ผู้หญิงแกร่ง เก่งและดี
ตั้งกระทู้ใหม่
สุรางค์ เปรมปรีดิ์ หญิงแกร่งแห่งวงการทีวีและหลานรัก ชิชญาสุ์ กรรณสูต 'เราไม่เคยมีชีวิตเป็นของเราเองอย่างนี้มา 30 ปีแล้ว' (นิตยสาร HELLO! ฉบับปีที่ 10 มกราคม 2015)
"ถ้าเราทำงานด้วยใจ คิดดี ทำดี ไม่เห็นแก่ตัว ทำอะไรก็มีความสุข"
อดีตผู้อำนวยการ / ครูใหญ่โรงเรียนเรวดี
ผู้อำนวยการนิตยสารสตรีสาร ร่วมกับอาจารย์นิลวรรณ ปิ่นทอง บก.สตรีสาร
และปี 2524 คุณชายเชื้อ กรรณสูต เข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการช่อง 7 สี
พร้อมกับดึงตัวน้องสาวเข้ามาช่วยบริหารหรือบริหารงานแทนพี่ชายด้วยนั่นเอง
ถือว่าเป็นคุณแดงเป็นบุคคลแห่งความสำเร็จคนหนึ่ง เป็นนักธุรกิจหญิง นักบริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เฉียบขาด เด็ดขาด เอาใจใส่การทำงาน
มือขวาคนสนิท คุณพลากร สมสุวรรณ เป็นคนที่คุณแดงไว้วางใจมากที่สุด ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ยุคแรก น่าจะประมาณปี 2529 มั้ง ไม่แน่ใจ
ไม่แปลกใจเลยทำไมคุณพลากร สมสุวรรณ ถึงได้รับตำแหน่ง กก.ผจก. นี้
ณ ช่วงนั้น ปี ๒๕๒๔ - ๒๕๔๒ ถือว่าเป็นยุคการบริหารของคุณแดงแบบเบ็ดเสร็จ และช่วงนั้นท่านยังคุมงานด้านละครด้วยตัวเอง
แต่หลังจากนั้นปี 2542 เป็นต้นมา คุณแดงไม่ได้คุมงานด้านละครด้วยตัวเองแล้วละ
มีทีมงาน และบอร์ดช่อง ผ่านการพิจารณาอนุมัติของบอร์ดคณะกรรมการช่อง 7
ขออนุญาตเอาบทความและบทสัมภาษณ์มาฝากให้อ่านกัน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ต่อจากนี้เป็นคำสัมภาษณ์คุณแดง (ผมเอามาจากนิตยสาร HELLO! ปีที่ 10 มกราคม 2015) ชอบมุมมองความคิด ..
สุรางค์ เปรมปรีดิ์ หญิงแกร่งแห่งวงการทีวีและหลานรัก ชิชญาสุ์ กรรณสูต 'เราไม่เคยมีชีวิตเป็นของเราเองอย่างนี้มา 30 ปีแล้ว' -- จากนิตยสาร HELLO! ปีที่ 10 มกราคม 2015
เริ่มเปิด.. นิตยสาร HELLO!
พื้นที่ 7- 8 ไร่รอบบ้าน คุณแดงสั่งปลูกต้นไม้หายากนานาพันธุ์ ในสวนต้นโศกของเธอ มีทั้งโศกสปัน โศกภูเขา โศกระย้า และ โศกขาวหรือโศกกระโปรง ยามโศกกระโปรงออกดอก จะเห็นกลีบขาว ยาว บานดุจ กระโปรงนางระบำ สวยจนผู้มองจะยืนยิ้มให้ดอกไม้ไม่รู้ตัว ตามทางเดินเข้าบ้าน
คุณแดงปลูกกุหลาบทีโรส ที่หอมกรุ่นให้แวะหอมกันก่อนขึ้นบ้าน
คำสัมภาษณ์ "พี่ปลูกบ้านหลังนี้ พี่อยากทำสวนดอกไม้
ก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่า เราต้องมีต้นไม้ที่ออกดอกทุกฤดูกาล ไม่งั้นเราจะมีบ้านที่เขาใหญ่ไปทำไม นั่นคือเป้าของพี่ คุณต้องตั้งเป้าให้ตัวเองตลอดเวลา ไม่ใช่พอใจอยู่เท่านี้ อันนี้สำคัญที่สุด คุณต้องมีเป้าหมาย ชีวิตจึงจะสนุก"
คำว่า 'คุณต้องตั้งเป้าให้ตัวเองตลอดเวลา' สะท้อนอยู่ในทุกมุมชีวิตของคุณแดง สตรีผู้กุมบังเ-ยนวงการทีวีตั้งแต่อายุ 39 - 70ปีจนได้รับฉายาเป็น 'เจ้าแม่' เธอตั้งเป้าให้ตัวเองตลอดเวลา
