[ชวนคุย] คิดยังไงกับการรับจ้างแต่งพล็อตนิยาย
ตั้งกระทู้ใหม่
(จำนวนคนโหวต 112 คน)
31 ความคิดเห็น
หาคนคิดพล็อต ง่ายกว่าหาคนเขียน
หาคนเขียน ง่ายกว่าหาคนอ่านค่ะ TvT (อันนี้มาจากอินเนอร์ล้วนๆ)
ที่สุดของนักเขียน (สำหรับเรา) คือการหาคนอ่านเข้ามาในนิยายของเรา TT ปวดใจ
ขอบคุณที่เข้ามาแสดงความเห็นกันนะคะ
ถ้ามีคนต้องการบริการด้านนี้ ก็ไม่ควรไปปิดกั้นนะ
เพราะพล็อตไม่ได้คิดกันง่ายๆ มันจึงมีมูลค่ามาก
ยิ่งเป็นพล็อตที่แปลก แหวกแนว และคนทั่วไปชอบด้วย ก็ยิ่งมีมูลค่าเข้าไปใหญ่
ผมคิดว่าถ้ามีงานด้านนี้ก็ดี ผมจะได้ขายพล็อตไปด้วย แต่งนิยายขายเองไปด้วย รวย รวย รวย
ขอดีของมันก็คือ เวลาคิดพล็อต มันไม่ต้องลงมือพิมพ์ยังไงล่ะ มันจึงทำตอนไหนก็ได้ ทำงานประจำไปคิดพล็อตไปด้วย ก็ยังได้เ่ลย
แต่ถ้าพล็อตมันเอาไปแต่งแล้วขายได้ ก็คงไม่ขายให้ใครหรอก อิอิ
อ่า คงจะเป็นแบบว่า ถ้าเรามีไอเดียในการเขียนมันก็คงจะเป็นการหารายได้ให้ตัวเลยสินะคะ แต่ก็คงใช่ ถ้าเรารู้ว่าพล็อตนี้มันจะเป็นตัวทำให้นิยายขายดีเราก็คงเก็บไว้ให้ตัวเองดีกว่าเนาะ555
ขอบคุณที่เข้ามาแสดงความเห็นกันนะคะ
คิดพล็อตเรื่องออกมายาวเยียดแต่บรรยายไม่เป็น จบเลย
แอบไปส่องไปอ่านหลายเรื่องล่ะแล้วลองมาเขียนดูก็ยังบรรยายไม่ถูก
เดียวจะลองไปแปลนิยายดีกว่า จะได้ซึมซัมการบรรยายของคนอื่นมา คล้ายเอากระดาษมาทับรูปการ์ตูนเพื่อก๊อบตอนเด็ก ๆ
รับจ้างเขียนพล็อตให้คนอื่น = ปลูกฝังคนเขียนมักง่ายจนเคยตัว ไม่แสวงหาความรู้ใส่ตัว
จ้างคนอื่นช่วยเขียนพล็อต = ดูถูกความสามารถตัวเอง+เสียค่าโง่
มีสมองก็มีไว้คิดเองสิ ไม่ได้มีไว้ทับกระดาษซะหน่อย
ว้าว!! ก็คงจะถูกนะ มันเป็นการปลูกฝังความมักง่ายให้ตัวนักเขียนเองเลยนี่เนาะ
ขอบคุณที่เข้ามาแสดงความเห็นกันนะคะ
ถ้าอยากจะเขียนนิยายหรือรักในการเขียนนิยายจริงๆก็ควรจะคิดพล็อตเองนะคะ
สมองมีเอาไว้ทำไม
สมองใคร สมองมัน
คนที่ได้ประโยชน์ คือ คนที่ถูกจ้างให้เขียนพล็อตนิยาย ไม่ใช่คนที่จ้าง
คนที่จ้างให้คนอื่นเขียนพล็ตนิยายมีนิสัยมักง่ายไม่แพ้พวกที่ชอบจ้างให้คนอื่นทำการบ้านให้เลย
ถ้าเป็นคนที่เขียนพล็อตด้วยตัวเองเสร็จแล้วและไม่รู้ว่าจะดีเหรอเปล่ามาปรึกษาว่าพล็อตแบบนี้ดีไหม
เรากับคนอื่นๆจะช่วยแนะนำให้อย่างเต็มที่ว่าต้องแก้ไขตรงไหนบ้าง ต้องเพิ่มเติมส่วนไหนบ้าง
แต่ถ้าเป็นพวกที่ไม่มีปัญหาเขียนพล็อตนิยายเองและมาจ้างคนอื่นให้เขียนพล็อตแบบส่งๆแล้วก็จากไป
เราไม่ช่วยค่ะ
555 เป็นเราก็ไม่ช่วยค่ะ เพราะเราไม่เห็นด้วยกับการจ้างคนอื่นทำงานตัวเองอยู่แล้ว
แต่บางทีถ้าสงสารมันก็ไม่แน่นะคะ อาจจะช่วยเหลือบางครั้งก็ได้555
.
