Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เราไปเจอครูฝึกเข้าค่ายลูกเสือ มันรู้สึกคุ้ยเคย ผูกพันกับเค้า ผูกพันกับสถานที่ เราสงสัยมากเลยว่าอะไร ยังไง?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เราไปเข้าค่ายที่ๆหนึ่ง 2คืน 3วัน โดยมีครูฝึกมาอบรมให้ อายุเราห่างกันประมาณ. 8-16 ปีอ่ะ
เราไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนเลยน้ะ ครั้งนี้อ่ะครั้งแรก 
ตอนแรกรู้สึกน่าเบื่อ แต่สักพักก็สนุกน้ะ เพราะครูฝึกที่นั่นปัญญาอ่อน ชอบแกล้งเด็ก 
เราเป็นคนไม่ค่อยสนใจใครน้ะ เรียกง่ายๆว่า โลกส่วนตัวสูง แต่ก็ขี้อาย ไม่กล้าทำอะไรหรือตัดสินใจอะไร ไม่กล้าเป็นผู้นำ 
และครูฝึกคนนั้น รู้สึกว่าเค้าจะแกล้งเราตลอดเวลาเลย เจอหน้าก็แกล้ง 
ตั้งแต่เราเจอเค้า เราก็ยิ้มขึ้นเยอะ มีความสุขขึ้นเยอะเลย
เรารู้สึกเหมือนผูกพันกับเค้ามากๆ รู้สึกคุ้นเคย. ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำไป มันเกิดขึ้นมาในสมองว่าเรารู้สึกคุ้นเคยในการกระทำที่เราทำไปเมื่อกี้ เรารู้สึกเหมือนเคยทำไป ไม่ว่าเป็นการพูด การกระทำมันแบบ..เป๊ะมากก จนเราขนลุก แต่มีวันเจอ ก็ต้องมีวันจาก และก่อนที่เราจะกลับ เราอยากขอถ่ายรูปกับครูฝึกคนนั้น. แต่เราไม่กล้า เราไปคิดว่า ถ้าเราไปขอถ่ายรูปเค้ากับเรามันจะดูน่าเกลียดหรือเปล่า เค้าจะมองเราไปในทางเสียหายมั้ย แต่เค้าก็ถามเราน้ะ เราบอกว่า ค่อยถ่าย เราคิดว่ามันจะมีเวลาว่างให้ถ่ายรูปไง เราไม่รู้จักชื่อเค้าน้ะ แต่พอจะเจอหน้าเค้า เราก็ลืมในสิ่งที่เราต้องการ ในสิ่งที่ตัวเราคิด เราได้แต่ยิ้ม ยิ้มม ยิ้มมมมม. ทั้งที่ใจเราร้องไห้ ตาเราน้ำตาคลอน้ะ หัวใจมันอ่อนล้าไปหมด มันเหนื่อยมากน้ะ เหนื่อยจนต้องไห้กับเพื่อนอ่ะ (บางคน) 
2คืน 3วันนี้  รู้สึกเหมือนมันแค่ไม่กี่ชั่วโมง. และ. มันอึดอัด มันเจ็บ มันอยากร้องไห้ ไม่อยากกลับ ไม่อยากจากไป อยากให้เค้ามาแกล้งเราต่อ อยากอยู่ในสถานที่ที่เราคุ้นเคย(สถานที่ที่เข้าค่าย) คุ้นเคยในทุกสถานที่ที่อยู่ตรงนั้น คือมันสับสนไปหมดเลย ไม่รู้จะทำไงดี เราก็พยายามคิดน้ะ ว่าทำไมเราถึงคุ้นเคย แต่มันยิ่งคิดก็ยิ่งอยากร้องไห้  
ถ้าใครไม่มายืนในจุดนี้ ก็จะไม่รู้หรอกน้ะ เข้าใจว่ามันเข้าใจยาก แม้แต่ตอนนี้เราพิมพ์ข้อความไปทั้งน้ำตาอ่ะ ช่วยตอบเราหน่อยน้ะ 

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

White Frangipani 15 ก.พ. 60 เวลา 15:40 น. 1

สวัสดีค่ะ


เราไปเจอครูฝึกเข้าค่ายลูกเสือ มันรู้สึกคุ้ยเคย ผูกพันกับเค้า ผูกพันกับสถานที่ เราสงสัยมากเลยว่าอะไร ยังไง?