"ตอนสร้างบ้านหลังนี้ ทีแรกเราอยากจะมีสระน้ำเล็กๆ ที่ระเบียงด้านนอกเหมือนมีออนเซนให้นอนแซ่ กลางวันก็ดูพระอาทิตย์ กลางคืนก็ดูดาว แต่สุดท้ายผู้รับเหมาเจ้าแรกก็ทิ้งงานไปเฉย เราก็ชักไม่แน่ใจควรจะเดินตามแผนเดิมหรือเปล่า เพราะสระน้ำค่อนข้างหนัก เดี๋ยวได้พาบ้านลงเขาไปทั้งหลัง เพราะโครงสร้างที่นี่ก็ต่างจากกรุงเทพ สุดท้ายก็เปลี่ยนแผน ไม่ต้องมีสระน้ำ"
หลังล้มเลิกแผนสร้างสระน้ำ ระเบียงบ้านคุณแดงด้านที่หันหาขุนเขา จึงกว้างเอามากๆ ระเบียงแห่งนี้สร้างยื่นลอยออกไปเหนือเนินเขา ยามยืนที่ระเบียงจะมองเห็นเนินเขา ที่ตั้งของบ้านค่อยๆ ลาดลงไปเชื่อมกับชายป่า เมื่อมองออกไปก็จะเห็นทิวเขาไล่ล้อมอยู่ไกลตาและแนวป่าเขียว มองเห็นเขาที่มีรูปทรงเสมือนพระนอนอยู่ไม่ไกล มีสระใหญ่สุดท้ายในสวนเธอ วิวที่นี่ตระการตา ยามว่างนึกสนุกก็ลงไปพายเรือเล่นในสระได้
ต้นองุ่นที่มีอยู่ในกระถางริมระเบียงเป็นของขวัญจากเพื่อนหลายปีมาแล้ว ออกผลเป็นพวงเล็กๆ ผลองุ่นยังไม่สุกดึงดูดให้นกเงือกแวะเวียนมาดูเป็นประจำ เสาวรสในสวนผักของเธอก็ยังไม่สุก เสาวรสเป็นกระจาดที่อยู่ตรงครัวกับแตงโมในตู้เย็น คุณแดงซื้อมาจากตลาดมวกเหล็ก เธอชอบไปตลาดพื้นบ้านยามเช้า
พอเข้าไปในบ้าน จะได้ยินเสียงเปียโนเล่นเพลงตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ ถ้าจะฟังเพลงจากแผ่นก็ฟังจากลำโพงขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้ซ่อนอยู่ในโคมไฟทรงกลมและสามารถใช้เป็นโคมไฟไปในตัว เป็นการออกแบบของคุณต๋องปาปาญา ผนังห้องนั่งเล่นและผนังห้องนอนทุกห้องติดกระจกใสจากพื้นถึงเพดานเพื่อให้มองเห็นธรรมชาติภายนอกเหมือนมองภาพถ่าย ประดับกับภาพเขียนของอาจารย์ธีรยุทธ บุญมี อาจารย์สงัด ปุยอ๊อก วัฒนะ วัฒนาพันธุ์ และลายเส้นของอดีตนายกรัฐมนตรี ชวน หลีกภัย คุณแดงยังสะสมภาพพิมพ์และภาพเขียนของศิลปินชั้นนำ อย่าง
อ.สวัสดิ์ ตันติสุข อ.ปรีชา เถาทอง อ.ประหยัด พงษ์ดำ อ.อวบ สาณะเสน อ.จรูญ บุญสวน อ.สุรเดช แก้วท่าไม้
เริงศักดิ์ บุณยวาณิชย์กุล อนุพงษ์ จันทร และวีรศักดิ์ สัสดี
คุณแดงยังมีคฤหาสน์อีกหลังที่อังกฤษ เป็นตึกเก่าแก่อายุกว่า 100 ปีที่มีสัญญาอยู่กว่า 900 ปี
"ตอนซื้อที่นั่น พี่เหมือนไม่ได้ซื้ออะไร มีแต่โครงบ้านต้องทำใหม่ทั้งหมด แต่การขออนุญาตยุ่งยากมาก พี่ไม่อยากได้พื้นพรม จะเปลี่ยนเป็นพื้นไม้ ก็ต้องดูว่าจะเกิดเสียงรบกวนห้องข้างล่างหรือเปล่า กฎหมายเขาคุ้มครองเพื่อนบ้านและตึก ใช้เวลา 1 ปี ยังรอให้อนุมัติซ่อมและยังต้องทำอีกหลายเดือน"
ให้นึกสงสัยว่าในเมื่อคุณแดงเองก็ไม่มีทายาทและงานก็ยุ่งขนาดนี้ ไปมีบ้านที่อังกฤษอีกหลัง จะเอาเวลาที่ไหนไปอยู่อังกฤษ
"ออนจะไปอยู่เอง" เสียงใสๆ มีชีวิตชีวาของคุณชิชญาสุ์ กรรณสูต (ออน) ลอยมาทันที หลานสาวคุณแดงรีบชิงเสนอตัวอยู่บ้านคุณอาแดงที่อังกฤษเอง คุณออนใส่รองเท้าสีแดง หัวแหลมเปี๊ยบ ส้นสูงปี๊ดสุดเปรี้ยว มายืนอวดคุณแดง