.
ขอบคุณที่เข้ามาแสดงความเห็นกันนะคะ
เราว่าการเขียนพล็อตน่ะง่ายที่สุดในกระบวนการการแต่งนิยายแล้วล่ะค่ะ ไอเดียน่ะมันมาเร็วจะตาย ช้าตรงลงมือทำเนี่ยแหละค่ะ
คนส่วนใหญ่มีพล็อตกันทั้งนั้นแหละ แต่บางทีก็ไม่มีฝีมือ/ความพยายามมากพอที่จะถ่ายทอดมันออกมาดั่งใจคิด
เราจึงขอลงความเห็นว่ามันเป็น "อาชีพ" ที่ไม่เข้าท่า ในโลกความเป็นจริง คนเราไม่ได้เงินจากการออกไอเดียหรอกค่ะ ต้องลงมือทำต่างหาก
การลงมือทำสำคัญที่สุดสินะคะ
.
.
ขอบคุณที่เข้ามาแสดงความเห็นกันนะคะ
มองแบบทื่อๆ มุมมองทางธุรกิจไม่มีอย่างอื่นเจือปน : เป็นเงินได้ เป็นงานสุจริต มีคนต้องการซื้อเนื้อเรื่องมาเขียนก็โอเคแล้วค่ะ
ความคิดเห็นส่วนตัว : เราว่ามันคล้ายการซื้อใบปริญญาบัตรนิดหน่อย บางครั้งถ้าคนอ่านรู้ว่าซื้อเนื้อเรื่องมาอาจจะรู้สึกว่าคนเขียนมักง่าย ไม่พอใจและไม่อ่านก็ได้นะคะ
วิเคราะห์สักหน่อย (?) : เราว่างานแบบซื้อพล็อตมาแล้วเอามาเขียนเองแบบนี้มันเหมือนงานเขียนร่วมอยู่ คนหนึ่งคิดพล็อตไปเลย อีกคนกระจายบทนั่งเขียนไป แต่มันจะจัดการได้ง่ายกว่าตรงที่มี "เงิน" มาเป็นสื่อกลาง ในงานเขียนร่วมคนคิดพล็อตกับคนเขียนมักจะเอางานมาโคกันเรื่อยๆ ดูว่าตรงไหนดีแล้ว ตรงไหนควรแก้ เคยอ่านพูดคุยท้ายเล่มของนิยายเรื่อง Clockwork planet ไหมคะ อันนั้นเขาเขียนเรื่องของการโคงานกันไว้อย่างดีเลยนะ คือคนหนึ่งเขียนเนื้อเรื่องเสร็จส่งให้อีกคนเอาไปเขียนกระจายพล็อตแล้ว พอกระจายพล็อตเสร็จก็ต้องส่งกลับไปให้คนเขียนบทอ่านอีกว่าพอใจไหม แล้วพอใจกันทั้งสองคนไหม ที่คนที่สอง (คนเอาพล็อตมากระจายบท) เขียนออกมาตรงกับที่คนแรก (คนเขียนบท) คิดเอาไว้หรือเปล่า มีอะไรที่พอปรับแก้เพิ่มได้ให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์แบบขึ้นได้บ้าง แต่ถ้าเป็นการซื้อพล็อตมา