...


2คืน 3วันนี้  รู้สึกเหมือนมันแค่ไม่กี่ชั่วโมง. และ. มันอึดอัด มันเจ็บ มันอยากร้องไห้ ไม่อยากกลับ ไม่อยากจากไป อยากให้เค้ามาแกล้งเราต่อ อยากอยู่ในสถานที่ที่เราคุ้นเคย(สถานที่ที่เข้าค่าย) คุ้นเคยในทุกสถานที่ที่อยู่ตรงนั้น คือมันสับสนไปหมดเลย ไม่รู้จะทำไงดี เราก็พยายามคิดน้ะ ว่าทำไมเราถึงคุ้นเคย แต่มันยิ่งคิดก็ยิ่งอยากร้องไห้"...

หากทุกอย่างเป็นความจริงตามที่คุณเล่ามานี้นะคะ...ตามที่คุณบอกมานะคะ คุณเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูง...นั้นอาจจะมีความเป็นไปได้ตรงที่ว่า...คุณเป็นคนที่ปิดกั้นตัวเอง...เป็นธรรมชาติ...ของคุณ แท้จริงคนที่มีความมีโลกส่วนตัวสูงนั้นไม่ใช่คนขี้เหงา แต่เป็นคนที่รักสันโดษ และยังมีความสงบเป็นที่พึ่ง หรือมีความรักสงบเป็นธรรมชาติด้วยนั้นเอง


เจ้าของเม้นต์นี้...เคยหาข้อมูล(เล่นๆเป็นความบันเทิงส่วนบุคคลค่ะ)คือรองรวบรวมคำบอกเล่าของผู้ที่มีโลกส่วนตัวสูงหลายๆคน และนำมาคำนวณหาผลสรุป...ผลสรุปที่ได้รู้สึกคล้ายกับว่า...คำตอบที่ได้คือ เขาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีเซ้นส์สัมผัสที่แปลกประหลาด...เซ้นส์ดังกล่าวนี้ขอเรียกหรือให้ชื่อว่า...สัมผัสที่หก...นะคะ


อาการดังที่ว่า...เขาทั้งหลายมีธรรมชาติที่พิเศษ... หรือที่เรียกอีกชื่อว่าสัมผัสที่หกนี้หล่ะ...ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติให้เขาทั้งหลายแปลกไปจากคนอื่นๆนั้นคือ...เขารักสันโดษ ใฝ่ความสงบเป็นที่พึ่ง...แต่ภายในของเขาเหล่านี้กลับกระจ่างสดใส หรืออาจจะเข้าใจอะไรๆได้มากมายกว่าผู้คนที่กริ๊ดกร๊าดหรือผู้คนที่รักเทิดเทิง...อีกด้วย


สัมผัสที่หก...ซึ่งเจ้าของเม้นต์กล่าวมานี้...ขออธิบายเป็นลายลักษณ์อักษร ดังต่อไปนี้นะคะ...นั้นคือ เขาสัมผัสได้ถึงความสงบ...และความสงบนั้นจะเป็นสื่อ หรือเป็นตัวกลางที่จะทำให้เขาเข้าใจ ได้ยิน เห็น สัมผัสได้ ที่ชัดเจนกว่าผู้ที่กริ๊ดดกร๊าดหรือเทิดเทิงตลอดเวลา


รวมๆคือคนที่มีโลกส่วนตัวสูง...โดยธรรมชาติ...จะมีอาการดังกล่าวเป็นธรรมชาติ...นั้นเองค่ะ คือตัวกลางซึ่งมีความสงบเป็นสื่อ...ให้กับเขานั้นจะทำให้เขาเก็บข้อมูล...รอบๆตัวหรือสิ่งแวดล้อมของเขา หรือของสังคมของเขาได้มากกว่าคนอื่นๆนั้นเองค่ะ (ความสงบสยบความวุ่นวายได้...และยังช่วยทำให้เห็นได้ชัดแจ้ง...อีกด้วย... คือทั้งหมดทั้งมวล เป็นอีกหนึ่งธรรมชาตินั้นเองค่ะ)


