Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

โฮสต์แฟมิลี่ของเราที่อาร์เจน (เปลี่ยนโฮสต์ เปลี่ยนชีวิตไปอีก)

ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่า!! ปิ่นคนเดิม เพิ่มเติมคือนี่เป็นกระทู้ที่ 3 แล้วววววว

แนะนำตัวอีกครั้งละกันเน้อ เผื่อใครอ่านกระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ชื่อ ปิ่น นะคะ นักเรียนแลกเปลี่ยนโครงการเอเอฟเอส รุ่นที่ 55 ปิ่นไปอาร์เจนติน่ามาค่ะ กระทู้นี้จะมาเล่าเกี่ยวกับโฮสต์ปิ่นเองนะคะ โดย 2 กระทู้ก่อนหน้านี้เป็นเกี่ยวกับเพื่อนและงานพรอมของปิ่นที่อาร์เจนไปแล้ว โฮสต์เป็นส่วนสำคัญมากๆของชีวิตนักเรียนแลกเปลี่ยนทุกๆคน จนใครๆก็ต้องบอกว่า ได้โฮสต์ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง หรือ บางทีเจ้ากรรมนายเวรก็มาในรูปแบบของโฮสต์แฟมิลี่ 5555555 ง่ายๆคือลุ้นตั้งแต่ยังไม่ไป เพราะต้องมาลุ้นว่าจะมีโฮสต์รับเรารึป่าว? เค้าจะกลัวจนไม่กล้ารับเราป่ะวะ ไรงี้ 55555555 โดยตัวปิ่นเองอ่ะ ตอนรอโฮสต์ยังไม่อะไรมาก จนใกล้ๆเดือนทาง แบบเพื่อนได้กันไปเยอะมากแล้วแต่ปิ่นยังไม่มีวี่แวว ใจนึงก็แบบไม่มีป่ะวะ 55555 จน 2 อาทิตย์ก่อนเดือนทางก็มีข้อมูลโฮสต์ส่งมาในเมลล์ รอดแล้วเว้ยยยยยย แต่เป็นแบบชั่วคราว อ้าว! 2 อาทิตย์เอง มารู้จากพี่เมืองอีกว่าเป็นคอนแทค ผ่านไป 2-3 วัน เมลล์ใหม่มา บอกว่าเป็นครอบครัวใหม่แต่ก็แบบชั่วคราวอีกแล้ว ผ่านไป 2-3 วัน เมลล์ใหม่มาบอกเป็นโฮสต์ใหม่แต่เป็นแบบถาวรละ ก็เริ่มหาของฝากให้พวกเค้าจริงๆจังๆละ ครอบครัวมีพ่อแม่ พี่ชาย 2 คนและพี่สาว 1 คน 


เวลาผ่านไปจนวันเดินทาง ก็เดินทางก็ไปยาวๆ ปิ่นนั่งบัสไปเมืองที่ต้องอยู่ 14 ชม.จ้า ประเทศนี้ใหญ่เกินจำเป็นโคดๆ 5555555555 อย่างที่เคยบอกว่าปิ่นอยู่เมืองชื่อ La Rioja ถ้าเปิดดูในแผนที่ก็จะเห็นว่าอยู่ติดชิลี ก็ขึ้นรถบัสจากบัวโนสตอน 2 ทุ่ม ไปถึงเมืองตอน 10.30 เช้าของอีกวัน ลงบัสปุ้บ ยังไม่ทันได้เอากระเป๋า โฮสต์ก็เข้ามาเลย เพราะเสื้อรุ่นที่ใส่อยู่นั้น เด่นมากจริงๆ เขียวไปไหนหน่ะ ถถถถถถ ทุกคนก็ทักทาย ละก็พาไปขึ้นรถ นาทีแห่งความอึดอัดและความกดดันก็เกิดขึ้น เพราะทุกคนรัวสเปนมาก เราก็งงอ่ะ อยากจะคุยมากแต่ก็ไม่รู้สักคำ ไม่มีพื้นฐานอย่างแท้จริง 55555 แต่มีมัมกับเพื่อนแลกเปลี่ยนอิตาลีที่พอพูดภาษาอังกฤษได้ เราเลยได้พูดบ้างด้วยภาษาอังกฤษ สักพักก็ถึงบ้าน ทุกอย่างคือความแปลกใหม่หมด พอถึงสิ่งแรกเลยคือบ้านไม่ได้ใหญ่นะ แต่มีบริเวณเยอะมาก มีสระว่ายน้ำ มีหมาน้อย หมาใหญ่ เราก็เอาของไปเก็บ ละก็รีบขอไวไฟโฮสต์เพื่อจะได้บอกแม่และคนที่ไทยว่าอยู่ในกำมือโฮสต์แล้วนะ 55555


