Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ชีวิตการเรียนกทม.กับตจว.เป็นอย่างไรบ้าง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เราอยากรู้ว่าถ้าเราจบม.3ตจว.แล้วไปเรียนต่อม.4ที่กทม. มันจะดีรึป่าว มันจะมีอะไรเปลี่ยนไปมั้ย ในสังคมกทม.มีดีกว่าตจว.รึป่าว

แสดงความคิดเห็น

>

14 ความคิดเห็น

แอนดรอยด์ 25 ต.ค. 59 เวลา 22:30 น. 1

ต้องดูว่าจบจากโรงเรียนไหนแล้วจะเข้าโรงเรียนไหน แต่ละที่ก็มีดีแย่ต่างกันไป

สังคมกทม.หลักๆคือรถติด คนส่วนมากจะใช้ชีวิตบนท้องถนนเป็นเรื่องปกติ

ถ้าคิดจะมากรุงเทพ ต้องถามตัวเองว่าอยากได้อะไรจากกรุงเทพ

0
pimyadasomsri 26 ต.ค. 59 เวลา 01:45 น. 2

กทม
-รถติดตื่นเเต่เช้าถามตัวเองไหวมั้ย?
-สังคมมีปะปนกัน การเเข่งขันสูง
ตจว
-ไม่ต้องรีบตื่น 
-สะดวกไม่เป็นภาระด้านงานเงินของพ่อเเม่มาก

0
Quizzuiqa 26 ต.ค. 59 เวลา 04:51 น. 3

ความแตกต่างที่ชัดเลยคือ
1.สังคม 
เพื่อนในกทม.โฟกัสกับการเรียนและงานอดิเรกมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด สมัยอยู่ตจว. นักเรียนส่วนใหญ่จะเน้นกีฬา แก๊งไลฟ์ เพื่อนๆตื่นตัวฟิตเอนท์หมอกันตั้งแต่ม.5เทอมสอง มันกระตุ้นให้เราอ่านหนังสือไปด้วยถึงแม้ชีวิตจะยังไม่รู้จะเอนท์ไหนเลยก็ตาม ส่วนตัวไม่รู้สึกว่าการแข่งขันมันสูงกว่า มันแค่คนเก่งกว่า เราจะทำตัวชิลๆแล้วได้ที่ต้นๆของห้องแบบเดิมไม่ได้แล้ว ทุกคนขยัน แต่ส่วนตัวไม่รู้สึกว่าเรากับเพื่อนๆแข่งกัน เหมือนเราพยายามรอดไปด้วยกันมากกว่า(จากกลางภาคอันโหดร้าย)

2.ชีวิต 
เนื่องจากรร.ม.ปลายอยู่แถวสยาม หลังเลิกเรียนก็แวะไปกินข้าวกับเพื่อนกัน ตัวเลือกมากมาย ไปดูหนังบ้าง ไปเที่ยวสวนสาธารณะบ้าง มี BTS ไปได้หลายที่
ต่างกับตอนอยู่ตจว.ที่ต้องนั่งสองแถวไป 
ข้อเสียที่ต่างเลยคือโอกาสเล่นกีฬาน้อยกว่ามาก ยากกว่ามาก 
ค่าครองชีพก็สูงขึ้นมากเช่นกัน

0
เด็กน้อยๆ 26 ต.ค. 59 เวลา 21:21 น. 4

เห็นด้วยกับคห3 เราก็เด็กตจว มาเรียนกทม น่าจะโรงเรียนเดียวกันมั้ง เพราะกลางภาคโหดร้ายมากกกกกก55555
แต่มันก็ดีนะทำให้เราขยันขึ้น แอคทีฟขึ้น เพื่อนมีทั้งดีและร้าย555 แต่เราเลือกมองแค่คนดีๆอ่ะพี่รหัสตั๊ลล๊าคคคค
แต่ค่าครองชีพสูงจริง ทำใจเก็บตั้งต่อไป55555แต่สนุกนะเรามอยู่นี่ได้เที่ยวหลายที่เลย สอบเสดก็เดินห้าง ก่อนสอบก็ใต้ตาดำกันปาย ปล ใกล้เปิดเทอมแล้วววววแง้ๆๆตื่นสายอยู่เบย ตึกเรามีเก็บ5บาทถ้าไปสายด้วย5555

