นล้านรอบตอนเรียนปี1พี่ไม่มีเพื่อนและไม่รู้จักใครเลยมาเริ่มใหม่ที่มหาลัยหมดพอมีเพื่อนตอนแรกก็ดีนะแต่หลังๆมานี้มีก็เหมือนไม่มีคือเราคิดว่าเขาเป็นเพื่อนแต่สำหรับเขาไม่รู้ว่าเราคือเพื่อนเขารึป่าวเพราะปกติพี่จะเป็นที่ตรงๆเฮฮาปาตี้เข้ากับคนอื่นได้ง่ายแต่ก็แอบมีโลกส่วนตัวของตัวเองบ้างไม่ค่อยได้ไปไหนกับเขาด้วยละมั่งเลยทำให้รู้สึกว่าเหมือนเราจะไม่ค่อยสนิทใจกันจนมีความคิดที่ว่าเราควรซิ่วไหมไปเรียนใกล้บ้านดีกว่าแต่ก็ได้แอบไปคิดคนเดี่ยวเล่นๆจนคิดได้ว่าถ้าเราซิ่วแล้วถ้ามันยังเป็นเหมือนเดิมล่ะแล้วเราก็จะซิ่วมันไปเรื่อยๆแบบนี้หรอ?เราจะเสียเวลามันไปแค่ไหนกับแค่ไม่มีเพื่อนแค่นี้อีกอย่าพ่อแม่เราเขาหมดไปกับเราไปเท่าไรแล้ว?เพื่อนในมหาลัยเรียนจบไปก็ตัวใครตัวมันไม่รู้จะได้เจอกันอีกรึป่าวสู้เราเอาเวลามารีบๆเรียนให้มันจบๆแล้วหางานทำมาเลี้ยงพ่อแม่ไม่ดีกว่าหรอ? ถ้าเรื่องแค่นี้อย่าพึ่งท้อเลยในสังคมมหาลัยเรายังจะต้องเจออะไรอีกเยอะสู้ๆนะ
จขกท. ต้องถามตัวเองนะคะว่า ถ้าซิ่วไปแล้ว เจอสังคมแบบนี้อีกจะทำยังไงต่อไป?
จะซิ่วจนกว่าจะเจอสังคมที่ใช่เลยหรอ
เราเองก็เคยเจอแบบจขกท. เหมือนกันค่ะ ได้อยู่ในสังคมที่เราไม่ได้หวังให้มันเป็นแบบนี้เลย ทำให้เราเกลียดทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เราต้องมาอยู่ในสังคมแบบนี้
เราพยายามจะวิ่งหนี ทนเรียนให้มันจบๆไป ทนคบกับเพื่อนทั้งที่รู้สึกว่าเข้ากันไม่ได้
การฝืนทนแบบนี้ทำให้เครียดเข้าทุกวัน
ตอนนี้กลับมาคิดอีกว่า เราควรจะมีความกล้าที่จะอยู่ตัวคนเดียว ถ้าอยู่คนเดียวตั้งแต่แรกอย่างมากก็แค่มีปัญหาเรื่องงานกลุ่ม เรื่องทำกิจกรรม
แต่เราจะไม่ต้องเครียดเรื่องความสัมพันธ์ หรือคอยมองแต่คนอื่น แค่จดจ่ออยู่กับเรื่องของตัวเองก็พอ
จะซิ่วแค่เพราะไม่มีเพื่อนคบมันดูไม่โอเคเท่าไหร่นะ อันนี้ความเห็นเรา แต่ยังไงก็แล้วแต่จขกท.อยู่แล้ว
คือเราอยู่ม.5คะ ในความคิดเราไม่ควรซิ่วเพราะเหตุผลเพียงแค่นี้นะ กว่าจะติดกว่าจะได้ที่เรียนแล้วยังเงินที่พ่อแม่ส่งมาให้เรียน มันลำบากแค่ไหน ได้ที่เรียนก็ดีแล้ว อย่าซิ่วเพราะแค่เข้ากับเพื่อนไม่ได้เลย กับเพื่อนก็ค่อยๆปรับความเข้าใจไปก็ได้ ค่อยๆปรับตัวเดียวก็อยู่ได้เองแหละคะ ง
พี่ก็ไม่ต่างกับน้อง อดทนเรียนมา 3 ปี มีแต่พวกเห็นแก่ตัว บางทีปรับตัวก็แล้ว แล้วไงล่ะ คนมันไม่ดียังไงให้ตายก็ไม่ดี สังคมมหาลัยมันเสื่อมโทรมแล้วน้อง เฟคหากัน เอาตรงๆตอนนี้พี่เรียนเอาความรู้กับปริญญาอย่างเดียวอ่ะ เบื่อ ไปที่ไหนคงไม่ต่างกัน
แต่ถ้าน้องไม่ไหวจริงๆ พี่แนะนำว่าเรียนม.เปิดดีกว่า เพราะมีแต่ผู้ใหญ่ที่มีความคิดแบบผู้ใหญ่เรียนดูสบายกว่า แค่คุมตัวเองให้อยู่ ก็โอนะ
ตอนนี้ก้เปน เพื่อนมาสนิทด้วยแต่ชอบหลอกใช้พอไม่ได้ดั่งใจก้ด่า พยายามตีตัวออกห่างละ แต่มันก้เข้ามาหายุเรื่อย ทุกวันนี้ยังอยากกินข้าวกลางวันในโรงอาหารคนเดียวเลย พอทำแบบนี้ก้หาว่าหยิ่ง #น่าเบื่อเนอะ