หลังจากนั้นพ่อก็ออกไปซื้อของ เราก็มานั่งรวมกับทุกคนที่เหลือที่โต๊ะอาหาร โดยซักคำถามเลยจ้า ประเทศไทยกินแมลงหรอ กินหมาหรอ มีแต่สิ่งดีๆทั้งน้านอ่ะ ใครเป็นคนเขียนข้อมูลเกี่ยวกับไทยเป็นภาษาสเปนให้เค้าอ่านเนี่ย อยากจะตบสักที แหม่
! เรื่องดีๆมีไม่มีนำเสนอให้อ่ะ เราก็ตอบไปตามความจริงแต่ก็อ้อมๆบ้าง เพราะบางอย่างเค้าไม่สามารถเข้าใจได้และอาจจะรับไม่ได้ก็ได้ เลยไม่ได้ตอบตามความจริงอะไรขนาดนั้น พ่อกลับมาพร้อมเนื้อและอะไรไม่รู้เยอะแยะ พ่อทำอะซาโด้ให้พวกเรากิน วันนั้นกินนิดเดียวมากจริงๆ กินไม่ลง ไม่ชิน ไม่อร่อย ไม่หิว เป็นเนื้อวัวด้วยมั้งเลยไม่กินเพราะตอนอยู่ไทยปิ่นไม่กินเนื้อวัวเลย ก็กินนิดเดียวจริงๆ จนพวกเค้าถามว่าไม่ชอบหรอ บลาๆ แต่บวกความอึดอัดที่พูดไม่ได้ไปด้วยมั้ง เลยไม่สนุกไปเลย(รูปที่ 1 คือครอบครัวแรกที่อยู่กับเราที่บ้าน รูปที่ 2 คือวันแรกที่เจอกันในรูปก็มีโฮสต์ เพื่อนแลกเปลี่ยนละก็เพื่อนซิส รูปที่ 3 คือตอนที่ไปเจอพี่ชายทั้ง 2 คน คุณตาและคุณยาย) 

ผ่านไปวันแรกแบบกว่าจะผ่าน 55555 เรามีเวลาว่างอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนรร.เปิด ก็เรียนรู้ ปรับตัว ไปตามประสาเราเนี่ยแหละ แต่ถามว่าแฮปปี้มากมั๊ย ตอบเลยว่าตอนนั้นเฉยๆ หรือถึงขั้นไม่ค่อยดีนัก แฮปปี้เว่อร์วัง แต่ก็อยู่ได้ คือโฮสต์ไม่มีเวลาให้เราสักเท่าไหร่ด้วยมั้ง เลยไม่ค่อยได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพราะเช้ามาเค้าก็ออกไปทำงาน กลับมากินข้าว บ่ายนอน เย็นออกไปทำงานใหม่ ซิสอ่ะหรอ นางก็อยู่แต่ในห้องของนางไป ออกมาคือกินข้าว พอพวกเค้านอนกลางวัน หรือออกไปข้างนอกอีนี่จ้า คุยกับเพื่อนที่ไทยตลอดเลย คือถ้าไม่คุยก็ไม่มีอะไรทำ จนสักพักมัมไปบอกคอนว่าเราคุยกับคนที่ไทยเยอะ นาทีนั้นคือไม่ได้โกรธนะ แต่เคือง!! ทำไมไม่พูดกับเราตรงๆก่อน ละมีเวลาให้เรานักดิ มาบอกแบบนี้ เริ่มติดลบละ แต่ก็ปลงๆปล่อยๆ เรื่องกินข้าวอีก บ้านเราอยู่กัน 4 คนคือพ่อแม่ซิสละก็เรา พี่ชายอีก 2 คนอยู่อีกเมือง เวลากิน เค้า 3 คนแม่ลูกนั่งกันแบบพ่อนั่งหัวโต๊ะ แม่กับซิสนั่งประกบข้าง อีนี่เกินออกมา เหมือนเป็นส่วนเกินอ่ะ แต่ก็ช่างเหอะ ตอนนั้นก็มองบวกไป เค้าให้ข้าวกินก็ดีแค่ไหนแล้ว