2
Quizzuiqa 26 ต.ค. 59 เวลา 21:29 น. 4-1

บางทีเราอาจจะเรียนโรงเรียนเดียวกันนะ 555+ อ่านแล้วดูคุ้นๆ

0
sweetpeanut 28 ต.ค. 59 เวลา 12:20 น. 5

เราเด็กตจว.ขอแม่มาอยู่กทม.ตั้งแต่ป.2 เลยไม่รู้ความเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่5555555555 แต่เรามาอยู่กับญาติก็ต้องมีความรับผิดชอบตั้งแต่เด็ก ละก็ขึ้นอยู่กะรร.ที่จะไปเข้าด้วยว่าเป็นรร.แบบไหนเพราะแต่ละรร.สังคมจะค่อนข้างต่างกัน เช่นรร.รัฐบาล รร.ญล้วน รร.วัด เด็กแต่ละที่จะไม่ค่อยเหมือนกันค่าา
ตื่นเช้าไม่เช้าขึ้นอยู่กะรร.ไกลบ้านมั้ยย
นี่เรากะว่าม.4จะย้ายจากกทม.ไปตจว.ซึ่งนี่ไม่รู้เลยสังคมที่นู่นเปนไง

0
arnonwandee67 4 พ.ย. 59 เวลา 20:36 น. 6

ครอบครัวเราย้ายมาจาก ตจว ตั้งแต่ผมยังไม่เกิด ผมว่าสังคมการเรียน กทม คือดีกว่านะ ส่วน ตจว จะได้เรื่องสังคมชีวิตในโรงเรียนอ่ะ ได้อย่างเสียอย่าง

0
ฝ้าย ฝ้าย ฝ้าย 5 พ.ย. 59 เวลา 19:01 น. 7

พึ่งย้ายมาเรียน กทม ตอน ม.5 สำหรับเราแล้ว เราว่า ตจว. ดีกว่า
1.ถิ่นของเราไปไหนมาไหนสะดวก
2.แว๊นได้เว้ยย 55555
3.รถไม่ติด 

แต่ความรู้สึกของเราตอนนั้น มันเบื่อ อยากลองเข้าไปอยู่ที่ใหม่บ้างไรงี้ อยากเจอคนใหม่ๆ
แต่เราโชคดี ย้ายมา  แล้วเจอแต่เพื่อนดีๆ พากินพาเรียน สนุกดีเหมือนกันจ้า 
แต่เรื่องการเรียนสำหรับเราแล้ว กทม ดีกว่าเยอะจ้า (อันนี้เราเทียบกับแค่ รร เก่าเรานะ) ถ้าคิดว่า รร สอนดีแล้ว ก็ไม่ต้องย้ายหรอก5555

0
สตาร์ดัสท์ 6 พ.ย. 59 เวลา 17:33 น. 8

ไม่เคยเรียนต่างจังหวัด
แต่ยืนยันได้ว่า เราโตในรถ
เช้าคุยกับพ่อแม่ในรถ กินข้าวในรถ ถักเปีย และทำการบ้าน
คือมีเวลาขนาดนั้นกว่าจะถึงโรงเรียน

0
เด็กตจว 6 พ.ย. 59 เวลา 17:55 น. 9

ถ้าติดบ้าน แล้วไม่ได้มีอะไรจำเป็นจริงๆที่ต้องมาเรีนนที่กทม.แนะนำว่าอยู่บ้านดีกว่า ที่กทมมันต่างจากที่เราคิดไว้มากๆ การอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ข้าวก็ต้องหากินเอง ไหนจะงานบ้าน ซักผ้าไรงี้อีก บางครั้งถ้าไม่มีที่พักก็ต้องมาอยู่หอ ซึ่งลำบากมาก อย่ามาเลย

0
Utbm 6 พ.ย. 59 เวลา 18:05 น. 10

เราเกิดและโตที่กทม. เรียนตั้งแต่อนุบาลจนจบม.ต้นที่กทม. แล้วพอขึ้นม.ปลาย เราก็ย้ายตามที่บ้านมาอยู่ตจว. เรารู้สึกว่าอยู่ตจว.ดีกว่า มันสะดวกในหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องเงิน การเดินทาง เรียนก็รู้สึกว่าง่ายกว่าตอนที่อยู่กทม. เรื่องที่เรียนก็คล้ายๆกัน แต่ทำไมไม่รู้เรารู้สึกว่าเรียนที่กทม.มันยากกว่า จนตอนนี้เราจะฝึกงานอยู่แล้วยังเลี่ยงที่จะไปกทม.เลย เพราะติดความสะบายมาจากต่างจังหวัด

