Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

กว่าจะได้เป็น Au Pair (ออแพร์) ที่ อเมริกา (U.S.A.) Part.1

ตั้งกระทู้ใหม่

คำเตือนก่อนอ่าน wink

1.กท. เหมาะสำหรับคนที่อยากเป็น Au Pair แต่ภาษาง่อยมาก ย้ำ! ง่อยมากแบบ จขกท. นี้แหล่ะ 555+

2.กท. นี้ เหมาะสำหรับคนที่ก้าวขาเข้ามาโครงการ Au Pair แล้วข้างหนึ่ง แล้วกำลังคิดจะถอย เดี๋ยว! หยุดก่อน อ่านให้จบแล้วค่อยตัดสินใจเนอะว่าจะสู้ต่อ หรือถอยดี อิอิ ;)

3.กท. นี้ เหมาะสำหรับคนที่อยากเป็นออแพร์ แต่มีเงินไม่มาก แล้วจะไปอเมริกาได้ยังไงล่ะ จริงไหม?

4.กท. นี้ จะมีภาคต่อไปเรื่อยๆ ในส่วน Part.1 นี้จะเน้นเนื้อหา ส่วนรูปภาพจะตามมาใน Part ต่อๆ ไป

5.จขกท. เป็นคริสเตียนนะคะ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องราวที่พิมพ์ จะมีประโยค “ขอบคุณพระเจ้า” เข้ามาด้วยเสมอจร้า
         
     ได้เวลาอันเหมาะสม กระผมขอแนะนำตัวเอง เอ้ย
! ดิฉัน (ตึ่งโป๊ะ) ชื่อ “มดตะนอย” ให้ง่ายกว่านี้ก็ “มด” (เพื่อ?) อายุอานามก็ 24 ย่างจะ 25 ละ (มีใครเขาอยากรู้ไหมแก:นั่นซิ) จบจาก International Program Of Siam University (พิมพ์ให้ดูสวยหรู แต่จริงๆ มีที่มา) เห้ย! งงล่ะซิ ไหนบอกว่าภาษาอังกฤษง่อยไง แต่จบจาก Inter เนี่ยนะ... Yes! มดจบจาก Inter จร้า แต่...แต่อย่าคิดว่าเด็ก Inter จะเก่งภาษาอังกฤษทุกคนซิคะ จบมาได้เพราะขยันและมุมานะต่างหาก ภาษานี่อยู่ในระดับที่แบบว่า...อื้ม...อ่านต่อไปเดี๋ยวจะรู้เองนะจ๊ะ อิอิ จบแล้วก็ทำงานที่ทำมาตั้งแต่ไหนแต่ไร คือ การรับงานฟรีแลนซ์ ถ่ายละคร ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา บลาๆๆ เล็กๆ น้อยๆ ไปเรื่อย และก็เป็นติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษพื้นฐานให้กับเด็กๆ นี่ขนาดเป็นติวเตอร์นะ ภาษายังง่อยอ่ะ คิดดูเหอะ blush

     กาลครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ช่วงฝึกงาน เดือน มิ.ย. 2015 ได้เกิดความคิดที่ว่าอยากจะทำงานต่างประเทศหลังเรียนจบ แล้วมันมีงานอะไรบ้าง ที่คนไม่เก่งอังกฤษอย่างมดจะทำ   Eng เหรอ เหอะๆ แค่สื่อสาร งูๆ ปลาๆ ฟุตฟิตฟอร์ไฟท์ แค่นั้นจริงๆ ณ ช่วงนั้นเลยลองหาข้อมูลในอากู้ดู (google) ก็เจองานที่ได้ท่องเที่ยว ปตท. เอ้ย! ตปท. (ต่างประเทศ) หลายงานอยู่ ที่เด่นๆ น่าสนใจก็เป็น แอร์ฯ เรือสำราญ และ Au Pair ครั้นจะไปเป็นแอร์ฯ ฮ้วย! TOEIC ที่เคยสอบคะแนนตกต่ำมาก แทบแทรกแผ่นดินหนี ได้แค่ 272 คะแนน ให้ตายเถอะ! ข้าทำได้ไงเนี่ย 555+ เพราะฉะนั้นผ่านมันไปก่อนเนอะสำหรับอาชีพแอร์ ครั้นจะไปอยู่บนเรือสำราญอังกฤษก็ง่อยอยู่ดีอ่ะ แถมอยู่บนเรือตั้ง 6 เดือน อ้ากๆ ไม่เอา ไม่ไหว เหลือช้อยสุดท้ายคือ Au Pair แล้วมันคืออะไรล่ะ
     