เราให้คนเขียนเขียนพล็อตมาแล้วโยนตู้มจ่ายเงินเลย ที่เหลือกระจายพล็อตตรงตามคอนเซปของคนเขียนพล็อตหรือไม่คงไม่สำคัญเท่าไร ได้รับเงินไปแล้วนี่นา งั้นนี่ก็เป็นผลงานของทางนี้ เป็นสิทธิของทางนี้ที่จะเขียนต่อหรือแก้ไขบทอะไรเองได้ อย่ายุ่งสิ (ราวๆ นั้น)
ความเห็นส่วนตัวเราว่าแบบแรกจะดีกว่า ส่วนแบบสองนั้นค่อนข้าง...มักง่ายไปหน่อย แต่มันก็ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้อีกนั่นแหละค่ะ ถ้าซื้อพล็อตมาด้วยความมักง่าย อยากรวยทางลัดก็ อืม...คนอ่านเขาอ่านระหว่างบรรทัดออกนะว่าคุณใช้ความพยายามขนาดไหน มันคงจะไม่ปั้งเท่าไร แต่ถ้าเป็นคนที่มีข้อบกพร่องด้านการเขียนพล็อต เช่นยึดติดกับความจริงเกินไปจนเนื้อเรื่องไร้จินตนาการ พล็อตของคนอื่นมันเหมือนเป็นตัวจุดประกายจินตนาการได้ทางหนึ่งจริงๆ แถมยังไม่มีปัญหาเรื่องคนอื่นด่าว่าลอกผลงานตัวเองด้วย...ก็ซื้อมาแล้วนี่คะ จะเอาส่วนไหนมาทำ จะยำส่วนไหนเละก็เรื่องของทางนี้ นอกซะจากว่าคนเขียนพล็อตจะไปขโมยเอาผลงานคนอื่นมาเขียนเป็นพล็อตเอามาขายให้คุณนะ อันนั้นถึงจะเกิดปัญหาลิขสิทธิกันจริงๆ จังๆ
อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องคิดเอาไว้ในกรณีนี้ด้วยคือมันคล้ายผลงานโคกันระหว่างสองคน เพราะงั้นถ้าออกผลงานมาแล้วไม่ว่าจะเป็นบนตัวเว็บหรือเป็นหนังสือก็ต้องคิดด้วยว่าจะเขียนชื่อคนแต่งเรื่องกับคนเขียนบทแยกกันไหม ถ้าฝ่ายโน้นบอกว่ารับเงินอย่างเดียวไม่เอาชื่อมันก็ว่าไป แต่ก็มีปัญหาอีกนั่นแหละตรงงานพวกนี้มันเหมือนงานความคิด พวกซื้อความคิดคนอื่นมาเอามาเขียนชื่อตัวเองคนเดียวมันคงยังไม่ค่อยได้รับการยอมรับเท่าไร อนาคตอาจเปิดกว้าง แต่ตอนนี้ยังไม่ค่ะ
อ่าาา...เข้าใจแจ่มแจ้งเลยค่ะ ดูแล้วอาชีพนี้ถ้ามีคนทำนี่ ปัญหาน่าจะมีเยอะเลยนะคะ
.
.
