อ่านเรื่องราว "พระนางเรือล่ม" อัครมเหสี ร.5 โศกนาฏกรรมที่คนไทยไม่อาจลืม
ภายหลังการสิ้นพระชนม์ ทรงได้รับพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น "สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี" ดำรงพระฐานันดรศักดิ์พระอัครมเหสีพระองค์แรกในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
"สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ในรัชกาลที่ 5" แต่เดิมคือ "พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์" เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) และ สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2403 โดยรับราชการฝ่ายในเป็นพระภรรยาเจ้าในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) พร้อมด้วยพระขนิษฐาร่วมพระโสทร (น้องสาวร่วมมารดา) ทั้ง 2 พระองค์ นั้นคือ พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา (สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า) และ พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี (สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง)
พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ทรงมีพระสิริโฉมงดงาม พระสติปัญญาฉลาดเฉียบแหลม จึงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยยศขึ้นเป็น "พระอัครมเหสี" และยังเป็นที่โปรดปรานสนิทเสน่หายิ่งกว่าพระอัครมเหสีองค์อื่นๆ พระองค์เจ้าสุนันทาฯ ทรงรับราชการรับใช้สนองพระเดชพระคุณชิดใกล้เป็นที่สนิทเสน่หาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยิ่งนัก ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ตามเสด็จและรับใช้ใกล้ชิดดั่งเป็นปิยมหาราชินีเสมอ นอกจากทรงมีพระรูปโฉมงดงามแล้ว พระองค์ยังทรงมีพระอัธยาศัยจริงจังเด็ดขาด ปฏิบัติข้อราชการ และรับสั่งด้วยความเฉียบคมชัดเจนเสมอเป็นที่ประจักษ์แก่หมู่ข้าหลวงชาววังทั่วไปซึ่งเล่าขานกันว่าพระอุปนิสัยรับสั่งเฉียบคมนี้ทรงมีตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์แล้ว ทำให้พระองค์เป็นที่นับถือในพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพาร และทรงเป็นที่สนิทเสน่หาในพระราชสวามียิ่งนัก
เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2423 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีพระประสงค์เสด็จประพาสพระราชวังบางปะอิน พร้อมพระมเหสีทุกพระองค์ โดยทาง พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ไม่ปรารถนาที่จะตามเสด็จไปพระราชวังบางประอินในครั้งนี้เท่าไหร่นัก เนื่องด้วยก่อนวันเสด็จพระราชดำเนินนั้น พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ทรงพระสุบิน (ฝัน) ว่า พระองค์พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ฯ ทรงพระดำเนินข้ามสะพานแห่งหนึ่ง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ฯ ทรงพลัดตกน้ำลงไป พระองค์สามารถคว้าพระหัตถ์เอาไว้ได้ แต่พระหัตถ์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอฯ ก็ลื่นหลุดจากพระหัตถ์พระองค์ไป พระองค์ทรงคว้าพระหัตถ์พระเจ้าลูกเธอจนทรงตกลงไปในน้ำด้วยกันทั้งสองพระองค์ ถึงแม้ว่าพระองค์จะทรงหวั่นพระทัย แต่ก็มิได้ทรงกราบบังคมทูลให้พระราชสวามีทรงทราบ และได้ตามเสด็จฯ ประพาสพระราชวังบางปะอินตามพระราชประสงค์
ในวันเสด็จฯ นั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้เคลื่อนขบวนเรือต่างๆ ออกไปก่อนในเวลาประมาณ 8 โมงเช้า ณ ท่าราชวรดิษฐ์ และเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสร็จจากพระราชกิจแล้ว จึงจะเสด็จพระราชดำเนินด้วยเรือตามไป และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น...