เธอดูเป็นสาวที่ชอบแฟชั่น เธอช่วยจัดเสื้อผ้าให้คุณอาแดงใส่ถ่ายรูปในวันนี้ และมีส่วนช่วยเชียร์ให้คุณอาใส่เสื้อผ้าสีสดๆ ที่คุณอามีอยู่ไม่น้อยในตู้เสื้อผ้า บางตัวเป็นตัวโปรด แต่คุณแดงชอบใส่เสื้อสีดำทับ
นิตยสาร HELLO! คุณออนเป็นหลานคนเดียวใน 9 คนที่มาช่วยคุณอาแดงทำงานในช่วง 12 - 13 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยคุณอายังดำรงตำแหน่งผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ซึ่งครอบครัวเทียนประภาสและกรรณสูตถือหุ้นอยู่ หลานคนอื่นก็เคยมาช่วยคุณแดง แต่แล้วก็หันไปสนใจเดินทางสายอื่นกัน
คำสัมภาษณ์ "มีหลาน 9 คน แต่ก็ไม่เจอกัน จะมีก็ออนที่ทำงานด้วยกัน ถ้าคนนี้ไม่ทำงานด้วยก็ไม่ได้พบเหมือนกัน" สตรีที่ทำงานไม่หยุด บ่น
นิตยสาร HELLO! คุณแดงแต่งงานกับด็อกเตอร์ไพโรจน์ เปรมปรีดิ์ (ปู่)
อดีตคณบดี 16 ปี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แต่ทั้งคู่ไม่มีบุตร
คุณแดงกับสามีอยู่เป็นคู่ชีวิต 'ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร' กันจนทุกวันนี้จะ 48 ปีแล้ว บ้านที่กรุงเทพฯ นานวันเริ่มคับแคบ ก็ขยับขยายปลูกเพิ่มอีกหลังติดกันเป็นคู่แฝดกับหลังเก่า แรกๆ คุณแดงกะจะไปนอนหลังใหม่สลับกับหลังเก่า
เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ คืนแรกที่พาสุนัขลูกรัก (เจ้าชมพู่) ขึ้นไปนอนบ้านใหม่ เธอนอนไม่ได้ร้องจะกลับบ้านทั้งคืน รุ่งขึ้นต้องพากันกลับมานอนบ้านเก่าจนทุกวันนี้
"บ้านอาแดงกับบ้านคุณพ่ออยู่ติดกัน" คุณออนเล่า
"สมัยออนไม่ถึงขวบ ยังพูดไม่ได้เดินไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่ (คุณชาติเชื้อ-คุณอัจฉรา กรรณสูต) เคยพามาฝากเลี้ยง เพราะช่วงนั้นจะไปดูแลสวนยางที่ยะลา อาแดงบอกว่าออนร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน อาแดงกับอาปู่ช่วยกันปลอบก็ไม่หยุด อุ้มก็แล้ว แบกก็แล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะสื่อสารกันไม่ได้ ไม่รู้จะเอาอะไร ยังดีที่ป้อนอะไรก็ยอมทาน
คุณแม่กลับมาตกใจทำไมเสียงออนหายหมด ทุกวันนี้สังเกตเสียงออนแหบๆ คือมาจากวันนั้นจนวันนี้ ร้องขนาดนั้น
คุณแดงเป็นผู้บริหารที่ขึ้นชื่อในเรื่องความมีระเบียบวินัยและการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง เฉียบขาด ดุ ตัดสินใจอย่างผู้ชาย เป็นที่เคารพและเกรงกลัวของพนักงานทั้งองค์กรมาแต่ไหนแต่ไร
เป็นคนที่เคร่งครัดในคุณภาพเป็นที่หนึ่ง การทำงานจะต้องแทบไม่มีบกพร่องให้เห็น ละเอียด รับฟังความคิดเห็นผู้อื่นเสมอ ให้โอกาส และ ซื่อสัตย์ในการทำงาน เปรียบเสมือน “ครู” ในสายเลือด
"สมัยเด็กๆ" คุณออนบอก "คุณพ่อคุณแม่จะบอกว่า 'ระวังนะ ถ้าทำอย่างนี้ เดี๋ยวอาแดงดุนะ' เราก็จะกลัวอาแดง พออาแดงมา เราก็วิ่งหนีขึ้นห้อง แล้วแกล้งหลับกันสามพี่น้อง"