ว่าด้วยเรื่องของ Au Pair คือพี่เลี้ยงเด็ก ที่ไปใช้ชีวิตอยู่กับ Host Family (ครอบครัว ณ ประเทศนั้นๆ) โดยมีหลากหลายประเทศมาก แต่ที่มดหาๆ ข้อมูล ที่น่าสนใจและคิดว่าไปง่ายสุดคือ อเมริกา จ๊ะ! อ่านไม่ผิด อเมริกา เพราะประเทศอื่นเหมือนต้องพยายามด้วยตัวเอง แต่อเมริกามีบริษัทหนึ่งที่ดูท่าจะโอเคที่สุดสำหรับมด และคิดว่ามดต้องไปได้สบายชัวร์ๆ ก็เลยโทรไปสอบถามข้อมูล และได้รับรายละเอียดต่างๆ ทาง E-Mail ณ วันที่ 23 มิ.ย. 2015 เป็นต้นมา ก็ศึกษาข้อมูล คอยติดตามข่าวสารอยู่เรื่อยๆ ตอนนั้นตัดสินใจแน่วแน่ว่าต้องไปให้ได้ โดยการจะไปได้ต้องมีชั่วโมงเลี้ยงเด็กที่ไทยไม่ต่ำกว่า 200 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่เขาก็ส่งใบส่งตัวเราเพื่อไปเก็บชั่วโมงเลี้ยงเด็กตามสนถานที่ต่างๆ มาให้ ณ วันนั้นเลย แต่มดก็ยังไม่ได้สนใจจะเก็บอะไรปล่อยๆ ไปก่อน คิดว่าทำตอนไหนก็ได้ แล้วมดก็หายไปช่วงหนึ่ง เพราะฝึกงานเสร็จต้องกลับไปเรียนอีก 2 วิชา ถึงจะจบ ป.ตรี ระหว่างนั้นก็ได้ไป คริสตจักรกระแสพรนนทบุรี (คริสตจักรเก่าอยู่ที่พิษณุโลก) อยู่ที่ คจ. (คริสตจักร) นี้ได้สักพัก ผ่านคุณสมบัติต่างๆ ขอ คจ. ก็ขออนุญาตเป็นครูผู้ช่วยสอนชั้นรวีที่ คจ. เพื่อเก็บชั่วโมงเลี้ยงเด็ก และทำงานรับใช้พระเจ้าไปพร้อมๆ กัน ก็มีอยู่ช่วงหนึ่งคิดว่าไม่เป็น Au Pair แล้วดีกว่า เรียนจบหางานที่ไทยทำเนี่ยแหล่ะ แล้ววันหนึ่ง 17 ธ.ค. 2015 พี่เจ้าหน้าที่เขาก็ส่ง E-Mail มาทักทายมดอีกครั้ง แล้วส่งตารางการสัมมนามาให้ ตอนนั้นก็คิดว่าลองไปฟังดูก่อนดีกว่าว่าเป็นอย่างไร เลยลงวันสัมมนาไปเป็น 13 ม.ค. 2016 cheeky

          13 ม.ค. 2016 มดไปฟังสัมมนาที่บริษัท พาผู้ปกครองไปฟังด้วย ฟังเสร็จก็มีความตั้งใจแน่วแน่อีกครั้งว่าอยากไปเป็น Au Pair แลดูเป็นคนโลเลเนอะ แล้ววันนั้นทางบริษัทมีให้ Test ภาษาฟรี ถ้า Test ผ่านก็จะได้ออนไลน์ใบสมัครเลย (เดี๋ยวจะอธิบายต่อไปว่าออนไลน์ใบสมัครคืออะไร) ก่อนที่จะ Test เป็นภาษาอังกฤษ พี่ M (ขออนุญาตไม่เอ่ยนามจริง) เขาเป็นพี่คนเดียวกันกับที่ติดต่อมดมาตั้งแต่ต้น พี่เขาก็ถามมดเป็นภาษาไทยก่อนไปเรื่อยๆ เช่น ทำไมอยากเป็นออแพร์ มีแพลนจะเดินทางไปอเมริกาเมื่อไร ตอนนั้นก็ตอบไปว่า ส.ค. 2016 พี่เขาก็บอกว่าต้องส่งเอกสารตามนี้ (ซึ่งมีเยอะมากไม่ต่ำกว่า 5 รายการ) ภายใน พ.ค. 2016 ตอนนั้นมดก็คิดว่าแค่ส่งเอกสารก็จะได้ออนไลน์ใบสมัคร หลังจากนั้นพี่เขาก็ Test มดด้วยภาษาอังกฤษ สรุป! คือไม่ผ่านค่ะ และนี่ถือเป็นครั้งที่1 ของการ Test เพื่อวัดระดับภาษา หลังจากนั้นพี่เขาก็นัด Test มดใหม่ทาง Skype คือ 18 ก.พ. 2016 indecision
          ทีนี้มาอธิบายกันก่อนว่าออนไลน์ใบสมัครคืออะไร ทำไมต้อง Test ภาษา ออนไลน์ใบสมัครคือการที่ Profile ของเราจะโชว์บนเว็บไซต์ของบริษัท แล้ว Host Family จะสามารถเข้ามาดูเราได้ ซึ่งเป็นช่วงที่ตื่นเต้นคือเราจะมีโอกาสได้สัมภาษณ์กับ Host Family แล้วถ้า Host ไหนเลือกเรา เราก็จะได้ไปอยู่กับครอบครัวเขาที่อเมริกาค่ะ แต่!!! อะไรๆ มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอกค่ะ จะออนไลน์ใบสมัครได้ต้องผ่านการ Test ภาษาใน Level.4 สูงสุดคือ Level.7 surprise

 

เนื่องจากเนื้อหาที่จำกัด ทำให้ต้องเล่าได้เพียงเท่านี้ ติดตามอ่านต่อได้ที่ Part.2 >> https://www.dek-d.com/board/view/3720549/

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

Eleazar 13 ก.พ. 60 เวลา 10:51 น. 1-1

ขอโทษที่ตอบช้าจร้า ตอนนี้อยู่ Virginia ค่ะ รักเลย

0
BTA Team 3 พ.ค. 62 เวลา 23:20 น. 2

GreatAuPair USA เปิดรับสมัครผู้สมัครจากประเทศไทย อายุ 18 - 26 ปี เข้าร่วมโครงการ J-1 Au Pair in America เป็นระยะเวลา 1 - 2 ปี สมัครกับตัวแทนอย่างเป็นทางการ ณ ประเทศไทย https://www.belovedthaiaupair.com/โครงการออแพร์อเมริกา/ สอบถามเพิ่มเติม LINE ID : Belovedthaiaupair ค่ะ

0