0
mmdst 6 พ.ย. 59 เวลา 20:16 น. 11

อยู่ที่ไหนไม่สุขใจเท่าอยู่ที่บ้านเรา แต่ก็แล้วแต่เราว่าจะชอบแบบไหนมากกว่ากัน

ถ้าอยากมาหาประสบการณ์ก็มา ควรจะมาเลยแหละ ก็จะบอกความคิดเห็นส่วนตัวให้อ่าน แต่ไม่ได้ให้อ่านความคิดเห็นไว้เป็นตัวประกอบการตัดสินใจ เพราะแต่ละคนก็มักจะพบเจอสิ่งที่แตกต่างกันไปอยู่ดี บางคนอาจจะชอบการใช้ชีวิตแบบที่อยู่กรุงเทพ หรือบางคนอาจจะไม่ชอบ เพราะฉะนั้นทุกอย่างก็อยู่ที่ตัวเองทั้งนั้นแหละ :)

โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า เด็กในกรุงเทพมีความกล้าแสดงออกมากกว่าเด็กต่างจังหวัด ตอนมาอยู่แรกๆ ก็ตกใจว่าทำไมเด็กกรุงเทพกล้าพูด กล้าจากันจังเลย แต่ละคนพูดจาฉะฉาน อาจจะไม่ได้ คะ ขา แต่ก็ดูมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก การมาอยู่กรุงเทพเลยเป็นการทำให้เรามีความมันใจ และความกล้าแสดงออกสูงขึ้น เพราะในหลายๆเหตุการณ์ การที่เราไปนู่นไปนี่มันคนเดียว ทำให้เราต้องกล้าที่จะถามคนอื่นว่า อะไรอยู่ตรงไหน หรือจะไปตรงนี้ต้องไปยังไง หรือแม้กระทั่งต้องตะโกนถามคนขับรถเมล์ว่ารถเมล์สายนี้ผ่านทางที่เราจะไปมั๊ย (เพราะตอนมาแรกๆ ยังไม่ชำนาญสายรถเมล์นัก แต่อยากไปนู่นไปนี่แบบไม่ต้องนั่งแท็กซี่ไง เลยต้องถาม 5555) มันค่อนข้างทำให้เราต้องปรับตัวกับการใช้ชีวิตด้วยตัวเองมากกว่าตอนอยู่ต่างจังหวัด ที่ชีวิตอาจจะมีพ่อแม่รับส่งตลอดด้วยระยะทางที่ไม่ไกลนัก

"ชีวิตกรุงเทพมีแต่ความเร่งรีบ" อันนี้คอนเฟิร์มว่าจริง ไม่ว่าจะเป็นการรีบวิ่งขึ้นรถเมล์ หรือบีทีเอสก็ตาม ต้องรีบเลยล่ะ ไม่งั้นก็ต้องรถ ละต้องรอคันใหม่ ต้องฟิตในการวิ่งขึ้นรถให้ทันและเบียดกับคนสุดๆ ตัวเราเองคิดว่าก็สนุกดี มีมุมมองอะไรใหม่ๆให้เห็นด้วย เช่น เวลานั่งอยู่บนรถเมล์ แล้วมีป้าแก่ๆ เดินขึ้นมาละมีผู้ชายลุกให้ป้านั่ง หรือบางที่เราก็ลุกเอง แล้วก็มีแบบคู่รักที่ผู้ชาย ให้ผู้หญิงนั่งแต่ตัวเองยืน แล้วไม่ยอมนั่ง เพราะจะเหลือที่ให้คนอื่นนั่ง มันก็เป็นอะไรที่มองแล้วก็เป็นมุมมองที่ดี