ผ่านไปไม่นานก็พาเราไปอีกเมืองนึงบอกว่าจะพาไปซื้อของด้วย เราก็โอเคไป พอไป ให้ตายเถอะ! ไม่ได้ไปไหนเล้ยยย ให้อยู่บ้านกับคุณตาคุณยาย แค่นั้นละพากลับเมือง เราแบบอ้าว! แต่ก็ช่างมัน ถือว่าไปดูสภาพเมืองเค้าละกัน จนผ่านไปก็เรื่อยๆเอื่อยๆ ไม่มีความสุขแต่ก็ไม่ทุกข์ แต่ถ้ามีที่ให้ไปไม่อยู่ที่บ้านหรอก 555555555 เรื่องติดลบมาอีกคือวันแรกที่ไปรร. มัมก็ไปดู ถ่ายรูปให้ซิสและเพื่อนๆซิสโดยที่มัมไม่สนเราเลยมั้ง ด้วยความที่มันหลายเรื่องละ เราเลยช่างมัน ก็ไปยืนเสร่อแถวๆนั้นแหละ จนอยู่ได้สักเกือบๆ 3 อาทิตย์มัมบอกว่าเราต้องย้ายบ้านนะ เพราะเค้าต้องไปรับคุณตาที่ป่วยมาดูแล ทำให้ไม่สะดวก ในใจตอนนี้คือเฉยๆไม่ดีใจ ไม่เสียใจ คิดแค่ดีกว่าบ้านนี้ก็ดีไป แย่กว่าก็ต้องสู้ มัมบอกว่าวันอาทิตย์คอนแทคจะไปรับที่บ้าน อีนี่จ้า! คืนวันศุกร์เก็บของเกือบหมดล่ะ 55555555 ไม่อยากย้ายเล้ยยยย

(รีบจัดแค่ไหน พร้อมมากอ่ะ ถถถถถ)
หลังจากอยู่บ้านแรกได้เพียง 22 วัน ปิ่นก็คือผู้ไม่ได้ไปต่อ ถุ้ยยย 555555 

พอไปบ้านใหม่สิ่งแรกเลยคือซิสคนใหม่ยิ้มมาแต่ไกล ละเข้ามากอด ช่วยยกกระเป๋า ละก็พาไปข้างนอกเลยจ้า ไปพบญาติๆ วันนั้นประมาณ 15 คนได้อ่ะ ซิสคนใหม่เราพูดภาษาอังกฤษได้ เลยได้คุยกันเยอะ มื้อแรกที่ดีมาก แบบทุกคนน่ารักมาก คุณป้าคุณลุง ญาติๆแบบพยายามคุย เทคแคร์ดีมาก พอกลับบ้านมาก็เล่นกับซิสเป็นชั่วโมง คุยกันแบบชอบอะไร ไม่ชอบอะไร กอดกัน ซิสหอมแก้มเรา ซึ่งบอกเลยว่าคนละฟีลมากๆกับวันแรกที่เราอยู่กับบ้านแรก ลืมบอกๆ บ้านใหม่เรามี 4 คนคือ พ่อแม่ และก็พี่สาว 2 คนแต่อยู่บ้านคนเดียว อีกคนไปเที่ยวรอบโลกจ้า อิจสุด ถถถถถ ระหว่างอยู่กันทุกอย่างดีมาก แฮปปี้มาก มีความสุขสุดๆ ซิสพาไปเจอเพื่อนๆซิสเยอะมาก พาไปโน่นนี่ ตัวติดกันมาก