ทั้งหมดข้างบนนั้นเป็นธรรมชาติของคนโลกส่วนตัวสูง...และคุณก็(อาจจะ)เป็นหนึ่งในนั้น...เข้าใจแบบนั้นค่ะ


และคราวนี้เกี่ยวอะไรกับ...อาการความรู้สึก...ที่มีต่อครูฝึก...ความรู้สึกนี้มาได้อย่างไร...คุณสัมผัสได้อย่างไร?...เป็นอาการการระลึกชาติได้หรือ?...ความรู้สึกคุ้นเคยดังที่คุณเคยชิน...นั้นเป็นเพราะสาเหตุใด?...นั้น เจ้าของเม้นต์นี้...อยากให้คุณลองพยายามทำให้จิตใจของคุณให้เป็นกลาง...ค่ะ


เป็นกลาง...ในที่นี้คือ พยายามอย่าสับสน...อย่าระลึกลงไปให้มากกว่านี้...เดี๋ยวจะกลายเป็นอาการปรุงแต่ง...ของจิต...โดยที่คุณไม่รู้ตัว...คือหากคุณรู้สึกสัมผัสได้ลางๆว่าเคยชิน...หรือคุ้นเคยก็ปล่อยให้ความรู้สึกมันรับรู้เพียงเท่านั้น และตั้งสติ...ให้มั่น ให้มันรู้สึกได้เพียงเท่านั้นพอ...นะคะ อย่าไปช่วยมัน...ให้มากไปกว่านั้น...ไม่ดีนะคะ


คือให้มันทำหน้าที่ของมันเองค่ะ ให้มันเป็นไปของมันเอง หากคุณมีธรรมชาติ...ที่จะรู้ได้...ธรรมชาติตัวนี้มันจะทำหน้าที่ของมันเองค่ะ


"ถ้าใครไม่มายืนในจุดนี้ ก็จะไม่รู้หรอกน้ะ เข้าใจว่ามันเข้าใจยาก แม้แต่ตอนนี้เราพิมพ์ข้อความไปทั้งน้ำตาอ่ะ ช่วยตอบเราหน่อยน้ะ"...เคยมีนะคะ มีผู้คนมากมายที่สามารถรู้ได้ และสามารถยืนอยู่ในจุดนี้ได้โดยที่ไม่ทุกข์ทรมาน( หรือว่าเคยทุกข์ทรมานแต่เขาทั้งหลายก็สามารถเข้าใจ...และผ่านมาได้ค่ะ)


อาการที่คุณรู้สึกได้นั้น...เป็นอะไรที่อาจจะเป็นจุดที่อ่อนแอ...นั้นคือความรู้สึกว่า...รัก...เข้าแล้ว...และคนที่เคยรัก...นี้อาจจะเป็นคนที่เคยพบเจอกันมาก่อน...(เป็นเวรหรือกรรมที่สร้างมาด้วยกัน)เจ้าของเม้นต์นี้เข้าใจว่า...คนที่มีเซ้นส์...ดังกล่าวนี้สามารถสัมผัสได้จริง...


แต่ก็เชื่ออีกด้วยว่า...อาการดังกล่าวนี้...ตราบใดที่คุณยังเห็น ยังสัมผัสได้ไม่ชัดเจน...ว่าอะไร เป็นอะไร หรือใครเป็นใคร...ขอแนะนำคุณว่าพยายามตั้งสติให้มั่น ทำสมาธิให้แกร่ง...นั้นที่จะช่วยคุณได้เป็นอย่างดีค่ะ (มีทางเดียวเท่านั้นค่ะ อาการของคุณไม่มีใครช่วยคุณได้ คุณเท่านั้นที่จะช่วยตัวคุณเองได้ ผู้อื่นช่วยได้เพียงแนะนำเท่านั้นค่ะ)