เรื่องการใช้จ่าย มาแรกๆเชื่อเลยว่าทุกคนก็ต้องกระเป๋าตังแหกกันไปตามๆกัน เพราะมีแต่อะไรล่อตาล่อใจ หรือแบบเนี่ยเห็นของกินนู่นนี่นั่นในเฟสบุ๊คหรือไอจีมานานแล้วว อยากกิน ก็จัดการ เงินก็ร่อยหรอไปตามๆกัน แต่สุดท้าย คำว่าเด็กต่างจังหวัด เราก็ไม่มีทางลืมรสชาติอาหารบ้านเกิดเราแน่นอน ก็ต้องกลับมานั่งกินข้าวกับน้ำพริกที่เอามาจากบ้านหรือ หาอาหารที่ใกล้เคียงรสชาติบ้านเราที่สุด จริงๆแล้วอยู่กรุงเทพ เราสามารถลดค่าใช้จ่ายตัวเองได้นะ แค่ไม่กินข้าวห้างหรือร้านอาหารหรูๆ ค่าใช้จ่ายก็จะอยู่ในระดับที่พอดี เพราะ ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง หรือร้านข้างราดแกง หรือร้านอาหารตามสั่งธรรมดาๆ ก็มีอยู่เยอะไป ที่ค่าใช้จ่ายมันจะเยอะก็เพราะสิ่งของล่อตาล่อใจเรานี่แหละ

เรื่องคิดถึงบ้าน เชื่อเลยว่ามันต้องมีกันทุกคน ฟีลลิ่งแบบ เมื่อก่อนอยู่บ้านมีพ่อแม่ มีญาติ มีคนนู้นคนนี้เยอะแยะ แต่มาอยู่กรุงเทพ ก็ต้องอยู่หอใช่มั๊ยล่า ก็ต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเองละ บางคนอยู่หอใน ที่เป็นหอห้องรวม ก็จะเป็นอีกฟีลนึง บางคนเช่าหอนอกอยู่ ก็ต้องนอนคนเดียวไป เราอยู่หอนอกคนเดียว แรกๆ เศร้าสุดๆ จากที่มีพ่อแม่อยู่บ้านด้วยตลอด พอมาอยู่คนเดียว เราก็จะแบบห้องเงียบๆ คิดถึงเสียงพ่อแม่ คิดถึงบรรยากาศที่บ้านสุดๆ ตื่นมาตอนเช้า จากที่มีพ่อแม่ ก็กลายเป็นตื่นมาตอนเช้าก็ไม่เจอใครเลย แรกๆก็นะ แอบหนักหน่วง แต่อยู่ซักพักเราก็จะชินไปเอง ว่าเรามาเรียน เดี๋ยวก็ได้เจอพ่อแม่อีก อยู่ดี ตั้งใจทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดก็พอแล้ว

เรื่องถัดมา ความรับผิดชอบอันล้นเหลือที่ต้องมี ซักผ้าเอย รีดผ้า (หรือบางคนก็ส่งซักรีด ก็สบายไปอีกหน่อย) หาข้าวกินเองเอย ล้างจานเอย กวาดห้อง ปัดกวาดเช็ดถู อยู่คนเดียวก็ต้องทำเองนะ ไม่งั้นใครจะทำให้ถูกมะ ต้องรับผิดชอบตัวเองแบบสุดๆ