ผ่านไปไม่นานก็วันเกิดเรา ซิสทำเค้กวันเกิดให้เราเองเลย เราปลื้มมากอ่ะ ละพอเราไปรร.เพื่อนที่รร.เอาเค้กมาเซอร์ไพรส์ให้เรา แต่มารู้ว่าเค้กนั้นมัมเป็นคนซื้อมาให้ หลังจากวันเกิด เราก็ต้องไปชิลีกับโฮสต์ ทำให้ไม่ได้จัดปาร์ตี้วันเกิดแต่ก็ไม่ได้อะไร เพราะแค่ที่ทำให้ตอนวันเกิดเราก็มากพอแล้ว แล้วยังพาไปเที่ยวชิลีอีก กรุ้ปเราไปกันเยอะมาก เป็นเพื่อนๆของพ่อกับแม่ ระหว่างที่อยู่ก็ซิสเป็นทรานสเลดให้ 55555 แตก็เริ่มตอบคำง่ายๆได้บ้าง แค่ง่ายๆเท่านั้นนะ พ่อกับแม่เราเป็นครูมหาลัยทั้งคู่เลย เลยจะเป็นฟีลแบบรู้ทุกเรื่อง แบบทุกเรื่งจริงๆอ่ะ ภูมิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง กีฬา ถามพ่อกับแม่เราได้รู้หมดดดด แต่ฟังเพลินดีถึงจะไม่เข้าใจหมดก็เถอะ ตอนไปชิลีเจออะไรระหว่างทาง พ่อกับแม่ก็จะบอกว่าภาษาสเปนพูดยังไง เรียกว่าอะไรในภาษาสเปน เล่าบ้าง ดดยให้ซิสเป็นทรานสเลดไป ขนาดดูว่าเมืองติดชิลียังต้องนั่งรถเป็น 10 ชม.เลยอ่ะ ยอมใจจริงๆ ระหว่างทางไปชิลีคือดีงามมาก สวยมากจริงๆ แบบสบายตาอ่ะ ทริปชิลีเป็นทริปแรกของเราอ่ะ ขนาดพูดสเปนไม่ได้เรายังสามารถสนุกได้เลย เราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ พอกลับจากชิลีมาโฮสต์จัดปาร์ตี้วันเกิดให้ด้วย เราแบบไม่คิดว่าโฮสต์จะจัดให้ เพราะจริงๆแค่พาไปเที่ยว ละก็ให้เค้กเมื่อวันเกิดไปมันก็มากพอแล้ว ตอนปาร์ตี้วันเกิดเราพ่อกับแม่ฟีลแม่งานอ่ะ ทำให้ทุกอย่างเลย ตัดหญ้า เอาของ ซื้อพิซซ่า เค้กอีกแล้วววว มีความสุขมากๆ เพื่อนๆก็ไปกัน อยู่กันยันเช้าอีกแล้วววว 555555

 (วันแรกที่ย้ายบ้านและเจอกับซิสคนนี้)

(ขาดซิสคนโต ปล.พ่อแม่เป็นคนเคร่งขรึม)(ตอนไปชิลี คือวิวดีงามมากจริงๆ)
(กรุ้ปที่ไปชิลีด้วยกัน)

(เค้กวันเกิดกับเพื่อนในห้องที่มีโฮสต์เป็นสปอนเซอร์)

(วันที่จัดปาร์ตี้วันเกิดปิ่นที่บ้าน)
พ่อกับแม่เราเป็นคนที่แบบชิลล์ๆมาก ตลก เฮฮามาก ตลอดเวลา 10 เดือนที่เราอยู่กับบ้านนี้พ่อกับแม่ไม่เคยขึ้นเสียง เสียงดัง ดุ ด่า ว่าอะไรเราเลยสักคำอ่ะ แบบไม่มีจริงๆ จะทำอะไรแค่บอกพ่อกับแม่แค่นั้นก็พอ คุยกับพ่อแม่ได้เหมือนเป็นพ่อแม่ของเราเลย ละแบบอย่างที่บอกว่าพ่อกับแม่เราเป็นครู จะความรู้รอบตัวเยอะมาก ทุกครั้งที่กินข้าวก็จะเล่าเรื่องโน่นนี่ให้เราฟัง พยายามอธิบายทุกๆอย่างให้เราฟัง ถึงตอนนั้นเราจะฟังสเปนได้ไม่เยอะ ตอบโต้อะไรได้ไม่มาก แต่พ่อกับแม่ก็ไม่เคยที่จะเลิกเล่าให้เราฟัง จนพอเราพูดได้ก็เป็นการคุยแลกเปลี่ยนเรื่องที่ไปเจอแต่ละวัน พ่อกับแม่เรากับซิสจะถามทุกครั้งที่กินข้าวเที่ยงว่า วันนี้เรียนวิชาอะไรบ้าง
? ครูให้ทำอะไร? เพื่อนๆเป็นไงบ้างวันนี้? ตอนเย็นจะไปทำอะไรที่ไหนมั๊ย? ถามแบบนี้ทุกวันจริงๆ แล้วพ่อกับแม่ก็ทำทุกอย่างเหมือนเราเป็นลูกเค้าจริงๆ เราไม่เคยรู้สึกว่าเราเป็นแค่นักเรียนแลกเปลี่ยนที่มาอาศัยบ้านเค้าเฉยๆเลย อย่างเวลาพ่อกับแม่ไปเจอเพื่อนๆละเราไปด้วย พ่อกับแม่ก็จะแนะนำว่า นี่ลูกสาวของฉันมาจากประเทศไทย เราดีใจทุกครั้งที่ได้ยินประโยคนี้ มันมีความสุขเวลาได้ยินมากๆอ่ะ


