จากละครสุดฮิต สู่การตามติดปราสาท 'นาคี'

[Kaopunzaa]

TRAVEL THAILAND

BY Mermaidkao~

 

สวัสดีเจ้าค่ะ^^ ยินดีต้อนรับเหล่านักเดินทางท่องเว็บที่หลงเข้ามาภายในกระทู้นี้นะเจ้าคะ ตามอ่านกระทู้มานานมากแล้ว พึ่งจะเคยตั้งจริงๆจังๆซักที ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองก่อนนะเจ้าคะ^^ เราชื่อ 'ข้าวปั้น' น้าาา และเราจะแทนตัวเองว่า 'ปั้น' เจ้าค่ะ^^

     เปิดเรื่องเลยนะเจ้าคะ^^ เรื่องราวของทริปสั้นๆในหนึ่งวันของปั้นเริ่มต้นจากการที่นอนกินบ้านกินเมืองอยู่ครึ่งวันแล้วได้รับโทรศัพท์จากเหล่าป้าๆที่มักจะพาไปท่องเที่ยวกัน ได้รับสารสั้นๆว่า
 

"ไป 'เมืองมัลลิกา' กัน!"

     โอเคเจ้าค่ะ รับข้อมูลเรียบร้อย ประมวลผลเรียบร้อย ก็คว้ากระเป๋าสตางค์พร้อมโทรศัพท์เดินออกนอกบ้านเลยเจ้าค่ะ^^


ด้วยเหตุว่าช่วงนั้นเป็นวันหยุดยาว 3 วัน ช่วงวันรัฐธรรมนูญ จำนวนคนก็คงจะไม่ต้องคาดเดาให้มาก... 
.
'ล้น' เลยเจ้าค่ะ55555

     จุดมุ่งหมายเปลี่ยนจากเมืองมัลลิกาไปร้านอาหารเล็กๆเพื่อพักทานอาหารกลางวัน+รอแดดร่ม+รอคนน้อยลง ซึ่งร้านอาหารเล็กๆนั้นก็คงจะไม่พ้นร้านสเต็กน่ารักๆข้างทางที่พึ่งเปิดใหม่ได้ไม่กี่สัปดาห์อย่าง 'PITA Steak Burger '

     สำหรับบรรยากาศการตกแต่งร้านปั้นให้ผ่านเจ้าค่ะ^^ ปั้นชอบร้านอาหารสไตล์น่ารักๆ เรียบๆ ออกแนวแบบนี้

 

Cr. Page 'Pita Steak Burger'

     อันนี้แปะไว้สำหรับร้านอาหารสไตล์ฝรั่งนะเจ้าคะ^^ เผื่อใครอยากลอง รสชาติโอเค ราคาพอรับได้ ลองแวะไปทานดูนะเจ้าคะ^^

ปอลิง.นี่ไม่ได้เป็นพรีเซ็นต์เตอร์นะ แค่แนะนำเฉยๆ5555


     หลังจากกองทัพต้องเดินด้วยท้องอิ่มหน่ำสำราญแล้ว คณะของปั้นก็ตรงกลับมายัง 'เมืองมัลลิกา' ซึ่งเป็นจุดหมายแรกใหม่ค่ะ เรื่องแดดลดลงไปบ้างแล้ว ส่วนคน...ก็ยังเดินใส่ชุดไทยขวักไขว่เต็มไปหมดเหมือนเดิมเจ้าค่ะ
 

 

     สอบถามราคา บัตรเข้าประมาณ 200 กว่าบาท และค่าเช่าชุดอีก... เปิดกระเป๋าสตางค์แล้วหันไปนับจำนวนคนมา 
.
.
'ท่าจะไม่รอดแฮะT^T'

จากทริป 'มัลลิกา'  จึงเปลี่ยนเป็น 'ปราสาทเมืองสิงห์' แทนหลังจากนั้นเจ้าค่ะ
.
.
และนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการ...

 

"ตามล่าตามรอยเทวาลัยจาก 'นาคี' "

     ค่าผ่านทางในการเข้า รถยนต์เสียคันละ 50 บาทเจ้าค่ะ ส่วนค่าเข้ารายบุคคลนั้นอยู่ในช่วงเข้าชมฟรี ซึ่งราคานี้จะมีผลถึงสิ้นปีนี้เท่านั้นเจ้าค่ะ

     หลังจากยื่นเงิน 50 บาทให้เจ้าหน้าที่เรียบร้อย รถของเราก็เคลื่อนเข้าสู่สถานที่ บรรยากาศเงียบสงบร่มเย็นของอุทยานที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ใบหญ้าให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปจากแดดเผาภายนอก เนื่องด้วยลักษณะจะเป็นไปทางป่าไม้ ทำให้อากาศเย็นสบาย ได้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติเจ้าค่ะ^^


นอกเรื่องไปไกลถึงชายแดนพม่ามานานแล้ว มาดูรูปกันเลยดีกว่าเนอะ^^

 



 

                       

Cr.http://travel.mthai.com/blog/143707.html

  

