Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อยากเก่งภาษาอังกฤษทำอย่างไรดีคะ?

ตั้งกระทู้ใหม่
คือ จขกท เคยพูดกับต่างชาติ ช่วงปิดเทอมค่ะ แต่พองูๆปลาๆนะคะ แต่เขาก็เข้าใจ
เรารู้ว่าเราด้อยแกรมม่ามาก แต่พอจะรู้อยู่ว่าอะไรเป็นอะไร คืองง พวก adj.อะไรบลาๆ งงค่ะ
หาความรู้เพี่มยิ่งโง่เพราะเราความจำสั้นมาก ตอนเราคุยกับต่างชาติ เค้าบอกว่าเราพูดได้ค่อนข้างดี ถามว่าเรียนที่ไหน เรานี่จะตอบแต่ชอบแปลไทยไปหาอังกฤษ เค้าจนคิดว่าเราเป็นใบ้ไปแล้วล่ะ หลังจากนั้นมาเราก็ไม่กล้าอีกเลย เรียกไก้ว่าปิดโอกาศไปเลย
คือที่เราอยากรู้เลยคือ
1.อยากรู้แกรมม่ามากๆ
2.ถ้าเราพูดสำเนียงไทยจ๋านี่เขาจะเข้าใจเรามั้ย
3.พูดสำเนียงเขา เขาจะหาว่ากระแดะหรือเปล่า
4.เวลาฝรั่งจ้องหน้าตอนพูด คือตกใจ หรือ กลัวมั้ย(สำหรับคนที่เคยนะ)
5.มีวิธีที่จะเก่งอังกฤษ แบบโปรเลยมั้ย 
โดยส่วนตัวแล้วเรา ฟัง อ่าน เขียน ได้ในระดับนึงแต่ ติดตรงแกรมม่า กับ พูดนี่แหละ
มีวิธีที่จะเรียกกำลังใจให้อยากเรียนอังกฤษมั้ยคะ หรือ มีเคล็ดลับอะไรที่จะเก่งบ้าง

ปล.ใครที่มาให้คำแนะนำจะเป็นพระคุณอย่างสูงมากค่ะ
พิมตกหล่นอะไรก็ขอโทษด้วยนะคะ

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

cool monkeyz 21 ก.พ. 60 เวลา 09:25 น. 1

ตอบทีละคำถามเลยเนอะ...ยาวหน่อยนะ


1.อยากรู้แกรมม่ามากๆ


มีหลายวิธีนะ อ่านเยอะๆ แล้วก็ใช้เยอะๆ เพราะอ่านแกรมม่าเยอะอย่างเดียวก็เหมือนรู้หลัก แต่พอตอนต้องใช้จริงก็งัดออกมาไม่ทัน จึงทำให้ฝรั่งนึกว่าเป็นใบ้ เราจึงต้องใช้มันบ่อยๆด้วย พอใช้บ่อยๆ มันก็เหมือนอยู่สมองส่วนหน้าตลอดเวลา งัดออกมาง่าย


การอ่าน อ่านอะไร อยากได้หลักแกรมม่าก็ลองอ่านหนังสือแกรมม่ามะ? พออ่านแล้วก็จดพวกหลักแกรมม่าแล้วก็เอามาลองใช้ดู แต่จะให้แนะนำหนังสือคงไม่ได้ เพราะเราก็ไม่เคยอ่านนะ อันนี้ต้อองลองถามคนอื่นดู


หนังสืออ่านเล่นก็ช่วย จะได้รู้ว่าเค้าใช้จริงๆยังไง แถมได้คำศัพท์เพิ่ม บางทีก็ได้พวกแสลงหรือศัพท์ที่เค้าใช้ในชีวิตประจำวัน มีหลายแนว จะได้ไม่เบื่อเหมือนอ่านแต่แกรมม่า ไม่เข้าใจคำไหนก็จดไว้ หาความหมาย ลองใช้ดูจะได้จำได้ ใช้ได้จริงกับฝรั่ง หนังสอพวกนี้ต้องแล้วแต่ความสามารถตัวเอง เริ่มจากอะไรที่เท่ากับความสามารถตัวเองก่อน จะได้ไม่ยากไปจนท้อ หรือง่ายไปจนไม่ได้อะไรเลย