"พอโตขึ้น มาทำงานกับอาแดง ทุกคนจะบอก 'คุณแดงเจ้าระเบียบ เก่ง ทำงานต้องเรียบร้อย' ก็จะรู้สึกกดดัน เรากดดันตัวเราเองด้วย และอาแดงไม่ได้เป็นคนชมคนง่าย เราก็จะรู้สึกว่าเราผิดตลอดเวลา ส่งงานไป ไม่มีเสียงโทรศัพท์โทรกลับมา คือเราผ่านแล้วนะ ได้มาตรฐานอาแดงแล้ว อย่าไปรอคำชม เอาเป็นว่า ถูกดุน้อยที่สุด คือคำชมแล้ว"
"คนเราต้องมีวินัยในการใช้ชีวิต" คุณแดงบอก "และถ้ามองสิ่งที่เราเตือนเป็นคำสอน ไม่ใช่ 'ดุ' ก็จะเข้าใจอา มันเป็นความหวังดีมากกว่า ถ้าเราบอกทำอย่างนี้ดีกว่า แล้วคุณคิดว่า 'ดุ' ก็ช่วยไม่ได้ คนเราเรียนรู้จากสิ่งที่คุณทำผิดมาแล้ว เพราะฉะนั้นทางลัด คุณไม่ต้องผิดแบบเราหรอก เราอายุมากกว่า เราผิดมาแล้ว เรารู้ว่าทำแบบนี้ผลจะออกมาอย่างนี้ เชื่อเราเถิด เราใช้ความผิดพลาดในชีวิตไปทำให้คุณเติบโตเร็วขึ้น"
"อาแดงเป็นคนอ่านเกมขาด และอ่านคนเก่ง" หลานสาวที่ทำงานกันมานานดูจะเข้าใจคุณอา "เวลาอาแดงฟังใคร อาต้องคิดที่มาของคำพูดว่า พูดอย่างนี้ หมายความว่ายังไง มีจุดประสงค์อะไร อาไม่ใช่แค่ฟังผ่านๆ อาเข้าไปถึงกระบวนการคิดของคน อาทันคนและเก็บไปคิด คิดทุกอย่าง เป็นคนละเอียด"
นิตยสาร HELLO!
ใครที่รักเราในวันที่ไม่มีใคร
คุณออนเริ่มเข้ามาช่วยคุณอาแดงเมื่อคุณพ่อเธอป่วยด้วยอาการเส้นเลือดบริเวณก้านสมองตีบ เป็นอัมพาตแทบทุกส่วน ท่านอยู่เป็นกำลังใจให้กับครอบครัวอีก 5 ปีจึงจากไป
"ถ้าคุณพ่อไม่ป่วย ออนก็คงไม่ได้ใกล้ชิดกับอาแดง
"ตอนคุณพ่อป่วย ออนเพิ่งจบปริญญาตรี วันรับปริญญา คุณพ่อยังไปไม่ได้เลย แต่ตอนนั้นยังรับรู้นะคะ เพียงแต่ร่างกายเคลื่อนไหวไม่ได้ เพียงเดือนเดียวหลังจากนั้นก็ทรุด
ตอนที่คุณพ่อยังรับรู้ ออนบอกคุณพ่อจะไปฝึกงานกับอาแดง คุณพ่อจะได้สบายใจ แต่สองเดือนที่ไปช่วยอาแดงครั้งนั้นเหมือนไปเดินเล่น ทุกคนยังไม่สามารถลดภาพเราเป็นลูกคุณพ่อ กับเป็นหลานคุณแดง เราเดินเข้าไปของานทุกคนไม่มีใครกล้าใช้งานเรา ลูกเกรงใจค่อนข้างเยอะ"
เธอตัดสินใจไปเรียนต่อโทด้านมัลติมีเดียที่ London College of Printings และตัดสินใจไปทำงานหาประสบการณ์ที่อื่นก่อนค่อยกลับมาทำงานด้านธุรกิจทีวี
"ธุรกิจทีวีเป็นสิ่งที่คุณย่าเรา (คุณเรวดี เทียนประภาส) สร้างมา สุดท้ายก็คงต้องกลับมาทำ แต่ไม่รู้ว่านานแค่ไหนเราต้องทำงานเป็น ถ้าเราจะกลับมา เราต้องอยู่ให้ได้ในวันที่ไม่มีคุณพ่อ เราไม่ใช่เป็นได้แค่ลูกคุณพ่อ เรามีบารมีจากคุณพ่อ มารมีจากอาแดง ใช่! แต่เราก็ต้องอยู่ได้ด้วยความสามารถของเราเอง" คุณออนบอก
"ออนเคยคิดนะคะว่า คนๆ หนึ่งทำไมถึงประสบความสำเร็จได้ยิ่งใหญ่ ถือว่ายิ่งใหญ่นะคะ อาแดงเชื่อว่าเธอเป็นคนกำหนดชีวิตเธอเอง เอาเป็นคนไม่ยอมแพ้ เธอสู้ เธอคิดว่าทุกอย่างต้องสู้ ไม่มีวันไหนที่เธอไม่สู้ การทำงานสื่อทีวีทุกช่องแข่งกัน
ใครว่าคุณแดงเชย คุณแดงทันโลกนะคะ และทันทุกโลก" คุณออนกล่าว
นิตยสาร HELLO!