เป็นกระทู้ที่ไร้ความรู้มากมาย..ขอแทรกเกร็ดเล็กๆหน่อยนะเจ้าคะ^^

ประวัติความเป็นมา

     เป็นเมืองที่สร้างขึ้นตั้งแต่ขอมมีอำนาจ ประมาณ พ.ศ. ๑๔๐๐ - ๑๗๐๐ ครั้นเมื่อขอมหมดอำนาจและไทยได้เข้ามาครอบครองดินแดนแถบนี้แทน ในสมัยกรุงศรีอยุธยา คงเห็นว่าเมืองสิงห์เป็นเมืองเล็กไม่มีความสำคัญจึงมิได้แต่งตั้งผู้ใดมาเป็นเจ้าเมือง คงปล่อยให้ร้างไปหลังจากขอมหมดอำนาจลง เมื่อถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จึงได้ทรงตั้งเมืองสิงห์ขึ้นใหม่อีกครั้ง และแต่งตั้งเจ้าเมืองมาครองในฐานะเป็นเมืองหน้าด่านขึ้นอยู่กับจังหวัดกาญจนบุรี เมืองสิงห์คงมีสภาพเป็นเมืองมาจนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้เปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่โดยจัดให้เป็นแบบมณฑลเทศาภิบาล เมืองสิงห์ จึงถูกยุบลงกลายเป็นตำบล ขึ้นอยู่กับอำเภอไทรโยคมาจนปัจจุบัน

ลักษณะทั่วไป

     ปราสาทเมืองสิงห์ เป็นโบราณสถานเพียงแห่งเดียวที่มีศาสนสถานสร้างอยู่ในบริเวณกึ่งกลางเมือง เป็นโบราณสถานที่มีศิลปะการก่อสร้างในยุคลพบุรีตอนปลาย มีลักษณะเป็นเมืองที่มีกำแพงทำด้วยศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าล้อมรอบ กำแพงด้านในถมดินลาดเป็นคันกำแพง กำแพงเมืองมีขนาดกว้าง ๘๘๐ เมตร ยาว ๑,๕๐๐ เมตร สูง ๕ เมตร นอกกำแพงเมืองรอบนอกทางด้านทิศตะวันออกและด้านทิศเหนือมีกำแพงดินขาดเป็นตอน มีซากให้เห็น ๓ ชั้น และทางด้านทิศตะวันตกมีซากกำแพงดินเหลืออยู่อีก ๗ ชั้น

หลักฐานที่พบ

     จากการขุดแต่งบริเวณปราสาทเมืองสิงห์ โดยเจ้าหน้าที่กองโบราณคดี ได้พบประติมากรรมศิลปะขอมแบบบายนในพุทธศาสนาลัทธิมหายานที่สำคัญหลายชิ้น ได้แก่ ประติมากรรมรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร นางปรัชญาปารมิตา และชิ้นส่วนของพระพุทธรูป เป็นต้น

เส้นทางเข้าสู่ปราสาทเมืองสิงห์

     ทางรถไฟ : ขึ้นรถไฟสายธนบุรี - น้ำตก จากสถานีกาญจนบุรีไปลงที่สถานีท่ากิเลน แล้วเดินทางไปตามทางรถยนต์ ประมาณ ๑,๗๐๐ เมตร

     ทางรถยนต์ : ได้ ๒ ทาง สายกาญจนบุรี - ลุ่มสุ่ม ถึงทางแยกเข้าสถานีรถไฟท่ากิเลน เลี้ยวซ้ายตรงทางแยกไปประมาณ ๒๐๐ เมตร ส่วนอีกทางออกจากตัวจังหวัดกาญจนบุรีไปตามถนนสายเอเซียประมาณ ๔๐ กิโลเมตร เข้าสถานีรถไฟท่ากิเลนเดินทางต่อไปอีกประมาณ ๗ กิโลเมตร

     ทางเรือ : ขึ้นเรือที่ปราสาทเมืองสิงห์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๔ ชั่วโมง


 

ครั้งนี้ถือว่ามาซ้อมสำรวจเส้นทางก่อนละกันเนอะ คราวหน้ามีโอกาสอีกเมื่อไหร่ ปั้นจะไปเช่าชุดไทยมาเดินวิ่งให้ทั่วเลยเจ้าค่าาาาา ><"

 

สุดท้ายนี้..ปั้นขอขอบพระคุณแหล่งข้อมูล และรูปภาพที่ปั้นไม่ได้หามาด้วยตัวเอง ขอบพระคุณสถานที่ท่องเที่ยว 'ปราสาทเมืองสิงห์' ที่ให้ปั้นหลงเข้าไปเพื่อนำมารีวิวในครั้งนี้ ขออภัยหากบางสิ่งบางอย่างที่ปั้นทำลงไปอาจจะไม่ถูกต้องหรือถูกใจใคร และสุดท้าย...ขอบพระคุณนักเดินทางที่หลงเข้ามาในเว็บนี้ทุกๆท่านที่ให้ความสนใจในกระทู้รีวิวแรกของปั้น

 

ขอบพระคุณเจ้าค่าาา^^

แหล่งข้อมูล :
ประวัติ ลักษณะปราสาท หลักฐานที่พบ และข้อมูลการเดินทาง : http://www.prapayneethai.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B9%8C

รูปภาพนักแสดงนาคี : http://www.chillpainai.com/scoop/7799/

                             http://travel.mthai.com/blog/143707.html

 

แฮร่ๆๆ :P

 

Mermaidkao~

Comments

[เรโกะ จิทาคุ]

แบบนี้ต้องจดๆๆๆๆๆ

[Kaopunzaa]

ขอบพระคุณที่เข้ามาอ่านนะเจ้าคะ^^

[บุหงา]

น่าติดตาม เนื้อเรื่องลื่นไหลอ่านแล้วอยากไปด้วย(ไปมาพร้อมข้าวปั้น) ถึงเป็นรีวิวแรก แต่ผ่าน นะ

[Kaopunzaa]

ขอบคุณงับบบบ