สุดท้ายท้ายที่สุด เรื่องเพื่อน เพื่อนก็มีหลายแบบนะ มันก็แล้วแต่สังคมแต่ละโรงเรียนอีกอ่ะ แต่พอ ม.ปลาย ก็จะเริ่มมีการชวนไปสังสรรค์ร้านนู่นร้านนี่บ้าง ดื่มนั่นนี่นู่นอะไรใหม่ๆที่เด็กต่างจังหวัดบางคนยังไม่เคยลอง คือจะบอกว่า เราคิดว่านะ ไปอ่ะไปได้ แต่ต้องดูแลตัวเอง ถ้ารู้ว่าดื่มอะไรไปแล้วจะดูแลตัวเองไม่ได้ก็อย่าดื่ม อย่าลืมว่าเราอยู่ตัวคนเดียวไม่ได้มีพ่อแม่มารับส่งเหมือนเพื่อนหลายๆคนนะ อีกอย่างเราไม่ได้ชำนาญเส้นทางด้วย เพราะฉะนั้นถ้าจะไปเที่ยวไหนกับเพื่อนดึกๆ ก็สำรวจเส้นทางอะไรไว้ด้วย ถ้าอยากดืมก็พอกรุ้มกริ่ม แล้วให้รู้ตัวเองให้พอประมาณ เพราะเห็นมาหลายคนแล้วที่ตามเพื่อนจนตัวเองเสียการเรียน แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างประมาทเกินไป ถ้าเพื่อนชวนไปดื่มก็ไปบ้างเป็นครั้งคราว ไม่ใช่ไปทุกรอบ ถ้ารู้ตัวว่าจะสอบ ก็ไม่ควรไป **นี่เตือนนะจริงๆ เพราะเห็นหลายคนลืมตัวมาเยอะแล้ว นึกแต่จะสนุกแต่ก็ลืมหน้าที่ตัวเอง โอเค กลับมาที่เรื่องเพื่อนต่อ เพื่อนดีๆก็มี แต่เพื่อนที่จะคุยโฉงฉางหรือคุยถูกคอกันแบบเพื่อนที่บ้านเรา มันก็หายาก มันมีความแตกต่างทางด้านสังคมอยู่แล้ว ระหว่างสังคมกรุงเทพ กับสังคมต่างจังหวัด เพื่อนบางคนอาจจะไม่จริงใจบ้าง เห็นแก่ตัวบ้าง ขี้อิจฉา ขี้นินทาบ้าง แต่จริงๆทุกคนก็มีข้อดีของตัวเองนั่นแหละ เพื่อนดีๆก็มี เพื่อนที่ชวนกันเรียน ชวนกันไปทำอะไรดีๆก็มี แต่สุดท้าย อยู่ที่เราเองอีกนั่นแหละว่าจะคบเพื่อนแบบไหน หรือเพื่อนคนไหนเข้ากับเราได้มากที่สุด :)

สุดท้ายยย ยาวเชีย 55555 อยากเล่าให้ฟัง จริงๆ ถ้าอยากมาก็มานะ อยู่ที่ตัวเราเองนั่นแหละ

ท้ายที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ตัวเรา แล้วก็ อย่าลืมค้นหาตัวเองล่ะ ว่าอยากเข้าคณะอะไร อยากเรียนอะไร อยากเป็นอะไรในอนาคต เพราะ รร ก็มีส่วนช่วยผลักดันให้เราไปสู่คณะ และมหาลัยที่ฝัน :D ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับตัวน้องเองนะ ว่าจะพยายามดิ้นรน ตั้งใจเรียนให้ไปสู่ฝันขนาดไหน สู้สู้
สู้สู้

0
ชานมเย็น 6 พ.ย. 59 เวลา 21:01 น. 12

พี่ย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพตั้งแต่ ป.4 เลยนะ แต่ก็อยากเล่า ไม่รู้จะช่วยน้องได้มากไหม

**ตอนเรียนที่ ตจว.**

- เนื่องจากพี่อยู่บ้านเช่าใกล้โรงเรียน ทำให้พี่เดินมากินข้าวกลางวันที่บ้านได้ มานอนหลับ พาเพื่อนมาเล่นบ้าน
- พี่ได้ไปแข่งนู้น ประกวดนี้ น้องมองภาพออกปะ มีเกียรติบัตร ได้ค้นหาความสามารถตัวเองตั้งแต่เด็ก
- แต่ตอน ป.3 แม่พี่เลิกเช่าบ้าน แล้วไปอยู่บ้านยาย ซึ่งห่างจากโรงเรียน 10 กิโลกว่า แต่มีรถรับส่ง-นักเรียน แถวบ้าน ต้องตื่นแต่เช้ามาก บางวันพี่ตกรถ(ทั้งขาไปและขากลับ) ก็เดินไปเรียนหรือเดินกลับบ้าน ก็ด้วยความเป็นเด็กอะเนาะ พี่ไม่กล้าบอกแม่ แต่มีวันนึงพี่เดินกลับบ้าน แล้วเพื่อนที่พี่ไม่ชอบที่สุดเป็นคนขี่จักรยานไปส่งพี่ถึงที่บ้าน พี่ประทับใจเขาตั้งแต่นั้นมา เสียดายที่ต้องมาเรียนต่อในกรุงเทพซะก่อน