ขอบคุณที่เข้ามาแสดงความเห็นกันนะคะ
แต่ละคนถนัดไม่เหมือนกัน ใครอยากทำก็ทำไปเถอะ ไม่มีปัญหา
คนวาดรูปเก่งแต่คิดเรื่องไม่ได้มีเยอะแยะ ญี่ปุ่นเขามีคนคิดเรื่องกับคนวาดแยกกัน และทำแบบนี้ตั้งหลายเรื่อง เช่น Death Note, Bakuman
มันใช้ความสามารถคนละส่วน การบรรยายก็เหมือนการวาดรูป ส่วนการคิดเรื่องผูกเรื่องก็ใช้ความสามารถอีกด้าน
ใครทำได้ทั้งคู่ก็ได้ถือสิทธิ์เป็นเจ้าของนามปากกาคนเดียว แต่ใครอยากร่วมมือกันก็เป็นเรื่องของเขา
ยุคนี้แล้ว การแบ่งสรรหน้าที่กันทำตามที่ตนถนัดถือเป็นเรื่องปกติ ก็เหมือนกับคนคิดเมนูอาหารกับคนทำอาหารนั่นแหละ ไม่ใช่กุ๊กทุกคนที่คิดสูตรเอง
อาจมีคนแอนตี้วิธีนี้เพราะเชื่อว่าการจะได้ชื่อว่าเป็นกุ๊ก ต้องคิดเมนูออริจินัลเองทุกเมนู นั่นมันก็เรื่องของเขา แต่ละคนมีความเชื่อไม่เหมือนกัน
อยากริเริ่มทำอะไรก็ลองทำดูเถอะครับ โลกจะพัฒนาได้เพราะมีคนเริ่มลงมือทำสิ่งใหม่ๆนี่แหละ
ส่วนคำถามที่ว่า ควรหรือไม่ควร ผมขอบอกว่าไม่ควรครับ
ไม่ควรเอามาถาม แต่ควรลงมือทำไปเลย อะไรที่คนไม่เคยได้ยินย่อมเกิดการต่อต้านหรือเรียกหาคำเยาะเย้ยเสมอ เช่นเดียวกับการสร้างเครื่องบินหรือโทรศัพท์ในยุคก่อน
ถ้าอยากทำอะไรก็ทำไปเลยไม่ต้องถามใคร โดนหยามแล้วมันจะท้อเปล่าๆ
เรื่องการสร้างสรรค์ แต่ละคนมีวิธีการของตัวเอง แต่ถ้าถามผม ผมบอกได้แค่ว่า ผลงานที่เราคิดทุกอย่างด้วยตัวเองมันจะภูมิใจกว่า
ก็แค่นั้นแหละ มันอยู่ที่รสนิยมในการสร้างสรรค์ของแต่ละคนครับ
คนเรามีความถนัดที่แตกต่างกันสินะคะ ฉะนั้น ถ้าใช้ความถนัดให้เกิดประโยชน์ก็จะดี อีกอย่างจะได้มีการริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ ด้วยสินะคะ
.
.
ขอบคุณที่เข้ามาแสดงความเห็นกันนะคะ
เหมือนกับคนที่ไช้ตุกตา××××จนตอนนี้เปลี่ยนเป็นหุ่นยน××××แทน ไม่แน่ไนอีกไม่กี่ปีคงมีคนเขียนโปรแกรมสร้างพ็อตออกมาไห้เห็นถ้ามันทำเงินได้มากไปกว่านี้
มันก็ได้อยู่ครับ ตกลงราคาและข้อตกลงต่างๆให้ดีๆก็แล้วกัน
จะขายขาดเป็นเงินก้อนทีเดียว หรือขายก่อนแล้วมีเก็บเปอร์เซ็นต์ตามค่าต้นฉบับหากตีพิมพ์ได้ หรือเก็บตามค่าต้นฉบับอย่างเดียว
ปัญหามันจะอยู่ตรงราคานี่แหละครับ นอกจากเรื่องการแบ่งเงินที่ขัดแย้งกันได้ร้อยแปดแล้ว ยังมีปัญหาอีกว่าจะจับลูกค้ากลุ่มไหน
คนที่คิดพล็อตเองไม่ได้ ถ้าไม่ใช่คนที่เขียนไม่เป็นเลยจริงๆ ก็น่าจะเป็นบริษัทบันเทิงรายใหญ่ๆที่เน้นผลิต ไม่ได้มีฝ่ายคิดเนื้อเรื่องเป็นของตัวเอง เหมือนพวกบริษัทหนังฝรั่งที่บางครั้งจะหาซื้อไอเดียจากข้างนอก นักเขียนมืออาชีพส่วนใหญ่ (น่าจะ) ไม่ค่อยมีปัญหาด้านนี้ และหลายคนก็น่าจะมีทิฏฐิของตัวเองว่าไม่อยากพึ่งพล็อตของคนอื่น
กลุ่มแรก เขาเขียนไม่เป็น โอกาสที่เขาจะได้ตีพิมพ์ก็น้อย เขาจึงไม่น่าจะเสี่ยงใช้พล็อตที่ต้องเสียเงิน (ยกเว้นจะให้มาฟรีๆ แล้วค่อยเก็บเงินถ้าขายได้) ส่วนกลุ่มหลัง ถ้าคุณไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียง หรือคิดพล็อตที่สุดเยิดดดดดขึ้นมาได้จริงๆล่ะก็ เขาก็คงไม่ชายตามองครับ
ดังนั้น จะขายใคร ?