ชีวิตเป็นของเรา
คุณแดงดูจะธาตุสู้ไม่ถอยมาตั้งแต่เด็ก สมัยเธอยังเป็นนักเรียนราชินีบน เธอสอบได้ที่ 1 ทุกปีตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และเป็นนักเรียนติดบอร์ดที่ 4 ของประเทศไทย คะแนนแพ้ที่ 1- 3เพียงไม่กี่จุดเพราะลืมตอบข้อสอบฝรั่งเศสไป 1 ข้อ สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมต้น
คุณแม่ของเธอได้เปิดโรงเรียนอนุบาลเรวดีต้องช่วยงานโรงเรียนตลอดทั้งอาบน้ำ ป้อนข้าวเด็ก พอโตขึ้น เวลาคนขับรถโรงเรียนไม่มาทำงาน เธอก็ขับรถรับส่งนักเรียนและเลือกเรียนต่อคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเนื่องจากที่บ้านมีธุรกิจโรงเรียน เธอจบเกียรตินิยมอันดับ 1เหรียญทอง ซึ่งนั่นหมายถึงเธอต้องทำคะแนนสูงตามเกณฑ์ติดต่อกันใน 3 ปีแรก และได้คะแนนเฉลี่ยสะสม 4 ปี ไม่ต่ำกว่า 3.5
บุคคลที่จะประสบความสำเร็จต่อเนื่องนับสิบปีทั้งที่อายุยังน้อยเช่นนี้ ไม่ใช่แค่จะต้องมีสติปัญญา แต่จะต้องมีความขยัน อดทน และความมุ่งมั่นที่ไม่ย่อท้อ
ลักษณะของคนที่สู้ไม่ถอยเป็นมาตั้งแต่เด็ก
คำสัมภาษณ์ "บ้านเราไม่ได้เกิดมามีเงิน มันทำให้เรารู้สึกว่าเราควรจะเป็นใครสักคนที่ไม่ให้ใครมาดูถูกครอบครัวเราได้
"คุณแม่ทำงานหนักมาก เป็นคนเก่งและขยันมาก คุณตื่นแต่เช้า ทำสวน ไปดูที่ ซื้อขายที่ คุณแม่เล่าเองนะว่า สมัยก่อนก็เป็นแม่บ้านธรรมดา วันหนึ่งคุณแม่รู้สึกชีวิตไร้สาระ ไม่เอาดีกว่า ก็ลุกเปิดโรงเรียนและเข้าหุ้นกับเพื่อนเปิดนิตยสาร 'สตรีสาร' เรียนเชิญ อาจารย์นิลวรรณ ปิ่นทอง (คุณนิลวรรณ ปิ่นทอง ท.จ.)