ผมก็เป็นครับ เป็นเด็กกทม. แอดติดที่ ม.รัฐ จ.ปลายนครปฐม ปกติ ม.1-6 จะมีเพื่อนดูโอ้ตลอด พอเข้ามหาลัยก็แยกย้ายไป ผมจึงไปเรียนคนเดียวรู้สึกเหงามากครับในม.มีแต่เด็กจังหวัดรอบข้าง เด็กกทม.ไม่ค่อยมี ในสาขาก็มีเพื่อนผู้ชายแต่เหมือน ไลฟ์สไตร์ไม่ค่อยเข้ากันส่วนมากจะมาจาก รร.เดียวกันมากันเป็นคู่ๆ ผมจึงใช้ชีวิตคนเดียว จะมีรู้สึกแปลกๆบ้างในเวลา ไปเรียน กินข้าว กลับบ้าน เข้าเรียน มันรู้สึกเราเหมือนตัวแปลกประหลาดจากสายตาคนรอบข้าง(ยอมรับครับว่าไม่ชินเลย แต่กำลังปรับสภาพตัวเอง) แล้วเมื่อวานเกิดบังเอิญไปนั่งข้างกลุ่มผู้หญิงกลุ่มนึง เขาก็คุยซุบซิบตามประสาผู้หญิงคุยกันสนุกเฮฮามาก แต่ประเดนผมนั่งเป็นท่อนไม้เลยครับไม่รู้จะคุยอะไรมันเลยทำให้เหมือนเราเข้ากับเขาไม่สุดครับบางทีก็ท้อนะครับ แต่อีกใจก็คิดว่าจะอดทนไปเรื่อยๆ(ซึ่งไม่รู้จะไหวมั้ย) ถ้าพี่ๆคนไหนใช่ชีวิตในมหาลัยคล้ายๆผม รบกวนแนะนำหน่อยครับว่าควรทำยังไงไม่ให้เราคิดมาก ขอบคุณมากครับ :)
จขกท. คะ อย่าเพิ่งยอมแพ้คะ สู้อีกสักนิด ทำตัวเองให้เก่งเข้าไว้คะ แล้วจะมีคนเข้าหาเราเอง ( แบบไม่จริงใจ TT ) แต่พอเราเก่ง เราจะรู้สึกว่า เราไม่จำเป็นต้องมานอยอะไรแบบนี้ให้มาก ระหว่างนั้นก็อาจจะสอบพวกGAT PAT ทิ้งไว้ ด้วยก็ดี เพื่อนจำเป็นนะคะ แต่ถ้าอยู่แล้วเราไร้ค่า ถอยออกมาตั้งหลักอยู่คนเดียวก่อนดีกว่าคะ เราอยู่มหาลัยแล้ว ยิ่งอยู่คนเดียว ยิ่งต้องเก่ง ต้องสตรองค่ะ
เปนเด็กเทียบโอน มากับเพื่อน2คน แต่คนละสาขา มาเรียนแถวเพชรเกษมตอนแรกก็คิดนะว่าจะไหวไหม อยู่ได้ไหม เพราะเรียนคนละสาขาแต่คณะเดียวกัน มีบ้างบางวิชาที่เรียนตรงกันก็อุ่นใจ พอถึงวันที่เรียนคนเดียวก้จะเกิดความกล้าๆกลัว กลัวเข้ากับคนอื่นไม่ได้ แต่บางทีเราก็ต้องเป็นฝ่ายเข้าหาคนก่อน เราลงเรียนกับคนต่างสาขา ต่างคณะเยอะแยะไปหมด บางวิชาก้อลงภาคค่ำเรียนกับอีกรุ่นเลย วัยทำงานทั้งนั้น แต่มันทำให้เราแกร่งน่ะสอนให้เข้าหาคน การเข้าสังคม รู้จักพูดรู้จักถาม มันทำให้เรารู้จักคนเยอะไปโดยไม่รู้ตัว ไหนจะเพื่อนของเพื่อนต่างสาขาอีกเวลาลงเรียนละเรารู้จักคนเหล่านี้ มันทำให้เราเรียนง่ายขึ้นน่ะ ชั้นมีเพื่อนละ สบายไปเพราะการเรียนเทียบโอนไม่เหมือนเรียนภาคปกติ เราต้องพึ่งพาตัวเอง เลิกเรียนกลับบ้าน ทำงานที่อาจาร์ยให้ จบ .... กว่าเราจะจบกลายเป็นว่า รุ้จักคนแทบทั้งมหาวิทยาลัย 555 ก็ถือว่าเป็นประสบการ์ณที่ดี เราก็เคยกลัว ไม่อยากมาเคยคิดด้วยซ้ำว่าจะย้ายไปเรียนตามเพื่อนไม่อยากอยู่คนเดียว แต่พอได้ยินประโยคนึงจากผู้ใหญ่ท่านนึงที่รู้จัก เล่าให้เค้าฟัง เค้าบอกว่า ความกล้าจะทำให้คนเราประสบความสำเร็จ ไม่รู้ซิพอได้ยินมันฮึดสู้น่ะ พบจบมาแล้วกลับมาคิด เออจริงด้วย ถ้าเรากล้า ซะอย่างอะไรก็ทำเราไม่ได้ ถ้ากลัวและไปเรียนตามเพื่อนมันจะเป็นยังไง
สังคมมหาลัยเป็นส่วนนึงเท่านั้น ยังต้องเจอสังคมในที่ทำงานอีกคะ อยากซิ่วเพราะอะไรกันแน่ ถามใจตัวเองดูค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่เรา เราเปนคนกำหนดเดินหน้าสู้เลยคะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?