ทีนี้เรื่องลองใช้ อาจจะบอกว่า เรียนไทย ใช้แต่ภาษาไทย จะใช้ที่ไหน จริงๆแล้วอ่ะโอกาสเต็มเลย ลองเขียนไดอารี่เป็นภาษาอังกฤษดู วันนี้ทำอะไร เจออะไร รู้สึกยังไง แค่นี้ก็ได้ใช้อะไรหลายอย่างแล้ว การบรรยายชีวิตประจำวัน ความรู้สึก ได้ใช้ adj adv หรือแกรมม่าอื่นๆเยอะมาก หรือถ้าอยากให้มันวิชาการหน่อยก็ลองเขียน essay ดู หัวข้อตามอินเตอร์เน็ตมีเยอะแยะ จะใช้หัวข้อพวกที่เอาไว้สอบ toefl ielts หรืออะไรงี้ก็ได้ จะได้รู้ด้วยว่าหัวข้อประมาณไหน เผื่อต้องสอบในอนาคตด้วย


หรือจริงๆแล้วนะ แค่คิดก็พอ อันนี้เราใช้อยู่ แต่เป็นภาษาอื่นนะ เราว่าเวิร์ค แบบ เจออะไรก็พยายามคิดเป็นภาษาที่เราเรียนอยู่ เจอนก ลองบรรยายนกดูดิ๊ หรือบางทีก็มโนไปว่าคุยกะใครในหัวข้ออะไร แล้วพยายามตอบเป็นภาษานั้นในหัวเราเนี่ยแหละ เริ่มง่ายๆก็พวก แนะนำตัวเองอะไรงี้ มีข้อแม้ว่า ถ้าติด หาคำไม่เจอหรอไม่รู้จะใช้คำไหน ให้ไปหาข้อมูลมา อย่าคิดว่า อืม ติด พอแล้ว เพราะพอเราหาแล้วอ่ะ เราจะได้รู้มากขึ้น แล้วถ้าสงสัยว่าคำไหน ใช้ในกรณีไหน ก็ให้หา เราจะได้รู้มากขึ้น ถือว่าเป็นการเหม่ออย่างมีประโยชน์ มโนอย่างสร้างสรรค์ ละกัน


2.ถ้าเราพูดสำเนียงไทยจ๋านี่เขาจะเข้าใจเรามั้ย


ฝึกแรกๆ เอาให้เค้าเข้าใจก่อน สำเนียงช่างก่อน ไม่ต้องห่วง เค้าเข้าใจ ถ้าเค้าไม่เข้าใจ เค้าก็จะถามให้เราพูดอีกรอบเองล่ะ ตอนแรกมันก็อายอยู่หรอก โหยยย พยายามแทบตาย มันไม่เข้าใจ แต่ห้ามท้อ เรื่องพวกนี้ ด้านได้อายอด ต้องพูดต่อไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็พัฒนา เค้าก็จะเข้าใจเรามากขึ้น สำเนียงเราก็จะดีขึ้นเอง


3.พูดสำเนียงเขา เขาจะหาว่ากระแดะหรือเปล่า


มีแต่เราคนไทยเท่านั้นแหละที่คิดว่าการเลียนสำเนียงฝรั่งเป็นการกระแดะ สำหรับเค้า ถ้าไม่ใช่เรื่องล้อสำเนียงเล่นๆ เค้าจะไม่หาว่ากระแดะหรอก ค่อยๆปรับไปเรื่อยๆ มันก็จะดีขึ้นเอง สำเนียงใช้เวลาเยอะที่สุดในการเปลี่ยนเลย


4.เวลาฝรั่งจ้องหน้าตอนพูด คือตกใจ หรือ กลัวมั้ย(สำหรับคนที่เคยนะ)


อืม เคยตกใจนะ ไม่ชอบ ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นะ แต่ไม่กลัวนะ เพราะการจ้องตาของเค้าคือ eye contact ซึ่งเป็นการเคารพผู้พูด เหมือนกะว่าเค้ากำลังตั้งใจฟังในสิ่งที่คุณพูดอยู่ และมันจะเป็นการเสียมารยาทถ้าไปหลบตาเค้านะ


ทำได้อย่างเดียวคือ ทำใจ อย่าได้กลัว จ้องตาสู้มันจ้ะ แล้วก็ยิ้ม เดี๋ยวมันก็ชินเองแหละ


5.มีวิธีที่จะเก่งอังกฤษ แบบโปรเลยมั้ย


ตื่นมาแล้วโปรคงไม่มีหรอก เดือนเดียวแล้วโปร ก็คงไม่มีหรอก เรื่องภาษาคือต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป ค่อยๆพัฒนาตามความสามารถของเรา วิธีเดียวที่จะพัฒนาคือการใช้มันบ่อยๆ อ่านพจนานุกรม จำได้ทุกความหมายก็ไม่ช่วยอะไรถ้าเราใช้มันไม่เป็น ฝรั่งถามมา เราค้นออกมาจากสมองไม่ทันก็ไม่ช่วยอะไร