ซึ่งเคยเป็นอาจารย์ของคุณแม่สมัยเรียนที่โรงเรียนสวนสุนันทามาเป็นบรรณาธิการ" ปัจจุบันท่านมีอายุ 100 ปี ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็นคุณ
"คุณแม่เป็นคนสอนให้ทำงาน เราจะได้อะไรสักอย่างต้องแลกกับการทำงาน ไม่ใช่ว่าอยากได้อะไร ก็ได้เลย จะได้อะไรพิเศษสักอย่าง ก็ต้องมีกติกา
เราอยากไปหัวหิน คุณแม่ก็บอก 'โอเค แต่ต้องทาสีรั้วโรงเรียนให้เสร็จ' รั้วโรงเรียนยาวตั้งกี่ร้อยเมตรไม่รู้ พี่กับพี่ชาย (พี่ชายคนรอง พันโท ชายชาญ กรรณสูต) ก็ช่วยกันทา ตอนนั้นพี่ตั้ว (พี่ชายคนโต คุณชาติเชื้อ กรรณสูต)
ไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่ยังไม่จบม.6 พี่ชายคนรอง ไปเรียนเยอรมันตอนจบม.8 จบเศรษฐศาสตร์ที่นั่น เขาก็จะมีลักษณะของคนเยอรมัน เราสองคนทารั้วโรงเรียนแบบหามรุ่งหามค่ำเพื่อจะได้ไปเที่ยวหัวหินกัน
"บ้านเราจะให้เงินเดือนลูกเป็นรายปี ต้องบริหารเงินให้เป็น สมมติว่าได้เดือนละ 200 บาท ก็จะจ่ายให้เลย 2,400 บาท เราต้องรู้จักบริหารเงินเอง อยากได้อะไรก็ไปจัดการเอาเอง"
นิตยสาร HELLO! คนใกล้ตัวคุณแดงจะทราบว่า สิ่งที่เธออยากทำ นอกจากตั้งบริษัททำธุรกิจและให้หลานเรียนรู้งานแล้ว
เธอยังมีโครงการการกุศลที่อยากทำมากมาย นอกจากให้ทุนการศึกษาที่ให้อยู่ประจำแทบทุกภาพผ่านมูลนิธิเรวดี เทียนประภาส มูลนิธิฯ ยังให้เงินสนับสนุนมูลนิธิองค์กรเพื่อความเปร่งใสในประเทศไทยทุกปี เพื่อผลิตสื่อการสอนปลูกฝังให้เยาวชน 'โตไปไม่โกง' ฯลฯ
ล่าสุด เธอได้ปรึกษา ดร.จุรี วิจิตรวาทการ ว่าอยากให้รางวัล 'ครูสร้างสรรค์' เพราะเธอเองเคยเป็นครูมาก่อน
อาชีพที่ผลตอบแทนน้อยนี้เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาคน
เธอขอให้อาจารย์จุรี ซึ่งดูแลศูนย์สาธารณะประโยชน์และประชาคมนิด้า และช่วยคิดระบบคัดสรรผู้ที่จะได้รับรางวัล 'ครูสร้างสรรค์' เพื่อเป็นกำลังใจและสร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้ที่อยู่ในอาชีพครู
หลายปีที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ยังจัดตั้งกองทุนผ่านมูลนิธิต่างๆ ให้อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคหลากหลายสาขา เพื่อให้แพทย์เหล่านั้นมีกำลังทรัพย์ไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่ยากไร้ แต่ขอให้แพทย์ท่านนั้นเป็นผู้มีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะช่วยใคร แพทย์แต่ละท่านมีจุดประสงค์เหมือนกันว่า อยากให้ช่วยคนที่ยังมีอนาคต มีศักยภาพ และเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อจะได้ฟื้นกลับไปช่วยสมาชิกในครอบครัวได้ต่อไป
คำสัมภาษณ์ "ต้องขอบใจออนที่มาช่วยแบ่งเบาภาระหลักๆ อยากเห็นเขามีความสุขกับการทำงาน อยากให้เขาใช้ศักยภาพที่มีอยู่ให้เต็มที่ เขายังต้องสร้างครอบครัว เรายังพอมีกำลังส่งเสริมเขาให้ทำงานที่เขาอยากทำ พี่จะได้ไปทำอะไรที่อยากทำนอกจากธุรกิจ"
นิตยสาร HELLO!