ละทุกๆวันอาทิตย์ของบ้านเราจะเป็นวันที่พิเศษขึ้นจากวันอื่นนิดหน่อย คือจะออกไปกินข้าวนอกบ้านกัน ไม่ก็พ่อทำอะซาได้ให้พวกเราทานหรืออาจจะสั่งอาหารจากข้างนอกมากินกันที่บ้าน เราสนิทกับทุกๆคนแน่นอนโดยเฉพาะซิสที่อยู่กับเรา เรากับซิสคุยกันทุกเรื่อง รู้ทุกเรื่องของกันและกัน เรามอะไรก็เล่าซิสหมด เพราะปิ่นเองไม่มีพี่น้องที่ไทยก็จะไม่เคยมีฟีลพี่น้องมาก่อนในชีวิต ส่วนซิสคนโตก็จะห่างๆกันหน่อย เพราะปิ่นไม่เคยเจอเค้าเลย แต่ก็มีได้ทักทายบ้างเวลาซิสคนโตโทรไปหาพ่อแม่ละปิ่นนั่งอยู่ด้วย ละเวลาซื้อของให้ซิสก็จะซื้อให้ปิ่นด้วยตลอดเลย มาเป็นดูโอ้เลยจ้า 5555555

(ลูกๆเล่นอะไรพ่อแม่เล่นด้วยไง)
(หน้าตาของอะซาโด้ หน้าตาอาจไม่น่ากินแต่อร่อยมากกกกกกกก)
อีกเรื่องนึงที่รู้สึกว่าเค้าเป็นครอบครัวปิ่นจริงๆครอบครัวนึงเลยคือตอนของที่ส่งจากไทยมีปัญหา เอาของออกจากไปรษณีย์อาร์เจนไม่ได้ เพราะดันไปตรงกับช่วงที่อาร์เจนเปลี่ยนระบบพอดี แต่แม่ตามของให้แบบตามจริงๆจังๆมาก พยายามทำให้ทุกทางที่จะเอาของออกมาให้ได้ แม่พยายามอยู่ 2 อาทิตย์ได้มั้งกว่าของจะเอาออกได้ แม่ต้องลางานตอนเช้าไม่ก็เข้างานสาย เพื่อของลังนั้นอ่ะ จนปิ่นบอกว่าไม่ต้องแล้วก็ได้ถ้ามันลำบากก็ปล่อยให้ส่งกลับไทยไปก็ได้ แต่แม่กับพ่อบอกปิ่นว่า จะส่งกลับได้ยังไง ปิ่นรอมาตั้งนาน ของที่ส่งมาปิ่นก็ต้องใจจะเอามาใช้ ปิ่นแบบ... ไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากขอบคุณเลยอ่ะนาทีนั้น แล้วก็มีตอนหยุดยาวที่โฮสต์พาปิ่นไปเที่ยว ปิ่นได้ยินตอนโฮสต์เลือกสถานที่กันว่าจะไปไหนบ้าง เค้าคุยกันแบบพาปิ่นไปโน่นนี่นั่นดีกว่า จะได้คุ้มที่ปิ่นไป คือโฮสต์เลือกเพื่อปิ่นเป็นเหตุผลหลักเลยอ่ะ รู้สึกดีกับครอบครัวนี้สุดๆ ละกับซิสที่อยู่ด้วยกับปิ่นตลอด 10 เดือน ปิ่นกับซิสไม่เคยทะเลาะกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่มีเลยจริงๆ พอปิ่นมานั่งคิดก็แปลกใจเหมือนกัน ปกติพี่น้องมันต้องทะเลาะกันบ้าง แต่นี่ไม่มีเลย สุขเกินไปละมั้ง 5555555
(ติดกันมากจริงๆ ไปไหนไปกัน)