**เรียน กทม.**
- มันสร้างความทะเยอทะยานให้พี่ พี่ต้องเรียนแข่งกับเพื่อน ๆ คืออย่านึกภาพแบบแข่งกันเหมือนในละครนะ 55+ หมายถึงต้องขยันขึ้นอะ แต่มิตรภาพก็ส่วนมิตรภาพ ก็ยังดำเนินไปด้วยดีปกติ
- การเดินทางสะดวก ได้มาขึ้นรถไฟบีทีเอส ลงรถไฟใต้ดิน ได้เข้าโรงหนัง พี่แบบตื่นตาตื่นใจมาก สมกับบ้านนอกเข้ากรุงจริง ๆ ทำเอ๋อ ๆ ในโรงหนังกับบีทีเอสด้วย อายมาก 55+
- คนในเมืองมีคนเก่งเยอะ พี่แทบไม่ได้ประกวด หรือแข่งอะไรเลย ถ้าไม่เสนอตัวแทรกเข้าไป ด้าน ๆ เข้าไป ไม่งั้นก็ไม่ได้ลองทำอะไรเลย ไม่มีเกียรติบัตรไปโชว์ตอนเข้ามหาลัย

0
Milk21645 7 พ.ย. 59 เวลา 07:52 น. 13

เราเป็นคนหนึ่งที่มาจากต่างจังหวัด สำหรับเราเราว่าควรมาเรียนกรุงเทพนะ เพราะถ้าเรามาเรียนกรุงเทพเราจะมีโอกาสหลายๆมากกว่าเรียนต่างจังหวัด และที่สำคัญต่างจังหวัดกับกรุงเทพต่างกันหลายอย่าง สภาพสังคมที่เราไม่เคยเจอก็จะได้เจอที่กรุงเทพนี่แหละและมันจะทำให้เราโตขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย

0
คนสวยบ้าเรียน 8 พ.ย. 59 เวลา 11:27 น. 14

น้องนี่น่าจะต้องปรับตัวยาวๆเลยค่ะ ส่วนตัวชีวิตการเรียนพี่สลับกับของน้องค่ะ พี่เรียน กทม. ตอนม.ต้น แต่โดนแม่เนรเทศ ขับไล่ ไปอยู่ ตจว. รร.หางอึ่งของประเทศตอน ม. ปลายค่ะ แต่ถ้าจะให้เล่าถึงความแตกต่างก็มีมากพอควรค่ะ จะแยกๆตามนี้นะคะ(ยาวนะคะ แต่จะอ่านไม่อ่านก็ไม่ว่าค่ะ)

#อยู่กทม

Studying
-ถ้าน้องเป็นคนไม่ค่อยรักการเรียน อันนี้พี่ว่าค่อนข้างน่ากลัวค่ะ เพราะการแข่งขันในรร. กทม. มันสูงมากๆค่ะ พี่ไม่รู้นะว่าเดี๋ยวนี้เปลี่ยนแปลงอะไรไปเร็วขนาดไหนแต่ที่แน่ๆคือ หยิบจับหาความรู้ใส่หัวตัวเองดีที่สุดค่ะ น้องต้องหัดลองสังเกตุตัวเองว่าชอบวิชาไหนเป็นพิเศษตอน ม.ต้นดูค่ะ แล้วลุยวิชานั้นๆให้แตกฉานเลย เพราะการเรียนใน กทม. เข้มข้นทุกวิชาค่ะ ต้องรักษาสมดุลของแต่ละวิชาให้ดีๆเลยนะ แล้วพี่ว่าถ้าเรียนเก่ง หัวดี น้องจะมีเสน่ห์มากค่ะ

-กวดวิชาใน กทม. ค่อนข้างแพง-แพงมากค่ะ ถ้าติดโซเชี่ยลจนอ่านหนังสือยากพี่แนะว่าลองทำให้ตัวเองมีเวลาว่างอ่านหนังสือสักช่วงเวลานะคะ เพราะส่วนตัวพี่เริ่มรู้จักผลกระทบของการติดโซเชี่ยลละค่ะ มันจะอ่าหนังสือได้ไม่นานเหมือนเมื่อก่อน แล้วจะเหมือนคนติดยามากๆ(ทรมานนะเออ 5555+) พี่เลยบูรณาการค่ะ มันมีคอร์สติวออนไลน์ฟรี/กึ่งๆเสียงตังค์ ในเน็ตค่ะ ใบ้ๆให้ว่า
1.คณิต อ.เอ๋
(ถามวิธีการเรียนก่อนดูคลิปจากเค้านะคะ ไม่งั้นละหลับคาคอมแน่ๆ 5555+ คลิปสอนยาวสะใจมากค่ะ)
2.Khan academy
(เก่งอังกฤษแนะนำตัวนี้ แนะว่าเอาไว้ดูเพื่อปรับพื้นฐานตอนว่างๆนะคะ เค้าสอนเรื่องพื้นฐานดีมากๆค่ะ)
3.เคมี ครูกุ๊ก
(เน้นอ่าน+ทำแบบฝึกหัด ลองไปถามวิธีการเรียนในแฟนเพจได้ค่ะ พี่กุ๊กใจดี)
4.แกท อ.ขลุ่ย
(อันนี้สอนแกทไทยฟรีค่ะ ซื้อเครื่องปริ้นราคาถูกไว้ตัวนึงก็ดีค่ะ)