ส่วนตัวผมไม่มีความรู้สึกดีหรือไม่ดีครับ ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่จะได้กำไรได้เงินอย่างที่หวังไว้หรือเปล่า อันนี้ต้องดูกันอีกที
เรื่องราคา ถ้าคนที่ขายเป็นคนไม่เรื่องมากก็คงจะไม่ค่อยมีปัญหาหรอกค่ะ แต่ดูแล้วปัญหาอยู่ที่ลูกค้าเพราะ ความจริงแล้วเราว่านักเขียนมืออาชีพส่วนใหญ่ (หรืออาจจะทั้งหมด) คงไม่ชายตามองจริง ๆ แต่ถ้าเป็นนักเขียนมือสมัครเล่นมันก็ไม่แน่นะคะ บางทีเขาอาจจะยอมเสียเงินก็ได้ แต่เอาเข้าจริงก็คงหายาก...
สรุป...ก็คงเป็นคอมเม้นท์ที่พูดถูกทุกอย่างเลยอ่ะแหละค่ะ
.
ขอบคุณที่มาแสดงความคิดเห็นนะคะ
เอาง่ายๆ บทความรับวาดรูปประกอบนิยายในเว็บนี้ครับ ถ้าบอกว่าเสียเงินปั๊บ แทบไม่มีใครเข้าไปดูเลย ยิ่งถ้าฝีมือไม่ดีเด่นจริงๆแล้วยิ่งไม่มีทางเลยครับ
มือสมัครเล่นที่ไม่รู้ว่าจะได้ตีพิมพ์หรือเปล่านั่นแหละครับที่จะไม่อยากจ่ายมากที่สุด เพราะเขาไม่รู้ว่าจะได้ทุนคืนหรือเปล่า
แน่นอนค่ะ เพราะเราก็เป็นหนึ่งในนั้น5555
เอาเป็นไกด์ไลน์ยังโอเคกว่านะคะ
ถ้านักเขียนไม่เขียนเอง รายละเอียดเวลาเขียนมันอาจจำไม่ได้ หรือขาดตกบกพร่องไป
นี่ก็อีกประเด็นสำคัญเลยเนาะ
.
.
ขอบคุณที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นนะคะ
คิดว่าถ้ามีคนทำก็คงเหมือนธุรกิจอย่างหนึ่งค่ะ ไม่ดีไม่ร้าย
ทุกอย่างมีแนวทางของมัน ก็เหมือนกับซื้อขายโปรเซสส่วนหนึ่งในตัวงาน(ที่ปกติทำกันเอง)
ในอนาคตถ้ามีคนทำเป็นหลักแหล่ง ไม่แน่หรอกค่ะ อาจจะมีนักเขียนไปใช้บริการกันเยอะแยะก็ได้
ตัวนักเขียนแต่ละคนก็ไม่ได้มีไอเดียอยู่ตลอดเวลา
บางทีอาจเป็นสถานที่ที่ช่วยสร้างไอเดียหรือเส้นทางคิดแบบใหม่ๆ มากขึ้น
นักเขียนเองยังมีโกสต์ไรท์เตอร์ที่เขียนงานแทนได้ คนคิดพล็อตก็ไม่ได้ต่างอะไรมากหรอกค่ะ
เราอาจคุยกัน แล้วเจอพล็อตน่าสนใจ ซื้อมาเขียนแล้วปรับเปลี่ยนมันไปในแนวทางของตัวเองก็ได้
เราค่อนข้างเปิดกว้างค่ะ ไม่ได้คิดว่านักเขียนที่ใช้ตัวช่วยอะไรพวกนี้ไม่ดีตรงไหน เขาแค่ทำงานต่างกับเราอะไรแค่นี้เอง
อ่าาาา...มาอ่านคอมเม้นท์นี้แล้วมันก็ใช่อีก
.