อาการความรู้สึกที่ว่า...คุณสัมผัสได้...ถึงสถานที่ ที่คุ้นเคย ความรู้สึกเคยชินในครั้งนี้ แท้จริงเป็นชนวนเพียงเพื่อ...เป็นสื่อที่จะทำให้คุณพบเจอ...ความรู้สึกต่อครูฝึก...นั้นเป็นอะไรที่น่าสงสัย...มากกว่านั้นยังทำให้คุณติดพันไปกับความรู้สึกที่ว่าเป็นสุข เมื่อพบเจอเขา ถูกชะตาเขา...หรือว่าเคยรักเขา...เจอกันอีกครั้ง...ก็ยังรักอยู่...แบบนั้นนะคะ  (ยิ่งกว่านิยายเลยเนอะ  หรือว่านิยายก็เขียนมาจากเรื่องจริงในบางเรื่อง)


ทั้งหมดข้างบนนั้น...แท้จริงเป็นเรื่องของ...จิต...ค่ะ จะเป็นอาการของจิตสำนึก หรือของจิตใต้สำนึก(เราไม่สามารถรู้ได้...จิตสำนึก และจิตใต้สำนึกทำงานต่างกันนะคะ) และที่สำคัญเราไม่สามารถพิสูจน์ได้...จึงขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้...ว่า...ขอให้คุณพยายามตั้งสติให้มั่น ฝึกให้สติมีศักยภาพที่แกร่งจนสามารถควบคุมการทำงานของจิต...ของคุณเองไว้ให้จงดีค่ะ


หากคุณมีสติที่ดีแล้ว...ในธรรมชาติที่เป็นคุณนี้...จะเป็นไปได้สวยและดีในที่สุดค่ะ คือคุณจะเห็นทุกอย่างชัดเจน...และคุณจะสามารถควบคุมการดำเนินไป...ตามที่ควรจะเป็น...โดยที่คุณจะไม่สับสน ไม่สงสัย หรือไม่ทรมาน...หรือไม่ต้องอยู่ด้วยนํ้าตาอีกต่อไป


เข้มแข็งเข้าไว้ค่ะ...วันหนึ่งคุณจะรู้ได้ว่า...ครูฝึกคนนั้นเป็นใคร มีความสัมพัน...หรือสำคัญหรือไม่ อย่างไรต่อคุณค่ะ  (สาเหตุที่คุณรู้สึกได้รุนแรงในเหตุดังกล่าวนี้...อาจจะเป็นเพราะว่า...ความรู้สึกว่า...รัก...นั้นเป็นอารมณ์ที่เปราะบางกว่าอารมณ์อื่นๆนั้นเองเป็นธรรมชาติ ทุกอย่างต้องใช้เวลาค่ะ)


ชีวิตของคุณจะต้องพบเจออะไรๆอีกมากมาย...ตั้งใจ...มั่นคง...ต่อการมีสติ...การตั้งสตินั้นที่จะช่วยคุณได้ตลอดเส้นทางสายนี้ค่ะ


ปล.  ขอให้คุณอ่านเม้นต์นี้....ด้วยการใช้วิจารณญาณ และวางความคิดของคุณในจุดที่เป็นกลางด้วยนะคะ เพราะทั้งหมดที่พิมพ์มานั้น เป็นความเห็น และความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ


มากระทู้นี้...อ่านๆ เม้นต์ๆแล้วก็อยากชวนคุณไปฟังเพลงนี้.ข้างล่าง...ค่ะ ชอบฟัง รักเพลงนี้ ฟังแล้วยิ้มได้ด้วยนํ้าตา....จริงด้วยสิ...สงสารเขา(ตัวละคร)ทั้งสองมากมายเช่นกันค่ะ


คุณลองไปฟังด้วยกันนะคะ เศร้ามากแต่ทำนองเพราะมากๆ ฟังเพลงเพราะๆอาจจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นค่ะ







สู้สู้นะคะ เป็นกำลังใจให้คุณค่ะ





0
KAmii 8 ก.พ. 62 เวลา 18:39 น. 3

เจ้าของกระทู้ไม่ได้เป็นคนเดียวหรอกค่ะ เราก็เป็น เราก็ไม่เคยคิดว่าแค่ระยะเวลา3วัน2คืนมันทำให้คนที่ไม่เคยรู้จักหรือไม่เคยเห็นหน้ากันผูกพันธ์กันขนาดนี้ วันที่กลับจากค่ายตอนอยู่ค่ายก็ไม่ร้องไห้นะ พอกลับเท่านั้นแหละ นอนร้องไห้เลย คิดถึงมาก

0