บ้านที่เขาใหญ่แห่งนี้ เป็นเหมือนที่ชาร์จพลังของเธอ เธอมาที่นี่แทบทุกวันหยุด กลางวันเล่นกอล์ฟ เดินดูสวน ทำสวนกลางคืนเล่นเกมลับสมองกับเพื่อนๆ วันไหนฝนตกก็เล่นปิงปอง ทุกครั้งที่เล่นอะไรได้อยู่ เธอจะรู้สึกว่าเธอยังมีชีวิต
นี่เป็นบ้านแห่งความสุข
ชีวิตที่ไม่เคยท้อ ก็ถึงวันที่ทดท้อ
คุณแดงได้ศึกษาต่อด้านศึกษาศาสตร์ มหาบัณฑิตที่ยูซีแอลเอ กลับมาเธอรับตำแหน่งผู้จัดการและครูใหญ่โรงเรียนเรวดี และ ควบคู่กับการนั่งบริหารช่อง 7
ช่วงนั้นพันโท ชายชาญ เทียนประภาส และคุณแม่ คุณเรวดี เทียนประภาสกับคุณชาติเชื้อ กรรณสูต ได้ช่วยกันก่อตั้งบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด และได้รับสัมปทานบริหารช่อง 7 จากกองทัพบก
ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์สีแห่งแรกของเอเซีย
ทุกอย่างดูจะไปได้ดีจนกระทั่งวันที่คุณแม่ประสบอุบัติเหตุรถชน เสียชีวิต
นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่เกินคำบรรยาย หลังจากนั้นการทำธุรกิจของครอบครัวก็เปลี่ยนไป คุณชายเชื้อต้องไปดูแลสวนยาง 2,000 ไร่ ที่อ.ตาเชะ ยะลา
เสียสละเพราะเป็นพี่ชายคนโต พันโท ชายชาญ ดูแลธุรกิจโทรทัศน์ซึ่งในตอนนั้นยังล้มลุกคลุกคลานอยู่และคุณสุรางค์บริหารโรงเรียนและสตรีสาร
พันโท ชายชาญเป็นผู้ริเริ่ม 'โครงการขยายกิจการโทรทัศน์จากส่วนกลางสู่ชนบท'
โดยเริ่มเปิดสถานีเครือข่ายช่อง 7 แห่งแรก ที่จังหวัดเชียงใหม่ และเปิดสถานีที่สองที่จังหวัดอุบลราชธานี
ช่วงระหว่างนั้นมีเหตุการณ์ 14 ตุลาคม และวิกฤตการทางการเมืองหลายอย่างและวันหนึ่งพันโท ชายชาญ เทียนประภาส ก็ถูกยิงเสียชีวิต ที่จังหวัดอุบลราชธานี ก่อนวันเปิดสถานีเครือข่าย จังหวัดอุบลราชธานี
ถ้าไปถามเธอว่าพี่ชายเสียชีวิตเพราะผลประโยชน์ในวงการโทรทัศน์หรือเปล่า เธอจะตอบเสียงเข้มทว่ามั่นคงว่า "ขอไม่ตอบค่ะ"
"ถ้าพี่ชายไม่เสียชีวิต พี่ก็ไม่เข้ามาในธุรกิจทีวี ทำโรงเรียนของพี่ก็สนุกดี พอพี่ชายไม่อยู่อีกคน พี่ท้อที่สุด พี่มีความรู้สึกว่างเปล่า
เพราะตอนนั้นคุณพ่อก็เสียแล้ว คุณแม่ก็เสียแล้ว พี่ชายคนนี้สนิทกันมากเหมือนเป็นทั้งพ่อทั้งแม่เรา พี่เขารักเรา ดูแลเราตั้งแต่สมัยเราเป็นนักเรียน ไปรับไปส่งพี่ที่โรงเรียนทุกวัน ถ้าพี่ไม่ต้องไปเรียน พอเขาเขาไปอีกคน เรารู้สึกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว
"ในชีวิตพี่ ทำงานพี่ไม่เคยท้อ มีปัญหาก็แก้ไปสิ ทุกอย่างมีทางแก้ วิธีแก้มีตั้งร้อยวิธี
ปัญหาทำให้คุณมีชีวิตและเข้มแข็ง ทุกอย่างมีทั้งวิกฤตและโอกาสอยู่เสมอ แต่เวลาเราสูญเสียคนที่เราผูกพันมากๆ เราจะท้อ
"ตอนที่เสียคุณแม่ก็เหมือนกัน คุณแม่ประสบอุบัติเหตุอายุ 49 ปีเท่านั้น คนโทรมาบอกว่า 'รถชน' เราไม่เชื่อ เราก็ไปที่เกิดเหตุเห็นคุณแม่เหมือนหลับไป ไม่มีบาดแผล คงจะคอหักและไปเลย ปลอบตัวเองว่า ท่านไปไม่เจ็บปวดทรมานและหมดกรรมแล้ว
"ก่อนคุณแม่จะเสีย ท่านฝันว่าทวดมาหา เราก็ไม่ใช่คนเชื่อเรื่องพวกนี้นัก พี่ก็ถามคุณแม่ว่า 'แล้วทวดว่าไงคะ' คุณแม่บอกว่าไม่ว่าไง มายืนนิ่งๆ ที่ปลายเท้า แล้วเอามือมาจับที่ขาแม่ มือทวดเย็นเจี๊ยบ แม่ก็ตกใจตื่นและไม่สบายใจ ก็พากันไปทำบุญตามคำแนะนำของอาจารย์ท่านหนึ่ง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณภาพประกอบนิตยสาร นิตยสาร HELLO! ฉบับปีที่ 10 มกราคม 2015 (Credit : http://www.magazinedee.com/home/main/magazinedetail/id/26484-hello-vol-10-no-2-january-2015.html)
อ่านต่อบรรทัดต่อไป...