-การสอนแล้วแต่ค่ะ รร.เอกชนใน กทม. ครูจะเข้มงวด ดุ ตามงานของเค้าค่ะ แต่ตอนเค้าสอนจะสอนละเอียด(แต่สอนรุ้เรื่องไหมนี่อีกเรื่องนะ) อะไรที่เป็นไฮไลท์จากครูแนะนำจดไว้ค่ะ ส่วน รร.รัฐ นี่พี่ไม่แน่ใจเพราะสมัย ม.ต้น เรียน รร.เอกชน เท่าที่ดูๆจากเพือนบ้านที่รุ่นน้องยังเรียน ม.ปลายอยู่เดาๆว่า สอนสบาย แต่ข้อสอบร้ายกาจค่ะ แล้วครูใน กทม. ค่อนข้างกดเกรดค่ะ พยายามยอมๆตามอารมณ์ครูแต่ละวิชาก็ดีนะคะ เข้าหาครูบ่อยๆ สั่งอะไรก็ทำๆค่ะ กฎระเบียบ รร. ไม่ละเมิดจะดีที่สุดค่ะ อ่อ ถ้าลองเรียนพิเศษกับครูบางคนมีโอกาสได้แนวข้อสอบค่าา 555+

-การสอบ ถ้าเป็นพวก รร.คริสต์หรือในเครืออัครสังฆมณฑลต้องพยายามสองเท่ากว่า รร. รัฐค่ะ แนวข้อสอบจะเน้นเซียนจริงๆ ใครทำข้อสอบในเครือ รร.คริสต์นี้ได้มากๆ ก็เกือบพวกเตรียมอุดม สวนกุหลาบเลยค่ะ โหดมากๆ ส่วน รร.รัฐ ข้อสอบถ้าไม่มาจาก สพฐ. ก็ ศธ.ค่ะ

การสั่งงาน การทำงานกลุ่ม
-สั่งการบ้าน งานโปรเจค ทั้งสัปดาห์เกือบ10-15งานค่ะในช่วงเปิดเทอม ของพี่เปิดมาบางเทอมเจอสั่งงานแนวนี้เลยค่ะ พี่ต้องเรียงลำดับจากงงานที่ต้องทำก่อนหลัง ที่ขาดไปไม่ได้จริงๆคือสมุดจดารบ้านค่ะ ถ้าที่ รร. ที่น้องจะสอบเข้า ม.ปลายมีขายก็รีบซื้อมาเก็บเลยค่ะ ได้ใช้จดงานที่ครูสั่งแน่นอนค่ะ

-การทำงานกลุ่ม อย่างที่พี่กล่าวไว้ค่ะ ถ้าน้องเรียงเก่ง หัวดี มันจะดึงดูดคนค่ะ ยิ่งห้องเด็กเรียนจะดูคนจากเกรดเลยค่ะ พยายามเกาะเข้าหาเด็กเรียนๆเข้าไว้ ไม่ทำตัวเสเพล ติดแจกับเพื่อนๆหวักะทิบ่อยๆค่ะ ผู้หญิงก็ได้ ผู้ชายก็ดีค่ะ เพราะงานกลุ่มถ้าได้คนดีๆ+ขยันมาในกลุ่ม เราจะเหนื่อยน้อยลง แล้วคิดคอนเซปต์เดี๋ยวนี้โซเชี่ยลมันทำให้คุยกันง่ายขึ้นค่ะ