1.เมื่อเรือกลไฟราชสีห์ (จูงเรือพระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี) ซึ่งอยู่หน้าสุดกำลังวิ่งผ่านวัดแห่งหนึ่ง ปัจจุบันคือวัดกู้ จ.นนทบุรี จึงเบนหัวเรือแล่นเข้าไป เพื่อให้พระบรมวงศานุวงศ์ในเรือได้ทอดพระเนตรทิวทัศน์ริมฝั่ง ส่วนเรือยอร์ช (จูงเรือกรมพระสุดารัตนราชประยูร) ก็วิ่งแล่นขึ้นมาขนานกับเรือราชสีย์ ทำนอนแข่งความเร็วกันอยู่
2.เรือปานมารุต (จูงเรือพระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์) พยายามเร่งฝีจักรความเร็วขึ้นมาให้ทันเรือราชสีห์ และเรือยอร์ช และการเบนหัวเรือแซงขึ้นไปด้วยความรีบร้อนจึงไม่ได้คิดถึงเรือกลไฟโสรขจร (จูงเรือพระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี) ซึ่งแล่นตามหลังเรือราชสีย์มาอย่างกระชั้นชิด
3.ทันใดนั้นเอง ผู้ที่คุมเรือโสรขจรก็รู้สึกว่า เรือตนเองได้แล่นผิดร่องน้ำ เสียงพรืดพราดหลายครั้งใต้ แสดงว่าใบจักรเรือได้พัดเอาทรายเข้าแล้ว ด้วยสัญชาตญาณของผู้คุมเรือ จึงเบนหัวเรือออกเพื่อหลบการเกยตื้น
4.การหักหลุบการเกยตื้นเช่นนั้น ส่งผลต่อ เรือปานมารุต (จูงเรือพระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์) ที่กำลังแล่นเข้ามา ทำให้เรือปานมารุตต้องเบนหน้าหนี และด้วยการที่เป็นเรือลากจูง เมื่อเรือจูงเบนออกอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เรือที่ถูกจูงเสียการทรงตัว ทันใดนั้น ทางด้านเรือโสรขจรหลังจากที่เบนหัวเรือหลบร่องน้ำเข้ามา จึงทำให้เกิดคลื่นที่เกิดจากเรือโสรขจรสะท้อนเข้าสู่เรือปานมารุต จนเรือโคลงซ้ายขวา
5.พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ทรงตกพระทัย เรือพระที่นั่งยิ่งโคลงใหญ่ เพราะลูกคลื่นได้ซัดเข้ามาไม่หยุด ด้วยสัญชาติญาณแห่งความเป็นแม่ ทรงอุ้มพระราชธิดาเข้ามาไว้ในอ้อมพระอุระ ทรงผวากับจังหวะของเรือ และสุดท้ายน้ำก็พรุ่งพรูมาทางห้องเรือ และล่มลงในที่สุด โดยในขณะที่เรือล่มนั้น พระยามหามนตรี หรืออ่ำ พระสมุหองค์รักษ์ ก็ได้ออกคำสั่งห้ามผู้ใดลงไปช่วยเหลือ ด้วยเป็นการขัดต่อกฎมณเฑียรบาลที่ห้ามให้ผู้ใดแตะต้องพระวรกายของพระมเหสี มิฉะนั้นจะถูกประหารทั้งตระกูล
โศกนาฏกรรมครั้งนี้ทำให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า รัชกาลที่ 5 ทรงเสียพระทัยยิ่งนัก ด้วยเพราะเป็นพระราชเทวีที่รักยิ่งกว่าพระองค์ใดในขณะนั้น หลังจากผ่านพ้นงานพระราชทานเพลิงพระศพ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ก็ได้สร้างพระราชานุสรณ์ขึ้นหลายแห่ง เพื่อเป็นที่ระลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ โดยแต่ละแห่งนั้น เป็นสถานที่ที่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ เคยตามเสด็จฯ และทรงโปรดปรานเป็นพิเศษ อาทิ
1.พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ ณ น้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี ภายในบรรจุพระบรมราชสรีรางคาร (เถ้ากระดูก) ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ไว้ด้วย มีลักษณะเป็นรูปทรงพีระมิดพร้อมคำจารึก โดยเหตุที่สร้างสถูปเป็นรูปทรงนี้ก็มาจากพระราชดำริของรัชกาลที่ 5 ที่ว่า "ทำเป็นรูปอื่นอาจไม่คงทนถาวร เพราะตั้งอยู่กลางป่าเขาลำเนาไพร อันไม่มีผู้ดูแล ฉะนั้น เมื่อปิรามิดของอียิปต์ยืนยงคงทนอยู่ได้ฉันใด ปิรามิดน้อยนี้ก็จะยืนยงคงทนอยู่เช่นกัน ณ ท่ามกลางป่าเขาและเสียงไหลรินของธารพลิ้ว"
2.พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ ณ สวนสราญรมย์ ตัวอนุสาวรีย์ทำด้วยหินอ่อนสีขาวมียอดเป็นปรางค์ ภายในบรรจุพระสรีรางคารของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ไว้ด้วย และมีคำจารึกแสดงความทุกข์โทมนัสของรัชกาลที่ 5 บนแผ่นหินอ่อน
3.พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ณ พระราชวังบางปะอิน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าหัวทรงโศกเศร้าโทมนัสในพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง ด้วยความเสียดายอาลัยรักเป็นที่สุด ดังจารึกที่อนุสาวรีย์ที่บางปะอิน ดังนี้ที่ระลึกถึงความรักแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์พระบรมราชเทวีอัครมเหสี อันเสด็จทิวงคตแล้ว ซึ่งเคยมาอยู่ในสวนนี้ โดยความสุขสบายจะเป็นที่เบิกบานใจ พร้อมด้วยผู้ซึ่งเป็นที่รักและสนิทอย่างยิ่งของเธอ อนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นโดยจุฬาลงกรณ์บรมราช ผู้เป็นสามีอันได้รับความเศร้าโศกเพราะความทุกข์อันแรงกล้า ในเวลานั้นแทบจะถึงแก่ชีวิต ถึงกระนั้นก็ยังมิได้หักหาย