สรุปเราว่าน่าจะถูกกันทุกคอมเม้นท์เลยนะ แต่จะถูกในแนวทางความคิดที่ต่างกัน..
.
.
ขอบคุณที่มาแสดงความคิดเห็นนะคะ
คิดพล็อตขายมันก็ดีนะ แต่เราคิดว่าคงไม่มีใครอยากขายหรอก ถ้าพล็อตดี แปลก แหวกมาก เราเขียนเองดีกว่า อาจจะยากหน่อย แต่คนที่ได้ผลประโยชน์น่ะเราเต็มๆ อิอิ
ถูกไปอี้กกกกกกก...
ขอบคุณที่มาแสดงความคิดเห็นค่ะ
ทำได้นะ ก็เหมือนบางคนรับจ้างตรวจคำผิดนั่นแหละ
การเขียนนิยาย ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องของปัจเจก
ลองคิดว่าเป็นการทำงานเป็นทีมสิ เหมือนทีมเขียนบทละคร
เพราะงั้น ไม่เกี่ยวกับมักง่าย ไม่มักง่าย
ต่างจากทำการบ้าน หรือการสอบ ที่ต้องผ่านด้วยตัวเอง
แต่เขียนนิยายใครกำหนดว่าต้องทำด้วยตัวเองเพียวๆ? ดังนั้นผมว่าไม่ควรเปรียบแบบนี้นะ
แต่ถ้าเรื่องจริง มีคนมาจ้างให้คิดพล็อตไปส่งอาจารย์
อันนี้มันพ้นวิสัยคนรับจ้างแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะตามไปตรวจสอบได้หมด
อ่านหลาย ๆ ความคิดเห็นแล้วก็สะอึก เพราะนิยายที่เขียนอยู่ ผมนี่ล่ะครับ คนรับจ้างคิดพล็อตตัวจริงเสียงจริง ผมเป็นคนร่างพล็อตแล้วให้เพื่อนเขียน แม้จะไม่ได้ถึงกับจ้างแต่มันก็กึ่ง ๆ แหละ แค่ทำงานร่วมกัน ดึงความถนัดของแต่ละคนมา แล้วเอาเงินค่าเขียนมาแบ่งกัน แต่อ่านหลาย ๆ ความคิดเห็นในนี้แล้วมันเหมือนผมเป็นตัวน่ารังเกียจไปเลย
นี่ผม... กลายเป็นพวกเสริมสร้างความมักง่ายไปแล้วเหรอนี่ กับอาชีพคิดพล็อตเนี่ย
อย่าสะอึกเลยครับ
ผมว่า บางคนที่ตอบแบบนั้น มีสองกรณี
1. ไม่เข้าใจคำถามจริงๆ หรือ
2. โลกแคบไปนิดส์
แต่ละคนก็หลากหลายเหตุผลค่ะ อาจโลกแคบ อาจไม่ชอบ อาจชอบ อาจคิดว่าคน๗้างมักง่าย...อย่างจขกท.ก็เห็นด้วยกับทุกคห.เลยนะคะ ทั้งที่สนับสนุน และไม่สนับสนุน
.
.