Community
การเข้าสังคม
ส่วนตัวพี่ค่อยไม่มีเพื่อนที่สนิทเลยตอน ม.ต้น ค่ะ พี่พยายามเกาะแกะพวกเด็กเรียนไว้ก็เลยดีขึ้น ถ้าเพิ่งเข้ามา ม.ปลายใหม่ๆ พยายามทำความรู้จักกับทุกๆคนเอาไว้นะคะ อย่าเก็บตัว
แล้วที่แน่ๆคืออย่าไปยอมคนค่ะถ้าเราไม่ผิดจริงๆ อันธพาลก็มีเยอะพอตัวค่ะ มีตั้งแต่รุ่นน้องยันรุ่นพี่ ขอเน้นย้ำค่ะว่ามีปัญหากับคนอื่นให้น้อยที่สุดถือว่าดีค่ะ ถ้าเกิดเป็นศัตรูกับใครสักคน มันจะยาวยัน ม.6เลย และอย่าไปสุงสิงกับยาเสพติดในทุกกรณีค่ะ ไม่ว่าจะจนตรอกแค่ไหนก็ไม่ควรเข้าหายาเสพติดเด็ดขาดค่ะ

Lifestyle
-น้องควรหัดตื่นตั้งแต่ตีห้า ทำกับข้าวเองให้เป็น หรือไม่ก็พกกล่องข้าวไป รร. ค่ะ จะประหยัดเงินซื้อข้าวฝุดๆ ซื้อแค่น้ำขวดเดียวก็เหลือแหล่ค่ะ
-ที่ให้ตื่นเช้าตรู่ขนาดนั้นเพราะว่า กทม. รถติดที่สุดในโลกค่ะ ตื่นหกโมง เจ็ดโมงตามชาวบ้านเค้าทำอะไรไม่ทันกินแน่นอน และรถเมล์คนแน่นมากๆค่ะ ถ้าหาที่นั่งได้ก็รีบนั่งค่ะ อีกอย่างนึงคือ ช่วงเช้าๆรถเมล์ที่น้องต้องขึ้นไป รร. จะมาเยอะกว่าค่ะ เพราะมันคือรอบแรกๆที่จะปล่อยรถเมล์ครบทุกสาย
-นิสัยคนกรุงทำอะไรเร่งรีบค่ะ ดังนั้นอะไรที่ทำเป็นประจำก็ต้องเร่งทำให้เร็วกว่าเดิมค่ะ อย่างเช่น เงินจ่ายค่าโดยสารกระเป๋ารถเมล์ก็ต้องเตรียมเงินไว้ก่อนรถมาเลย
-โทรศัพท์มือถือสำคัญมากๆสำหรับที่นี่ค่ะ สมัยพี่เองอาจจะไม่จำเป็นเพราะมีตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญแต่ตอนนี้เอาออกเกือบหมดค่ะ

#ต่างจังหวัด
-จะเล่าคร่าวๆค่ะว่าค่อนข้างสบาย ไม่เร่งรีบค่ะ ไม่ต้องแข่งขันอะไรเยอะแยะ เหมาะสำหรับคนที่อยากอยู่แบบไม่ต้องดิ้นรนค่ะจะดีที่สุด
-การเรียนนี่แทบเหมือนกับกรุงเทพเมื่อ30ปีที่แล้วก็ว่าได้ค่ะ ครูสอนได้แบบไม่ค่อยเคี่ยวเข็ญเลยค่ะ
-เด็กตจว.จะอัธยาศัยดีกว่ามากค่ะ เข้าหากันง่ายๆเป็นกันเอง ขนาดนักเรียนที่ทำตัวเก๊ๆหน่อยก็ยังเข้าหาได้ค่ะ ไม่มีห้าวใส่อะไรรุนแรง(ทั้งนี้แล้วแต่บุคคลด้วยค่ะ)
-ตจว. ถ้าที่ไหนไม่มีรถเมล์สามารถขี่มอไซค์ไปเรียนได้ค่ะ ไม่ต้องรอรถให้เมื่อยตุ้มด้วย
-ส่วนตัวพี่เองอยู่ กทม. มายาวนานกว่า ที่พี่เคยอยู่นอกเมืองค่ะ(อยู่แค่3ปีเอง) เลยไม่ค่อยรู้อะไรในพื้นที่้องถิ่นมากมายนัก

0