ฟังภาษาอังกฤษเยอะๆ ฟังจากวิทยุ จากทีวี ฟัง/ดู bbc หรื cnn ได้ทั้งภาษา ได้ทั้งทันโลก ดูสารคดีต่างๆที่เราสนใจก็ได้ทั้งภาษา ทั้งความรู้ เดี๋ยวนี้ทีวีมันปรับเสียงเป็นเสียงอังกฤษได้แล้วก็ดูไป ฟังไป เพลินดี ดูหนัง ลองเริ่มจากฟังอังกฤษ ซับไทย แล้วลอง เป็นอังกฤษซับอังกฤษ แล้วเป็นอังกฤษไม่มีซับดู


อ่านก็อ่านไป อ่านหนังสืออ่านเล่น อ่านอะไรที่เราสนใจไป ไม่ว่าจะนิยาย การ์ตูน หนังสือพิมพ์ ข่าวออนไลน์ บทความออนไลน์ ตามดารา ทุกอย่างล้วนมีภาษาอังกฤษ


เขียนก็อย่างที่เราบอกไปข้างบน


คงเหมือนออกกำลังกายลดความอ้วนอ่ะ มันไม่เห็นผลรวดเร็วทันตาหรอก ต้องพยายาม ต้องไม่ท้อ ต้องอดทน แล้วพอเวลามองกลับไป มองงานเก่าๆของตัวเองแล้วก็จะรู้เองอ่ะ ว่าเรามาไกลเนอะ


เราว่า ตอนนี้นะทุกอย่างมันมีเป็นภาษาอังกฤษหมดอ่ะ มันแล้วแต่ว่าเราจะเลือกที่มันเป็นภาษาอังกฤษใช้รึเปล่า ถ้าเราใช้ เราก็จะเรียนรู้อะไรมากขึ้นไม่มากก็น้อย อย่างน้อย เราก็รู้มากกว่าถ้าเราไม่ทำอะไรเลย


สู้เค้านะ :)

1
หนูเปิ้ลร่าเรีง 22 ก.พ. 60 เวลา 23:06 น. 1-1

หูยยย ขอบคุณมากๆค่ะ คือกลัวที่เขาจ้องหน้าเวลาพูดนี่แหละ พอดีเราเป็นคนไม่ชอบให้ใครมองอ่ะค่ะ เพราะจะทำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจ เกร็งๆ อยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

0
cool monkeyz 21 ก.พ. 60 เวลา 10:19 น. 2

มีอีกวิธีนึงนะ อาจจะบ้าบิ่นหน่อย มีโอกาสท้อสูง แต่ถ้าเวิร์คก็เวิร์คอ่ะ


ถ้าอยากคิดเป็นภาษาอังกฤษก็ลองจำเป็นภาษาอังกฤษดูเลย ทำทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษให้หมด


เวลาจดคำศัพท์ก็จดความหมายเป็นภาษาอังกฤษไปเลย จดคำศัพท์ จดรูปคำศัพท์ (เป็น noun / verb / adj / adv) จดความหมายทุกความหมาย (คำนึงอาจจะมีความหมายมากกว่าอย่างนึง) จดการแปลรูปศัพท์ จดตัวอย่างประโยค ซึ่งตัวอย่างต้องเป็นอะไรที่เราคิดเองนะ ห้ามลอกจากเน็ต


เช่น:


Demonstrate (v)

- To explain how it works by showing

- To show particular feeling / quality

- To publicly express dissatisfaction by marching or meeting


Demonstration (n) / demonstrative (adj)


E.g. 1) I demonstrate the cooking process to the class.

E.g. 2) The demonstration in front of the Parliament this morning caused traffic jam.