4.โรงเรียนสุนันทาลัย (ปัจจุบันคือ รร.ราชินี)
5.วังสวนสุนันทา (ปัจจุบันคือพื้นที่ของ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และมหาวิทยาลัยสวนดุสิต)
6.ศาลพระนางเรือล่ม ศาลสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ศาลพระนางเรือล่ม" ตั้งอยู่ที่วัดกู้ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี สร้างขึ้นในบริเวณที่เรือพระประเทียบของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีล่ม ตัวศาลนั้นจำลองแบบจากศาลาจตุรมุขของพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ที่พระราชวังบางปะอิน ซึ่งเดิมทีนั้น วัดกู้มีชื่อว่าวัดหลังสวน แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุเรือพระที่นั่งล่มและได้มีการกู้พระศพและซากเรือขึ้นที่วัดนี้ คนทั่วไปจึงเรียกวัดนี้ว่าวัดกู้ตั้งแต่นั้นมา
แม้ว่าจะมีหลักฐานว่าเหตการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี แต่สถานที่เกิดโศกนาฏกรรมเยังถกเถียงกันถึงปัจจุบัน โดยคนส่วนใหญ่จะเข้าใจและนิยมไปกราบไหว้กันที่วัดกู้ ขณะที่น้อยคนจะรู้ว่ายังมีอีกสถานที่ที่มีตำนานเล่าขานว่า นี่อาจเป็นสถานที่จริงที่เรือล่ม คือ บริษัท สักทอง(ไทย) จำกัด ในปัจจุบัน
ลาภยศใดใดไม่พึงปราถน์
นางใดใครปราถน์พี่ไม่ข้อง
นางเดียวนางในหทัยปอง
นางน้องแนบในหทัยเรา
ด้านบนนี้เป็นพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประพันธ์ถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี แสดงถึงความห่วงหาอาลัยในนางอันเป็นที่รัก และจากโศกนาฏกรรม "พระนางเรือล่ม" ได้นำความโทมนัสเศร้าใจยิ่งมาสู่พระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 เป็นอย่างมาก กินเวลานานหลายปี จนกลายเป็นประวัติศาสตร์เล่าขานในที่คนไทยไม่อาจลืม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
- วิกิพีเดีย
- www.sunandhanews.com
- http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=carer&date=23-12-2011&group=1&gblog=19
- http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=poneak&month=09-2013&date=05&group=6&gblog=23
"สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ในรัชกาลที่ 5"
สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว , สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ , พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ฯ
สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ และพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ฯ
พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ตั้งอยู่บริเวณ "เนินพระนาง" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
พระนามาภิไธยย่อ "สกร" ภายใต้มงกุฎขัตติยนารี ที่ด้านใต้ของพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระราชวังบางปะอิน
ภาพด้านหน้า พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ณ พระราชวังบางปะอิน
ที่ระลึกความรักของทั้ง 2 พระองค์ ณ น้ำตกพลิ้ว
1 ถูกเลือกโดยทีมงาน
"พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี" สตรีที่ถูกจองจำในวังตลอดรัชกาล
https://www.dek-d.com/board/view/3695898/
"พระนางเรือล่ม" อัครมเหสี ร.5 โศกนาฏกรรมที่คนไทยไม่อาจลืม
https://www.dek-d.com/board/view/3695544/
"พระนางเจ้าสว่างวัฒนา" ราชวงศ์ 6 แผ่นดิน (มเหสีที่เศร้าที่สุดในประวัติศาสตร์)
https://www.dek-d.com/board/view/3694897/
"เจ้าจอมสดับ" สนมเอก ร.5 ที่รักษาสัญญาและกำไลไว้ 5 แผ่นดิน จนวันสุดท้ายของชีวิต
https://www.dek-d.com/board/view/3695170/
"พระนางเธอลักษมีลาวัณ" มเหสีผู้โดดเดี่ยว ที่ถูกฆาตกรรมเมื่อ พ.ศ. 2504 ที่ผ่านมา
https://www.dek-d.com/board/view/3696210/
"พระมหาพิชัยราชรถ" เมื่อใช้เสร็จ ต้องรื้อถนนปิดตายทางออก ตามความเชื่อไม่ให้ใช้อีก
https://www.dek-d.com/board/view/3694630/