ขอบคุณทีเข้ามาแสดงความคิดเห็นค่ะ
คิดๆไป ยังมีปัญหาด้านอื่นอีกด้วยครับ
เช่น ถ้าให้ฟรีไปหวังเก็บเงินเมื่อขายได้ แต่คนเขียนเอาไปแต่ใช้แค่ตอนแรกๆ ตอนหลังๆของเรื่องเขาคิดเอง เขาจะยอมจ่ายเงินค่าพล็อตเต็มๆหรือเปล่า ถ้าเขาไม่ยอม จะคิดเงินยังไง
หรือบางคนคิดพล็อตให้แล้วก็ผูกพันอยากเห็นมันเป็นแบบที่ตัวเองต้องการ คนเขียนเปลี่ยนก็โวยวายมีปัญหากัน อันนี้ถ้าคิดจะทำเป็นธุรกิจอาจจะไม่ค่อยเกิดขึ้นเท่าไหร่
และที่เป็นปัญหามากที่สุด ก่อนจะตกลงซื้อขาย ยังไงก็ต้องเปิดเผยอย่างน้อยก็บางส่วนของพล็อต เพื่อให้คนซื้อเลือกได้ว่าอยากเขียนหรือเปล่า ถ้าเขาบอกไม่เอา แต่จำส่วนที่เปิดเผยนั้นไปเขียนเอง คุณจะทำยังไงครับ มันคล้ายๆกรณีจ้างครีเอทีฟออกแบบโลโก้หรืออาร์ตเวิร์ก ขอดูดราฟต์แรก สุดท้ายทำเป็นไม่พอใจเลยไม่สั่งงาน แต่เอาไอเดียไปทำเองทีหลังนั่นแหละครับ
ในกรณีที่เป็นเพื่อนกัน หรือเป็นทางการ มีสัญญามีอะไรเต็มรูปแบบ (เช่นนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทแล้ว) ปัญหาตรงนี้อาจจะไม่มี แต่ในกรณีนี้ ถ้าไม่เปิดเผยอะไรเลย จะมีคนยอมทำสัญญาด้วยจริงหรือครับ
มันเลยมึนๆ ตันๆ ไปต่อไม่ถูกด้วยประการฉะนี้
แอบคิดเรื่องวิธีการขายเหมือนกันค่ะ ส่วนตัวเราจินตนาการมันออกมาเป็นรูปแบบเหมือนการจัดแพ็คเกจพล็อตนิยายขายบนหน้าเว็บ อยากได้อันไหนก็เข้าไปซื้อ แต่มันก็ต้องมีการเปิดเผยเนื้อหาให้เห็นด้วยถึงจะซื้อได้ แล้วถ้ามีคนเข้าไปอ่านเนื้อเรื่อง ไม่ซื้อแต่ไปขโมยความคิดเขามาเลยมันก็มีปัญหากันอีก ตอนแรกคิดว่าจะมีปัญหาเรื่องเป็นแค่พล็อต ทรัพย์สินทางปัญญาไม่คุ้มครองหรือเปล่า แต่ถ้าเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรคงพอคุ้มครองได้ ไม่ใช่พูดปากเปล่ากันเลย ปัญหาก็คงมีแค่คนเข้าชมเว็บแอบเข้าอ่านแล้วเก็บเล็กผสมน้อยไปสร้างนิยายตัวเองหรือเปล่า
คิดวิธีได้อีกสองแบบ แบบหนึ่งคือเว็บที่จะขายเนื้อหานิยายมีการสมัครสมาชิกที่เสียเงินในการเข้าไปดูด้วย จะเก็บเล็กผสมน้อยก็ต้องจ่ายเงินก่อน จากนั้นสนใจเนื้อหานิยายส่วนไหนค่อยซื้อออกมา อีกแบบคืออาจทำงานเป็นคล้ายๆ ฟรีแลนซ์คือรับจ้างเขียนพล็อตนิยายไปเลย ให้คนจ้างเข้ามาก่อนแล้วบอกรายละเอียดที่อยากได้ ส่วนอื่นๆ ให้คนรับจ้างไปคิดเพิ่มจนลูกค้าพอใจราวๆ นั้น คิดไปคิดมาคือถ้ามันมีรูปแบบการจัดการที่ดีมันก็แอบโอเคนะคะ ปัญหาเยอะหน่อยเรื่องลิขสิทธิ
ป.ล.แอบมาเขียนเยอะในโพสต์ขอโทษด้วยค่ะ (_ _)
ส่วนใหญ่นักเขียนแต่ละคนจะมีพล็อตของตัวเองอยู่แล้วครับ อย่างของผมก็ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่หยุด