ถ้าไม่เข้าใจศัพท์ที่เป็นความหมาย ให้จดคำนั้นไว้ แล้วไปหาความหมายมา แล้วเขียนความหมายที่เราเข้าใจลงไปแทนศัพท์ที่เราไม่เข้าใจ


เช่น:


Mediate: to settle the problem


ถ้าไม่เข้าใจคำว่า settle ให้ไปหาความหมายนั้นมา จดมันต่างหาก (ทำแบบตัวอย่างข้างบน) ส่วนคำว่า mediate ก็ให้เขียนเป็น


Mediate - to reach an agreement on a problem แทนที่จะเป็น "to settle"


ทำไปเรื่อยๆ แล้วเก็บไว้ จดใส่สมุดเป็นเล่มก็ได้ หรือจะทำเป็น flash card ก็ได้ เราเคยทำตแนต้องท่องศัพท์ ทำเป็น flash card คำศัพท์อยู่ด้านนึง ที่เหลืออยู่อีกด้านนึง ห้อยเป็นพวงๆไว้


ส่วนอย่างอื่น เวลาฟังหรืออ่านอะไรมาเปผ้นภาษาอังกฤษ ก็จดโน้ตมันเป็นภาษาอังกฤษนั่นแหละ ไม่ต้องแปลกลับเป็นไทย


ถ้าทำได้ ทีนี้ก็ไม่ต้องแปลกลับไปกลับมาเป็นภาษาไทยแล้ว เพราะเราจำทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษหมดแล้ว


แน่นอนว่านี่ก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเริ่มจดแล้วจะคิดอป็นภาษาอังกฤษเลย จะเปลี่ยนภาษาที่ใช้ตอนคิดเนี่ยต้องใช้เวลาเยอะเหมือนกัน เพราะอยู่ไทยก็ใช้ภาษาไทยซะส่วนใหญ่เนอะ ทั้งเวลาพูด เวลาใช้ในชีวิตประจำวัน เวลาทำงาน เวลาเรียน


แล้วก็ต้องบวกกับการใช้มันด้วยนะ อย่างที่บอกไปว่า จดอย่างเดียว ไม่ใช้ก็ไม่ช่วย

2
cool monkeyz 23 ก.พ. 60 เวลา 06:34 น. 2-2

อยากเก่งต้องห้ามท้อ ถ้าท้อมากจริงๆ อยากยอมแล้ว ให้ท้อได้วันเดียว บ่น งอแงให้จนสุดเลย หาขนมอะไรกินอร่อยๆ แล้วฺฮึดสู้ต่อ


บางทีเราท้อ เพราะเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันไม่ได้ซักที เหมือนต้องงมเอาเอง ถ้ารู้สึกอย่างนั้นก็ลองเปลี่ยนวิธีการเรียนบ้าง ลองทำอย่างอื่นบ้าง วิธีบางวิธีอาจจะเวิร์คสำหรับคนอื่น แต่ไม่เวิร์คสำหรับเรา ลองไปเรื่อยๆ ปรับให้เข้ากับตัวเรา ไม่ต้องก๊อปวิธีคนอื่นทั้งหมด


แล้วก็ถาม ถามเป็นสิ่งสำคัญเลย เราจะได้รู้เพิ่มโดยไม่ต้องงมเอง ไม่ต้องอายว่าถามไปแล้วจะดูโง่ แค่นี้ทำไมถึงไม่รู้ ผิดถูกถือว่าเป็นบทเรียน ถ้ามัวแต่อายก็ยังไม่รู้อะไรซักที สู้ยอมอายหน่อย แล้วรู้เลย ได้ไปต่อเลยดีกว่า


ค่อยๆทำไปเรื่อยๆตั้งแต่วันนี้ ดีกว่ารอจนถึงเวลามันต้องใช้จริงๆ แล้วทีนี้จะมาถามอีกว่าทำไงถึงเก่งแบบโปรได้เลยไวๆ บอกได้เลยว่าไม่มีหรอก เก่งไวๆ หรือทางลัดอ่ะ เราเรียนมาตั้งนาน ตอนนี้ยังงมอยู่เลย ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังสามารถพัฒนาได้ หลายอย่างที่จำเป็นต้องพัฒนา มันก็ต้องค่อยๆหา ค่อยๆทำไปอ่ะ

0
Shalnark T Diabolus 21 ก.พ. 60 เวลา 11:21 น. 3

ขอถามก่อนครับ ทำไม่คุณถึงพูดภาษาไทยได้ เชื่อว่าตอนที่พูดได้ก็ยังไม่ได้เข้าร.ร.ถูกมั้ยแล้วทำไมพูดได้ ก็เพราะได้ยิน ได้ฟัง ได้พูด ได้ลองผิดลองถูกคนรอบข้างเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็ยังจะพูด ถูกมะ หลักการฝึกภาษามันอยู่ตรงนั้น เรียนแต่ไม่ใช้ ฝันไปเถอะว่าจะใช้ได้

1