ส่วนฝั่งซิสคนโตจ้า นางมาเที่ยวที่ไทยด้วยและมาเจอกับแม่ของปิ่นที่ไทย ไปกินข้าวกับแม่ปิ่นด้วย ปิ่นตื่นเต้นเหมือนได้กินกับเค้าด้วย 55555 ตอนซิสมาเจอแม่ปิ่นจำได้เลย ปิ่นคอลกับซิสจากอาร์เจนด้วย ซิสบอกว่าอาหารอร่อยมากเลยแต่เผ็ด 5555 ของก็ถูก แต่คุยกับแม่ไม่ค่อยรู้เรื่อง 555555 ลั่นไปอีก!!! หลังจากนั้นไม่นานซิสคนโตก็กลับไปอาร์เจนกว่าปิ่นจะได้เจอก็เหลือเวลาที่อาร์เจนอีกแค่ 2 เดือนแล้ว ตอนแรกปิ่นก็คิดว่าปิ่นกับซิสคนโตน่าจะไม่ค่อยสนิทกัน เพราะด้วยอายุที่ห่างกันพอสมควร ด้วยเวลาต่างๆ แต่ป่าวเลยยยยย สนิทกันมาก พอๆกับซิสคนที่อยู่กับปิ่นมาตลอด เค้าทำตัวเป็นเพื่อนคนนึงของปิ่นเลย เล่นกับปิ่น พูดหยอกล้อ แกล้งกันได้ตลอด เป็นคนที่พาปิ่นไปเที่ยวน้ำตกอีกวาซูด้วย ตอนนั้นไปทัวร์ไปกับซิสคนโตแค่ 2 คน ก็เลยยิ่งสนิทกันมากๆ ก็เลยทำให้ปิ่นรักพี่สาว 2 คนนี้ของปิ่นมากๆ


ละก็เรื่องงานพรอมอย่างที่เคยเล่าไปก่อนหน้านี้ ละก็ตอนวันสุดท้ายที่ปิ่นไปรร. ครูมีกิจกรรมที่คนในครอบครัวจะส่งจดหมายมาให้เด็กทุกคน ปิ่นก็มีกับเค้าด้วย เซอร์ไพรส์มาก แบบเรามีด้วยหรอ
? ของปิ่นเยอะกว่าเพื่อนด้วยนะ คนอื่นมีคนละ 1 ฉบับ ปิ่นมี 3 จ้า 5555555 น้ำตาแตกไปอีกวันนั้น ละก็บ้านปิ่นจะมีคุณยายด้วย แต่จะมาเป็นช่วงๆ ไม่ได้อยู่ด้วยตลอด คุณยายก็น่ารักกับปิ่นมากๆเลย ตอนวันคริสต์มาสปิ่นจำได้เลยว่าปิ่นกบคุณยายนั่งไกลกันมาก พอกินกันเสร็จทุกคนก็นั่งคุยเล่นกัน คุณยายจ้าเดินมาหาปิ่นละเดินมากอด จนซิสพูดว่าหลานรักคุณยาย 5555555 ละก็มีแม่บ้านละก็คนที่ดูแลคุณยายปิ่นก็สนิทกับเค้าเหมือนกัน เหมือนเป็นคนในครอบครัวเลย พวกเค้าก็จะแกล้งเล่นกับปิ่นตลอด ก่อนปิ่นกลับไทยโฮสต์ก็พาปิ่นไปเที่ยวทะเล ยาวๆไปเลยอยู่ที่ทะเลประมาณอาทิตย์นึงก่อนกลับไทย พอปิ่นต้องขึ้นรถบัสเท่านั้นแหละ ร้องไห้กันเลย กอดกันร้องไห้เลยอ่ะ ซิส 2 คนคือหนักมาก ปิ่นแน่นอนอยู่ละว่าหนัก ทุกคนก็บอกว่าเดี๋ยวจะไปหาที่ไทยนะ ยังไงปิ่นก็เป็นลูกสาวของพ่อกับแม่ เป็นน้องของพี่ๆ 
ปิ่นยังมีครอบครัวอีกครอบครัวอยู่ที่อาร์เจนติน่านะ