3 ความคิดเห็น
- จุดเด่นของท่านคือการเป็นผู้บริหารมืออาชีพ ฉลาด เฉลียบขาด มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ใจกว้าง และ เป็นคนที่ฉลาดปรับตัวได้ตลอดตามยุคสมัย
เรียนรู้งานต่างๆเก่ง รับฟังความคิดผู้อื่นเสมอ เปิดกว้าง ไม่เคยปิดกั้นความคิด และไม่เคยมีการแทรกแซงผู้ผลิต
ท่านมีบารมีเปี่ยมเมตตา
- ละครช่อง 7 ช่วงปี 2529 - 2540 ส่วนใหญ่ถ่ายไปออนไป เนื่องจากมีผู้ผลิตเพียง 2 ค่าย
และแนวคิดถ่ายไปออนไปนี้มาจากอาหรั่ง ไพรัช สังวริบุตร เป็นผู้ริเริ่มระบบนี้ เนื่องจากเป็นการถนัดของการทำงานค่ายดาราวิดีโอ
- แต่พอประมาณปี 2540 คุณแดงมีนโยบายให้ผู้ผลิตถ่ายทำสต๊อกมากขึ้น และเปิดกว้างผู้จัดหน้าใหม่ๆ เข้ามาร่วมผลิตละคร และเสนองานใหม่ๆ
ขอบคุณภาพจาก Facebook คุณจอย
ณ ปัจจุบัน.. คุณแดง สุรางค์ เป็นถึงเศรษฐีนีระดับหลายหมื่นล้าน ร่ำรวยมาก
ขอบคุณภาพจาก IG คุณออน @on.chichaya
มีทีมดูแลคุมงานแต่ละฝ่าย อย่างด้านละครก็ปล่อยทีมดูแลคุม และมีทีมพนักงานเช็คเทปละครออกอากาศ (ท่านไม่ได้คุมละครเอง และไม่ได้เช็คเทปละครก่อนออกอากาศแล้ว อย่าเข้าใจผิด)
- สองฝั่งคลอง [ บทประพันธ์ ว.วินิจฉัยกุล ] ออกอากาศปี 2535
- ข้ามสีทันดร [ บทประพันธ์ กฤษณา อโศกสิน ] ออกอากาศปี 2542 / 2561
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เนื้อหา "ศักดิ์ภูเบศ และ จอมชาญ" (Facebook เพจ "ศักดิ์ภูเบศ และ จอมชาญ" ฝากกดไลค์ด้วย https://www.facebook.com/Sakphubet/ )
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
http://www.isranews.org/investigative/invest-slide/item/24151-business_24151.html เพื่อผลิตรายการและละครให้โทรทัศน์ช่องต่าง ๆ ยกเว้นช่อง 7 และมาปี 2557 ก็นำ MISS UNIVERSE THAILAND มาถ่ายทอดกับช่อง 3
ทั้งๆที่ คุณตู่ นพพล โกมารชุน กับ นุช ปรียานุช มีสายสัมพันธ์ชนิดแน่นกับคุณแดง ท่านสุรางค์ เปรมปรีดิ์
คำสัมภาษณ์คุณตู่ นพพล - นุช ปรียานุช พูดถึงบอร์ดคณะกรรมการช่องเจ็ดยุคปัจจุบัน คลิกตามลิ้งค์นี้ คำสัมภาษณ์ฉบับเต็มน่าจะไม่ตัดคำประโยคไหนทิ้ง http://gossipstar.mthai.com/gossip-content/11334
http://gossipstar.mthai.com/gossip-content/11334
(คุณนุช ปรียานุช เป็นอดีตนางเอกช่อง7 อีกหนึ่งท่านที่เคารพรักคุณแดง มากๆ เท่าที่ผมทราบมาคุณนุช ให้ความเคารพนับถือคุณแดงมากคนหนึ่ง เนื่องจากท่านเป็นผู้ให้โอกาสและคำแนะนำต่างๆ)
ล่าสุดในปี พ.ศ. 2560 คุณนุช ปรียานุช ปานประดับ ยังโผล่มาร่วมงานกับคุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ในเวที Miss Universe Thailand ทางช่อง 3 พร้อมกล่าวด้วยความเคารพรักเสมอมา
บวกกับการมีกระแสว่า คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์ มีเจตจำนงต้องการจะออกจากช่อง 7 มาก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 ตัดสินใจวางมือด้วยตัวเอง
เหลือเพียงแค่ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการที่ยังคงอยู่ไว้ก่อน เนื่องจากยังหาบุคคลที่พร้อมมาดำรงตำแหน่งแทนไม่ได้
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?