สักที เขียนยังไม่ทันเลย แล้วใครจะหัวว่างแบบอยากเขียนแต่ไม่มีพล็อต เป็นไปได้ยากครับ
นอกเสียจากว่าจะมีการกำหนดเงื่อนไขอะไรบางอย่างในการแต่งนิยาย ซึ่งผู้เขียนอาจจะอยากลองเขียน
แนวนั้นบ้างแต่คิดพล็อตไม่ออก พล็อตในหัวมีแต่แบบอื่นที่ไม่ตรงกัน อันนี้การนำพล็อตคนอื่นมาเขียน
ถึงจะเป็นไปได้ครับ
เราว่า จะยังไงก็เรื่องของเขานะคะ
เขาจะขายไอเดียของเขาก็ไม่ควรเข้าไปขัด
เมื่อไม่มีคนซื้อ ก็คงไม่มีคนขายใช่มั้ยล่ะ
ก็คงต้องมีคนซื้อแหละ ถึงมีคนทำขาย
บางที คนเขียนทั้งคิดพล๊อตทั้งเขียนเอง มันก็ทำให้ตันได้เหมือนกันนะคะ
การที่มีคนช่วยคิดนั่นนี่ วางแผนนั่นนี่ช่วย ก็ทำให้เรามีแนวทางใช่มั้ยล่ะ
เราว่ามันเป็นเรื่องปกตินะคะ
ก็เหมือนกันคนเขียนเนื้อเรื่องกับคนวาดลวดลายนั่นแหละ
ที่อาจจะไม่ใช่คนเดียวกัน แต่ก็ช่วยให้งานมันออกมาสมบูรณ์ได้
ขอแค่ผลลัพธ์มันออกมาดี ก็ไม่ขัดหรอกค่ะ ว่า มันจะมีแนวทางมายังไงบ้าง
งานศิลปะแบบนี้ก็ต้องการแรงบัลดาลใจ และแนวทางจุดประกายจินตนาการอยู่นะคะ
บางทีอาจจะเป็นแนวทางหนึ่งที่ทำให้งานมันสมบูรณ์มาได้
ขอแค่งานมันมีคุณภาพออกมาก็พอค่ะ
จากประสบการณ์การเขียนพล็อตของคนอื่นที่ไม่มีส่วนคิดมันเลย มันเป็นอะไรที่ได้ไม่สุดอ่ะ ยิ่งไปบรรยายแนวไม่ตรงกันยิ่งแล้วเราเป็นสายฮีลค่ะ แต่ไปตอบตกลงรับงานสายดาร์ก(18+) คือตอนแรกๆมันฮีลและเจ้าของพล็อตบอกแนวหวานเลยตอบโอเคไปแล้วตอนนั้นก็อยากบองข้ามขีดจำกัดดู ปรากฎตอนนี้เขียนไปน้ำตาไหลไป5555
คิดว่าถ้าเป็นนิยายของเรา เราก็ควรวางพล็อตเอง หาความรู้ประสบการณ์จากการอ่านการเขียน ออกนอกสถานที่ ผิดพลาดจากมันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างนึง ถ้าเราไม่วางพล็อตเอง แต่งเองจะเรียกว่า 'นิยายของเรา'ได้เต็มปากเหรอ??
สำหรับเรานะ คำว่า "นักเขียน" คือ ผู้สร้างเรื่อง เขียนเรื่องขึ้นมา ถ้าหากเราไปให้คนอื่นคิดพล็อตให้ก็ไม่เรียกว่านักเขียนตัวจริงหรอกค่ะ เพราะพล็อตเนี่ยมันเป็นจุดเริ่มต้นของนิยายเราเลยนะ หากเอาไปให้คนอื่นเขาคิดให้ ก็เท่ากับให้คนอื่นเขามากำหนดเรื่องให้เราเลยน่ะสิ
นักเขียนควรเริ่มตั้งแต่วางพล็อตเอง วางโครงเรื่อง วางปม วางตัวละคร นี่แหละนักเขียนเต็มตัวแล้ว :)
มีอาชีพแบบนี้ด้วยหรอคะ ดีนะคะ
เรามองว่าอยู่ที่ความพอใจแต่ละบุคคลมากกว่า
เพราะนักเขียนบางคนก็แจกพล็อตฟรีเพราะแต่งไม่ออกก็มี
สำหรับเรื่องคนคิดพล็อตให้นี่เฉยๆค่ะ ไม่ได้รู้สึกน่ารังเกียจเหมือนพวกก็อปนิยาย เพราะพวกนั้นไม่ได้ทำอะไรเองเลย แค่ก็อปวางเท่านั้น
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?