 (เมื่อซิสมาเจอกับแม่ที่ไทย ละก็เจอป้าและน้องปิ่นด้วย)
(ไปอีกวาซูด้วยกัน)
(งานหลานรักยายต้องมา)
(ครบแล้วทั้งครอบครัว)

"สิ่งที่อยากบอกนักเรียนแลกเปลี่ยนทุกคน คือ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเจอโฮสต์ดี ไม่มีใครมีชีวิตที่เพอร์เฟค ไม่ต้องไปคาดหวังอะไรจากเค้ามากเกินไป โฮสต์ที่รักเราไม่ใช่โฮสต์ที่ซื้อของแพงๆให้ คิดในทางบวกให้มากที่สุด ปัญหาถ้ามันเกิดก็แก้ตั้งแต่เนิ่นๆ อยู่ไทยยังมีบางอย่างไม่ถูกใจ เป็นไปไม่ได้ที่ที่นู่นจะถูกใจไปทุกอย่าง ขอบคุณเค้าที่ให้ที่อยู่ ให้ข้าวกิน กล้าที่จะรับผิดชอบชีวิตเด็กที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ถ้ามันแรงเกินไปจริงๆก็ต้องกล้าที่จะพูดออกมา อย่ามัวแต่อดทนและเกรงใจ โครงการส่งไปให้รู้จักปรับตัวไม่ใช่ให้ไปทรมาน" ใครได้โฮสต์ดีก็ยินดีด้วยนะคะ ไม่ใช่ว่าพอปิ่นได้โฮสต์ดีละมาบอกคนอื่นแบบนี้ แบบไม่ดีปิ่นก็ผ่านมันมานะคะ คิดเสมอว่ามีคนรอเราอยู่ มีคนรอเห็นเราโตขึ้น สำเร็จไปอีกขั้น คนที่ใจแข็งยอมส่งลูกห่างอกเค้าไป 
ใครอยากคุยกับปิ่น แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ปรึกษาบางเรื่องก็ทักแชทเฟสปิ่นได้นะคะ Thunyada Rukchuea หรือ ไอจี spinny_thunyada ค่ะ ไอจีรูปจะเป็นชีวิตปิ่นแต่ละวันตอนอยู่นู่นค่ะ

ปิดท้ายด้วยรูปครอบครัวละกันเน้ออออ

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

พี่เมก้า Columnist 27 ก.พ. 60 เวลา 11:02 น. 2

ดีมากเลยค่ะ อ่านไปถึงช่วงท้ายๆ นี่น้ำตาคลอเลย น้องโชคดีมากๆ ที่ได้เจอครอบครัวโฮสต์น่ารักๆ แบบนี้ แอบขำโฮสต์บ้านแรกๆ ที่ถามว่า "คนไทยกินแมลงเหรอ กินเนื้อหมาเหรอ - -'' อยากลองมั้ยจ๊ะ ^^

1
ThunyadaRukchuea 27 ก.พ. 60 เวลา 12:37 น. 2-1

ขอบคุณนะค๊าที่อ่านจนจบเลย 5555555 จริงๆค่ะอยากถามมากว่าสนใจลองสักตัว 2 ตัวมั๊ยจะได้รู้รส

0
Z.XiUWEN 6 มี.ค. 60 เวลา 23:18 น. 3

อ่านเพลินมากค่ะ อยากอ่านอีกสองกระทู้จัง แต่หาไม่เจอ ยังไงรบกวนแปะลิ้งไว้ให้หน่อยนะคะ><

1
ThunyadaRukchuea 7 มี.ค. 60 เวลา 00:10 น. 3-1

ขอบคุณมากๆนะค๊า อีกสองกระทู้ตามนี้นะคะ

กรุะทู้ที่ 1 https://www.dek-d.com/board/view/3725366/

กระทู้ที่ 2 https://www.dek-d.com/board/view/3726526/

อ่านแล้วเป็นไงบอกได้นะค๊า ยินดีรับฟังค่าาาา

0